บทที่4
อึก!
‘เจ็บหัว’ ความรู้สึกปวดๆทำให้หญิงแก่ยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง
ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น รอบตัวมืดไปหมด ดอกเหมยพยายามเดิน มือคลำหาสวิตซ์ไฟ แต่ไม่ว่าจะเดินแค่ไหน แต่ร่างกายเธอก็ไม่ปะทะกับอะไรสักอย่าง
‘เฮ่ย! นี่ฉันอยู่ไหน ทำไมทั้งมืด แล้วก็ว่างเปล่าอย่างนี้’
‘มืด.... มันมืดและน่ากลัว ฉันไม่ได้กลัวความมืด แต่ตอนนี้เริ่มกลัวแล้วนะ ใครเอาฉันมาแกล้งที่ไหนรึเปล่า พวกแอนตี้บ้าไสยศาสตร์รึเปล่า’
“ใจเย็นๆเถิด นางสาวเหมย” เสียงหวานกังวานดังอยู่ข้างหู เสมือนมีคนมากระซิบข้างหู
‘เสียงใคร น่าขนลุกชะมัด’ ดอกเหมยได้แต่คิดในใจ รู้สึกเหมือนกำลังกอดตัวเองไว้หลวมๆ
“ตอนนี้ดวงจิตท่านกำลังเดินทาง” เสียงหวานยังคงดัง ว่าแต่
‘ดวงจิต ดวงจิตอะไรกัน นี่ฉันหลับฝันถึงนิยายเรื่องใหม่หรือยังไง’ ดอกเหมยสับสน นั่งยองๆลงอย่างหมดแรง เมื่อความทรงจำสุดท้ายเหมือนจะหายไป อยู่ๆตื่นมาก็อยู่ในที่มืดๆนี้ซะแล้ว
“ยื่นมือมาหาเรา” เสียงหวานยังคงดัง แต่คราวนี้ดังมาจากด้านหน้า ดอกเหมยไม่แน่ใจ เธอค่อยๆยื่นมือไปข้างหน้า สัมผัสอบอุ่นวาบที่มือ ก่อนที่เธอจะต้องหลับตาลง
‘อะไรเนี่ย’ อยู่ๆก็แสบตา จนต้องหลับตาลง พอลืมตาอีกที ก็พบว่าเธออยู่ในห้องสีขาวสว่างซะแล้ว
“นั่งก่อนสิ” ดอกเหมยสะดุ้ง อยู่ๆก็มีชายแก่ พร้อมกับชุดโซฟาสีขาวอยู่ตรงหน้าเธอ เขานั่งอยู่บนนั้นทำเอาเธอตกใจ
“เอ่อ รายการอะไรหรือคะ” ดอกเหมยค่อยๆพูด ถ้าเป็นการลักพาตัว เธอจะได้ไม่ตายเร็วขึ้น
“สวัสดี ข้าคือพระเจ้า” …
สตั้นเจ้าค่ะ .... WTF
พระเจ้า!! เนี่ยนะ พระเจ้าจริงๆ พระเจ้าแบบ คนที่ทำอะไรก็ได้เนี่ยนะ
“ไม่ใช่ ....พระเจ้าแบบ คนที่สร้างโลก คนที่มีพลังเยอะ ถ้าจะเทียบกับคนบนโลกของเธอ ก็คงจะเป็นประธานาธิบดีล่ะมั้ง” เขายิ้ม
WTF พระเจ้ายิ้ม ว่าแต่ เฮ่ย ฉันยังไม่ได้พูดเลย ทำไมพระเจ้าได้ยิน อ่อ เขาเป็นพระเจ้า เขาก็ต้องได้ยินสิยัยโง่
“ก่อนอื่น ข้าต้องขอบใจเธอ ที่สร้างจินตนาการให้ข้าหลายอย่างเลย ข้าเป็นแฟนหนังสือของเธอ ช่วยเซ็นกองนี้ให้หน่อยนะ”
ตึง..
เสียงหนังสือหล่นมาจากไหนไม่รู้ กองอยู่ตรงหน้าเธอ เรียงเต็มโต๊ะ สูงกว่า2เมตร
‘เอ่อ เดี๋ยวก่อนนะ!’
‘ พระเจ้า!’
‘เป็น!’
‘แฟนหนังสือฉันเหรอ!’
ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่เพราะความมืออาชีพเธอก็หยิบปากกาขึ้นมาเซ็นอย่างไม่รู้ตัว
“แล้วเจ้าคิดว่า ข้าสร้างโลกจากอันใดล่ะ” ดอกเหมยมองชายแก่อย่างพินิจ แต่แม้จะพยายามมองเขาเท่าไรก็เหมือนกับร่างของเขานั้นมัว ราวกับมองผ่านกระจก ซึ่งมีไอน้ำเกาะอยู่
‘อย่างกับเบลอไว้แน่ะ’ ดอกเหมยคิด
“เธอแก่แล้ว ถ้าข้าไม่เบลอไว้ พลังเทพของข้าอาจจะทำให้เธอตายได้” เสียงทุ้มของพระเจ้าพูดอย่างใจดี ดอกเหมยได้แต่พยักหน้ารับ
“สร้างโลก.... จากอันใด.... หรือว่า นี่ท่านสร้างโลกอิงจากหนังสือของฉันเหรอ!!” ดอกเหมยเผลอตะโกนสุดเสียง ก่อนจะรีบปิดปาก เธอยังไม่อยากตาย
“อืม อยากดูมั้ยล่ะ โลกที่ข้าสร้างจากหนังสือเจ้า” ดอกเหมยหันขวับ
‘เหวอ อะไรวะเนี่ย!’ อยู่ๆก็มีทีวีจอใหญ่เท่าผนัง แถมในนั้นยังฉายภาพโลกทั้งใบก่อนจะค่อยๆซูมเข้าไป
“โลกนี้ เป็นโลกจากหนังสือ The Queen ของเธอ ” ดอกเหมยตะลึง ภาพผู้คน ภาพโลก ฉายให้ดู อย่างกับหนังสารคดี
“โลกนี้เป็นโลก จากหนังสือ Japan พาเหรดแห่งความตาย ข้าชอบมากเลยสร้างโลกของอสูรขึ้นมา ” ดอกเหมยนั่งนิ่งเพราะความตะลึง ทั้งสองโลกถอดแบบมาจากหนังสือของเธอเด๊ะ มีกระทั่งตัวละครในนิยายไปโลดแล่นอยู่ในโลก
“เนื้อความของนิยาย ข้าก็เก็บมาเป็นแนวทางของโลกด้วย” ดอกเหมยแอบปาดเหงื่อ งั้นที่เธอคอยเถียงคนอื่นว่าคิดมาก ก็ผิดมาตลอดสิ ก็ใครจะไปรู้ ว่าพระเจ้าจะมาติดนิยายฉัน
“เรื่องใหม่ของเธอ ข้าชื่นชอบอย่างมาก เจ้าเพิ่งลงไปสองตอน ข้าติดแหง่กจนเผลอตัวไปสร้างอีกโลกขึ้นมา”
ดอกเหมยอ้าปากค้าง หันไปมองเขาอย่างไม่เชื่อ
“แล้ว..?” หลังจากสติกลับมา สาวแก่ก็เอ่ยถาม
“แล้ว... ข้าเลยอยากให้เธอ ไปเขียนนิยาย ในโลกนั้นเลย” เสียงทุ้มเอ่ยตอบ เป็นเชิงบังคับกลายๆ
“เอ่อ ฉันปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยคะ” ดอกเหมยเลิกคิ้ว หน้าแหย
“คิดว่าอย่างไรล่ะ”
ดอกเหมยกรอกตากับคำตอบ ‘งานหนักแล้วยัยแก่เอ้ย ดันมีพระเจ้าเป็นแฟนหนังสือ’
“ข้าจะให้คนไปอยู่โลกหน้าแทนเธอ ส่วนเธอก็เข้าไปอยู่ในโลกนั้นเสีย เอ้อ ช้าก่อน... ข้ามีผู้ช่วยให้ด้วย เหม่ยลู่ เหม่ยลู่” เสียงทุ้มเรียกสองครั้ง ก่อนที่นกสีขาวอมชมพู จะปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
[สวัสดีค่ะ เจ้านาย] นกน้อยบินมาก่อนจะเกาะลงที่ไหล่ของดอกเหมย แต่กลับไม่ให้รู้สึกถึงน้ำหนักเลยสักนิด ทั้งที่ขนาดตัวของนกนั้นไม่ได้น้อยตามที่เธอเรียกเลย
“เวลาจะคุยกับเหม่ยลู่ ก็คุยในใจได้เลยนะ เหม่ยลู่จะมีระบบแลกของใช้อยู่ และคอยบอกหลายๆอย่างกับเธอ ”
“ข้าต้องไปแล้ว เขียนหนังสือให้ข้าอ่านเยอะๆล่ะ” เสียงทุ้มก้องอยู่ในหัว เหมือนชิ่งไปมา ก่อนที่รอบข้างดอกเหมยจะมืดลงอีกครั้ง
‘นึกจะไปก็ไป ทำไมต้องมาติดใจงานเขียนฉันด้วย ฉันก็แค่ยายแก่คนนึงเท่านั้นเอง’ ดอกเหมยคิดในใจ
[ถึงเวลานอนแล้วค่ะเจ้านาย... เมื่อตื่นขึ้นมา จิตของเจ้านายจะเดินทางถึงที่หมาย] เสียงของเหมยลู่ดังอยู่ข้างหู อยู่ๆดอกเหมยก็รู้สึกตาหนักๆ ก่อนที่จะค่อยๆหลับไป บนโซฟานั้นล่ะ
“อี๋! ขยะชัดๆ อย่ามองนะลูก เดี๋ยวจะติดเชื้อนาง” เสียงดังเหมือนกับอยู่ข้างหู ทำให้ดอกเหมยตื่น หญิงแก่บิดขี้เกียจหันซ้ายที ขวาที
‘ทำไมมันปวดหลังแบบนี้นะ อย่างกับนอนบนพื้น’ ว่าแล้วดอกเหมยก็ตื่นขึ้นเต็มตา ก่อนจะมองรอบๆอย่างแปลกใจ เธอแตะพื้นหินอย่างงงๆ
บ้านเรือนก่อด้วยไม้สีทึม ประดับด้วยโคมไฟสีแดง และผ้าสีแดง ถนนหินสีดำอยู่ระหว่างตึกไม้ มีร้านค้าอยู่ริมทาง ผู้คนเดินเข้าออกร้านค้าแน่นขนัด คาดว่าน่าจะเป็นตลาด
ดอกเหมยจับแขนตัวเอง เนื้อตัวไม่ผุดผ่อง มีรอยคล้ำแดด รอยขีดข่วน จนถึงรอยแมลงสัตว์กัดต่อย สายตาเธอรีบมองหากระจก หรืออะไรก็ได้ที่สามารถส่องดูหน้าตาตัวเองตอนนี้ได้
‘อย่านะ ไม่นะ อย่าบอกนะว่า พระเจ้าบ้านั่นส่งเธอมาในร่างนี้ ไม่เอานะ’ ดอกเหมยเริ่มโวยในใจ
แปะ ....
แปะ แปะ แปะ พอดีกับที่ฟ้าครึ้มขึ้น ฝนตกลงพอมาดี ดอกเหมยมองซ้ายมองขวา คิดว่าร้านนี้คงเป็นร้านของเธอ
เธอกระชับผ้าโพกหัวสีน้ำตาลเข้มให้ปิดบังหน้าตามากขึ้น เพราะยังหาอะไรมาส่องดูหน้าตาไม่ได้ ตอนนี้เลยกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่เธอจะได้คุยกับเหม่ยลู่
ดอกเหมยวิ่งวุ่นเก็บของในร้าน ก่อนจะค่อยๆลากมันเข้าไปหลบฝนในซอกตึก ก่อนที่ร่างเล็กๆจะทรุดนั่งลงกับพื้น
‘เหนื่อยชะมัด ทั้งชีวิตฉันทำเป็นแต่พิมพ์นิยาย เพิ่งจะเคยขายของตลาดนัดก็วันนี้’
[เหม่ยลู่] ดอกเหมยเอ่ยเรียกทันที
[สวัสดีค่ะเจ้านาย จิตของท่านเดินทางมาถึงร่างโฮสต์อย่างปลอดภัย]
[ช่วยบอกฉันที ว่าฉันถูกส่งมาในร่างใคร ฉันนึกว่าฉันต้องเกิดใหม่เป็นเด็กซะอีก อีกอย่าง พระเจ้าเขาไม่ได้ให้ระบบเทพๆกับฉันหรอกเหรอ อย่างเกิดในตระกูลสูงส่ง อะไรอย่างนั้น]
‘ก็ถ้าเกิดในตระกูลสูงส่ง เธอจะได้มีเวลาเขียนนิยายให้พระเจ้าท่านอ่านยังไงล่ะ ไม่ต้องมานั่งขายของที่ตลาดนัดอย่างนี้’
[ระบบเทพ? เหม่ยลู่ไงคะ]
กึก...
เกิดอาการชะงัก และช็อกค้างไปชั่วคราว ระหว่างทั้งสอง ตอนนี้นกน้อยบินอยู่ข้างๆตัวเธอ บินวนไปวนมา รำแพนหางยาวๆอย่างกับร่ายรำอยู่
[เอาจริงดิ] อดที่จะถามไม่ได้จริงๆ ถ้าเหม่ยลู่คือระบบเทพแล้ว แล้ว... แล้วยังไงต่อล่ะ แล้วจะให้เธอทำอะไร
[จริงดิคะ] เสียงเล็กตอบกลับมาราวกับกำลังยิ้มเยาะ
‘จ่ะ ไม่กวนเลยจ่ะ ตัวช่วยของฉัน’ ดอกเหมยได้แต่ยิ้มแห้ง เธอมองซ้าย มองขวา ด้วยความที่กลัวว่าจะมีคนมาเห็นเหม่ยลู่เข้า
‘เอ๊ะ! เหม่ยลู่ คนอื่นมองไม่เห็นเธอใช่มั้ย’
[ถูกต้องนะคะ]
‘แล้วนี่ฉันต้องทำยังไงบ้าง ไอฉันก็แก่หงำเหงือกแล้ว ถ้าต้องทำงานหรืออะไรหนักๆ ฉันก็ไม่ไหวหรอกนะ’ ดอกเหมยพูดอย่างปลงๆ
[เจ้านายนี่นะคะแก่หงำเหงือก คิกๆๆ] เสียงหัวเราะเล็กๆทำให้ดอกเหมยงง ก็เธอเป็นแค่ยายแก่ ถึงจะมีร่างโฮสต์เด็ก แต่ใจเธอก็แก่เหมือนเดิมนั่นล่ะ
‘แล้วฉันต้องทำอะไรล่ะยะ’ ดอกเหมยแหวใส่ในใจ มือน้อยกอดอก เอนตัวลงพิงกำแพงมากขึ้น
[ก่อนอื่น นี่กระจกเจ้าค่ะ]
พรึ่บ นกน้อยหันหลังมา ก่อนจะกางปีก ปีกน้อยเรียงตัวกันทีละอัน ก่อนจะค่อยๆกลายเป็นกระจกเงา
ดอกเหมยเลื่อนผ้าโพกหัวมาไว้แถบคอ ดวงตาเล็กเบิกโพรง
‘ชิบหายแล้วยายแก่!’ เสียงอุทานในใจดังติดต่อกัน ราวกับเสียงสะท้อน
[เจ้านายถูกส่งมา เป็นตัวละครหลักในนิยายของเจ้านายเองค่ะ] เสียงเล็กดังขึ้นตอกย้ำ
‘เงียบก่อนซิ ฉันทำใจไม่ได้จริงๆ ถึงจะเขียนไว้ว่าอัปลักษณ์ แต่นี่มันเกินไปนะ ที่นี่มีคลินิกศัลยกรรมมั้ย?’
[ไม่มีเจ้าค่ะ] ดอกเหมยตวัดตามองนกน้อย ที่หันคอมามองเธอราวกับจะเยาะเย้ย
หญิงสาวในกระจก แม้จะยังเด็กแต่กลับไม่ดูแลตัวเอง มีสิวขึ้นหลายที่ หน้าคล้ำหมองเพราะโดนแดดมาทั้งชีวิต อย่างกับไม่เคยรู้จักครีมกันแดดและสกินแคร์
‘กรี๊ด! ที่นี่ไม่มีครีมกันแดดรึยังไง ฉันจะไม่ท๊น’ ดอกเหมยแทบเต้น เธอไม่ชอบใจเอาเสียเลย ถึงโลกก่อนเธอจะไม่มีหลัว แต่ก็ไม่ได้ปล่อยตัว ดูแลตัวเองอย่างดีตลอด
เพราะเป็นคนที่ชอบมองตัวเอง แล้วรู้สึกดีกับตัวเอง เลยดูแลตัวเองอย่างดี กระทั่งบางคนก็ไม่อยากเชื่อว่าเธออายุ50แล้ว
‘แล้วเธอช่วยอะไรฉันได้บ้างเนี่ย นอกจากเป็นกระจก’ แอบแขวะไปหนึ่งที ก่อนที่นกน้อยจะกลายร่างกลับมาเป็นนกเช่นเคย และเกาะอยู่บนกองของที่เธอขนมาจากในร้าน
[ก่อนอื่น อาลู่ขออธิบายระบบก่อนนะคะ ระบบช่วยเหลือที่เจ้านายจะได้รับ มีชื่อว่า ร้านค้าระบบค่ะ อาลู่จะคอยแนะนำขายสินค้าให้กับเจ้านาย ]
[ส่วนระบบที่สอง คือ ระบบแต้ม เจ้านายต้องสะสมคะแนน จาก หนึ่งส่งต้นฉบับ สองปักธงหนุ่มๆ] ดอกเหมยนิ่งค้าง
‘นะ ... นี่มัน ระบบสร้างฮาเรมชัดๆ’
จริงๆเพราะพระเจ้าเห็นว่าชีวิตที่โลกเก่า นางสาวดอกเหมยอยู่เป็นโสดและเปล่าเปลี่ยวมาจนแก่ เขาเลยสร้างเงื่อนไขนี้ขึ้นมา
‘แล้วหน้าอย่างนี้ ฉันจะไปปักธงใครได้ล่ะ’ ดอกเหมยคิดอย่างอาลัยตายอยาก สภาพอย่างเธอ ขอทานยังไม่เอาเลยมั้ง
‘ขอทาน! จริงด้วย ปักธงขอทานน่าจะง่ายสุดแล้วมั้งในตอนนี้’
‘ตอนนี้มีอะไรขายบ้างล่ะในร้าน ที่ช่วยให้ฉันสวยกว่านี้ได้ ให้ตายเถอะ ถ้ามีสกินแคร์สักนิดก็คงดี’ ดอกเหมยอดที่จะบ่นไม่ได้
[พอดีเลยค่ะ ตอนนี้มีโปรโมชั่นเปิดร้าน ชุดสกินแคร์ส่งตรงจากโลกเก่า มีโลชั่นทาผิวขาว ครีมอาบน้ำ เซรั่มหน้าใส เดย์ครีม ไนท์ครีม ครีมกันแดดหน้าและตัว ราคาเพียง 300แต้ม] เสียงเล็กๆตอบกลับมา
‘ต้องทำยังไงถึงจะได้ 300 แต้มกันล่ะ’ ดอกเหมยปวดหัวตุบๆ