ตอนที่ 16

1326 คำ
จะต้องพยายามทำให้หล่อนเชื่อเขาได้อย่างสนิทใจ ว่าอันที่จริงแล้วไอ้ผู้ชายอย่างเขามันไม่ค่อยมีพิษมากเท่าไหร่หรอกนะ ที่จริงแท้แล้วมันเป็นเพียงแค่เกราะป้องกันตัวที่เขาเอาไว้ปกป้องตัวเองเท่านั้น ทั้งจากผู้ชายและผู้หญิงที่คิดไม่ดีต่อเขาเช่นกัน เขาไม่อยากชมตัวเอง ในขณะที่เขาอยู่ในระหว่างทางที่จะขับรถพา หล่อนไปส่งบ้าน เวลานี้หล่อนยังนิ่งเงียบ และหากถ้าไปถึงที่นั่นเมื่อไหร่ เขาแอบคิดว่าหล่อนอาจมีน้ำใจที่จะเชื้อเชิญเขาให้เข้าไปในห้องพัก เพราะเขาแค่อยากจะเห็นห้องของหล่อนเท่านั้น หากคราวหลัง จะได้มาถูกยังไง หล่อนยังครุ่นคิดเรื่องนี้อีกถูกพี่สาวไล่ออกจากบ้าน และดูเหมือนพี่สาวแท้ๆนั้นไม่มีท่าทีไยดีสักนิดที่มีต่อหล่อน นั่นคือความดีที่ฝ้ายนิลอุตส่าห์กางกั้น เพื่อช่วยเหลือพี่สาว จากมาร้ายที่เป็นสามีของพินทุมาลย์นั่นเอง ตอนนี้รู้แล้วว่า พินทุมาลย์ยังมองเห็นเมธาเป็นเทวดาเหมือนเคย เสียแรงจริงๆ อุตส่าห์ช่วยเหลือมาเนิ่นนาน กลับไม่เห็นคุณค่าของหล่อนอีก ครั้นเมื่อเขาเห็นหล่อนทำหน้าตาเหมือนคนไม่สบายใจอีกครั้ง จึงถาม “เอ้อ คุณคิดอะไรอยู่หรือครับ” และหล่อนสะดุ้งนิดหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้า และหันไปมองเขาจะตัดสินใจบอกดีหรือเปล่าหนอ เพราะว่าไหนๆ เขาก็เป็นคนให้ความช่วยเหลือหล่อนในระดับหนึ่ง จนเขาต้องถามอีกว่า “ลืมถามคุณไป ว่าคุณไปทำธุระอะไรแถวนั้น มาดึกดื่น” หล่อนจึงต้องตอบ“ค่ะ ฉันไปบ้านพี่สาวมา ไปตกลงอะไรบางอย่าง มีเรื่องที่ไม่ดีนัก ฉันวิ่งออกมาจากบ้านหลังนั้น แล้วมาเจอรถแท็กซี่ คิดว่าเขาเป็นคนดี แต่ไม่นึกเลย มันจะเป็นจิ้งจอกสังคม” ทำให้เขานั้นพอจะเดาเรื่องออกได้ “แต่ถือว่า ตอนนี้คุณก็โชคดีแล้ว” กริญจ์เอ่ยปลอบ “ค่ะ” “แต่ครั้งต่อไปนะครับ โชคอาจไม่ดีตลอดไป คุณทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงๆ อันตรายกับตัวเองอย่างนี้ อย่าชะล่าใจ ให้ระมัดระวัง และคนประเภทนี้ มีเยอะนะคุณ ตามท้องถนน สมควรที่ผู้หญิงจะต้องระวัง” ซึ่งเขาถือโอกาสสอนกล่าวเตือนหล่อนด้วยความจริงใจ ถึงบทเรียนอุทาหรณ์ที่มีหลากหลายตามหน้าหนังสือพิมพ์ และหล่อนรู้ว่า เขาพูดถูกของเขา “ต่อไป คุณควรระมัดระวังตัวเองมากๆ และไม่ควรทำอย่างนี้อีกนะ” หากหล่อนไม่โต้ตอบเขา ในที่สุดถึงบ้านพักของหล่อน คือ อพาร์ทเม้นที่เห็น “ขึ้นไปข้างบนก่อนสิคะอย่าเพิ่งกลับ” หล่อนเอ่ยบอกเขา เพราะแทบไม่ต้องชวนเขาก็อยากจะขึ้นไปอยู่แล้ว เพราะวันหลังจะได้มาหาหล่อนถูก และหมายเลขห้องนั่น พอเขาเห็นแล้วเขาพยายามจดจำให้แม่นจดมันไว้กับกระดาษเลย ส่วนรถนั้น เขาจอดรถไว้ใต้ถุน ฝากให้พนักงานรักษาความปลอดภัยช่วยดูแล เมื่อก้าวเข้าไปในห้องของหล่อน ห้องหับของหล่อน สะอาด และน่าอยู่ บนเตียงมีตุ๊กตาสีชมพู หมีแพนด้าวางอยู่ด้วย หล่อนชอบตุ๊กตาเหมือนเด็ก ดูเหมือนคนที่ขาดความอบอุ่นประมาณนั้น เมื่อเขาได้เห็นห้องของหล่อนตรงหน้าแบบชัดเจนอย่างนี้ ยังนึกชมเลยว่าผู้หญิงคนนี้จัดห้องสวยและไม่นึกว่าหล่อนจะอยู่คนเดียว นึกว่ามีเพื่อนมาอยู่ร่วมห้องด้วย เขาเลยไม่ถามอะไรมาก ก็ได้แต่อมยิ้มให้เท่านั้น คิดว่า แบบนี้เห็นทีต้องแอบมาแวะเยี่ยมที่นี่บ่อยแล้วล่ะ นายกริญจ์เอ๋ย เมื่อเขานั่งพักผ่อนในห้องของหล่อนได้ไม่นานนัก หญิงสาวต้อนรับด้วยน้ำดื่มเย็นๆ ให้หายกระหายและชุ่มคอ จากนั้น หล่อนก็เดินไปส่งเขาที่ข้างล่าง และเอ่ยลา “ขับรถให้ดีนะคะ ดึกมากแล้ว ขอบคุณอย่างมากสำหรับคำปลอบและการช่วยเหลือของคุณในหลายๆเรื่องและหลายอย่างด้วยค่ะ” ทำให้หล่อนเริ่มมองเขาในแง่ที่ดี เป็นมิตรยิ่งขึ้น เขาขับรถจากไปแล้ว หล่อนโบกมือให้เขาด้วยอีกครั้ง ถือเป็นน้ำใจ หล่อนอ่อนหวานก็เป็น และชวนน่ามองไปอีกแบบ รวมทั้งหากเขายังจำชื่อห้องของหล่อนได้อย่างแม่นยำ เพราะคิดว่า วันหลังอาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญอย่างเขา ก็จะต้องมาหาหล่อนอีกแน่ เดี๋ยวนี้แท็กซี่ในตอนกลางคืนอันตรายและหากินในทางที่ไม่ชอบ หล่อนมาอยู่ในห้องส่วนตัว ถือว่าปลอดภัยแล้วนั่งครุ่นคิด ไม่มีใครกล้าทำอันตรายหล่อนแล้วล่ะ และคุณมัสดาเป็นแม่ของเขานางมีตำแหน่งทางสังคมเป็นถึงคุณหญิงระดับสายสะพายตราตั้งทีเดียว ก็แปลกใจอย่างมากที่บุตรชายขับรถพาผู้หญิงคนไหนก็ไม่รู้เข้ามาในรั้วบ้าน เข้ามาจอดที่ข้างใน นั่นไง เพราะว่าคุณมัสดา เธอเกิดอยากลุกออกมาจากห้องนอนเพื่อทำธุระส่วนตัว เพราะท้องไส้ปั่นป่วน เห็นจะเป็นเพราะว่าอาหารเป็นพิษต้องรีบเข้าไปจัดการที่ห้องน้ำเสร็จแล้วจึงออกมา ได้ยินเสียงรถของลูกชายตัวดีแล่นเข้ามา เพราะมัสดาเงี่ยหูฟัง นางจำเสียงรถของลูกชายได้ แล้วนี่กลับมาบ้านดึกๆดื่นๆขนาดนี้ คงไปเมามายสะเปะสะปะมาอีกล่ะสิ เมื่อก่อนไม่ใช่คนทานเหล้าติดเหล้านี่ แล้วนี่ก็ติดผู้หญิงข้างนอกตามผับบาร์มาละสิ เพราะลูกชายคุณหญิงมัสดาต้องไม่ทำตัวน่าเกลียดนักให้หมองหมางเสียชื่อเสียงมาถึงวงศ์ตระกูล เห็นที นางจะต้องรีบจับตากริญจ์ ลูกชายแต่งงานเสียแล้วล่ะกับลูกสาวของคุณหญิงสายเบศ หนูมัญจลี เพราะถึงอย่างไรเสีย เธอก็หมายมั่นปั้นมือ และหมายเอาตัวหนูมัญจลีไว้เป็นลูกสะใภ้ที่เหมาะสมมานานแล้วล่ะคนนี้ ถ้าหนูมัญจลีไม่ได้คิดอะไรมาก และความคิดไม่ได้แคร์เหมือนสาวสังคมสมัยใหม่ เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่ดีนักของบุตรชาย อาจจะมีเจ้าชู้ ติดพันกับผู้หญิง เพราะนางเองก็รู้ว่า หนูมัญจลีเองก็รักกริญจ์ จากนั้นนางก็กลับเข้าไปในห้องนอนตามเดิม เพราะไม่อยากรบกวนบุตรชาย พรุ่งนี้เช้ายังมีธุระเรียกมาคุยสอบถามยังได้ นางต้องใจเย็นๆก่อน และเช้าตรู่ของวันใหม่ต่อมาในขณะที่กริญจ์กำลังถูกคุณมัสดามารดาเข้มงวด นางเฝ้ามองพฤติกรรมของลูกชายมาหลายหนแล้ว จึงเรียกเขาเข้าไปพบ “มานี่สิ มานั่งใกล้แม่” เมื่อคุณมัสดาบอกลูกชาย “เอ้อ มีอะไรหรือครับคุณแม่ ถึงเกิดอยากจะพบผมแต่เช้าอย่างนี้” “เอ ทำไมล่ะ แม่อยากพบเวลาไหน แม่ก็จะเรียกแกเข้ามาหา แล้วนี่ แม่คงแตะต้องแกไม่ได้เลยสินะ” “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ก็ผมเกิดแปลกใจ ที่คุณแม่ดันเรียกผมเข้ามาพบในเช้าวันนี้” “หมายความว่า นี่แกจะออกไปข้างนอกอีกใช่ไหม” “ไม่ใช่หรอกครับ ผมจะไปทำงานต่างหาก ผมจะไปทำงานที่บริษัทนะครับ ” แต่คุณมัสดา ก็รู้สึกแปลกใจที่บุตรชาย ตัดสินใจเข้าออฟฟิศ เพื่อศึกษาเรียนรู้การงาน “เอ กริญจ์ นี่ แม่คงหูตาไม่ฝาดหรอกนะ ที่ได้ยินว่าแกอยากเข้าออฟฟิศตอนนี้ และอยากจะเข้าไปทำงาน นี่แม่ ขอถามหน่อยเถอะว่า ในอาทิตย์หนึ่ง แกเข้าไปทำงานกี่ครั้งกันล่ะฮึ” และคุณมัสดาป้อนถาม ดูท่าทางจริงจังนัก “อาทิตย์ละวัน สัปดาห์ละครั้งครับ หรือไม่บางทีก็ไม่ได้ไปเลย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม