เลี้ยงกาแฟ
☆☆☆>>>>>♡
ยิมรู้สึกตัวขึ้นมาเพราะคนที่นอนกอดเขาด้านหลังขยับตัวไปมา มือก็เลื้อยลูบไล้ร่างกายเขาไปทั่ว เดม่อนซุกไซร้ซอกคอขาวและมือก็สะกิดเม็ดทับทิมผ่านเนื้อผ้าบางเบาของเสื้อนอน ยิมรู้สึกถึงอะไรที่มันตื่นตัวอยู่ด้านหลังของเขา
“อื้อ เดม่อน อ๊ะ” เสียงหวานที่ฟังลื่นหูเมื่อถูกรบกวนจากคนรักด้านหลัง
“ยิม โอ้ว ยิมครับไม่ไหวแล้วขอซักรอบก่อนไปทำงานนะครับ” เดม่อนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนหวานหู เพื่อที่จะได้มาในสิ่งที่ปรารถนา ทำไมเขาต้องการยิมไม่สิ้นสุดซักที เดม่อนไม่รอคำตอบจากยิมอยู่แล้ว เพราะเขารู้ว่ายิมให้เขาได้มากเท่าที่เขาต้องการเสมอ มือหนาเขาลูบวนตรงสะโพกงอน ดึงกางเกงนอนของยิมออกให้พ้นทางและใช้นิ้วเพื่อเปิดช่องทางคับแคบนั้นอีกครั้ง ไม่นานก็พร้อมใช้งานเพราะเพิ่งผ่านศึกรักมาเมื่อคืนนี้
เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสอีกวันของยิม หลังจากเสร็จกิจในตอนเช้ายิมก็ทำอาหารไว้คอยเดม่อน เหมือนทุกครั้งที่เดม่อนมาค้างที่นี่เหมือนแต่ก่อน เดม่อนเดินมานั่งลงจะทานอาหารเช้ากับยิม แต่ก็ต้องวิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำแทบไม่ทัน ยิมทำข้าวต้มหมูสับทรงเครื่องที่เดม่อนเคยชมว่าเขาทำอร่อย
“เดม่อน ไหวไหมนี่ยาดม” ยิมที่เดินตามเข้ามาดูคนรักอย่างเป็นห่วง
“มีของแบบนี้ในห้องด้วยเหรอ”
“ช่วงนี้เวียนหัวบ่อย ๆ น่าจะความดันต่ำ ยังไม่ได้ไปหาหมอเลย มีไว้ก็ช่วยได้นิดหน่อยนะ” ยิมพูดซะยืดยาว คนที่เพิ่งอ๊วกเสร็จตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้มแล้ว
“มันเหม็นข้าวต้มน่ะ เดี๋ยวฉันออกไปหาหมอก่อนเข้าที่ทำงานแล้วกัน” เขาพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งความงุนงงไว้ให้ยิมเหม็นงั้นเหรอ ก็ไม่น่ะอร่อยดี
>>>>> บริษัทเมธาสวัสดิ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
“สวัสดีครับ ผมมาพบ... อ้าวคุณนั่นเอง!!!” ไม้กล้าที่เดินเข้ามาเพื่อที่จะมารายงานตัวกับท่านประธานบริษัท เขาทักคนตรงหน้าด้วยความดีใจ
“คุณเป็นเลขาพี่เลม่อนเหรอครับ” ไม้กล้าถามคนตัวเล็ก นั่งหน้าห้องขนาดนี้คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
“ใช่ครับ อย่าบอกนะว่าคุณก็คือ...” ยิมก็สงสัยถามออกมาเหมือนกัน
“ใช่แล้วคร้าบบบบ” ไม้กล้าพูดติดตลก เรียกรอยยิ้มจากยิมได้ในทันที เขาดีใจที่สุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ คนที่เขาตามหาอยู่ใกล้แค่นี้เองมันต้องทำให้ชีวิตนักศึกษาช่วงฝึกงานของเขาน่าตื่นเต้นไม่น้อย เพราะพี่เลม่อนบอกว่าจะให้เขาเป็นผู้ช่วยเลขาท่านประธาน ไม่รู้จะดีใจยังไงแล้วเนี๊ยะ
“ผมไม้กล้า ฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจด้วยนะครับคุณเลขา” ไม้กล้าแนะนำตัวพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มให้กับยิม แต่เจ้าตัวไม่ทันได้สังเกตอาการของไม้กล้า
“ผมชื่อยิมนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน เรียกพี่ยิมก็ได้นะครับ” ยิมส่งยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร
“ไม่เอา มันมีช่องว่างขอเรียกยิมเฉย ๆ ได้ไหมครับ” ถ้าเรียกพี่ช่องว่างระหว่างวัยก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก เขากับคนตัวเล็กตรงหน้าคงอายุห่างกันไม่มาก เรียกแค่ชื่อคงไม่น่าเกลียดอะไรเท่าไหร่มั้ง
“ได้อยู่แล้วครับ”
“คงได้กินกาแฟฟรีแล้วนะครับ”
“ยินดีจะเลี้ยงอยู่แล้วครับ” ยิมยินดีไถ่โทษเสมอถ้าเขาเป็นคนผิดจริง
“งั้นผมขอเข้าไปหาพี่เลม่อนก่อนนะครับ เดี๋ยวออกมาช่วยทำงาน” ไม้กล้าที่เห็นว่ายืนนานเกินไปแล้วเลยขอตัวไปหาพี่ชายก่อนซักหน่อย
“พี่เลม่อน ผมเจอแล้วคนที่ผมบอกว่าอยากได้น่ะ” ไม้กล้าที่เข้ามาในห้องก็รีบรายงานพี่ชายทันที เขาไม่ต้องไปตามหาอีกแล้ว
“มาถึงก็เพ้อใหญ่เลยนะเรา” เลม่อนว่าให้น้องชายที่เริ่มจะพูดไม่รู้เรื่อง
“จริง ๆ นะพี่เลเขาเป็นเลขาหน้าห้องของพี่นี่เองครับ” ไม้กล้าบอกคนเป็นพี่ด้วยสายตาเป็นประกาย
“จริงดิ ทำไมโลกมันกลมแบบนี้ คงจะมีความสุขและตั้งใจทำงานมากเลยสิ” เลม่อนแซวคนที่กำลังยิ้มกว้างตรงหน้าอย่างจงใจ
“ไม่อยากเรียนจบเลยหละครับ ให้ฝึกงานที่นี่ตลอดยังได้เลย” ไม้กล้าพูดเหมือนอยากให้มันเป็นเรื่องจริงที่เขาอยากอยู่ที่นี่จริง ๆ แล้วซิ
“เบื่อคนขี้โม้ พี่แจ้งยิมไว้แล้วนะว่าเราจะมาวันนี้ออกไปทำงานได้ พี่เตรียมโต๊ะไว้ให้เราแล้ว” เลม่อนรีบตัดบทเพราะถ้ามัวแต่เพ้อเจ้ออยู่อย่างนี้ วันนี้คงไม่ได้ทำอะไรแน่ ๆ
“ยิมมีแฟนรึยังพี่เล คนน่ารักแบบนั้นจะเหลือถึงผมไหมนะ” ไม้กล้าถามคนที่เป็นเจ้านายของยิม เพราะเจ้านายน่าจะรู้ข้อมูลส่วนตัวตรงนี้บ้างไม่มากก็น้อย
“ไม่รู้นะ แต่ก็ไม่เห็นมีใครพิเศษ ก็มีคนมาจีบบ้างหนุ่ม ๆ ที่นี่แหละแวะเวียนกันมาขายขนมจีบกันเรื่อย”
“งั้นแสดงว่ามีแค่มาจีบ แต่ยังไม่ได้ใจ” ไม้กล้าเริ่มมีความหวังขึ้นมาทันทีที่ เลม่อนพูดจบ
“ออกไปทำงานได้แล้ว สรุปรายงานการประชุมเมื่อวานให้พี่ด้วยถามยิมแล้วกันนะ อย่าออกตัวแรงนักนะเรา”
“ครับจะตั้งใจถามเลยแหละ” ไม้กล้าพูดด้วยสายตาที่วาบวับไปด้วยความสุขในใจ
“อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกคนนะไม้” เลม่อนเตือนน้องชายเพราะรู้ว่าคนนี้เจ้าชู้ไม่ต่างกันกับน้องชายของเขาเอง
“ทราบครับ” ไม้กล้ารับปากพี่ชายแล้วเดินออกไปทำงานทันที
“ยิมครับ พี่เลม่อนให้สรุปรายงานการประชุมเมื่อวาน ขอข้อมูลด้วยครับ” มาถึงไม้กล้าก็เริ่มทำงานทันที่ ทำเสร็จก็ให้คนเป็นพี่เลี้ยงคอยตรวจดูและมีงานหลายอย่างที่เขาทำ ไม้กล้าสามารถทำได้ดีจริง ๆ แม้จะเป็นการฝึกงานแค่วันแรก
“ยิมเที่ยงแล้วไปกินข้าวดีกว่า ไปกินที่คาเฟ่ก็ได้อยากกินกาแฟฟรีแล้วครับ” ถึงเวลาพักเที่ยงพอดี ที่คาเฟ่ข้างบริษัทไม่ได้มีขายแค่กาแฟและเครื่องดื่ม ยังมีอาหารจานเดียวแบบง่าย ๆ ไว้บริการลูกค้าด้วย
“ห่วงจริงนะกาแฟเนี๊ยะ” ยิมแซวพนักงานใหม่ป้ายแดงด้วยรอยยิ้ม
“กาแฟมันก็ธรรมดาแหละแต่พิเศษตรงที่ว่าแก้วนั้นของใครมากกว่า ป๊ะไปกันไม้หิวแล้ว” ไม้กล้าที่รู้ว่าตัวเองพูดมากไป อาจจะรุกหนักเกินไปรึเปล่าเพราะดูหน้ายิมที่หุบยิ้มลงทันทีเลยรีบชวนกันลงไปข้างล่าง
>>>>> ร้าน Chill Chill Cafe
“ขอลาเต้ปั่นเพิ่มนมข้นหวาน ๆ นะครับ สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล ไม้เอาอะไร”
“อยากลองกินกาแฟปั่นบ้างอะ เอาเหมือนยิมครับแต่กาแฟไม่เพิ่มหวาน”
“ผู้ชายลุคนี้จะไม่กินอะไรแบบนี้นะ” ปกติผู้ชายแท้ ๆ เขาจะไม่ค่อยกินอะไรจุกจิกแบบนี้กันหรอก
“ไม้ก็ไม่เคยกินหรอกนะนี่ครั้งแรก อยากลองอะไรใหม่ ๆ ดู” ในคำพูดของไม้แอบมีความหมายแฝงลงไปด้วย แต่คนอย่างยิมไม่มีทางรู้แน่ ๆ ไม่นานลาเต้ปั่นสองแก้วถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะของลูกค้า
“อร่อยดีนะ ชื่นใจด้วยต้องกินบ่อย ๆ แล้ว ปกติกินแต่กาแฟร้อน” ไม้กล้าที่เพิ่งชิมกาแฟปั่นแก้วแรกในชีวิต
“แหวะ เหม็นอะไม้” เมื่อจานสปาเก็ตตี้มาเสิร์ฟซึ่งเป็นอาหารที่ยิมชอบสั่งทานประจำ ถ้ามาร้านนี้ทำไมวันนี้กลิ่นมันแปลก ๆ ไป
“เหม็นเหรอ?? ไม่นะอร่อยดี” ไม้กล้าที่ลงมือทานสปาเก็ตตี้ในจาน
“หรือว่ายิมจะไม่สบาย”
“หูยยิม ถึงขั้นพกยาดมเลยเหรอเหมือนคนแก่เลยอ่ะ ฮึ ฮึ” ไม้กล้าขำกับท่าทางของยิม ตอนหยิบยาดมออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“ยิมพกมาซักพักแล้วนะ มันช่วยได้ยิมชอบเวียนหัวบ่อย ๆ วันหยุดเดี๋ยวจะไปหาหมอดู เป็นความดันต่ำรึเปล่า เพื่อนยิมเคยเป็นอาการคล้าย ๆ กันเลย”
“ยิมไม่กินหน่อยเหรอ เดี๋ยวปวดท้องนะ” ไม้กล้ายังคงเป็นห่วงคนตัวเล็กอยู่ เพราะไม่แตะอาหารบนโต๊ะเลยซักนิด
“ไม่เป็นอะไรหรอก ยิมมีขนมแอบไว้ที่โต๊ะทำงานเยอะแยะเลย คิคิ” ยิมนึกขำตัวเองที่ทำงานไปแอบกินขนมไปด้วย เหมือนเด็กแอบกินขนมตอนอาจารย์สอน
>>>>> บริษัทเมธาสวัสดิ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
“ยิมต้องไปเอาเอกสารที่ประชาสัมพันธ์” ยิมที่นึกได้ว่าลืมอะไรก็รีบหมุนตัวมาพูดกับคนที่เดินมาด้วยกัน อาจจะหมุนเร็วเกินไปเลยทำให้เสียหลัก
“เอ้ย !! ระวังหน่อย” ไม้กล้าโอบเอวคนตัวเล็กไว้เพราะยิมเซล้มลงมาในอ้อมกอดของไม้กล้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้แก้วกาแฟที่อยู่ในมือของยิมเลอะเสื้อทำงานของตัวเอง แต่ที่หนักกว่าคือเสื้อนักศึกษาสีขาวของไม้กล้าที่เห็นคราบกาแฟชัดเจน
“ไม้ ยิมขอโทษไปล้างก่อนนะ เดี๋ยวให้คนเอาไปให้ก็ได้เอกสารน่ะ” ยิมที่รีบผละให้หลุดออกจากอ้อมกอดของไม้กล้าทันทีที่ตั้งหลักได้
“ทำไมล้มง่ายจัง ถ้าไม่มีไม้หัวฟาดพื้นไปแล้วรู้ไหม” ไม้กล้าดุยิมเหมือนอีกคนเป็นเด็กที่ยังไม่โต
“ยิมขอโทษนะไม้ คราวหลังจะระวังให้มากกว่านี้” ยิมทำหน้ายอมรับผิดและพูดเสียงอ่อย เพราะเขาไม่ระวังตัวจริง ๆ
“มายิมช่วย ยิมเป็นคนทำนะ” ยิมพยายามเอาสบู่เหลวในห้องน้ำล้างคราบกาแฟออกให้ไม้กล้าอย่างทุลักทุเล
“ไม้ทำเองก็ได้”
“ไม้อย่าดื้อซิ เลอะหมดแล้ว คิคิ” ยิมหัวเราะที่ไม้พยายามจะเอาเสื้อที่เลอะไปล้างจนทำให้น้ำเปียกกางเกง
“ยิมนั่นแหละดื้อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เลอะหมดแล้วเห็นไหม ใครกันแน่ที่ดื้อน่ะ” ยิมที่ฟองสบู่เหลวเลอะเข้าที่แก้ม เพราะน้ำกระเด็นมาโดนหน้ายิมเลยเอามือเช็ดน้ำออกแต่มือนั้นยังไม่ได้ล้างฟองสบู่ออกเลย ทำให้เลอะที่หน้าของยิมไปด้วย ไม้กล้าหัวเราะชอบใจใหญ่ ยิมก็พยายามเช็ดออกเพราะอีกคนเอาแต่หัวเราะตัวเอง เหมือนยิ่งเช็ดก็ยิ่งเลอะคนที่ยืนมองอยู่ยังหัวเราะไม่หยุด ยิมเลยฟาดเข้าให้สักทีสองที ข้อหาหมั่นไส้
“ตีไม้ทำไม หึ หึ ก็ยิมตลกอ่ะ มานี่ไม้เช็ดให้ยิ่งเช็ดยิ่งเลอะ” ไม้จับมือของยิมไว้และใช้มือเกลี่ยไปตามกรอบหน้าของยิม เนียนและนุ่มมือมากคนอะไรดูดีไปหมด
“พวกนายสองคนทำอะไรกัน” เสียงที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ที่เขาสองคนไม่ได้สังเกตว่ามีห้องหนึ่งที่ประตูปิดอยู่
“เอ้า พี่เดม่อนเองเหรอครับ” ไม้กล้าไม่มีท่าทางตื่นกลัวเสียงดุดันของเดม่อน ซึ่งต่างกับยิมที่ยืนนิ่งจนเกือบลืมหายใจ
“เดม่อน” ยิมพูดชื่ออีกคนเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินเสียง
“ทำอะไรก็อายกันบ้างนี่ที่ทำงาน ให้เลิกงานไปต่อที่อื่นดีกว่าไหมน้องชาย”เดม่อนพูดเหยียดสายตาคมจับจ้องไปที่ร่างบางที่ยืนตัวสั่นอยู่ไม่ไหวติง และเอามือไปตบไหล่ไม้กล้าแบบรู้กันในความหมายที่เขาพูดออกมา
“มันไม่ใช่อย่างที่เห็นนะเดม่อน” เสียงคนตัวเล็กพยายามที่จะอธิบายเพื่อหลุดออกจากข้อกล่าวหาของคนรัก
“ไม่ต้องร้อนตัว จะทำอะไรก็ตามสบายแต่ต้องไม่ใช่ที่นี่” เดม่อนมีหรือจะฟังเขาหงุดหงิดชะมัด ที่ออกมาเจอสองคนนี้เหมือนจะสนิทกันมากกว่าเพื่อนร่วมงาน
“พี่เดม่อนไม่ใช่อย่างนั้น เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วครับเราแค่มาล้างคราบกาแฟเอง” ไม้กล้าก็พยายามอธิบายอีกครั้งเหมือนคนพูดจะเข้าใจอะไรผิดไป
“ถึงจะมากกว่าคราบกาแฟก็ไม่เกี่ยวกับพี่อยู่แล้วตามสบาย”เดม่อนพูดแค่นั้นก็เดินออกไปจากห้องน้ำทันที
ปัง !!
แล้วทุกอย่างก็เงียบลง ยิมที่ดูมีสีหน้ากังวลไปมาก เดินออกไปจากห้องน้ำทโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับไม้กล้าซักคำ ไม้กล้าเลยรีบล้างคราบกาแฟและตามยิมออกมา
'ทำไมพี่เดม่อนถึงดูโกรธเราสองคนขนาดนั้นวะ'
>>>>> 22.00 น.
“มึงเป็นไรงานยุ่งหรือเด็กมันดื้อวะ” แซนที่ถูกชวนมานั่งดื่มในร้านประจำของพวกเขา ถามเจ้าภาพวันนี้ที่หน้าไม่เหมือนคนอยากมาเที่ยว
“เออนั่นซิ มึงมีอะไรชวนพวกกูมาแต่หัววันเลย” เอ็มเพื่อนอีกคนที่เดินมาพร้อมกับแซนก็สำทับอีกแรง
“ทั้งสองอย่าง” เดม่อนบอกไปตามความจริงเพราะคนของเขาเริ่มจะไปทำตัวสนิทกับคนอื่นมากเกินความจำเป็น
“ไหนว่าอยู่ไหนโอวาทมึงไง ทำไมทำหน้างี้วะ” แซนที่รู้ดีว่าคนที่ทำให้เดม่อนเสียอาการได้ขนาดนี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
“อะไรทำให้มึงคิดแบบนั้นเดม่อน”
“มันมีแมลงมาตอม คนใกล้ตัวกูด้วยมึง” ยิ่งคิดถึงคนที่ยิมสนิทด้วยยิ่งสร้างความไม่พอใจกันไปใหญ่
“เขารักมึงจะตายเขาไม่ไปไหนหรอกเชื่อกูดิ” แซนยืนยันในความภักดีของ ยิมที่มีต่อเดม่อน ที่เขาเองก็เคยสัมผัสได้ว่ายิมรักและเทิดทูนเพื่อนเขามากแค่ไหน
“ไม่รู้วะกูหงุดหงิด เบื่อ ๆ อยากดื่ม มาไม่เมาไม่กลับเว้ย!!” น้ำเสียงดูจริงจังของเดม่อนทำให้แซนแอบส่ายหน้าเบา ๆ
“ไม่แน่นะ มึงคิดว่าเขาเป็นของตาย อาจจะมีคนที่เห็นค่าเขามากกว่ามึงก็ได้อันนี้กูไม่เข้าข้างมึง เพราะมึงก็เลวกับเขาด้วยไง” เอ็มที่พูดออกมาจากความรู้สึกที่เขารู้เห็นมาตลอดเรื่องของคนสองคนนี้
“มันกำลังเครียดอยู่อย่าซ้ำเติมมันดื่ม ๆ ไม่เมาไม่กลับ”แซนที่เห็นหน้าเดม่อนไม่สู้ดีก็เลยรีบเปลี่ยนประเด็น ดึงเพื่อนออกจากดราม่าก่อนจะสติแตกไปกว่านี้
“อุ๊ก อั๊วะ” เดม่อนยังไม่ทันจะเอาเหล้าเข้าปากก็ทำท่าเหมือนจะอ๊วกซะงั้น เขารีบเดินเข้าห้องน้ำอย่างไว
“เป็นไรวะ เครียดขนาดนั้นเลยเหรอ” แซนที่ถามเมื่อเดม่อนกลับมาที่โต๊ะ
“กูเป็นมาหลายวันแล้ว ยังไม่ว่างไปหาหมอเลย”
“ไม่ว่างไปหาหมอแต่มีเวลาชวนพวกกูมาแดกเหล้าเนี๊ยะนะ ตลกว่ะ” เอ็มที่ไม่เคยเข้าข้างและเห็นใจเพื่อนก็พูดออกมาอย่างเหลือทน ไม่สบายไม่ไปหาหมอแต่เอาเวลาที่จะไปหาหมอมาชวนเพื่อนดื่มเหล้า ประเสริฐจริงเพื่อนเขา
“ตรอมใจรึไงมึง” แซนที่เห็นดีด้วยก็อดแซวเพื่อนไม่ได้เหมือนกัน
“ยังไงสุขภาพก็สำคัญนะมึง ถ้าเป็นอะไรมากจะได้แก้ไขทันเวลาไง” เอ็มก็เป็นห่วงเพื่อนเหมือนเดิมแหละถึงจะปากร้ายไปบ้าง
“เออ งั่นกูกลับนะ เท่าไหร่ก็บอกกูวันนี้กูเลี้ยงเอง” เดม่อนทีท่าทางพะอืด พะอมก็ขอตัวกลับก่อนเพราะคงจะดื่มต่อกับเพื่อนไม่ไหวแล้ว
“เออ ดีขึ้นแล้วค่อยนัดกันใหม่ก็ได้”
“รักเขาชอบเขา แต่ไม่กล้าบอกกลัวเสียฟอร์มรึไงวะ” ไล่หลังเดม่อนแซนก็พูดถึงอาการคนที่เพิ่งเดินออกไป
“นั่นดิถ้ายิมทิ้งไปจริง ๆ กูคนหนึ่งแหละจะสมน้ำหน้าให้”
♤♤♤♤♤♤♤♤♤♤