9 เอาคืน

1417 คำ
9 เอาคืน @ ณฤดี ฉันไม่คิดหรอกว่าไพนต์จะยอมคืนดีกับฉันง่ายๆ แต่ผู้หญิงสาว สวย ดีกรีเกียรตินิยมอย่างฉันมีดีพอจะหาผู้ชายคนใหม่ได้ดีกว่าผู้ชายที่มีดีแค่สมองกับสองมืออย่างไพนต์แน่นอน เรื่องกัดก้อนเกลือกิน ฉันไม่พิศวาสนักหรอก ความจริง พี่กายไม่ได้บีบบังคับอะไรฉัน เป็นฉันต่างหากที่สนองตอบตอนเขาเข้าหา ฉันคบกับพี่กายก็เพราะเขาหล่อ รวย โปรไฟล์ดีมากกว่าไพนต์ที่มีดีแค่หล่อ แต่ความรวยไม่ได้กระผีกริ้นพี่กายสักนิด ผิดคาดไปหน่อยคือ ฉันหลงพี่กายจริงๆ เขาช่างเอาใจและร้ายกาจบนเตียง ขณะที่ไพนต์ทื่อเป็นตอไม้ ไร้ความโรแมนติก ถึงลีลาบนเตียงจะร้ายกาจกว่าใครก็ตาม ผู้ชายสองคนนี้ก็ทำให้ฉันเสียหน้า ถ้าไม่ได้เอาคืน ฉันคงตายตาไม่หลับแน่ชาตินี้ วิธีเอาคืนที่วิเศษสุดๆ ยิงปืนนัดเดียว นกตายเป็นฝูงก็คือ ทำให้ไพนต์กับนังผิงเลิกกันซะ ให้พวกมันสองคนเกลียดกันจนตายยิ่งดี วันนั้นฉันเห็นพี่กายถูกแท็กร้านอาหารนั่นจึงตามไป หวังจะไปอ้อนขอคืนดี กลับได้ยินพี่กายคุยกับนังผิง โชคดีที่ฉันนึกคิดเร็ว หยิบโทรศัพท์มาอัดเสียงพวกมันไว้ นังผิงมันแอบชอบไพนต์ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วทำไมฉันจะไม่รู้ เพราะแบบนั้นฉันถึงปั่นหัวผู้ชายที่มาจีบมันได้ง่ายๆ ไงล่ะ ตอนนี้ฉันก็จะปั่นหัวมันกับไพนต์ให้แตกหักกัน พี่กายเอ็นดูนังผิง ถ้าน้องสาวเสียใจ ก็คงจะพล่านเหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก สะใจน้อยที่ไหน ฉันคิดว่า ฟืนที่สุมเชื้อใส่ไพนต์วันนั้นกำลังเริ่มเห็นผลแล้ว กับภาพตรงหน้าตอนนี้ มุมหนึ่งของร้านกาแฟข้างโรงพยาบาล N ชายหญิงคุยกันหัวร่อต่อกระซิก ฉันหลุบมองรูปถ่ายในโทรศัพท์ ภาพที่ฝ่ายชายยื่นมือไปเช็ดปากฝ่ายหญิง สายตาอบอุ่นที่เขามองหล่อน เป็นใครได้เห็นคงเข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากว่า ทั้งสองมีใจต่อกัน “ช่วยไม่ได้นะนังผิง มึงทำกูเจ็บก่อน” ถึงเวลานั่งดูละครฉากใหญ่แล้ว คนที่หัวเราะทีหลังต้องเป็นฉันคนนี้ @ รติมา พักหลังมานี้ ความรู้สึกของฉันบอกว่าไพนต์แปลกไป ถึงเราจะยังมีความสัมพันธ์กันเหมือนเดิม แต่ก็รู้สึกถึงความไม่เหมือนเดิม มันเริ่มมาจากเช้าวันนั้น เขาเพิ่งออกเวรกลับมา บนเสื้อของเขามีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิง ได้กลิ่นทีแรกฉันถึงกับชะงัก ครั้นจะถามก็ดูไร้เหตุผลเกินไปจึงได้แต่เก็บงำความสงสัยไว้ ไพนต์เวรเช้า ฉันเองก็เปลี่ยนมาเข้าเช้าเหมือนกัน “ไพนต์ เสื้อผ้าอยู่บนเตียงนะ” ทุกเช้าหรือก่อนเขาไปทำงาน ถ้าฉันอยู่มักจะเตรียมชุดให้เขาเสมอ “อืม หาโทรศัพท์ให้หน่อย เมื่อคืนไม่รู้มันหล่นไปไหน” เขาตะโกนออกมาจากห้องน้ำ ฉันส่ายหน้าพลางยิ้มอ่อนใจ ไพนต์มักเป็นแบบนี้ กลางคืนชอบอ่านหนังสือแล้วปิดเสียงโทรศัพท์ เมื่อก่อนคือปิดเลยไม่เปิดระบบสั่น บอกว่ามันน่ารำคาญกวนสมาธิ มาฝึกงานนี่แหละที่เปิดแบบสั่นไว้ ฉันใช้โทรศัพท์ตัวเองโทรเข้าเครื่องเขา มันหล่นเข้าไปใต้เตียง “ดีนะหน้าจอไม่แตก ทำหล่นยังไงเนี่ย” ฉันเอาโทรศัพท์ไปวางบนเตียงข้างชุดทำงานของเขา กำลังจะผละห่าง ข้อความจากแอปไลน์เด้งขึ้นกลางหน้าจอมืดๆ ‘ไพนต์ฉันท้อง’ หัวใจฉันหล่นร่วงกระเด็นกระดอนหายเหลือเพียงโพรงอกว่างเปล่า ยังมีข้อความเด้งตามมา ฉันอ่านไม่รู้เรื่อง เสียงน้ำฝักบัวเงียบ ฉันรีบพาตัวเองออกไปจากห้องนอน ยืนสงบสติอารมณ์อยู่หน้าอ่างล้างจาน นี่มันอะไรกัน! ความแปลกเปลี่ยนของไพนต์ที่ฉันรู้สึกได้คือเรื่องนี้เหรอ ขณะที่เขากอดฉัน เขาก็ยังกอดคนอื่นอยู่อย่างนั้นเหรอ ครืด... ครืด... โทรศัพท์ในมือฉันมีข้อความเข้า มีรายการขอเพิ่มเพื่อนจากแอปไลน์ เป็นตองที่ส่งมา ฉันไม่ได้ตอบรับเพื่อน สายตามัวจดจ้องรูปที่หล่อนแนบมาหลายรูป หลายอิริยาบถ หลายสถานที่ รูปในร้านกาแฟ ไพนต์ยื่นมือไปเช็ดปากเธอคนนั้น สายตาเขาอ่อนโยนและอบอุ่นมาก รูปทั้งสองคนจูงมือกันเดินในห้าง รูปในผับ รูปจูงมือกันหน้าประตูตึกหลังนี้ ฉันมือเย็นไปหมด สมองอื้ออึง ในอกหนักอึ้งเหมือนถูกเขาทั้งลูกถล่มทับ ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก ดูอ่อนหวาน บอบบางน่าปกป้อง “แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ” ฉันสะดุ้งโหยง ทำโทรศัพท์หล่นลงพื้น ขณะที่เจ้าของเสียงเดินเข้ามากอดฉัน หอมแก้มหนักๆ แต่ทำไมใจฉันถึงเจ็บร้าวแทนพองฟูเช่นทุกวัน “เป็นอะไร ใจลอย” “ปละ เปล่า เปล่าสักหน่อย นายมาเงียบๆ ฉันก็ตกใจดิ” เฉไฉก้มลงเก็บโทรศัพท์ ดีที่หน้าจอมันมืดดับไปแล้ว ฉันหันไปหาไพนต์ เขาแต่งตัวเรียบร้อยด้วยชุดที่ฉันให้ ไม่ได้มองฉันหรอก ก้มหน้าก้มตาดูมือถือ หัวคิ้วขมวด ฉันเหลือบมองผ่านๆ เห็นรูปโปรไฟล์รางๆ ของคนที่ส่งข้อความมาว่าท้อง “มีอะไรหรือเปล่า” “เปล่าหรอก เคสคนไข้น่ะ” เขาตอบโดยไม่ได้มองฉัน เดินนำไปยังประตูห้อง ขอบตาฉันร้อนผ่าวๆ ส่งเสียงเรียกตาม “ไพนต์” “ว่า” “วันนี้วันเกิดนาย เย็นนี้ทำไรกินกันดีมั้ย” ไพนต์หันกลับมา สีหน้าของเขาบอกได้ว่าลืมวันเกิดตัวเองไปแล้ว “มัวยุ่งจนลืมวันเกิดตัวเองหรือไง” เขายิ้ม แต่ดูฉาบฉวย เดินเข้ามากอดฉัน “นายอยากได้อะไรพิเศษไหม” “ไม่ต้องหรอก อะไรที่เธอให้ฉันดีใจทั้งนั้นแหละ” “แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ” ฉันกอดเขาตอบ บอกตัวเองว่า แค่เขายังกอดฉันก็พอแล้ว... ไพนต์ยิ้มแต่ยิ้มของเขาไม่สดใสออกทางแววตา ขณะที่ดันคางฉันขึ้น มอบจูบให้ จูบบดเคล้าเพียงกลีบปากภายนอก “ขอบใจมากนะ” หอมแก้มฉันอีกครั้ง สอดมือเข้ามากุมมือ จูงกันเดินออกจากห้อง แต่อีกมือของเขากดดูข้อความและตอบกลับใครคนนั้น ฉันว่างโหวงในอก ปวดแปลบหัวใจจนลำคอตีบตันหากก็ต้องเก็บงำไว้ กระทั่งถึงลานจอดรถ เราแยกกันไปคนละคัน นั่นเพราะฉันออกเวรก่อน ตั้งใจว่าจะกลับมาอบขนมเค้กวันเกิดให้เขา ตอนเที่ยงต้ากับฝันชวนเราไปกินร้านอาหารนอกโรง’บาล เป็นการเลี้ยงก่อนล่วงหน้า “ไม่อยากเป็น กขค. ใครคืนนี้” “กขค.บ้าอะไรของนาย” ฉันค้อนต้า แก้มร้อนผ่าวๆ ส่วนฝันพยักพเยิดกับแฟนอย่างน่าหยิก ไพนต์เพียงส่ายหน้ายิ้มๆ ทำไมยิ้มของเขาดูเคร่งเครียดนะ คืนนั้น ไพนต์หายเงียบไป ติดต่อไม่ได้ ฉันนั่งรอเขาด้วยใจกระวนกระวาย โทร.ถามต้า ก็บอกว่าเขาออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่ออกเวร ฉันไม่อยากให้เพื่อนกังวลไปด้วย เลยไม่พูดอะไร สามทุ่มก็แล้ว สี่แล้ว... ห้าทุ่ม เที่ยงคืน... ไพนต์ยังเงียบ ฉันนั่งมองเค้กก้อนโตตรงหน้า น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมา ก่อนที่หยดอื่นๆ จะพากันพรั่งพรู ทำไมเขาทำกับฉันแบบนี้... ตีสาม...เสียงเปิดประตูทำให้ฉันรีบลุกไปดู น้ำตาเหือดแห้งไปนานแล้ว “ไพนต์” “อ้อ ผิง โทษที โทษที เมาจังว่ะ” สภาพเขา กลิ่นเหล้าหึ่งทั้งตัว พอเห็นฉันก็โผเข้ามากอด ซุกหน้ามาไซ้ซอกคอนัวเนีย “ไปกินเหล้าที่ไหนมาเนี่ย” เขาไม่ฟังฉัน ดึงตัวฉันเข้าไปในห้องนอน โถมตัวลงมากอดจูบลูบไล้ ดึงดันถอดเสื้อผ้าฉันออกจนได้ ที่สุด เขาก็ทำให้ฉันเพริดไปในเปลวปรารถนา บทรักของเขาดุดันหนักไปทางดิบเถื่อน ฉันก็หลงลืมสังเกตว่า ไพนต์ไม่ได้ป้องกัน ไหนใครเคยพูดว่า เมาแล้วทำอะไรไม่ไหวไง โกหกเห็นๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม