ตอนที่ 8

1311 คำ
หรือว่าถ้ารู้ คงรู้แค่ผ่านๆ และจำได้เท่านั้นเอง เพราะกริญจ์ไม่ชอบแนะนำตัวเองมากสักเท่าไหร่ และในขณะนี้กริญจน์กำลังโกรธ เขาโกรธหล่อนเป็นอย่างมากเลยที่ผู้หญิงคนนี้นั่งนิ่งเงียบเหมือนคนเป็นใบ้ เขามองว่าหล่อนแข็งข้อ หรืออยากลองดีกับเขา หรืออยากเอาชนะเขาอีก “เรื่องวันนั้น ฉันยังไม่ยกโทษให้เธอเลย” เขาเอ่ยเสียงเข้มและเครียดเฝ้ามองหล่อน และฝ่าย ฝ้ายนิลก็จ้องใบหน้าตอบเขา อย่างไม่กลัว “นี่คุณมาก้าวก่าย ในเวลางานของฉันทำไม ฉันกำลังทำงานอยู่” หล่อนเอ่ยต่อ “และดิฉันไม่อยากให้ทางบริษัทกล่าวประณามว่าดิฉันมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาดิฉันทำตัวเรียบร้อยมาตลอด และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย” หากฝ้ายนิลตอบ “ฮึ นี่รู้จักตัวเองดีขนาดนั้นเชียวหรือเธอ ถึงกับชมตัวเองออกมา ถึงการเป็นพนักงานมีคุณภาพ” หากฝ่ายเขา ก็ทำท่าจะรวนหาเรื่องอีกหน มันเลยทำให้ฝ้ายนิลรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจยิ่งนัก คิดว่า เมื่อไหร่เขาจะยอมผละไปจากโต๊ะหล่อนเสียทีกันหนอ แขกไม่ได้รับเชิญ และนั่นคำภาวนาของหล่อน ไม่ได้ผลเลย เพราะร่างของเขาก็ยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิมนั่นเอง ไม่เขยื้อนไปไหน “นี่คุณ เอาอย่างนี้นะ เที่ยงของวันนี้ คุณจะต้องออกไปข้างนอกกับผม ไม่อย่างนั้นละ ผมจะยืนอยู่ตรงนี้ให้ทั้งวันเลยเพื่อกดดันคุณ และคุณคิดดูเอาเองก็แล้วกัน” นี่บ้าจริง เขาบ้าอย่างร้ายกาจ เมื่อเห็นเขาพูดใส่อย่างนี้ ฝ้ายนิลคิดในใจ ไม่มีการงานอย่างอื่นจะทำมั่งหรือไงล่ะ ถึงได้ว่างจัดขนาด ที่จะเที่ยวมานั่งเฝ้าได้ทั้งวี่ทั้งวัน บ้า หล่อนว่าแบบนี้เขาต้องบ้าแน่ๆ ฮึ ก็แล้วทำไม นี่ อีตาคนนี้ ต้องเลือกหล่อนด้วย เพราะฝ้ายนิลไม่ชอบหรอก จะว่าไปนั้น คนเหมือนเป็นขมิ้นกับปูนแท้ๆ แค่มองหน้าเขา นี่ หล่อนก็ไม่อยากมองด้วยซ้ำไปเลยเชียว และฝ้ายนิลนั้นแสนจะอึดอัด หล่อนไม่มีสมาธิทำงาน เมื่อเขามายืนจ้องอยู่ตรงหน้าแบบนี้ กลัวจะต้องตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านที่สอดรู้สอดเห็นแถวนี้ ในที่สุดก็ตัดสินใจออกไปข้างนอกกับเขา ไม่ได้เป็นไปด้วยความสมัครใจของหล่อนเลย ทำไม หล่อนไม่อยากเห็นหน้าของเขาเลย นายคนนี้ ยิ่งเห็นยิ่งนึกรำคาญ ชอบคิดนักว่า ผู้หญิงทุกคนในโลกมักจะหลงความหล่อเหมือนเทพบุตรของผู้ชาย ขอยกเว้นหล่อนไว้สักคนหรอก หล่อนไม่ได้นึกคลั่งไคล้ ไม่ใช่เป็นโรคคนเห่อผู้ชายหน้าตาดีๆ และมันเป็นความรู้สึกที่ไม่พอใจต่อเขานั่นเอง หล่อนจึงได้ระเบิดคำพูดออกมา เมื่ออยู่ข้างนอก เป็นสถานที่ตามที่เขานัด ร้านเครื่องดื่มอยู่ถัดไปจากอาคารสำนักงานที่ทำงานของหล่อนไปประมาณ ห้าร้อยกว่าเมตร “ทำไม คุณต้องพาฉันนั่งรถมาไกลเหลือเกิน ฉันมีงานต้องทำต่อ และยืนคุยกันข้างหน้าอาคารก็ได้ ถ้าหากคุณนั้นไม่อยากจะเข้าไปคุยข้างใน” เขาเหลือบขึ้นมามองหล่อนนิดหนึ่ง ก่อนยิ้มให้ แต่เป็นยิ้มที่เยาะเย้ยเสียนี่กระไร “อ้อ นี่คุณกลัว ว่าผม จะเอาตัวคุณนั้นไปฆ่าไปแกง ยังงั้นหรือ” “เปล่า แต่ฉันคิดว่า คุณจะชวนฉันมาทำไมกันคะ ก็เพราะว่าฉันไม่รู้จักคุณมาก่อนเลย และนี่ถ้าไม่เป็นเพราะพี่กัญชลิกา เธอขอร้องมาล่ะก้อ ฮึ จ้างให้ฉันไม่มากับคุณแน่” และหล่อนต้องอ้างถึงพี่กัญชลิกา ฝ่ายบุคคลของบริษัท อีกอย่างหล่อนไม่ทราบประวัติของนายคนนี้ดีพอ แล้วเรื่องนี้ พี่กัญชลิการู้จักเขาด้วยหรือ เขาถึงได้วางท่าทำเหมือนคนมีอภิสิทธิ์เต็มเปี่ยม ในการที่จะทำอะไรก็ได้ และต้องได้ แต่กับฝ้ายนิล เขาคิดผิดไปแล้ว คนอย่างหล่อนหยิ่ง ถึงหยิ่งก็มีเหตุผล เพราะความหวาดระแวงผู้ชาย อาจจะเป็นเพราะ หล่อนพบเจอแต่บรรดาผู้ชายเจ้าชู้ เป็นเสือผู้หญิง ผู้ชาย กะล่อน จอมปลอม แสดงความรู้สึกปรากฏต่อหน้าเพียงแค่ฉาบฉวย ไม่จริงจัง เห็นผู้หญิงเป็นทางผ่าน ไม่แคร์รู้สึกถึงความคิดจิตใจผู้หญิงอย่างพวกหล่อนบ้าง ดังนั้นโลกในความคิดของหล่อนจึงหล่อหลอมให้รู้สึกเฉยชาและกระด้างต่อผู้ชาย เหมือนมองเห็นผู้ชายเป็นปฏิปักษ์ไปหมด ครอบครัวพี่สาวของหล่อนเป็นตัวอย่าง หล่อนยังจำได้ที่เอ่ยฝากคำพูดไว้กับเมธา และเมธาต้องรับผิดชอบในคำพูด ด้วยการตอบคำถามของหล่อน หล่อนจะมาขอคำตอบ ก็เพื่อให้นายเมธา นั้นได้ไปให้พ้นจากชีวิตของพี่สาวหล่อน โดยการหย่ากันเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว จะได้ไม่มีเรื่องค้างคาคาราคาซังกันต่อไป หล่อนไม่อยากให้ตัวเองมีส่วนเป็นต้นตอของการหย่าร้างชีวิตคู่ เพราะมันผิดบาป ฝ้ายนิลพอจะเข้าใจ เขาไม่ได้เป็นผู้ชายและสามีที่ประพฤติตัวดีเลย แทบจะทำให้คนใกล้ชิดไม่อยากจะนึกยกมือไหว้ เหตุที่หล่อนพยายามหาทางช่วยเหลือพี่ มิ้ม พินทุมาลย์อ่อนแอ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และไม่กล้าต่อกรกับเมธา เรียกว่าไม่กล้าหือ จำยอมทุกอย่าง ทั้งที่มันกดขี่ ที่หล่อนประณาม เมธาอย่างรุนแรงเหลือเกิน และความจริงหล่อนไม่อยากประณามผู้ชายคนไหนเลยถ้าไม่มีเหตุผล เพราะหล่อนนิ่งคิดไปนานมาก ฝ้ายนิลขบคิดในเรื่องรอบตัวของหล่อน ไหนจะปัญหาเรื่องของพี่สาว ที่หล่อนต้องการเอาคำตอบกับเมธาในเร็ววันนี้ หากว่า ฝ่ายเขา กริญจน์สังเกตว่า ท่าทางของหล่อนดูร้อนรน และกระวนกระวายใจบางอย่าง แต่ก็ไม่ยอมปริปากบอกเขา เพราะรู้ว่าหล่อนเด็ดขาดแค่ไหนและ เย่อหยิ่งแค่ไหน “พูดธุระของคุณ ให้จบได้ไหมคะ คุณ เพราะฉันจะต้องรีบไปทำงานต่อให้เสร็จ” หล่อนอยากจะบอกว่า นี่เสียเวลามากแล้ว และเมื่อหล่อนเร่งถามอีกครั้ง แต่เขายังคงเงียบ นี่ หล่อนไม่มีเวลาเหลือมากมาย ที่จะใช่เวลาอยู่กับเรื่องไร้สาระอย่างเขา ฝ้ายต้องทำงาน ฝ้ายนิลหาว่าเขาเป็นพวกโรคจิตชนิดหนึ่ง “ถ้าไม่มีธุระพูดต่อ ขอความกรุณาเถอะค่ะ ช่วย พาดิฉันกลับไปที่สำนักงานได้แล้ว” “มีสิคุณ ถ้าหากไม่มี ผมก็คงไม่พาคุณออกมาข้างนอกอย่างนี้หรอก” นี่เขากำลังคิดอะไรของเขาอยู่ และจะแกล้งหล่อน หรือไร ฝ้ายนิลคิดในใจ “ค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็รีบๆพูดขึ้นมาสิคะ จะได้เสร็จเสียที” หล่อนนึกท้อใจ ที่เขาเหมือนถ่วงรั้งหล่อน เมื่อเห็นดังนั้นกริญจ์ เขาจึงคิดหาทางเพื่อจะแกล้งหล่อนให้หนักกว่าเดิมอีก “อ้าว เอ๊ะ ใครว่า ผมจะให้คุณรีบไปทำงานล่ะ เพราะว่าผมจะกักตัวคุณเอาไว้เลย คงอีกนาน นานเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง เลยล่ะ อีกอย่างนั้น คุณไม่ต้องกลัว เพราะผมโทร.ไปขอยืมตัวคุณให้ออกมากับผมกับฝ่ายบุคคลของคุณแล้ว ซึ่งทางนั้นเขาอนุญาต อย่างเต็มที่” “นี่ คุณโกหกแน่นอน” หล่อนสวนคำกลับไป “ฮึ ถ้าเช่นนั้นดิฉันจะรีบกลับเดี๋ยวนี้” และหล่อนเถียงต่อ เพราะชักไม่ชอบมาพากล
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม