ตอนที่ 13

1345 คำ
เพราะเขาจะต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งที่เธอให้เลือกสองทาง คือ มันจะหย่าหรือไม่ยอมหย่าให้กับพี่สาวของหล่อน และนี่ไม่ใช่เป็นการบังคับ แต่หล่อนเอาจริงเพราะสุดทนกับปัญหาเหล่านี้ของพี่สาวที่โดนกระทำตลอดเพราะต้องการช่วยพี่สาว หากจะไม่ให้พี่สาวรู้อย่างเด็ดขาด งั้นถ้านายเมธาอยู่บ้าน หล่อนจะได้ไม่ต้องคอยนาน พอเสร็จธุระแล้ว หล่อนก็จะกลับทันที “ทานอะไรมาแล้วหรือยัง นี่ พี่ก็ทำกับข้าวไว้ อย่าลืมทานด้วยกันนะ” “ขอบคุณค่ะ แต่คงไม่ ฝ้ายยังไม่หิวค่ะ” “กินผิดเวล่ำเวลา เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะแย่เลย” พินทุมาลย์ก็ยังห่วงน้องสาว “ก็ ฝ้าย ไม่หิวนี่คะ” แต่ฝ้ายนิลก็ตอบคำเดิม “งั้นเธอ ก็นั่งพักผ่อนรอก่อนเถอะ พี่จะจัดสำรับเพื่อทานข้าวเย็นนี้ จะเรียกคุณเมธาลงมา แล้วก็ทานข้าวด้วยกัน ทานน้อยทานมากไม่ว่า” หล่อนไม่ตอบ หลังจากที่ทรุดนั่งบนโซฟา เพราะจุดประสงค์ที่หล่อนรอก็เพื่อจะพบและขอคำตอบจากเมธาฮึ แล้วมันจะหนีหล่อนไปไหนพ้นละ กับผู้ชายขี้ขลาดตาขาวอย่างเขา เมธาต้องยอมรับความจริงให้ได้ ว่าหล่อนมาเพื่อการใด ถึงเวลานี้อารมณ์ของฝ้ายนิลก็ไม่ดีนัก หล่อนรอหลังจากที่เมธาทานข้าวเสร็จในค่ำของวันนี้ ฝ้ายนิลกำลังจะเริ่มต้นพูด รอจังหวะที่เมธาอิ่มอาหารแล้ว “เอ้อ หนูมีเรื่อง ที่จะคุยกับคุณเมธาตามลำพังน่ะคะพี่มิ้ม” ค่ำนี้พินทุมาลย์ทานข้าวไม่ได้มาก แต่ก็ถือว่ายังดีที่มีอาหารตกลงถึงท้อง เพราะช่วงที่เป็นหนัก หลายวันที่ผ่านไปนั้น หล่อนแทบจะกินอะไรไม่ได้เลย นอกจากข้าวต้มเหลวๆเท่านั้นกับไข่ต้ม พินทุมาลย์เงยหน้าขึ้นมองน้องสาวแวบหนึ่ง ได้ยินชัดเจนคำที่ฝ้ายนิลขอขึ้นมา “ ได้จ๊ะงั้นพี่จะขอตัวขึ้นข้างบนก่อน แล้วจะกลับตอนไหนล่ะ” “คุย ธุระเสร็จแล้วฝ้ายก็กลับค่ะ” และฝ้ายนิลก็ยิ้มแห้งๆตอบพี่สาว พี่พินทุมาลย์ของหล่อนไม่รู้สักนิด ว่าเรื่องที่หล่อนจะคุยกับเมธานั้นเป็นเรื่องอะไร และคืนนี้คงรู้ล่ะ เมธาอาจจะบอกพี่สาว หล่อนก็ไม่ว่าอะไร ผู้ชายอย่างเขาคงจะใช้ผู้หญิงเป็นเกราะกำบัง และฝ้ายนิลพร้อมที่จะตกลงใจยอมรับกับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น ขอเพียงแต่ว่า อย่าให้เมธามาวอแวเกาะเกี่ยวกับพี่สาวของหล่อนเท่านั้น และเมธาเหมือนจะรู้ว่าเขาหนีหล่อนไม่พ้น ทำให้เขาหายใจอึดอัด พร้อมกับมองฝ้ายนิลด้วยใบสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ซึ่งฝ้ายนิลเขม้นสายตามองดูอีกครั้งจนกระทั่งหล่อนเอ่ย “ว่ายังไงคะ คุณเมธา เรื่องที่ฉันได้บอกและขอตกลงกับคุณ เพราะว่ามีเวลาให้ไปคิดนานตั้งอาทิตย์กว่าๆแล้วนะคะ” ฝ้ายนิลเป็นฝ่ายเริ่มเรื่อง จะได้ไม่เสียเวลาหล่อน เดินตรงไปที่ห้องรับแขก เมธายังนั่งนิ่ง เหมือนไม่พอใจ เขาเอาแต่นิ่งเงียบ “ว่า ยังไง คุณเมธาไม่ได้ยิน ที่ดิฉันพูดหรือไง อย่าลืมนะว่าสัญญาต้องเป็นสัญญา และสัญญาของคุณเป็นของลูกผู้ชายด้วย อย่าลืม” หากเมธายังกลัดกลุ้มใจ แต่แล้วนายเมธาก็หันมาทางหล่อน ด้วยสายตาแบบกะลิ้มกะเหลี่ย นี่แบบนี้ มันเป็นสายตาที่ฝ้ายนิลทั้งขยะแขยง รังเกียจมากที่สุด เขายังนำมาใช้กับหล่อนอีก และหล่อนพยายามใจเย็นมากกว่านั้น ขนาดเมธายังใจเย็นอยู่เลย หล่อนจะใจร้อนไปทำไม แล้วจากนั้น ดูเหมือนจิ้งจกกำลังจะเปลี่ยนสี กลับคำพูด และท่าทางของเมธายังพูดหวานออดอ้อนเอาใจหล่อน “ โธ่น้องฝ้าย พี่ขอโทษจ๊ะ เอ้อ น้องลืมเรื่องนั้นไปเสียเถอะนะ พี่ขอโทษจริงๆ และพี่ยังรักคุณมิ้มอยู่” ซึ่งหล่อนฟังแล้วนั้นก็อยากจะขย้อนอาเจียนออกมานัก ฮึ มันบอกว่ายังรักพี่สาวของหล่อนอยู่ นั่นไงคนปากลิ้นสองแฉกเหมือนงูพิษ ปลิ้นปล้อน ไหลลื่นตลอด หล่อนไม่ฟังเขา คิดว่าหล่อนยังอยากจะพูดเล่นๆกับเขาอีกหรือ “นี่คุณเมธา ฉันเอาจริงนะ และฉันไม่ได้มาพูดเล่นกับคุณ” หล่อนพยายามเน้นเสียง และเสียงของหล่อนก็เข้มพอสมควร “พี่ก็เข้าใจจ๊ะน้องฝ้ายจ๋า” “เอ๊ะ นี่ อย่ามาเรียกฉันอย่างนั้น เพราะฉันไม่อยากจะนับคุณเป็นญาติด้วย” ซึ่งคำพูดและท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยของมันทำให้ฝ้ายนิลแทบจะตะคอกใส่ในทันทีเพื่อกำราบ ฝ่ายเมธาจึงยิ้มแหย เพราะเมื่อมันไม่กล้าเล่นงานหล่อน ตัวมันเลยนิ่งเงียบไปทันที “นี่ฉันพูดตรงๆนะว่าฉันขอให้คุณออกไปจากชีวิตพี่สาวของฉันเสียทีและอย่าคิดนะว่าเรื่องเลวๆของคุณ ฉันจะไม่รู้และพี่สาวของฉันจะต้องรู้ แต่อย่าให้พูดเลย ไอ้โรคสำส่อนของคุณ มันจะไปติดใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่พี่สาวของฉันนายเมธา” เมื่อฝ้ายนิลเอ่ยเสียงเด็ดขาดและเหี้ยมเกรียมกับชายตรงหน้า “เอ้อ แล้วคนที่ทำผิดนี่ จะขอให้ยกโทษได้ไหมจ๊ะ” ซึ่งนายเมธานั้นพยายามอ้อนอีก “คงจะไม่ได้หรอกนะ นี่ยังจะกล้ามาพูดอีกหรือ ความผิดของคุณ มันไม่ใช่ความผิดครั้งเดียวมันหลายครั้งมากมายนัก จนฉันคิดว่า จะไม่ทนยอมอีกแล้ว ที่พี่สาวของฉันต้องมาเป็นแบบนี้ ด้วยก็เพราะการกระทำของคุณ” ฝ้ายนิลพร้อมที่จะเอ่ยตรงๆ หล่อนชี้ชัดแจ้งเลย ไม่ต่างไปจากขวานผ่าซาก ซึ่งทำให้นายเมธารู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาทันที เพราะรู้จักฤทธิ์ของฝ้ายนิลดี และเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในตอนนี้ คนเอ่ยได้ยินคำนี้พอดี หล่อนยังไม่นอนหลับ “หยุดเดี๋ยวนี้นะนังฝ้าย” เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น และร่างของพินทุมาลย์ซึ่งแอบฟังอยู่หลังตู้โชว์กระจก ก็ก้าวออกมาในทันที “ใช่ ฉันเอง ฉันสงสัยว่า แกมีธุระอะไรจะพูดกับคุณเมธา” “แต่ที่ฝ้ายทำไปเพื่อปกป้องพี่มิ้ม” “ฉันรู้ แต่ว่าเรื่องนี้ มันเรื่องส่วนตัว แกกลับไปก่อนเถอะ” ฝ้ายนิลตกใจ เสียงที่ใช้สรรพนามเรียกหล่อนว่า นังฝ้าย” เหมือนพี่สาวจะขับไล่หล่อนด้วยซ้ำ นั่นไง หากเมื่อฝ้ายนิลได้ยิน ซึ่งมันเป็นคำเรียกที่แสดงออกมาว่า พี่สาวโกรธหล่อนอย่างมากที่สุด และ นานๆครั้ง ที่พินทุมาลย์จะเอ่ยเรียก นี่หนอคงจะถึงคราวแตกหักของพี่น้อง จากการกระทำของคนอื่น เลยทำให้ฝ้ายนิลนิ่ง ก็ได้ ถ้าพี่สาวต้องการเช่นนี้ หล่อนก็จะไม่มาเหยียบที่นี่อีก ในเมื่อหวังดีกลับกลายแปลเป็นว่าประสงค์ร้ายของพี่สาว และก็จะผลุนผลันไปทันทีหลังจากที่ความประโยคนี้จบลง “แล้ว ฉันว่า คราวต่อไป แก ไม่ต้องมายุ่งที่บ้านของฉันหรอกนะ เรื่องส่วนตัวของฉัน และฉันนั้นจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ตาม แกก็ไม่ควรมาให้ฉันได้เห็นหน้า และไม่ต้องมาใส่ใจหรอก ฉันกับเขาอยู่ด้วยกันได้ นี่ ฉันเห็นแกเป็นน้องสาวของฉันหรอกนะ ฉันถึงว่าเอาขนาดนี้ ถ้าไม่งั้นหนักกว่านี้” และฝ้ายนิลก้มหน้านิ่ง เมื่อกลับกลายเป็นแบบนี้ นี่หล่อนไปเสือกเรื่องของชาวบ้านจริง โดยเฉพาะชาวบ้านคนนั้นเป็นพี่สาวของหล่อน เหมือนหวังดีแต่ถูกประสงค์ร้ายแท้ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม