บทที่5.ทดลอง

1476 คำ
บทที่5.ทดลอง หนุ่มบ้านนอกรีบออกตัว เขาไม่ได้อยากรู้ว่าหล่อนจะมีอิสระหรือไม่ เมื่อหล่อนดูเหมือนจะไม่ชอบหน้าเขาเท่าใด           “หึๆ” นรสิงห์หัวเราะในลำคอ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ สลับกับแอบชำเลืองมองบุษบันเงียบๆ           หล่อนมีอะไรน่าสนใจ แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง จริงอยู่ว่าหล่อนรูปร่างหน้าตาดี แต่เมื่อมองรวมๆ ยังมีผู้หญิงอีกเยอะที่สวยกว่านี้ เก่งกว่านี้ แล้วทำไม คนใกล้ชิดของเขา ถึงพัวพันกับหล่อนหลายคนจัง ตั้งแต่นักรบ และไอ้เพื่อนยากที่หัวใจแกร่งดั่งหิน ก็ยังลงสนามด้วย           “แกเถอะ...ทำไมยังอยู่ที่นี่ไอ้เสือ?”           เสียงหิรัญถาม...นรสิงห์จึงหลุดออกมาจากภวังค์ของตัวเอง           “ก็เบื่อๆ เลยอยากพักสมองบ้าง...”           บ้านพักตากอากาศ กษิดิศชญาธรมีไว้ในหลายจังหวัด รวมถึงภูเก็ตด้วย...           ไหนจะงานที่แสนวุ่นวาย ไหนจะเรื่องยุ่งๆ ที่ภารตีขยันสร้าง เขาตามปัดกวาดจนเวียนหัว เมื่อมีเวลาว่างจึงอยากพักสมองผ่อนคลายความตึงเครียด           “ไม่มีสาว...แปลก!!”           หิรัญหรี่ตามองเพื่อนรัก มันเป็นเรื่องแปลกที่นรสิงห์ขาดคนข้างกาย เมื่อเขาเป็นหนุ่มฮอต มีสาวๆ แนบข้างตลอดไม่เคยว่างเว้น เมื่อเห็นเพื่อนฉายเดี่ยวจึงรู้สึกแปลกใจ           “แปลกใจอะไรวะ บางครั้งการพักผ่อนที่ดีก็คือการนอน มากกว่าการสะบึมผู้หญิงนี่หว่า”           หนุ่มเสน่ห์แรงกล่าว เขาไหวไหล่เพราะความจริง เขาเริ่มเอียนกับผู้หญิงรอบตัวเอง มันเป็นความจำเจที่ไร้ความตื่นเต้น ไม่มีความสนุกเหมือนแรกเริ่ม เพราะแค่กระดิกนิ้ว พวกหล่อนก็เดินตามก้นต้อยๆ เขาเบื่อความรู้สึกแบบนั้น เลยอยากอยู่ลำพังคนเดียวบ้าง           “แกใช้ชีวิตโคตรคุ้มเลยว่ะสิงห์...ฉันเสียอีกที่แทบจะเป็นฤาษี มองหัวมันทุกวันจนเริ่มเห็นว่าหัวมันสวยกว่าผู้หญิงแล้ววะ”           หิรัญเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เขากล่าวพร้อมกับยิ้มแป้น แอบชำเลืองคนตัวเล็กที่หน้าเคาน์เตอร์ แต่ดันตรงช่วงที่หล่อนเองก็มองมา เลยได้ค้อนคมๆ เป็นรางวัล หนุ่มบ้านนอกตัวดำจึงได้แต่อมยิ้ม...           “แกมัวหมกตัวอยู่ที่นั่นเอง ออกจากโกดังมัน ออกมาสนุกก็ได้นี่หว่า...”           หนุ่มเสน่ห์แรงแย้งยิ้มๆ           “ไม่ล่ะ ไม่รู้สิ... มันเอียนมั้ง”           สี่ปีในต่างแดน หิรัญคิดว่านั่นเกินพอแล้วสำหรับเขา...เมื่อยังมีสิ่งอื่นน่าสนใจมากกว่าเรือนกายนุ่มนิ่มของเหล่าสาวๆ           “ถามจริงๆ แกคิดจะจริงจังกับหล่อนเหรอ?”           หล่อน ในที่นี้หมายถึงบุษบัน และนรสิงห์ไม่เห็นด้วยที่คนดีๆ คนหนึ่งจะร่วมหัวจมท้ายกับผู้หญิงเหลวแหลก           “ไม่รู้สิ...แต่เท่าที่ดู คุณบุษเธอก็เหมาะกับฉันเหมือนที่พ่อกำนันบอก”           หิรัญตอบแบบเป็นกลาง จากที่ฟังบิดากรอกหูทุกวันเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุษบัน และยิ่งมาเห็นตัวเป็นๆ หิรัญคิดว่าบิดาคิดถูก บุษบันสวยคม สุขุม มีความเป็นผู้นำสูง และคงเป็นคู่คิดในอนาคตได้แบบสบายๆ           “ฉันไม่เห็นด้วยว่ะ ผู้หญิงอย่างหล่อน...” นรสิงห์หยุดพูด เขาแค่นยิ้มสมเพชหล่อน           “อคติ...แกเคยฉลาดกว่านี้นะสิงห์ ผู้ชายอย่างไอ้หมอนั่น ปากมันเป็นยังไงแกก็น่าจะรู้ ฉันไม่เคยเชื่อในสิ่งที่มันพูด เพราะเท่าที่ดู คุณบุษน่าจะเป็นองุ่นเปรี้ยวสำหรับมัน”           หากข่าวลือของบุษบันคือหล่อนเป็นเมียซุกของนักรบ มันคงถูกปล่อยมาจากปากหมาๆ ของนักรบนั่นแหละ จากเท่าที่ดูบุษบัน แม้จะยังไม่สนิทสนม เขาเชื่อว่า สิ่งที่ไอ้หมอนั่นพูด ไม่น่าจะใช่เรื่องจริง...ดูได้จากองครักษ์ตัวเล็กที่อยู่ข้างตัวบุษบันนั่นไง...หล่อนกางแขนป้องเพื่อนขนาดนั้น แล้วบุษบันจะจะเป็นเหมือนข่าวรั่วนั่นได้ยังไง           หนุ่มเสน่ห์แรงไหวไหล่ เขายังไม่เชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์ความจริง           “เจอกันคืนนี้นะ...ฉันขอตัวไปนอนก่อน เมื่อคืนนั่งดื่มคนเดียวจนดึก”           นรสิงห์เอ่ยลา เขาง่วงจนตาจะปิด แต่เมื่อเพื่อนส่งข่าวให้รู้จึงรีบมาหา ด้วยความดีใจ           “เออๆ...ไปนอนก่อนก็ได้เดี๋ยวตามไปที่บ้าน...คงคุยกันไม่นาน คุณบุษเธอดูยุ่งๆ”           หิรัญโบกมือลาเพื่อน พร้อมกับค่อนว่านรสิงห์ในใจ ขนาดมันอดนอน ออร่านรสิงห์ก็ยังฟุ้ง ดูได้จากสายตาสาวๆ หลายคนที่เหลียวมองเพื่อนรัก...จนคอแทบเคล็ดนั่นไง           ชายหนุ่มเดินเฉียดผ่านหน้าเคาน์เตอร์ เขาชำเลืองมองใบหน้าก้มต่ำของบุษบัน พร้อมกับความรู้สึกคันยิบๆ ในใจ           ทำไมต้องเป็นหล่อนที่เป็นคู่หมายของเพื่อน           ทำไมต้องเป็นหล่อนที่พัวพันกับนักรบ           สารพันคำถามที่ผุดขึ้นในห้วงความคิด แล้วที่สำคัญเลย เขาสนใจหล่อนทำไม?           นั่นเป็นคำถามที่นรสิงห์เองไม่กล้าค้นหาความจริง... “ขอโทษนะคะที่ทำให้รอนาน”           บุษบันยิ้มอ่อน เธอถือจานขนมเค้กเดินไปไว้ตรงหน้าหิรัญ เมื่อเห็นว่าเขาว่างพอที่จะคุยธุระสำคัญกับเธอแล้ว           “ไม่เป็นไรครับ...ผมเองก็ไม่ได้นั่งพักแบบนี้มานานมากแล้ว...ได้อยู่เฉยบ้างก็ดีเหมือนกัน”           หนุ่มบ้านนอกตอบพร้อมกับยิ้มแป้น ทำงานเป็นลูกจ้างบิดา เขาแทบไม่มีเวลาว่าง จนกำนันเหมเกรงว่าลูกชายจะไม่มีเมียเลยจัดหามาให้ และบุษบันก็เป็นที่ถูกใจของกำนันเหม ท่านเลยสนับสนุนจนหิรัญไม่อยากขัดใจ อีกอย่างเมื่อได้คุยกับนรสิงห์ เพื่อนรักกำลังพักผ่อนที่นี่ เขาเลยถือโอกาสมาสังสรรค์กับเพื่อน หลังจากไม่ได้เจอกันนานเกือบ2 ปีเต็ม           “บุษเข้าเรื่องเลยนะคะ คุณหิรัญจะได้ไปพักผ่อน”           หญิงสาวกล่าวเสียงเคร่ง ใบหน้าจริงจัง           “ครับ...”           “บุษไม่เห็นด้วยกับความคิดของผู้ใหญ่ แต่บุษก็ไม่มีสตางค์ไปคืนลุงกำนันด้วยค่ะ บุษมีเงินเก็บนิดหน่อยเอง...คงไม่พอชดใช้แทนป้าหมอน แต่จะให้บุษรับข้อเสนอที่ลุงกำนันยื่นให้... มันก็จะเหมือนกับว่าบุษจะเป็นฝ่ายเอาเปรียบคุณเลย เพราะคุณอาจจะมีคู่รักอยู่แล้วก็ได้”           “ไม่ครับ ผมยังไม่มีใคร...เพิ่งบอกไอ้คุณสิงห์ไปเมื่อสักครู่ ผมเริ่มเห็นหัวมันสวยกว่าผู้หญิงแล้ว เมื่อกินนอนอยู่ในลานมัน”           ชายหนุ่มตอบแบบคนอารมณ์ดี ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้หญิงมาชอบ เพียงแต่ผู้หญิงพวกนั้นยังไม่มีคนไหนโดนใจ           บุษบันอมยิ้ม ผู้ชายตรงหน้าเธอนี่อารมณ์ดีและเป็นมิตรมากกว่าคนที่เพิ่งจากไป           “คุณหิรัญมีความคิดยังไงคะ เพราะบุษน่ะ... ขัดป้าหมอนไม่ได้อยู่แล้ว...”           น้ำเสียงของบุษบันเจือปนด้วยความหนักใจ หัวใจของเธอยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับใคร เมื่อความหลังเก่าๆ ยังคอยตามหลอกหลอน เธอยังไม่อยากผิดหวังซ้ำ           “ก็เหมือนผมแหละครับ ผมก็ขัดพ่อกำนันไม่ได้ พ่อผมน่ะ สนับสนุนคุณบุษ ท่านชอบคุณและยินดีที่จะให้คุณบุษเป็นส่วนหนึ่งของเกศไพศาล” หนุ่มลานมันตอบพร้อมกับยิ้มเป็นมิตร           บุษบันถอนใจแรงๆ เธอกระพุ่มมือขึ้นยกไหว้คนไกล “ขอบคุณค่ะ ลุงกำนันเห็นอะไรในตัวบุษนะ บุษไม่คิดว่าบุษจะมีค่าคู่ควรกับคุณเลย”           “ผมก็ไม่รู้ครับ พ่อผมพูดๆ พูดแล้วก็พูด ให้ผมฟังเช้า-เย็น จนผมเริ่มสนใจคุณบุษหน่อยๆ เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าคุณบุษทำเสน่ห์ใส่พ่อผมหรือเปล่า ทำไมชื่นชมคุณบุษนัก”           “ความจริงบุษเจอลุงกำนันแค่ครั้ง สองครั้งเองนะคะ ไม่คิดว่าลุงกำนันจะเมตตาบุษขนาดนี้”           หญิงสาวออกตัว พร้อมกับยิ้มแหยๆ           “ผมเจอคุณบุษวันนี้ ผมยังคิดเหมือนพ่อกำนันเลยครับ คุณบุษเป็นคนมีเสน่ห์ อยู่ใกล้ๆ แล้วเย็นใจ”           หิรัญตอบตามความคิดตัวเอง บุษบันดูผ่อนคลาย ใครก็ตามที่เข้าใกล้หล่อนจะไม่รู้สึกเกร็ง มีความเป็นกันเอง แต่ก็เคร่งขรึมในตัว หล่อนดูฉลาด ทันคน แต่กลับดูอ่อนน้อม...เป็นคนยิ้มง่ายร่าเริง...สดใสเหมาะที่จะคบหา           “ชมเกินไปแล้วค่ะ บุษแค่คนธรรมดา ที่ยิ้มนี่ เพราะบุษกลัวคนอื่นไม่รัก เลยต้องยิ้มประจบไว้ก่อน”           หิรัญดูสบายๆ อยู่ใกล้เขาแล้วเธอไม่อึดอัด แต่...ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ไม่มีความอ่อนหวานที่จะนำพาไปถึงความผูกพันได้ บุษบันแอบผ่อนลมหายใจ เธอกับเขาคงไม่มีทางพัฒนาเป็นอื่นไปได้...นอกจากความเป็นเพื่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม