ขึ้นรถไม่ถึงห้านาที พลอยลลินณ์ก็เริ่มอยู่ไม่สุข เม็ดเหงื่อเล็ก ๆ ผุดเต็มตีนผม เธอโบกสองมือเล็ดพัดวีตรงใบหน้าเพื่อดับความร้อนรุ่มภายในร่างกายที่เพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ
"ร้อนจัง เร่งแอร์หน่อยได้ไหมคะ?" พลอยลลินณ์เอ่ยเสียงกระเส่า ไม่รู้ว่าร่างกายของเธอเป็นอะไรถึงได้รู้สึกร้อนระอุขนาดนี้ หัวใจเต้นแรงราวกับว่าจะหลุดออกมา แล้วความปวดหนึบก็แล่นเข้าสู่ใจกลางสาว จู่ ๆ ก็เกิดกระสันอยากจะเคลื่อนมือไปแตะต้องตรงจุดบอบบาง แต่สติสัมปชัญญะของเธอยังคงมีเหลืออยู่จึงสามารถหักห้ามใจได้ เธอจึงได้แต่ถูต้นขาสองขาเข้าใส่กันไปมา มือน้อยออกแรงถูไถที่หน้าขาอ่อนของตัวเองพยายามจะลดความปรารถนาของร่างกาย
"คุณเป็นอะไร ทำไมเหงื่ออกเยอะแบบนี้?" ภูริชถามขึ้นพลางหันไปมองคนข้าง ๆ อย่างเป็นห่วง มองหยาดเหงื่อที่ไหลลงเป็นทางตามกรอบหน้าเล็ก มันผิดวิสัยเกินไปของคนที่บอกว่าร้อนเพราะอากาศ
"ไม่..ไม่รู้ แต่พลอยร้อน อื้อ.." ริมฝีปากอิ่มสั่นระริกขณะที่พูด ร่างบางบิดไปมาบนที่นั่ง ฟันซี่เล็กกัดริมปากล่างแน่นเพื่อข่มความปวดหนึบบริเวณกลางหว่างขา รู้สึกถึงการสั่นเต้นตุ้บพร้อมกับความร้อนผ่าวตรงนั้นอย่างชัดเจน สองมือน้อยสอดเข้าไปกลางหว่างขาทั้งสองแล้วเกร็งขาให้หนีบมือของตัวเองเพื่อระบายความทรมาน
"หรือว่าไอ้บ้านั่นมันวางยาคุณ บ้าฉิบ! ใกล้ถึงบ้านแล้วทนอีกนิดนะ" ผู้มีประสบการณ์มากกว่าพูดขึ้นแล้วต่อด้วยคำสบถอย่างหัวเสียขณะที่เท้าใหญ่ก็เหยียบคนเร่งลึกลงไปอีกเพื่อให้รถยนต์พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม
ไม่ถึงสิบนาที ภูริชก็พาพลอยลลินณ์มาถึงบ้าน เขารีบเปิดประตูลงไปและเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง ทันทีที่มือใหญ่จับที่ต้นแขน เธอถึงกับสะดุ้งเฮือกหันไปมองหน้าเขาด้วยแววตาหวานเยิ้มปนอ้อนวอน
"ไปอาบน้ำก่อน" ภูริชพูดขึ้นพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวเมื่อได้เห็นสีหน้าเชื้อชวนของเธอ แต่เขาจะไม่ถือโอกาสนี้ล่วงเกินเธอเด็ดขาดถึงแม้ว่าอยากจะทำมากแค่ไหนก็ตาม มือหนาออกแรงดึงร่างบางให้ลงมาจากรถ แต่เมื่อเท้าเล็กได้ลงเหยียบพื้นแข็ง ร่างกายเธอก็โอนเอนทันทีเขาจึงรีบโอบกอดที่ไหล่เพื่อเป็นการประคองเธอไว้
"คุณภูริช.." หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาเสียงหวาน วงแขนเรียวสอดเข้ากอดที่เอวหนาทันที รู้สึกอยากสัมผัสคนตัวโตเต็มที กลิ่นหอมที่ออกมาจากแผงอกกว้างทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้ม ก้มหน้าซุกไซ้สูดดมอย่างกระหายอยาก
"บ้าเอ้ย จะทนได้แค่ไหนวะกู" เสียงทุ้มพูดขึ้นกับตัวเอง ลำพังแค่เธออยู่เฉย ๆ ลำท่อนของเขาก็ตื่นแล้วตื่นอีก แล้วมาเจอหญิงสาวทำท่าออดอ้อนยั่วยวนขนาดนี้มีเหรอที่มันจะนอนนิ่ง มันตื่นตัวแข็งตั้งแต่เห็นเธอบิดเร่า ๆ อยู่บนรถนั่นแล้ว
ร่างใหญ่ย่อตัวลงช้อนร่างคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนแล้วพาเดินลิ่วเข้าสู่ตัวบ้านและพาขึ้นไปด้านบนตรงดิ่งเข้าไปห้องนอนของเธอทันที ถ้าให้หญิงสาวเดินไปเองมีหวังได้กอดกันกลิ้งลงมาจากบันไดแน่ ๆ เพราะมือน้อยของเธอนั้นไม่อยู่สุขเลย พยายามจะดึงทึ้งเสื้อของเขาตลอดเวลา
ซ่า..
ภูริชวางร่างบางไว้ใต้ฝักบัวและเปิดน้ำให้ราดตัวของเธอหวังช่วยดับความร้อนในกายร่างบาง แต่หากว่ามันกลับไม่ได้ผลและเหมือนกับว่าอาการของเธอจะหนักขึ้นกว่าเดิม เป็นเพราะฤทธิ์ยาร้ายและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในเลือดทำให้เธอกล้าที่จะถอดเสื้อของตัวเองต่อหน้าเขาเพื่อดับความร้อนรุ่มในร่างกายและภายในอกของตัวเอง
"พลอยปวด..ปวดตรงนี้ ช่วยพลอยที.." พูดไม่พูดเปล่ายังเอื้อมมือไปจับมือหนาให้ไปวางตรงตำแหน่งเนินเนื้ออูม ผวาเข้ากอดร่างใหญ่เบียดอกอวบที่ยังมีบราเซียร์ห่อหุ้มเข้าใส่ลำตัวเขาไปมาจนก้อนเนื้อกลิ้งไปตามแรงเคลื่อนไหวของเจ้าของ ชายหนุ่มจึงเนื้อตัวเปียกปอนไปกับเธอด้วย
"แล้วอย่ามาว่าผมทีหลังนะ แม่งยั่วขนาดนี้ใครมันจะทนไหววะ" ภูริชเอ่ยเสียงทุ้มพร่า รีบจับขอบกางเกงขาสั้นของหญิงสาวและรูดลงไปพร้อมกับกางเกงในตัวน้อยของเธอและใช้เท้าดันต่อลงไปจนถึงข้อเท้าเล็ก เกี่ยวมันออกไปจนพ้นปลายเท้าโดยที่หญิงสาวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ร่างใหญ่เข้าประชิดกับร่างเนียนนุ่มโดยที่เธอก็เคลื่อนวงแขนขึ้นโอบต้นคอเขาอย่างเต็มใจ ปากหนาฉกวูบเข้าที่ปากเอิ่บอิ่มรุนแรงอย่างคนที่หมดสิ้นความอดทน ลิ้นหนาแทรกรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากน้อย ตวัดปลายลิ้นกวาดเอาความหอมหวานดูดกลืนอย่างหิวกระหาย ขณะที่มือลูบไล้อยู่ที่แผ่นหลังบางไล่ลงไปที่เอวบางและหยุดอยู่ที่เนื้อเด้งของแก้มก้น บีบขยำอย่างเมามันในอารมณ์ จากนั้นก็เลื่อนมาด้านหน้า วางฝ่ามือไปที่เนินอูมใหญ่กลางตัว ใช้ปลายนิ้วลากไปยังรอยแยกที่ตอนนี้เยิ้มไปด้วยน้ำกระสันที่ร่างกายของเธอปล่อยออกมาเพราะฤทธิ์ยานรกนั่น
"อ๊ะ! เจ็บ.." พลอยลลินณ์สะดุ้งเฮือกในตอนที่ชายหนุ่มส่งนิ้วยาวเข้าไปทักทายโพรงเนื้อร้อนระอุ แต่เธอก็ไม่ขยับสะโพกหนีการรุกรานแต่กลับเบียดเข้าสู้กับนิ้วยามไม่ท้อถอย
"ครั้งแรกเหรอ?" ภูริชเอ่ยเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับใจที่เต้นโครมครามไม่เป็นล่ำเป็นสัน รู้สึกตื่นเต้นราวกับเจอของที่ถูกใจ เขาหวังไว้ลึก ๆ อยู่แล้วว่าเธอคงไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายใด แต่เมื่อได้รู้ความจริงก็อดที่จะดีใจไม่ได้ พอดึงนิ้วออกมาก็พบว่าที่ปลายนิ้วมีเลือดเคลือบอยู่เล็กน้อย
"คุณภูริช พลอยปวด.." พลอยลลินณ์ไม่ตอบแต่เอ่ยบอกเขาเสียงกระเส่า รั้งต้นคอหนาแล้วเป็นฝ่ายจู่โจมชายหนุ่มก่อน เบียดเนินเนื้อเข้าหาแก่นกายที่แข็งเป็นลำอยู่ภายในกางเกง พ่นลมหายใจเข้าออกรุนแรงราวกับว่าเธอใกล้จะขาดใจเต็มที
"อืม.." เสียงทุ้มครางขึ้นอย่างพอใจที่โดนหญิงสาวปรนเปรอด้วยจูบที่เงอะ ๆ งะ ๆ แต่ทว่าเร่าร้อน เขาตอบแทนโดยการส่งสองนิ้วเข้าไปในร่องเนื้อแคบอีกครั้ง แรงบีบรัดของปุ่มเนื้อทำให้เขาต้องเร่งขยับข้อมือ กดปลายนิ้วบดขยี้ปุ่มกระสันนูนด้านในเพื่อรีบส่งให้คนตัวเล็กไปถึงฝั่งฝันเพื่อที่เธอจะได้พ้นจากความทรมานในครั้งนี้
แจะแจะแจะ
"อือ อื้อ!" พลอยลลินณ์โบกตาโพลง เปล่งเสียงร้องออกมาโดยที่ปากน้อยยังติดอยู่กับริมฝีปากหนา ร่างกายปล่อยน้ำรักไหลทะลักออกมาเมื่อได้สุขสมจนเคลือบสองนิ้วยาวไปทั่วทั้งสองนิ้ว
"หายปวดหรือยัง?" ภูริชเคลื่อนริมฝีปากออกเพียงนิดแล้วเอ่ยถามคนในอ้อมแขนที่ตอนนี้เลื่อนมือน้อยมาจับที่ท่อนแขนแข็งแรงเพื่อเป็นการประคองตัวไม่ให้ตัวเองโซเซ
"ยะ..ยัง ทำให้พลอยอีกได้ไหม?" คนตัวเล็กช้อนสายตาหวานเยิ้มร้องขอเขา เลื่อนมือสอดเข้าไปในชายเสื้อเชิ้ตลูบไล้แผ่นหลังหนาอย่างลืมตัว แต่นั่นทำให้ความอดทนที่จะไม่ล่วงเกินหญิงสาวขาดผึง เพราะเห็นว่าเธอนั้นยังบริสุทธิ์ เลยคิดว่าเมื่อใช้นิ้วช่วยเธอให้ถึงจุดหมายแล้วเขาก็จะช่วยตัวเองให้ถึงฝั่งฝันเช่นกัน แต่เมื่อหญิงสาวเปิดทางให้ขนาดนี้เขาก็จะไม่อดทนอีกต่อไป
"ผมไม่ทนแล้วนะ คุณมันขี้ยั่ว" ภูริชพูดแหบพร่า สายตาคมที่จับจ้องไปยังใบหน้าสวยเหยเกนั้นเต็มไปด้วยไฟราคะอยู่เต็มเปี่ยม จับชายเสื้อเชิ้ตของตัวเองดึงขึ้นถอดออกทางศีรษะโดยไม่เสียเวลาที่จะปลดกระดุม เร่งปลดตะขอกางเกงแล้วดันลงไปพร้อมกับกางเกงในและสลัดให้ออกไปจนพ้นตัวโดยไม่สนใจว่ามันจะปลิวไปทางไหน จากนั้นจึงหันมาจัดการบราเซียร์ลายลูกไม้ ที่เป็นผ้าชิ้นเดียวที่ยังเหลือบนตัวเธอ จนกระทั่งตอนนี้ร่างกายของเขาและเธอไร้สิ่งขวางกั้นใดใดแล้ว ชายหนุ่มย่อตัวช้อนเอาร่างนุ่มไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินออกไปเป้าหมายคือเตียงนอนข้างนอกนั่น
..............................................
ไหน ช่วงที่สปอยล์ไว้อยู่ไหน ค้างหนักกว่าเดิมอิ๊ก5555555
ยกตรงที่สปอยล์ไปตอนหน้านะคะพอดีมันเอาไม่ลงที่ตอนนี้555555