“กูเพิ่งรู้ว่าคุณพลอยสวยขนาดนี้ ถ้ากูจะจีบ มึงว่ากูจะจีบติดไหมวะ?” ธันวาพูดขึ้นอมยิ้มที่มุมปากลองหยังเชิงเพื่อน ถ้าเขาเดาไม่ผิด ภูริชน่าจะกำลังสนใจผู้หญิงคนที่บอกว่าตัวเองรำคาญ แม่งฟอร์มเยอะ ธันวาว่าเพื่อนในใจในขณะที่สายตายังลอบสังเกตปฏิกิริยาของเพื่อน
“ไม่ได้!” ภูริชหันไปตะคอกตอบคำถามเพื่อนเสียงดังอย่างลืมตัว แต่พอได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของธันวาถึงได้รู้ตัวตนเองว่าโดนลองเชิงอยู่ ขยับร่างใหญ่เอนหลังพิงไปยังพนักพิงของที่นั่ง หยิบแว่นกันแดดยี่ห้อดังที่เหน็บอยู่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตแขนสั้นขึ้นมาใส่เพื่อปกปิดแววตาอันมีพิรุธของตนเอง แต่ดวงตาคมภายใต้เลนส์สีดำก็ยังไม่วายชำเลืองมองไปทางกลุ่มสามสาวตลอด
“ทำไมวะ?” ยิ่งเห็นเพื่อนดิ้น ธันวาก็ยิ่งแหย่ไม่เลิก รู้สึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีกระอักกระอ่วนที่นาน ๆ ครั้งภูริชถึงจะแสดงออกมาให้เห็น
“แม่..แม่กูฝากให้กูช่วยดูแลน่ะ เพราะฉะนั้นมึงห้ามจีบเธอ” ผู้ที่กำลังถูกจับผิดตอบกลับแบบไม่เต็มเสียง อ้างคำของแม่มาตอบเพราะไม่รู้จะเอาเหตุผลไหนมาห้ามเพื่อนดี
“อ้อเหรอ..” ธันวาแสร้งทำเสียงลากล้อเลียนและเสียงนั้นทำให้ภูริชวาดขายาวยกเท้ามาเตะขาของเขาที่อยู่เก้าอี้คนละตัว
ปึก!
"เออ!"
ทั้งภูริชและธันวานั่งมองสาว ๆ แถวนั้นผ่านเลนส์กรองแสงสีดำได้ประมาณครึ่งชั่วโมง เสี่ยภาคินทร์และหมอชวิณจึงได้เดินออกมาจากตัวโรงแรมมาสมทบกับพวกเขา
"ทำไมพวกมึงออกมาช้ากันจังวะ?" ธันวาหันไปมองผู้มาใหม่ทั้งสองขณะที่เอ่ยถาม แล้วเขาก็รีบดึงสายตากลับเพราะมีหญิงสาวชาวต่างชาติสองคนในชุดทูพีชสีสดเดินผ่านมาพอดี มือหนาจับขาแว่นเลื่อนลงเพื่อต้องการมองอาหารตาด้วยตาเปล่าไร้เลนส์สีดำขวางกั้น
"ข้างในมันเย็นดี ตรงนี้มันร้อน" หมอชวิณเอ่ยพลางทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ชายหาดตัวที่ว่าง ถ้าหากว่าแฟนสาวไม่ออกมาเล่นน้ำเขาคงไม่ออกมา แสงแดดที่ร้อนระอุบวกกับลมทะเลทำให้เขาเหนียวตัวจนรู้สึกรำคาญ เสี่ยภาคินทร์ที่เดินตามหลังหมอหนุ่มมาก็นั่งลงยังเก้าอี้อีกตัวถัดจากเพื่อน
"กลัวแต่ร้อนแล้วมึงไม่กลัวผู้ชายมองหุ่นขาว ๆ เมียพวกมึงหรือไง" ธันวาพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้ในความเจ้าสำอางของเพื่อน เลื่อนแว่นกันแดดขึ้นมาตำแหน่งเดิมเมื่ออาหารตาสองคนนั้นเดินผ่านไปแล้ว
"ทำไมวะ? พวกนั้นจะเห็นได้ไง?" หมอหนุ่มเอ่ยถามธันวา ก็แฟนเขานั้นใส่ชุดปกปิดร่างกายแบบนั้นจะมาเห็นได้อย่างไร อย่างมากก็เห็นเพียงเรียวขาที่พ้นขอบขาของกางเกงขาสั้น แต่แค่นั้นก็ไม่ทำให้เขาต้องเป็นห่วง
"หึหึ มึงไม่รู้ล่ะสิว่าเมียมึงใส่ชุดอะไรลงเล่นน้ำ" ธันวาหัวเราะในลำคอพลางพยักหน้าไปทิศทางที่กลุ่มสามสาวเล่นน้ำกันอยู่
"ฉิบ!"
"แม่ง!"
ทั้งหมอชวิณและเสี่ยภาคินทร์สบถออกมาพร้อมกันราวกับนัดกันไว้ ร่างสูงสองคนลุกขึ้นพรวดพราดแล้วรีบจ้ำอ้าวไปยังกลุ่มเป้าหมายทันที และท่าทางนั้นทำให้ธันวาหัวเราะออกมาขบขันที่ได้เห็นเพื่อนทั้งสองโกรธจนแทบจะควันออกหูขนาดนั้น
"ฮะ ๆ "
ภูริชหันไปมองหน้าธันวาแล้วส่ายหน้าเอือมระอาต่อท่าทางของธันวาที่ไปหัวเราะสองคนนั้น เขาถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นเดินตามคนหวงเมียสองคนนั้นไป ถ้าเดาไม่ผิดทั้งเสี่ยภาคินทร์และหมอชวิณต้องพาคนรักขึ้นห้องไปทำโทษตามวิธีคนขี้หึงขี้หวง และพลอยลลินณ์ก็จะต้องยืนเคว้งอวดเรือนร่างสวยคนเดียวเป็นแน่
"กูพาเมียขึ้นห้องก่อน" และเป็นอย่างที่ชายหนุ่มเดาไว้ไม่ผิด ในตอนที่เขาเดินไปเกือบถึงกลุ่มเพื่อน เขาได้ยินเสียงหมอชวิณหันไปบอกเสี่ยภาคินทร์ก่อนจะดึงแก้มใสมุ่งไปยังโรงแรม และเสี่ยภาคินทร์ก็ดึงแป้งหอมแยกไปยังทางเข้าอีกทาง ตอนนี้จึงมีแต่พลอยลลินณ์ที่ยืนมองตามคู่รักสองคู่ที่เดินผละไปจากเธอตาปริบ ๆ
พลันสายตาคมเหลือบไปเห็นอนุวัฒน์ที่เดินมากับเพื่อน วีไอพีหนุ่มทำท่าจะเดินเข้ามาหาพลอยลลินณ์ และตามนิสัยของผู้ชายเจ้าชู้อย่างอนุวัฒน์ก็ไม่พ้นที่จะใช้สายตาแทะโลมเรือนร่างสวยงามนี้ขณะที่ชวนหญิงสาวคุยแน่ ๆ ภูริชจึงรีบสาวเท้ายาว ๆ เพื่อให้ไปถึงตัวหญิงสาวเสียก่อน
"คุณรีบไปเปลี่ยนชุดสิ" ภูริชเอ่ยขึ้นพลางปรายตาไปมองยังอนุวัฒน์ แล้วเขาก็เห็นอนุวัฒน์ยืนทำหน้าเซ็งก่อนจะชวนเพื่อนเดินไปอีกทาง แต่วีไอพีหนุ่มก็ยังไม่วายหันมามองคนตัวเล็กอย่างเสียดาย
"อ้อ ค่ะ" พลอยลลินณ์ดึงความสนใจกลับมาอยู่ที่เสียงแนะนำของเจ้านายหนุ่ม ร่างบางก้มลงไปหยิบเสื้อยืดที่วางอยู่บนรองเท้า แต่การที่เธอใส่ชุดกึ่งเปลือยแล้วก้มตัวลงไปแบบนี้ทำให้คนที่ยืนมองอยู่หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อมองไปเห็นเนื้อเนียนสองก้อนที่ทิ้งตัวลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกไปเบียดเสียดอัดกันแน่นเต็มฟองน้ำ แต่เพียงไม่กี่วินาทีหญิงสาวก็หยิบเสื้อขึ้นมาและสวมใส่ปิดร่างกายตัวเองรวดเร็ว ชายหนุ่มจึงลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อตัวเองนั้นได้หลุดพ้นจากการที่จะหัวใจวายตาย
"ผมจะอยู่ดื่มกับเพื่อนหน่อยน่าจะกลับสักสามสี่ทุ่ม คุณรอได้ไหมหรือว่าจะให้ผมไปส่งกลับบ้านก่อน" ภูริชเอ่ยถามพลางเดินตามร่างบางไปยังห้องอาบน้ำจืด เหมือนเป็นการเดินไปเป็นเพื่อนเธอกลาย ๆ ขณะที่ภายในอกแกร่งนั้น ก้อนเนื้อหัวใจยังคงเต้นโครมครามจากเหตุการณ์ระทึกใจเมื่อครู่ไม่หาย
"พลอยรอได้ค่ะ ว่าจะขึ้นไปเคลียร์รายรับรายจ่ายหน่อยค่ะ พรุ่งนี้จะได้ไม่ยุ่งมาก" พลอยลลินณ์หันไปยิ้มอ่อนขณะที่ตอบชายหนุ่ม เมื่อวานเพราะมีการจัดงานจึงมีใบเสร็จรายจ่ายมากเป็นพิเศษ เธอจึงอยากที่จะทำเป็นบางส่วนก่อนเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ทำงานเบาลง
"เอางั้นก็ได้ เสร็จแล้วลงมาหาผมตรงสระน้ำก็แล้วกัน" ภูริชพูดขึ้นเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงหน้าประตูห้องอาบน้ำพอดี
"ค่ะ" พลอยลลินณ์รับคำแล้วเดินเข้าไปด้านใน เห็นดังนั้นแล้วภูริชจึงเดินกลับไปหาธันวาซึ่งยังคงนั่งดื่มด่ำกับอาหารตาอยู่ที่เดิม
หกโมงเย็น ภูริชและธันวาย้ายมานั่งยังริมสระว่ายน้ำ โดยโต๊ะเตี้ยตรงหน้ามีเครื่องดื่มยี่ห้อที่พวกเขาดื่มกันประจำวางอยู่ ทั้งสองนั่งกันมาประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววของคนที่พาหญิงคนรักขึ้นไปทำโทษลงมากันเลยสักคน จนในที่สุดภูริชก็ทนไม่ไหวจนต้องโทรไปตามเพื่อนทั้งสองคน เสี่ยภาคินทร์อ้างว่าภรรยาสาวของตัวเองตั้งท้อง พอรับประทานอาหารก็มักจะง่วงนอนเร็วเลยต้องอยู่เป็นเพื่อนภรรยาบนห้อง ภูริชจึงได้ต่อสายไปหาหมอชวิณเป็นคนถัดไป
"มึงไม่คิดจะลงมาข้างล่างจริง ๆ เหรอวะ?" ภูริชเอ่ยถามทันทีที่หมอหนุ่มกดรับสาย
'ไม่ล่ะ กูจะนั่งชมวิวอยู่บนห้อง' เสียงหมอชวิณตอบกลับมา
"กูก็นั่งอยู่ตรงสระว่ายน้ำเนี่ย ลงมาชมวิวข้างล่างก็ได้ กูอยู่กับไอ้ธันสองคนเนี่ย"
'วิวมึงไม่สวยเท่าวิวกูหรอก บนห้องกูวิวดีจะตาย'
"แม่ง พอมีเมียก็พากันหายหัวกันหมด" ภูริชบ่นให้เพื่อนที่สถานภาพไม่โสดทั้งสองคน และในตอนนั้นเองเสียงของธันวาก็แทรกการสนทนาของทั้งคู่
"เฮ้ย นั่นผู้ช่วยมึงหรือเปล่าวะ เหมือนเธอเมาเลยว่ะ" เสียงของธันวาทำให้ความสนใจมุ่งไปยังจุดที่สายตาของเพื่อนมองไป แล้วภูริชก็เห็นพลอยลลินณ์กำลังยืนโอนเอนและมีอนุวัฒน์ถือแก้วเครื่องดื่มที่เหลือแต่แก้วเปล่ายืนประคองหญิงสาวด้วยมือที่ว่างอีกข้าง
"แม่งเอ้ย!" ภูริชสบถคำหยาบขึ้นอย่างหัวเสีย ลุกขึ้นพรวดและรีบก้าวเท้าไปยังหนุ่มสาวคู่นั้นด้วยจิตใจที่ร้อนรน ธันวาจึงรีบลุกเดินตามไปติด ๆ เผื่อจะได้ช่วยระงับอารมณ์ของเพื่อนหากว่าชายหนุ่มนั้นคุมอารมณ์โกรธานี้ไม่อยู่
"คุณพลอย! มาแล้วทำไมไม่ไปหาผม" ภูริชเอ่ยถามเสียงดุพร้อมทั้งเอื้อมมือไปจับยังต้นแขนนุ่มเพื่อดึงให้ร่างบางมายืนข้าง ๆ ตน แต่หากว่าอนุวัฒน์กลับไม่ยอมมือที่จับแขนเธออีกข้าง
"ผมชวนคุณพลอยดื่มอยู่นะครับ" วีไอพีหนุ่มพูดขึ้นและชักสีหน้าไม่พอใจใส่ภูริชที่บังอาจมาขัดขวางความตั้งใจหาความสุขของตนเอง
"คุณอยากดื่มเหรอ?" ภูริชก้มหน้าถามคนตัวเล็กที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เพียงแก้วเดียว
"ไม่อยากค่ะแต่คุณคนนี้บอกให้กินแก้วหนึ่งก่อนแล้วจะยอมให้พลอยผ่านไป พลอยเลยกิน.." ประโยคหลังของเธอเบาลงพร้อมสลัดศีรษะเบา ๆ เพื่อไล่ความมึนเมา พลางพยายามบิดแขนออกจากมือใหญ่ของอนุวัฒน์
"เธอไม่เต็มใจดื่ม คุณทำแบบนี้ผมเอาเรื่องคุณได้นะครับข้อหามอมเมาผู้อื่น" ภูริชพูดขึ้นพลางจ้องหน้าวีไอพีหนุ่มอย่างเอาเรื่อง ถ้าอนุวัฒน์ไม่ยอมถอยง่าย ๆ ก็คงต้องมีการขึ้นโรงพักกันบ้างล่ะ
"โธ่โว้ย!" อนุวัฒน์คำรามเสียงดังแล้วสะบัดมือออกจากต้นแขนนุ่มอย่างหงุดหงิด ตวัดสายตามองหน้าภูริชอย่างอาฆาตก่อนจะเดินผละออกไปอย่างหัวเสีย เห็นทีวันนี้คงต้องออกข้างนอกไปปลดปล่อยเพราะสาวที่หมายตาได้หลุดมือไปแล้ว
"กูพาคุณพลอยไปส่งที่บ้านก่อนนะเดี๋ยวกูมา" ภูริชหันไปบอกธันวาที่ยืนกอดอกพิงกำแพงดูสถานการณ์อยู่เงียบ ๆ มาตั้งแต่แรก
"เออ ๆ รีบไปเถอะ เหมือนเธอจะเมามากเลยนะนั่น สงสัยไม่เคยดื่ม" ธันวาพูดขึ้นแล้วมองไปยังใบหน้าเล็กอย่างเห็นใจ หน้าขาวเนียนของเธอแดงไปทั้งหน้าจนลามไปถึงลำคอระหง ร่างบางทรงตัวแทบไม่อยู่หากไม่มีมือใหญ่ของภูริชช่วยดึงรั้งเอาไว้ เธอคงลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นแล้ว
"กลับบ้าน" ภูริชหันไปพูดเสียงห้วนกับคนตัวเล็กแล้วประคองให้เธอเดินไปอย่างนึกโมโห ที่เธอยอมรับเครื่องดื่มจากคนอื่นง่าย ๆ จนทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายแบบนี้ หากว่าเขาไม่อยู่ตรงนี้เวลานี้หญิงสาวก็คงโดนชายคนนั้นลากไปทำมิดีมิร้ายแน่ ๆ เพราะดูก็รู้ว่านายอนุวัฒน์นั้นมีจุดประสงค์อย่างไรในการเข้าหาหญิงแบบนี้
....................................................
น้องจะพ้นจากจากปากเหยี่ยวปากกาแล้ว น้องจะพ้นจากปากเสือไหมน้าาา
สปอยตอนหน้า
"ใช้นิ้วทำเหมือนเมื่อกี้ได้ไหม..อา พลอยร้อน ปวดตรงนั้น.."
"ถ้าคุณไม่ให้ผมเอามันเข้าไป คุณจะลงแดงนะ"
"อ๊า เจ็บ พลอยเจ็บ"
"อย่าเกร็ง ยิ่งเกร็งก็ยิ่งเจ็บ แม่งแน่นฉิบ!"
และแล้ว ก็มาถึงตอนที่ทุกคนรอคอย อีก 3 วัน เล็ตค่อยมาต่อให้นะคะ555555555