บทที่3 เหม่ยเสี้ยว

1318 คำ
บทที่3 ‘ฉันชื่อเหม่ยเสี้ยว เป็นหญิงสาวที่อัปลักษณ์ที่สุดในโลกนี้ เดินไปที่ไหนก็มีแต่คนสาปแช่งให้รีบ ตายๆไป เพราะฉันมันน่าเกลียดกว่าชาวบ้าน เห็นแล้วไม่เจริญตา จนถึงกล่าวหาว่าเป็นกาลกิณี’ ดอกเหมยนั่งดูข่าว ข่าวที่รายงานเรื่อง นางสาวเหมย นิยายเรื่องใหม่ ที่เธอเพิ่งจะอัพลงเมื่อคืนนี้ เป็นที่กล่าวถึงในโลกโซเชี่ยลมาก ! และส่วนมาก ด่าเธอทั้งนั้น เพราะหาว่าเธอลากคนที่เธอคอมเม้นท์โต้ตอบมาด่า โดยแต่งเป็นนิยายด่า บ้าไปแล้ว เธอไม่ได้บ้าขนาดนั้นซะหน่อย “บ้าไปแล้วแน่ๆค่ะ โอย ไม่รู้รึไงว่าเหม่ยเสี้ยวเป็นนางเอก สุดท้ายยังไงนางเอกก็จบสวย” หลานอารมณ์ขึ้นแทนอาจารย์ที่ถูกโยงไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ทีจนวุ่นวายไปหมดแล้ว “แต่นางเอกของเราหลายๆคน ก็ตายนะหลาน” ดอกเหมยได้แต่ปลง นางเดินไปเปิดคอมพ์ก่อนจะหันไปสนใจเขียนเนื้อหาต่อดีกว่า “ส่งงานค่ะจารย์” หลานรีบเดินมาส่งงาน เธอส่งไฟล์ให้อาจารย์ ก่อนจะเริ่มนั่งเขียนงานของตัวเองต่อ “อืม ใช้ได้นะ อ่านตอนแรกแล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ” เมื่อเห็นว่าอาจารย์ถามหาความรู้สึก หลานรีบเดินออกจากคอมพ์ ไปชงชา ก่อนจะเดินกลับมานั่งหันหน้าเข้าหาอาจารย์ “เหม่ยเสี้ยวน่าสงสารดีค่ะ เป็นเด็กกำพร้า แล้วก็ยังไม่ค่อยบรรยายโลกนั้นเท่าไร ทำให้คนอ่านอยากติดตาม” หลานคอมเม้นท์ ก่อนจะยกชาขึ้นจิบ “แต่เธอเข้าใจจุดประสงค์ผิดไปนะ เหม่ยเสี้ยวเกิดมา เพื่อขึ้นเป็นจอมนางนักปราชญ์ เพราะนางไม่สวยในยุคนั้น นางเลยผลักดันตัวเองขึ้นที่สูงในทางอื่น ไม่ใช่เพื่อหาสามี หรือเพื่อพัฒนาให้ตัวเองสวยขึ้น” “ไม่ได้จะให้สวยขึ้นหรือคะ โถ่ ก็นึกว่า เหม่ยเสี้ยวจะโกนคิ้ว แล้วก็ทาปากตรงกลางเหมือนคนอื่นๆซะอีก” หลานทอดถอนใจ นึกสงสารเหม่ยเสี้ยว หญิงขี้เหร่ที่สุดในโลกขึ้นมาทันที “ไม่ใช่หรอก ฉันวางตัวเธอไปทางอื่น น่าสนุกดีนะ ถ้าเห็นหญิงสาวขึ้นเป็นใหญ่ ในโลกยุคจีนเก่า” หลานพยักหน้ารับ เริ่มเข้าใจจุดประสงค์ของอาจารย์แล้ว “แต่อาจารย์ เขียนนิยายแฟนตาซี นิยายต่างโลก เหมาะกว่าจริงๆนะคะ เมื่อวานมีคนเข้ามาดูทั่วโลก มากกว่า10ล้านแล้ว” หลานไม่ได้พูดต่อ ว่าตอนนี้น่าจะมากกว่าอีกเท่าตัว เพราะยอดนั้นคือของเมื่อวาน “คนติดตามผลงานฉันเยอะ ถึงได้มีพวกคนหน้าบ้านนั่นไง” ดอกเหมยหัวเราะขึ้นมา ก่อนจะเดินไปหยิบแผ่นเพลงมาใส่เครื่องเล่นต่อ “แค่พวกคนรับเงินจ้างแหละค่ะ ” หลานยังคงพูดคำเดิม ก่อนจะนั่งลงเขียนหนังสือต่อไป “หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” ดอกเหมยมองออกไปนอกหน้าต่าง วันนี้ก็เปลี่ยนคนอีกแล้ว พวกเขามากันไม่ซ้ำหน้าเลย เธอจะเชื่อได้สนิทอย่างไรล่ะ ว่าพวกเขาแค่คนที่รับเงิน เพื่อมายืนประท้วงหน้าบ้านเธอ “เมื่อวานนี้ซื้อผลไม้มาตั้งแยะ อาจารย์กินหมดไปเยอะเลยนะคะ” หลานทักท้วง เมื่อเห็นว่าผลไม้พร่องไปเยอะ “ไม่รู้สิ เวลาสมองแล่นแล้วลืมตลอดเลยว่ากินอะไรไปบ้าง” เพราะเวลาเธอเขียนนิยาย จะเหมือนคนที่หลุดเข้าไปในนั้นทั้งตัว แทบจะไม่รู้สึกถึงโลกภายนอกเลยด้วยซ้ำ “วันนี้นอนเร็วหน่อยมั้ยคะ อาจารย์ดูเพลียๆ” หลานเดินมามองหน้าดอกเหมยก่อนจะพูดขึ้น “ไม่ล่ะ อยากกลับบ้านเร็วน่ะสิ มาล่อให้ฉันนอนเร็ว” ดอกเหมยเย้าลูกศิษย์ ก่อนจะหันไปเขียนนิยายของตัวเองต่อ ถือเป็นการปิดด่านพูดคุยแล้ว แปลว่าเธอหลุดเข้าไปในนิยายเรียบร้อยแล้ว นางดอกเหมย ตอนที่2 ถูกเขียนขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเคย แต่วันนี้ดอกเหมยตั้งใจจะเขียนตอนให้ยาวหน่อย เพราะโครงที่เขียนไว้ยังไม่จบดี “ตรวจเหม่ยเสี้ยวด้วยนะ ตอนสอง ส่งไปแล้ว” เสียงดอกเหมยบอก หลังจากเงียบไปหลายชั่วโมง หลายชั่วโมงจริงๆ เพราะปรับโครงตอนนิดหน่อย ใส่โครงของหลานลงไปด้วย เลยช้าไปนิด “วันนี้เขียนนานนะคะ โห 12หน้า อาจารย์คะ จะไม่เอาเปรียบคนอ่านสักหน่อยเลยหรือ บางเว็บ ตอนที่1-5 คิดตังไม่ได้นะคะ” หลานรีบแย้ง ก่อนจะเริ่มขั้นตอนแยกตอน เป็น 2.1 กับ 2.2 “ยังไงเธอก็แยกตอนนี่ ลงๆไปเถอะ ตอน2ของฉันมันยาวนี่นา ฉันเขียนตามโครง ไม่ได้เขียนตามกำหนดจำนวนหน้า” ดอกเหมยพูดขึ้น ก่อนจะเดินไปทั่วบ้าน เพื่อยืดเส้นยืดสาย “อาจารย์คะ ตอนที่2.1 มันโหดร้ายไปไหมคะ นี่มันการบูลลี่ในปัจจุบันชัดๆ” หลานรีบวิ่งมาที่สวนกลางบ้านเพื่อท้วงอาจารย์ทันที แม้จะรู้อยู่แล้วว่า นิยายของอาจารย์ แนวทางมันจะค่อนข้างดาร์ค แต่ก็อดที่จะท้วงไม่ได้จริงๆ บางทีต้องทำใจไว้เลย ว่าตัวหลักอาจจะตายในตอบจบ “ไม่หรอก นางเป็นเด็กกำพร้า ต้องแสดงออกถึงคนสมัยนั้น ผ่านการบูลลี่นี่ล่ะ คนสมัยนั้น ค่อนข้างแบ่งแยกชนชั้น เกือบจะถือชนชั้นเหมือนอินเดีย คือ ถ้าชนชั้นต่อมากๆ ก็อาบน้ำรองจากชั้นที่คนชนชั้นสูงอาบ เข้าใจใช่มั้ย” “โหดร้ายจังเลยค่ะ ไม่ชอบเลย อยากให้อาจารย์สร้างโลกดีดีขึ้นมาบ้าง แบบ โลกสวยด้วยลาเวนเดอร์ อะไรอย่างนั้น ” หลานประชด ก่อนจะเดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อ ดอกเหมยได้แต่ส่ายหน้าตามหลังไป ‘ก็ถ้าคนเรา มันดีได้อย่างนั้นก็ดีสิ หนังสือของฉันเป็นหนังสือสะท้อนสังคมซะส่วนใหญ่ เลยมีแต่เรื่องโหดร้าย เหมือนที่ใครๆก็บอกกัน’ บางที ถ้าเขียนแนวโพนี่บ้าง อาจจะทำให้เธอเพี้ยนไปเลยก็ได้ ว่าแล้วร่างบางก็กอดตัวเองเบาๆ ตัวสั่นนิดๆ รู้สึกเหมือนขนลุก ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องรับแขกไป “เสร็จรึยังล่ะ” เข้ามาก็ทวงงานก่อนเลย ตามประสาคนบ้างาน “ลงบท 2.1แล้วค่ะ บท2.2จะลงตอนเย็น แต่ว่า เยี่ยมเลยค่ะอาจารย์ บท2.2ถูกใจสุดๆเลย” หลานยิ้มร่า ทำท่าทางยักไหล่ยึกๆ เชิงหยอกล้อกับอาจารย์ “แหม ก็ต้องถูกใจสิจ๊ะ โครงเธอนี่” ดอกเหมยบ่นๆ แต่เพราะมันลงตัวหรอก เธอถึงหยิบใส่เข้ามาด้วย เริ่มรู้สึกอยากจะอ่านงานเขียนของลูกศิษย์บ้างแล้ว งานเขียนของหลาน ถ้าให้เดา คงจะเป็นแนวเพ้อฝัน รักวัยรุ่น รักผู้ใหญ่20+ แบบโลกสวย โลกนี้มีเพียงเราสอง อย่างแน่นอน “ว่างๆ เอางานเขียนของเธอ มาให้ฉันอ่านบ้างสิ” หลานหันมามองอาจารย์อย่างไม่เชื่อหู ก่อนจะยิ้มรับ แล้วรีบส่งงานเขียนนิยายรักเรื่องใหม่ของเธอเข้าระบบอาจารย์ทันที “เรื่องนี้ ตัวท็อปเลยนะคะ” หลานอวดๆ ก่อนจะเดินไปหยิบเตรียมอาหารเย็นให้อาจารย์ ดอกเหมยนั่งอ่านผลงานของหลานเงียบๆ จนกระทั่งหลานกลับบ้าน ความเงียบเข้าปกคลุมบ้าน ไม่รู้ว่าดอกเหมยนั่งอ่านนิยายของหลานมานานแค่ไหนแล้ว แต่เสียงหน้าบ้านที่เงียบลงทำให้รู้ตัว ปึก.... เหม่ยเซี่ยวมองมือตัวเอง ที่ถือแจกันไว้ในมือ ก่อนที่จะรีบวิ่งออกจากบ้านของอาจารย์นักเขียนคนดังไป หลาน ที่เดินกลับมาในบ้านเพราะลืมของ รีบโทรเรียกตำรวจอย่างรวดเร็ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม