มีเงินก็ต้องรีบใช้2

2004 คำ
คนงานที่เห็นนางแต่งตัวมอซอก็ไม่ต้อนรับ แต่พอหันไปเห็นเมิ่งหย่งชวนก็ส่งสายตาทอดสะพานทันที แหม่เห็นคนหล่อหน่อยไม่ได้ระริกระรี้เชียวแม่คุณหึ "คุณชายเจ้าคะ ท่านต้องการสิ่งใดหรือเจ้าคะ บอกเสี่ยวหงมาเถอะเจ้าค่ะข้าสมารถหาให้ท่านได้" คนงานหญิงเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานจนเสิ่นเยี่ยนฟางหมันใส้ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนเมิ่งหย่งชวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานซึ้งแม้แต่ตัวเองยังเลี่ยน "ท่านพี่ ชุดเก่าหมดแล้วเลือกสักสามสี่ชุดนะเจ้าคะ พี่สาวท่านนี้ข้าอยากได้ชุดบุรุษสีฟ้า สีเทา สีน้ำเงิน สีดำอย่างละชุดและสีขาวสองชุด ขนาดสามีของข้ากับน้องชายของเขา เอาผ้าเนื้อดีนะ แล้วก็ข้าต้องการชุดสตรีห้าชุด สีเขียว ชมพู ฟ้า ขาว ม่วง อย่างละชุดเจ้าค่ะ" คนงานหญิงที่ต้อนรับเมิ่งหย่งชวนถึงกับอ้าปากค้าง ภถรรยาหรือหน้าตาก็ดี แต่เมียมอมแมมเหลือเกิน ยากจนเหมือนขอทานเช่นนี้มีเงินหรือ ดูจากการแต่งตัวไม่น่าจะจ่ายไหวจึงพูดดจาดุถูก "นี่แม่นาง ชุดบุรุษนั้นชุดละสามร้อยห้าสิบอีแปะนะเพราะเจ้าสั่งผ้าเนื้อดี ชุดขนาดของน้องสามีเจ้าก็ชุดละสองร้อยห้าสิบอีแะ ชุดสตรีสามร้อยห้าสิบอีแปะ เจ้ามีเงินแน่หรือ" "เสิ่นเยี่ยนฟางเกลียดจริงๆอีพวกดูคนที่เปลือกเนี่ย นี่ขนาดชุดที่บุตรสาวของผู้นำหมู่บ้านให้มานะในหมู่บ้านยังนับว่าดีที่สุดแล้วเลย นี่หากใส่ชุดที่เด็กคนนี้ใส่ติดตัวมาวันแต่งไม่ถูกไล่ออกจากร้านเลยหรือนั่น ก่อนที่เสิ่นเยี่ยนฟางจะเอ่ยเสียงเย็น "ท่านไม่เต็มใจขายเช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว ท่านพี่อาเจินพวกเราไปร้านข้างๆกันเถอะในเมื่อเขาไม่เต็มใจขายเราก็ไปร้านอื่นดีกว่า" สองคนพี่น้องไปตามแรงลากของเสิ่นเยี่ยนฟาง คนงานหญิงได้แต่ถ่มน้ำลายตามหลังพวกนาง จนคนงานหญิงในร้านอีกคนที่ยืนดูแต่แรกรีบไปดักหน้าพวกนางไว้ ก่อนจะขอโทษ "ฮูหยินเจ้าคะ ท่านอย่าโกรธเลยเจ้าค่ะ ข้าชื่อลี่จูฮูหยินท่านต้องการเนื้อผ้าแบบใดข้าหาให้ได้เจ้าค่ะ เชิญกลับมาก่อนนะเจ้าคะ" ลี่จูล่ะล่ำล่ะลัก เสี่ยวหงชอบดูถูกลูกค้าที่แต่งตัวไม่ดี บางครั้งคนเหล่านั้นกลับซื้อสินค้าบ่อยกว่าเศรษฐีเสียอีก เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นว่าเด็กคนนี้อัธยาศัยดีให้การต้อนรับ ผิดกับอีกคนกับอีกคนจึงมองหน้ากับสองพี่น้อง เมิ่งหย่งชวนพยักหน้าให้จึงพากันเดินกลับเข้ามาที่เดิม เถ้าแก่ร้านลงมาจากชั้นสองพอดีกับที่คนงานที่ชื่อเสี่ยวหงกำลังด่าคนงานที่ชื่อลี่จูอยู่พอดี "ธุระอะไรของเจ้า แต่งตัวเยี่ยงกับขอทานจะมีเงินมาซื้อหรือ ลี่จูหากเถ้าแก่เนี้ยรู้ล่ะก็นางไล่เจ้าออกแน่นอน เอาขอทานมาเข้าร้านเช่นนี้" "เขามาซื้อก็แปลว่ามีเงินจ่าย เสี่ยวหงเจ้าเลิกดูถูกคนอื่นได้แล้ว เจ้าไล่ลูกค้าไปกี่รายแล้ว รู้หรือยังเหตุใดเถ้าแก่จึงบ่นว่าขายของไม่ดี ก็เจ้าไล่ลูกค้าทุกวันแบบนี้ไง" เสิ่นเยี่ยนฟางรำคาญจึงเอ่ยขึ้นตัดบทสนทนาพวกนาง "พี่สาวลี่จู ท่านช่วยนำชุดที่ข้าบอกเมื่อสักครู่มาให้หน่อย ข้าต้องการผ้าเนื้อดี ไม่หยาบ ผ้านวมหกผืน ใยฝ้ายสามสิบชั่ง ผ้าสะขาวสองพับ สีชมพูสองพับ สีฟ้าสองพับ สีม่วงสองพับ ผ้าไหมสีม่วงสองพับสีเขียวสองพับ เส้นไหมปักมีกี่สีเอามาให้อย่างละสี" เมิ่งหย่งชวนตกใจ นางมีเงินแค่สิบตำลึงจะเอาเงินจากไหนมาซื้อของเหล่านี้กันมากมาย จึงเดินไปกระซิบข้างหูเบาๆ "เจ้าไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ ซื้อของขนาดนี้หากไม่มีจ่ายเขาจะจับเจ้าส่งทางการได้นะเสิ่นเยี่ยนฟาง" "อย่ากังวลเลยข้ามีเงินน่า แต่อีกสักพักท่านอาจต้องช่วยข้าสักหหน่อย" ไม่นานของที่เสิ่นเยี่ยนฟางสั่งก็ได้จนครบ เถ้าแก่ร้านยังไม่เดินมารอดูว่านางจะจ่ายเงินได้ไหม ดูเหมือนนางไม่ใช่คนมาก่อกวนแต่อย่างใด โดยเฉพาะสามีของนานับว่าสุขุมอย่างมาก ลี่จูเอ่ยราคาส่วนเสี่ยวหงยืนข้างๆรอดุลี่จูถูกไล่ออกจากร้านหากพวกเขาไม่มีเงินจ่าย "ผ้าเนื้อดีของนายท่านห้าชุดๆละสามร้อยห้าสิบอีแปะ ของฮูหยินชุดละสามร้อยห้าสิบอีแปะเป็นสามตำลึงห้าร้อยอีแปะ ผ้านมหกผืนๆละสี่ร้อยอีแปะเป็นสองตำลึงสี่ร้อยอีแปะ ใยฝ้ายสามสิบชั่งๆละสามสิบอีแปะเป้นเก้าร้อยอีแปะ ไหมทั้งหมดมีสิบสีๆละห้าสิบอีแปะเป้นห้าร้อยอีแปะ ผ้าสีฟ้า ชมพูด สีม่วง สีฟ้า สีขาวพับละสามร้อยอีแปะทั้งหมดสิบพับเป็นสามตำลึง ผ้าไหมสีม่วงกับสีเขียวพับละหนึ่งตำลึงทั้งหมดสี่พับรวมเป็นเงินสี่ตำลึง สินค้าทั้งหมดรวมเป็นเงินสิบเอ็งดตำลึงกับอีกหกร้อยอีแปะเจ้าค่ะ" เสิ่นเยี่ยนฟางล้วงเงินจากอกเสื้อส่งให้ลี่จู แน่นอนนั่นเป็นเงินที่ปล้นอาเขยและคุนชายจางกับสหายมา จะให้ใครเห็นถุงเงินไม่ได้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงเถ้าแก่ร้านดังมา "ฮูหยินท่านนี้ ข้าแซ่เหลียนชื่อฟางไห่เป็นเจ้าของร้านนี้ สินค้าวันนี้ลดให้ท่านเหลือสิบเอ็ดตำลึงสามร้อยอีแปะเท่านั้น หวังว่าคราวหน้าท่านจะมาที่ร้านข้าอีก" "เถ้าแก่เนี้ยเกรงใจไปแล้ว ถ้าเช่นนั้นข้าขอซื้อรองเท้าสักคนละสองคู่ ท่านเลือกมาเถิด เอาที่ใส่ประจำกับสำหรับใส่ไปนอกบ้านเจ้าค่ะ " เมื่อได้ของเรียบร้อยเสิ่นเยี่ยนฟางก็ให้สองพี่น้องพาคนงานขนาดไปส่งที่เกวียน แล้วรอที่นั่นนางจะไปซื้อข้าวสารกับธัญพืช แต่ทั้งสองคนอยากไปช่วยนางมากกว่า เมิ่งหย่งชงนอยากรู้ด้วยว่านางเอาเงินมาจากที่ใดกัน จึงต้องตามไปดูให้รู้ชัด "เถ้าแก่เนี้ย ข้าขอฝากสินค้าไว้ก่อนนะเจ้าคะ อาเจินอยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวพี่สะใภ้กับพี่ชายเจ้ามารับ "ขอรับพี่สะใภ้ใหญ่ พี่ใหญ่" จากนั้นทั้งสองคนก็ตรงไปตรอกขายอาหารแห้งทันที เมื่อเดินมาพ้นจากผู้คนเมิ่งหย่งชวนก็เอ่ยปากทันที "เจ้าไปเอาเงินมาจากที่ใดกัน เมื่อเช้าเจ้าได้มาเพียงสิบตำลึงมิใช่หรือ ปิ่นปักผมมารดาเจ้าขายอย่างไรก็ไม่น่าเกินสามตำลึง เสิ่นเยี่ยนฟางบอกข้ามานะ" "จะอยากรู้ไปทำไม ข้าหาเงินได้ก็แล้วกันน่า เจ้าอย่าโวยวายเหมือนข้าไปฆ่าคนตายได้หรือไม่ นั่นร้านข้าวสารอยู่ตรงนั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวกว่าจะถึงบ้านจำมืดค่ำเสียก่อน" เสิ่นเยี่ยนฟางซื้อข้าวสารห้าสิบชั่ง แป้งสาลียี่สิบชั่ง เกลือสามชั่ง น้ำตาลห้าชั่ง น้ำตาลแดงสามชั่ง น้ำมันห้าไห นางชอบกินของทอดกับอาหารจานผัด ให้มาต้มผักป่าหรือไม่มีทางย่ะ ก่อนจะถามเมิ่งหย่งชวน "ท่านพี่ เราจะหาโม่หินได้จากที่ใดเจ้าคะ ข้าอยากได้สักอัน" "ที่ในหมู่บ้านมีคนแกะสลักหินขายอยู่ ว่าแต่เจ้าจะเอาไปทำอะไรหรือภรรยา" "ข้ามีสิ่งที่ต้องทำ ในมื่อท่านบอกว่าหาได้งั้นเถ้าแก่ข้าขอซื้อถั่วเหลืองกับถั่วเขียวอย่างละสิบชั่ง ร้านท่านมีเมล็ดพันธ์พืชผักขายหรือไม่เจ้าคะ ข้าต้องการที่ท่านมีตอนนี้" "อ้อ ข้ามีอยู่สิบกว่าชนิดเจ้าเอาอย่างละจิ้นไหมข้าจะลดราคาให้" "เจ้าค่ะเอาตามที่ท่านว่าเอ่อเถ้าแก่ร้านเหล็กไปทางใดเจ้าคะ ข้าจะซื้อเครื่องมือเกษตรสักหน่อย" เมิ่งหย่งชวนที่ได้ยินก้ถอนหายใจ ที่ดินของเขาถูกบ้านใหญ่ยึดไปหมดแล้ว จะเอาที่ไหนมาเพราะปลูกกันเล่า "ภรรยาเจ้าจะปลูกผักหรือ แต่ว่าข้าไม่มีที่ดินนะเจ้าจะทำอย่างไร" "อย่าห่วงเลยข้ามีวิธี ท่านพี่ท่านไปรอที่เกวียนดีกว่า เดี๋ยวถูกลมมากเกินไปคงไม่ดีไ "ไม่ต้องห่วงข้ายังพอเดินเป็นเพื่อนเจ้าได้ หากอากาสไม่เย็นข้าก็ไม่ไอ" เสิ่นเยี่ยนฟางท้อใจ จะให้เขาไปห่างๆเพราะอีกเดี๋ยวสามคนนั่นต้องมาหานางแน่ๆ เสิ่นเยียนฟางจุงมือเขามาในตรอกก่อนจะผลักเขาเข้าไปด้านใน ล้วงอกเสื้อเอาเงินออกมา แล้วเทใส่ถุงเงินของเขา จากนั้นก็เหลือไว้ในถุงๆละยี่สิบตำลึง เมิ่งหย่งชวนเห็นเงินก็แปลกใจนี่มันมากกว่าสองร้อยตำลึงเชียวนะ "เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าไปวิ่งราวผู้ใดมากัน เงินมากขนาดนี้เหตุใดเจ้าถึง หึ " "โว๊ะตาทึ่ม อย่าโวยวายเสียงดังได้ไหม นี่เป็นเงินอาเขยข้า ก็เขาบอกว่าเจ้าขี้โรคแต่งให้เจ้าน่าเสียดายอยากจะรับข้าไปเลี้ยงดู ข้าก็เลยเอาเงินค่าเลี้ยงดูจากเขามาไง คนแบบนั้นเลวยิ่งกว่าอะไรทำไมเจ้าสงสารหรือ" "อาเขยเจ้าเท่าที่รู้ชอบการพนัน เที่ยวหอนางโลม นิสัยเกียจคร้านไม่ทำงานจะเอาเงินมาจากที่ใดมากมายนัก" "อาจจะมือขึ้นดวงดีเล่นได้กระมัง ว่าแต่ข้าเองก็มือขึ้นนะ ลองสักสองสามตาดีไหมนะเผื่อได้สักสองสามพันตำลึง เจ้าว่าอย่างไรดี" "เจ้าอย่าแม้แต่จะคิดเชียว หึ จะไปร้านเหล็กมิใช่หรือ แล้วเอาเงินมาให้ข้าเจ้าคิดว่าปลอดภัย" "เจ้าเดินสามก้าวไอสองที นอกจากหน้าตาหล่อเหลามีอันใดให้น่าสนใจกัน หน้าตาเจ้าดึงดูดได้แต่สตรีเท่านั้นแหละ เดินห่างๆข้าหน่อย อย่าทำตัวว่ารู้จักกัน" เสิ่นเยี่ยนฟางเดินออกจากตรอกไปก่อน เมิ่งงหย่งชวนส่ายหน้านางเจ้าเล่ห์เสียจริง แยกกับเมิ่งหย่งชวนแล้วก็ตรงไปซื้อจอบ ซื้อเสียม เสิ่นเยี่ยนฟางถามหาแม่กุญแจ แต่ราคาแพงมากอันละแปดตำลึง นางจึงซื้อมาห้าอันโดยไม่คิด เงินที่ได้มาต้องเปลี่ยนเป็นข้าวของ จะเหลือหลักฐานไว้ที่ตัวทำไมกันเล่าเสิ่นเยี่ยนฟางออกจากร้านเหล็กก็ให้คนงานของร้านเดินตามไปยังร้านข้าวสาร เมื่อเจอกับเมิ่งหย่งชวนพวกเขาก้ไปยังเกวียนที่จอดอยุ่ เสิ่นเยี่ยนฟางจะไปรับเมิ่งลู่เจิน แต่ระหว่าทางเจอกับมือปราบและอาเขยของนางกับคุณชายทั้งสองมาดักขวางทางอย่างที่คิดจริงๆ "นังตัวดี เจ้าทำร้ายข้าแล้วขโมยเงินพวกข้าไป เอามาคืนเดี๋ยวนี้ มือปราบจิ้งจับนางเลย นางนี่แหละที่ตีพวกข้า" จางลี่ที่ปากแตกคิ้วแตกหันไปบอกกับมือปราบประจำตำบล เขาถูกคนทำร้ายหน้าตายับเยิน เขาไม่มีทางยอมแน่ๆ คอยดุเถอะเข้าไปที่คุกเมื่อไหร่ จะเอานางมาปรนนิบัตบนเตียงให้ขาอ่อนเชียว "หลานเมียเจ้ายอมรับมาเถอะว่าเจ้าทำร้ายพวกข้า อีกทั้งยังขโมยเงินของข้ามาอีก"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม