ตอนที่ 12

1367 คำ
และในขณะนี้นั้น เคียสกำลังนอนอยู่ใต้โคมไฟระย้าดวงงามในห้องหรูของคอนโด อบอุ่น อาบไปทั้งห้องสีของมัน นุ่มนวล มีเสน่ห์ ข้างกายของเขามีสาวน้อยคนหนึ่งกกกอดอยู่ข้างกาย แค่กกมานอนเล่นอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรเลยเถิดไปอย่างอื่น หล่อนคนนี้ ไม่ใช่ใคร สาวนั่งดริ๊งค์คนเดิมที่เขาพบและนึกสงสารพร้อมถูกใจด้วย เขาเคยพามาเที่ยวที่คอนโดแห่งนี้ สามสี่หนแล้ว เคียสถามหล่อนไปถามหล่อนมาหล่อนก็ตอบเขาได้อย่างไม่ติดขัด ไหลลื่นยิ่งนัก มันบอกได้ว่า หล่อนไม่โกหกหรือเสแสร้ง มีลับลมกับเขา ซึ่งเคียสแสนเกลียดผู้หญิงประเภทนี้มากที่สุด คือ ขี้โกหก ตอแหล เขาเลิกกับผู้หญิงที่ผ่านมาก็เพราะเรื่องโกหกของหล่อน มันไม่ใช่เรื่องความใคร่สักนิดเดียว ที่เขานอนกกกอดหล่อนนี่มันไม่ใช่เป็นเพราะความใคร่ แต่ความใคร่นั้นเขาอิ่มเอมจากหล่อนไปเมื่อหลายวันก่อนแล้ว มันยังคงอยู่ และเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายที่คิดสวาปามเรื่องความใคร่มากมายนัก มันมีมาเป็นพักๆ พอนึกอยากก็ปลดปล่อยไปเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดว่ามันจะจีรังยั่งยืนนักก็แค่เกมธรรมชาติที่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้น และนั่นผ่านการตัดสินใจของเขาแล้วว่า เขาจะเอาจริงคือเอาหล่อนมาเป็นเมีย และเป็นแม่ของลูกของเขาในอนาคตด้วย ไม่ใช่แค่เป็นนางบำเรอชั่วคราวหรอก หากหล่อนมีจริตเพียงเล็กน้อย อ่อนหวานอ้อยสร้อยแบบธรรมชาติความเป็นกุลสตรี ไม่กระดี๊กระด๊าหรือกล้าหาญชาญชัย ประเภทกล้าจัดเสียจนเขาต้องกลัว เขาชอบผู้หญิงเรียบร้อย นิ่มนวลอ่อนหวาน แม้แต่คำพูดของหล่อนก็ตามเถอะ ต้องส่อความเป็นคนมีความรู้ รักเกียรติ รักวงศ์ตระกูล ไม่ใช่รักแค่ตัวเอง และรักแค่เงินตราที่ผู้ชายหยิบยื่นให้มาเท่านั้น เขารู้ว่า หล่อนทำเพราะความจำเป็น และหล่อนไม่ได้ถลำเข้ามาสู่วงการนี้เพราะความอยาก? คุณสมบัติของหล่อนดูแล้วก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายนัก ก็พอที่เขาจะยอมรับได้นั่นเอง ที่สำคัญหัวใจของเคียสกล้ารักผู้หญิงคนนี้สุดใจหรือเปล่า ถ้าผู้หญิงคนไหนสอบผ่าน แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นเก่ง แต่เขาไม่ได้ทดลองกับผู้หญิงทุกคน เขารักใครนั้นรักคนเดียว? รักจริง และหวังแต่ง ถ้าหล่อนถูกใจเขา มีคุณสมบัติที่เขาอยากจะลิ้มลองเล่นรัก แต่ไม่ใช่กวาดดะแบบมั่วๆ เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่โสมม เลยไม่นิยมกินอาจมเดนใครเป็นอาหารว่าง เคียสก็เป็นอย่างนี้ แหละนิสัยเขา ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร จนกระทั่งแม้แต่เพื่อนรักอย่างกริญจ์ก็ค่อนขอดใส่บ่อยๆหาว่าเจ้าพลิกเจ้าแพลง เจ้ากลวิธีการ ก็อาจใช่ มันเป็นเล่ห์กระเท่ห์ แต่มันก็เป็นการพิสูจน์จิตใจของผู้หญิงได้ถึงแก่นแท้ไม่ใช่หรือ เคียสคิดเอาเองและเขาตอบอย่างนี้กับเพื่อน หล่อนมีชื่อ สั้นๆ ว่าดาว และผู้หญิงคนนี้เขาอยู่ใกล้แล้วเขาอบอุ่น หล่อนมีฐานะเป็นผู้ตาม ทำหน้าที่นี้ได้เสมอ อ่อนโยนในคำพูด ไม่แย้ง ไม่ต่อความ แต่ก็มีความคิดเป็นของตนเอง ได้อย่างชาญฉลาด ไม่ค่อยเจ้าแง่เจ้างอน เขาชอบผู้หญิงแบบนี้ เพราะไอ้การที่เขาจะไปตามง้อหล่อนโดยที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เคียสเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยจะชอบเอาเสียเลย ผู้หญิงที่ขี้สงสัย จุกจิก ระแวง นั่นเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่เขาไม่ชอบ แต่หล่อนไม่ใช่ ดาวปล่อยวางเขา ไม่ค่อยจะสนใจเรื่องของเขามากมายด้วยซ้ำ เขาว่าหล่อนมีธาตุคุณงามความดีอยู่ในใจ ไม่รู้สิ เขามองอย่างนั้น และทุกครั้งที่เขามองคาดเดา เคียสจะไม่มีวันผิดหวังเลย เขาไม่อยากจะบอกหล่อน เพราะกาลต่อไปในวันข้างหน้านั้นไม่แน่ เขาอยากจะดูใจหล่อนไปเท่านั้น พอๆกับที่หล่อนอยากจะดูศึกษาทั้งตัวและหัวใจของเขาไปด้วยเหมือนกัน ต่างฝ่ายไม่มีอะไรได้เปรียบ แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันพูดคุยกันอย่างเปิดอก แหวกควักเอาหัวใจมาพูดกัน เพราะอุปนิสัยของเคียสเป็นแบบตรงไปตรงมา โผงผางเป็นบางครั้ง ดังนั้นเขาจึงชอบผู้หญิงตรงที่ความนิ่มนวลอ่อนหวานในตัว เป็นกุลสตรีรู้จักทะนุถนอมน้ำใจเอาใจใส่คนรอบข้าง คนที่ตัวเองรัก เขาคิดอย่างนี้ หากดาวคนนี้นั้น หล่อนสามารถดับอารมณ์ร้อนของเขาได้ด้วยคำพูดที่เยือกเย็น มีสติ บอกกล่าว แนะ ในสิ่งที่ดี เหมือนเตือนเขา นี่แหละเขาชอบผู้หญิงแบบนี้ ในแบบของเขา และคิดว่า ผู้หญิงที่ดีพบยากหายาก เมื่อได้เจอไว้ก็ต้องรีบไขว่คว้า นานๆถึงจะผ่านเข้าตาเข้าสเปกต์ เขาอย่างนี้ เพราะหล่อนเป็นสาวเมืองอุบล บ้านของหล่อนทำไร่ทำนา ********** และนี่ ทำให้หล่อน เหนื่อย เหนื่อยที่สุด เรื่องของอีตาบ้าคนนั้นฮึ ก็เพราะว่าฝ้ายนิลนั้นแทบจะโยนกระเป๋าลงบนโซฟาในทันที ฝ่ายพี่สาวก็พอจะรู้ว่า พื้นอารมณ์ของน้องสาวไม่ดีนัก “นี่ไปกินรังแตนมาจากไหนกัน” “ก็จากหน้า บริษัทสิคะ ผู้ชายอะไรกวนชะมัดยียวน อยากจะฆ่านักเชียว” ฝ้ายนิลเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยว เลยทำให้พินทุมาลย์ ก็รู้สึกตกใจ “อ้าว แล้วนี่มันเรื่องอะไรกันล่ะขนาดเธอบอกจะไปฆ่าไปแกงกับใคร ช่วยบอกพี่มาสิ ฝ้ายตอนนี้เธอใจเย็นๆเข้าไว้” เมื่อหล่อนบอกพี่สาว “แหม ค่ะก็อีตาบ้าจอมกวนนั่นน่ะสิคะฝ้ายก็ไม่รู้จักหรอก มาตามตอแย กวนทุกวัน นี่ขนาดบุกตามถึงบริษัทเลย งานการไม่รู้จักทำ คงขี้เกียจ” ฝ้ายนิลว่าเข้าไปโน่นพร้อมกับบอกเหตุผล เมื่อพินทุมาลย์รับฟังแล้วก็สรุปออกมา “แบบนี้ พี่ว่า เธอคงไปทำอะไรรุนแรงเหลือเปล่า ระวังนะยายฝ้าย คนเขาหมั่นไส้มีเยอะ นี่ เขาก็คงแค้นเธอเหมือนกันนั่นล่ะ นี่เธอก็คงไปว่า ตอบโต้เขารุนแรงเหมือนกันใช่ไหม” พินทุมาลย์ นั้นพอจะรู้จักนิสัยของน้องสาวดี ปากจัด และเรื่องไม่ยอมคนนี่ฝ้ายนิลเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้ฝ้ายนิลหน้างอ ที่พี่สาวพูดแบบนั้น “อ้าวพูดกันแบบนี้ เหมือนพี่มิ้มไปเข้าข้างคนอื่นนะคะ ทั้งๆที่หนูเป็นน้องของพี่มิ้มแท้ๆ” ฝ้ายนิลเอ่ยทวง อดน้อยใจนิดหน่อย “แหม ยายฝ้าย เธอก็อย่าคิดมากเลย พี่ห่วงเธออยู่แล้ว แต่ฟังจากปากเธอเล่านะ เธอเป็นฝ่ายไปต่อว่าเขาฝ่ายเดียว” “ใช่ค่ะ แต่สำหรับฝ้ายมันก็ถูกนี่คะเพราะนายนั่น เป็นฝ่ายหาเรื่องฝ้ายก่อน ฝ้ายก็เลยต้องจัดการไงคะ” เมื่อฝ้ายนิลตอบ คืออุปนิสัยไม่ยอมคนแล้วหันมามองพี่สาวอีกครั้ง สำรวจดูตัว แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะไม่อยากเอาความเครียดมาลงที่นี่ หลังจากที่เผลอไป เพราะอาการของพี่สาว ใช่ว่าจะดีมาก “พี่มิ้ม เป็นยังไงบ้างคะ ตอนนี้หน้าตาแจ่มใส นี่ อาการดีขึ้นแล้ว ใช่ไหมคะ” “จ้ะ พี่ก็รู้สึกว่า มันดีขึ้นกว่าหลายวันก่อน” พินทุมาลย์ตอบน้องสาว เลยลืมเรื่องเครียดของน้องสาวไปโดยปริยาย และฝ้ายนิลก็เหมือนจะลืมมันไปด้วยเช่นกัน “เออนี่ พี่เขยของเธอกลับมาแล้วนะ และวันนี้ดูเหมือนเขาจะกลับมาแต่หัววันเลย” มิน่าล่ะ ที่พี่สาวของเธอเบิกบานแจ่มใสเพราะเมธากลับมาแล้ว แต่หล่อนต้องตามมาทวงสัญญากับเมธาในคืนของวันนี้ ซึ่งหล่อนคิดอีกว่า นายเมธาจะมาบิดพลิ้วคำสัญญากับหล่อนไม่ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม