ตอนที่ 9

1344 คำ
และหล่อนเถียงต่อ เพราะชักไม่ชอบมาพากล “แต่ ผมไม่อนุญาตให้คุณไปไหน นั่งก่อนสิ นั่งลง สั่งอะไรกินกันก่อน คุณจะดื่มอะไรดีล่ะนี่ ขอให้ว่านอนสอนง่ายหน่อยสิครับคุณ เพราะผมนายกริญจน์ นั้นไม่เคยง้องอนผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยนะ” หากกริญจ์พูดออกมาอย่างนั้น จากใจจริงของเขาด้วย ปกติเขาไม่เคยปฏิบัติแบบนี้ให้ผู้หญิง นอกจากผู้หญิงจะเป็นฝ่ายปฏิบัติให้เขามากกว่า นั่นเพราะกริญจ์เจ้าเสน่ห์ หล่อเหลาเป็นอย่างมาก แล้วบัดนี้ความรู้สึกของเขามันเกิดขึ้นแล้วแปลกๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้น มันคือเกิดความรู้สึกที่ใคร่สนใจหญิงสาวคนนี้ขึ้นมาเฉยๆอย่างเงียบๆใส่ใจและจริงจัง และหากเขาต้องการจะแก้เผ็ด ดัดนิสัยของหล่อนด้วยมากกว่า ด้วยสาเหตุที่มาปากร้ายด่าว่าตำหนิเขา และนี่เป็นเพราะฝ้ายนิลนึกเบื่อ แต่ก็จำใจยอมทรุดตัวเองนั่งลงตามคำพูดของเขา อย่างไม่มีทางเลี่ยง แม้ใจมันฮึดที่จะตะบึงตะบอนทุกวินาที เพราะหล่อนไม่ชอบที่ใครมาจำกัด หรือบังคับหล่อนเอาแบบนี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างหล่อนกับเขาหรอกนะนี่ ฝ้ายนิลเลยต้องมานั่งทนอยู่แบบนี้ และจะว่าไปปัญหาแค่น้ำผึ้งหยดเดียวเท่านั้นเอง นายคนนี้ ก็สามารถทำเรื่องให้ลุกลามจนเป็นเรื่องใหญ่โต ฝ้ายนิลนั่งอยู่เงียบๆ เขาเป็นฝ่ายสั่งเครื่องดื่ม แต่หล่อนตอบว่า “เอ้อ ดิฉัน ไม่หิวหรอกค่ะ จะเป็นฝ่ายขอนั่งคุยธุระกับคุณแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น” ถึงแม้ในน้ำเสียงที่พูดนั้นจะดูอ่อนลงให้บ้าง “ก็คงจะไม่ได้ครับ เพราะผมสั่งไปแล้วสองที่ น้ำชาเขียวกับน้ำส้มคั้น ผมไม่รู้ว่าคูณชอบอะไร แต่น้ำส้มคั้นนี่น่าจะถูกกับผู้หญิงมากกว่า” หากกริญจ์พูดออกไปหน้าตาเฉยเลย แต่หล่อนรู้สึกโกรธเขาอย่างมาก นี่ ไม่ต้องคิดมาแกล้งมาทำดีกับหล่อนหรอก ฝ้ายนิลนั้นไม่ชอบให้ใคร ที่เอามือตบหัวแล้วมาลูบหลัง หล่อนไม่เข้าใจนายคนนี้เลย ทำอะไรของเขา แกล้งถ่วงเวลาหล่อน กริญจ์มองหล่อนและหล่อนมองเขาสลับกันไป เหมือนเขาอยากจะนั่งดูหล่อนมากกว่า ที่จะพูดคุยด้วย “นี่ มันไม่ตลกเลยนะคุณ คุณมีธุระอะไรอีกล่ะรีบพูดมา เพราะไม่งั้นฉันจะกลับ” ซึ่งฝ้ายนิลพูดด้วยอารมณ์โกรธ หากว่าฝ่ายเขานั้นกลับนั่งยิ้มอย่างสบายใจ เหมือนไม่สนใจในสิ่งที่หล่อนพูด นี่ เขาบ้า หรือแกล้งบ้ากันแน่ อย่านึกนะว่าคนอย่างหล่อนจะไม่รู้กับท่าทีไก๋ๆของเขา ซ่อนเหลี่ยม ทำหน้าเป็นแบบนี้ อย่ามาทำไขสือกับหล่อน เขาจึงเอ่ยขึ้นมาอีกคำหนึ่ง “ทำไมกันล่ะ คุณถึงใจร้อนเหลือเกิน นั่งคุยกับผมดีๆไม่ได้หรือไงครับ เอ หรือว่าใบหน้าของผมเหมือนยักษ์มาร” “ใช่ เหมือนยักษ์เหมือนมารแน่นอน กับผู้ชายประเภทอย่างคุณ” เลยทำให้เขารู้สึกฉุนขึ้นมาทันที “แล้ว นี่ ผู้ชายอย่างผมมันมีอะไรเหรอคุณ” “ฉันว่า คุณค่อยๆถามตัวคุณเองดีกว่าจะรู้ดี” หากหล่อนโยนคำพูดให้กลับไปหาตัวเขา ถึงแม้เขาจะพูดดีกับหล่อน แต่หล่อนก็ไม่ยินยอมใจอ่อนกับเขาเลย เพราะเขาเป็นฝ่ายหาเรื่องหล่อนในคราวแรก ทำให้บรรยากาศนั้นเริ่มตึงเครียด อย่างมากหล่อนอยากจะกลับ แม้แต่เครื่องดื่มที่เขาสั่งมา หล่อนก็ไม่แตะต้อง นั่งมองเขาเฉยๆ ทำให้กริญจ์ไม่แตะแก้วน้ำเหมือนกัน นึกเซ็งแต่เขานั้นก็ยังอยากถ่วงเวลาให้หล่อนอยู่กับเขาต่อไปอีก “เอ้อ ทาน เครื่องดื่มที่ผมสั่งให้ก่อนดีกว่านะ เสร็จ แล้วผมจะพาคุณกลับบริษัท” และเขาออกคำสั่งกับหล่อน “นี่คุณฉันบอกไม่ทานยังไง ” หล่อนก็ขึ้นเสียงแข็งบ้าง “ถ้าไม่มี อะไรงั้นฉันขอกลับก่อน” เมื่อหล่อนเตรียมตัวที่จะออกนอกร้าน และคิดว่าส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย เขาเป็นคนกินเอง ก็ควรที่จะจัดการชำระเอง เรื่องแบบนี้ นี่หล่อนควรจะฟ้องบอกกับพี่กัญชลิกาด้วยหรือเปล่า ฮึ เพราะว่าอนุญาตให้ใครก็ไม่รู้ ทำเรื่องบ้าๆกับหล่อน คนเรานั้นไม่สามารถไว้ใจใครง่ายๆหรอก พี่กัญชลิกานะพี่กัญ หล่อนนึกโกรธกัญชลิกาฝ่ายบุคคลอีกคน เมื่อลุกขึ้นผลักประตู แล้วก้าวออกไปข้างนอก และหล่อนต้องพึ่งพาบริการของรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างใกล้ๆนั้น ขณะยืนรอรถเพื่อออกปากซอย และและคิดว่า ถ้าหล่อนจะขอเดินกลับไปที่สำนักงานเอง ในตึกที่อยู่ไม่ไกลจากนี้ สามารถเดินไปได้ เพราะรถวินมาช้าเหลือเกิน ไปส่งผู้โดยสารหมด จนกระทั่งว่ากริญจ์เขาตามมาทัน หลังจากที่จัดการจ่ายค่าเครื่องดื่มแล้ว คิดว่าเด็กสาวคนนี้พยศเหลือเกิน หากแต่กริญจ์คิดว่า เขานั้นจะไม่ยอมรามือง่ายหรอก ครั้นพอเห็นเขาเท่านั้น ฝ้ายนิลก็รีบเดินหนีไปทันที ฝ่ายกริญจ์ก็เดินตามไปโดยไม่สนใจรถของตัวเอง และหล่อนก็เดินแกมวิ่งไปข้างหน้า จนในที่สุดกริญจ์ก็เดินมาทันพร้อมกับเขาตัดสินใจยื่นมือแตะกระชากที่ไหล่บอบบางของหล่อน ตามด้วยน้ำเสียงที่เครียดสำทับขึ้นมา “นี่ คุณ ทำไม จะต้องกลัวขนาดหนีผมออกมาด้วย บอกหลายครั้งแล้ว ถ้ามีอะไรก็พูดกันดี ยังเห็นผมเป็นยักษ์เป็นมารอยู่อีกหรือ” และหากว่า มือที่ยึดรั้งไหล่หล่อนนั้นเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ “ปล่อยฉันนะ” หล่อนร้องพร้อมสะบัดเพื่อให้หลุด แต่มือของเขาดุจคีมเหล็ก “ได้ แต่ว่า ผมจะปล่อย ก็ต่อเมื่อคุณเข้าใจผม และพูดคุยกันรู้เรื่อง” หล่อนอยากจะเถียงนัก แล้วตัวเขาล่ะ พูดคุยกับหล่อนรู้เรื่องหรือเปล่า ที่เอาตัวหล่อนมาข้างนอกแบบไม่มีเหตุผล แต่ฝ้ายนิลเลือกเงียบเสียยังจะดีกว่า เขาเป็นคนทำร้ายหล่อน ด้วยอำนาจปรารถนา ตาม อำเภอน้ำใจของเขาเสียด้วยซ้ำ ยังจะหาว่าหล่อนผิดด้วยหรือ และหล่อนไม่อยากจะสนใจหรือ ยุ่งกับคนอย่างเขาด้วยซ้ำ หากเป็นอีกครั้งที่ฝ้ายนิลเงียบและนิ่งไปนาน จนชายหนุ่มก็นิ่งเงียบตามไปด้วย ที่สุดชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายพูดกลับลำก่อน “เอ้อขอโทษคุณก็แล้วกันนะ ที่เป็นฝ่ายคิด และทำไม่ดีกับคุณก่อน” อ้าว นี่ เขาคิดจะขอโทษหล่อนนะหรือ แต่ คิดหรือว่าเรื่องแค่นี้ นั้นจะจบลงด้วยคำขอโทษแบบนี้ มันช่างง่ายเกินไปหรือเปล่า “คำขอโทษหรือคะ นี่มันง่ายเกินไปหรือเปล่าล่ะคุณไอ้คำนี้”ดูเหมือนหล่อนยังติดค้างใจจึงเถียง “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงล่ะ คุณถึงจะได้เข้าใจในตัวผมเสียที” กลับกลายเป็นว่าเขาอ่อนโยนลง หากแต่ในใจ ก็ยิ่งรู้สึกอ่อนแอและอ่อนใจยิ่งนัก “อ๋อ คุณไม่ต้องมาเข้าใจอะไรในตัวฉันมากหรอกนะคะ” “อ้าวพูดแบบนี้ ไม่ใช่หมายความว่า คุณไล่ผมหรอกนะ” เมื่อเขาถามหล่อนก็ตอบ “ใช่ค่ะ ความหมายมันก็ชัดเจนอยู่ในตัวของมันแล้วนี่ ฉันไม่อยากจะเจอคุณ แล้วฉันก็ขอไล่คุณไปให้ไกลด้วย” หล่อนตัดสินใจพูดคำนี้ ไม่สนถึงอารมณ์ ความรู้สึกของเขา จนตะลึงแทบจะอ้าปากค้าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม