ตอนที่3 ปิดหูปิดตา

1301 คำ
เช้าวันรุ่งขึ้น พราวตะวันตื่นมาทำอาหารเช้าตั้งแต่ยังไม่หกโมง อาหารเช้าง่าย ๆ ที่ทำเสร็จเกือบสองชั่วโมงแล้ว หญิงสาวตักมานั่งรับประทานก่อนไม่รอใครทั้งนั้น เพราะถึงจะรอก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ชั่วโมงคนทั้งคู่ถึงจะเสด็จลงมาได้ พราวตะวันตักข้าวต้มเข้าปากได้ไม่ถึงสามคำ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ข้างกายเขายังมีเอมอรอยู่ในชุดนอนสีหวานที่เธอเอาไปให้ได้สวมใส่ "กินข้าวไม่คิดจะรอคอยเจ้าของบ้านเลยหรือยังไง?" "ขอโทษค่ะ พราวไม่รู้ว่าคุณกิตกับเขาจะลงมาตอนไหน" "ขอบคุณสำหรับชุดนอนนะคะ ไว้เอ็มจะซักมาคืนคุณพราวก็แล้วกัน" เอมอรเบะปากส่งให้อย่างไม่ต้องแอคติ้งให้เมื่อย เพราะกิตติภพก็ไม่เคยว่าเวลาที่เธอแสดงทีท่าไม่สุภาพใส่เมียแต่งของเขา "พราวยกให้ค่ะ ไม่ต้องซักมาคืนหรอก ยังไงพราวก็ไม่ได้ใช้แล้ว" "อุ๊ยตาย...ใจดีจังเลยนะคะ มีอะไรก็แบ่งกันใช้ น่ารักที่สุดเลย แต่สำหรับตัวกิตเอ็มคงไม่ต้องแบ่งคุณพราวหรอกมั้ง เพราะคุณพราวก็แต่งงานกับกิตเพื่อเงินเพียงเท่านั้น" พราวตะวันรู้สึกเหมือนโดนลากมาตบหน้ากลางสี่แยกไฟแดง กิตติภพเล่าเรื่องพวกนี้ให้เอมอรฟังด้วยงั้นหรือ หญิงสาวจับจ้องมองหน้าสามีในสมรสของเธอสลับกับผู้หญิงข้างกายเขาที่กำลังยิ้มเยาะ พราวตะวันจึงลุกยืนขึ้นเต็มความสูงเผชิญหน้ากับคนทั้งสองอย่างไม่เกรงกลัว "สบายใจได้ค่ะ ฉันไม่กินของสกปรกหรอก ขอตัวนะคะ เชิญตามสบายเลย" หญิงสาวรีบเดินหนีออกจากห้องรับแขกไปทันทีที่พูดจบ สร้างความโกรธเคืองให้กับคนที่เธอเขวี้ยงปาระเบิดใส่เมื่อครู่ "พราวตะวัน! พราวตะวัน เธอว่าใครสกปรก!" เสียงทุ้มตะโกนตามหลัง แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจหันมามองอีกเลย พอกิตติภพจะก้าวขาเดินตาม แต่อ้อมแขนของเขากลับถูกฉุดรั้งไว้ด้วยฝ่ามือของเอมอร "กิตคะคุณอย่าไปสนใจคำพูดเธอเลย กินข้าวเถอะค่ะจะได้มีแรง เมื่อคืนคุณเล่นปล่อยพลังไปหมด ไม่เติมเพิ่มหน่อยเหรอจะได้มีแรงสนุกกันต่อไง" "กินข้าวแล้วกลับไปก่อนเลยนะเอ็ม วันนี้ผมไม่สะดวก ต้องขึ้นเขาไปดูคนงานเก็บรังนกล็อตสุดท้าย" "เอ็มอุตส่าห์มีวันหยุดนะคะ นี่กิตจะไม่หยุดเพื่ออยู่กับเอ็มเลยหรือไงกัน" หญิงสาวทำหน้าเง้างอนใส่ แต่อีกคนกลับไม่สนใจจะงอนง้อกันเลยแม้แต่นิด เขารีบเดินเข้าครัวเพื่อไปหาข้าวเช้ากินให้อิ่ม จนเอมอรต้องรีบเดินตามเข้าไปในครัวติด ๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หลังจากที่เอมอรกลับบ้านไป ในเมื่อที่นี่ไม่มีแม่บ้าน พราวตะวันจำต้องขึ้นมาเก็บกวาดห้องนอนของกิตติภพเหมือนเช่นทุกครั้ง ปกติเอมอรจะไม่เคยค้างอ้างแรมที่นี่เลยแต่เมื่อคืนนี้แปลกมาก แปลกจนคิดว่ากิตติภพแกล้งจงใจทำอะไรให้เธอได้ยินเพื่อที่เธอจะได้เป็นคนขอหย่าจากเขาก่อนหรือเปล่า ประตูห้องนอนถูกเปิดกว้างออก ทันทีที่มองเห็นเตียงนอนกว้างที่ยับย่น ถึงกับทำให้จินตนาการไปต่าง ๆ นานา มันเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนแค่มีเพศสัมพันธ์กันหรือเขาสองคนทำสงครามสู้รบกันแน่นะ เสื้อผ้ากิตติภพวางกระจัดกระจายไปทั่วห้อง พราวตะวันรีบเก็บลงใส่ตะกร้าไว้รอซักในวันพรุ่งนี้ พอหันไปมองถังขยะใบเล็กที่วางอยู่ถึงกับต้องเอามือป้องปากตัวเองเอาไว้อีกครั้ง ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว 3 ชิ้น ถูกทิ้งพาดบนขอบถังขยะชวนให้น่ารังเกียจนัก แล้วทำไมถึงไม่ทิ้งลงไปดี ๆ รีบจนทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้เลยหรือช่างทุเรศนัก พราวตะวันพยายามจะไม่สนใจ พยายามมองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะชีวิตส่วนตัวของกิตติภพก็ยังเป็นของเขาไม่ใช่เธอที่เป็นเจ้าของ หญิงสาวรีบทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปอกหมอนใหม่จนเสร็จเรียบร้อย ปัดกวาดเช็ดถูจนสะอาดไปทุกซอกทุกมุม ดีที่ว่าเธอไม่ใช่ลูกคุณหนู งานบ้านพวกนี้เลยเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับชีวิตไปแล้ว พราวตะวันหันกลับไปมองเตียงกว้างนั้นอีกครั้ง สภาพเมื่อก่อนหน้ากับตอนนี้ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว พยายามย้ำเตือนตัวเองว่าเขาไปยุ่งกับคนอื่นก็ยังดีกว่ามายุ่งกับตัวเธอ แม้จะรู้ว่าเป็นหน้าที่ของภรรยาที่มีสามีแล้ว แต่ในเมื่อเขาไม่ปรารถนาจะได้ เธอคงไม่ถวายตัวใส่พานให้เขาต้องสมเพชไปมากกว่านี้ กิตติภพได้รับโทรศัพท์จากบิดาทันทีที่ส่งเอมอรขึ้นรถเสร็จ เขาก็รีบเดินทางมาดูฟาร์มหอยที่คนงานโทรศัพท์ไปแจ้งว่ามีปัญหาขึ้นนิดหน่อย "กิต แกดูแลหนูพราวดีใช่ไหม?" "ดีสิครับพ่อ ถ้าจะให้ดูแลดีกว่านี้คงให้เขานั่งบนหิ้งเฉย ๆ แล้วล่ะ" "ฟังดูพูดเข้าสิ แกประชดประชันฉันอยู่หรือยังไง?" "พ่อมีอะไรกับผม เห็นโทรมาตั้งหลายสายเมื่อคืน" "ฉันโทรหาแกไม่ได้หรือไงล่ะ มีลูกชายคนเดียวนี่นา อยู่บ้านฉันเหงาเลยต้องหาคนคุยเป็นเพื่อน ว่าแต่แกเถอะเมื่อไหร่จะมีหลานมาให้ฉันอุ้มสักทีนะ รออุ้มหลานจะได้อุ้มไหมลูกแกหรือฉันต้องตายก่อน?" กิตติภพต้องถอนหายใจออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เบื่อกับคำว่าอยากอุ้มหลานเต็มทีแล้ว ขนาดเมียยังไม่อยากได้แล้วจะให้มามีหลานให้คงจะได้อุ้มหรอกชาตินี้ เขาก็แค่ประเภทรักสนุกยังไม่อยากมีบ่วงมาผูกมัดชีวิตให้ต้องยึดติดกับใครทั้งนั้น ดีที่ว่าพราวตะวันพูดง่าย ตกลงอะไรด้วยง่าย ๆ เลยสบายใจกับสภาพที่เป็นอยู่ณ.ตอนนี้ "เลิกพูดเถอะครับพ่อ มันเป็นเรื่องไกลตัวผมยังไม่เคยคิด พ่อรออุ้มลูกของยัยกชก็แล้วกัน" "หือ แต่ฉันอยากอุ้มหลานจากแกก่อน ทำไมไม่คิดจะมีล่ะ อะไร ๆ ในชีวิตแกมันจะดีกว่าที่เป็นอยู่เชื่อพ่อนี่" "ทุกวันนี้ผมก็แฮปปี้ดีครับพ่อ แค่มีเมียก็น่าเบื่อตายชัก" "ทำไม ลูกสะใภ้ที่ฉันเลือกให้ ไม่มีดีพอให้แกติดใจได้เลยงั้นเหรอ หรือแกชอบกินของเน่า ๆ อย่างแม่เอมอรคนนั้น แกเลิกยุ่งกับมันถาวรแล้วหรือยัง ถ้าจะทำอะไรไม่ดีกรุณาให้เกียรติลูกสะใภ้ฉันด้วยนะเข้าใจไหมกิตว่าแกแต่งงานมีเมียแล้ว?" "เมียเหรอ ผมไม่ไม่ได้อยากมีนี่ครับ ถ้าพ่อจะมาชวนผมทะเลาะแต่เรื่องเดิม ๆ แค่นี้ก่อนนะผมไม่ว่างคุย" สายโทรศัพท์ถูกตัดลง กิตติภพรู้สึกหมดอารมณ์จะทำงานแล้วในตอนนี้ ตั้งแต่เช้าพราวตะวันก็ยียวนกวนประสาทเขามาแล้ว แถมตอนนี้ยังมาโดนบิดาต่อว่าอีก ชีวิตจะโชคดีอะไรขนาดนี้เหมือนมีแม่บังเกิดเกล้าถึงสองคน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมารดาได้จากโลกใบนี้ไปตั้งแต่เขายังไม่อายุครบ 5 ขวบด้วยซ้ำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม