4 ฉันยอม

1455 คำ
4 ฉันยอม @ รติมา ฉันเลื่อนมือขึ้นไปโอบคอไพนต์ เหนี่ยวนำให้ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาใกล้ แค่นั้นเราก็เข้าใจความต้องการของกันและกัน ฉันเผยอปากรับลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาในโพรงปาก ขยับลิ้นรับการแตะไต่ไล้เลีย ก่อนจะถูกไพนต์รวบรูดกลายเป็นจูบขยี้ดุดันจนเกิดเสียงนัวเนีย “ผิง...” เสียงเขาพร่าลึก ลมหายใจรุนแรง เขามองสบตาฉันอีกครั้ง คล้ายจะยืนยันว่าฉันเต็มใจจริงไหม “เธอนี่มัน...” คำตอบที่ได้ทำให้เขาซุกหน้าจูบไซ้ลำคอฉัน จูบ ดูดเม้มแรง ตวัดลิ้นเลียซ้ำ ฉันวาบหวามเสียวสยิวจนกลั้นเสียงครางไม่ไหว เขาจูบไล้อ้อมใต้คางมาหาซอกคออีกข้าง ทำแบบเดียวกัน ดูดเม้มแล้วเลียซ้ำ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขนมแสนอร่อย ทำให้ไพนต์เลียลิ้มจนคอเปียกไปหมด เขายังดูดติ่งหู เม้มกัดเบาๆ ฉันสะท้าน ลมหายใจหอบแรง ค้นพบว่า มันเป็นจุดอ่อน เหมือนเขาเองก็รู้ จึงจงใจเล่นกับหูฉัน งับดูด ตวัดลิ้นเลียจนฉันต้องเบือนหน้าหนี เสียงไพนต์หัวเราะเบาๆ ก่อนเขาจะพรมปากลงมาตามลำคอ แอ่งชีพจร คลุกเคล้าใบหน้ากับอกฉันอีกครั้ง เสื้อเชิ้ตถูกปลดกระดุมตอนไหนฉันไม่รู้ สะดุ้งตัวก็ตอนที่บราตะขอหน้าถูกปลด มันถูกดันออก เปิดเผยพุ่มทรวงอวบอิ่มต่อสายตาคมหม่นมัว จู่ๆ ฉันรู้สึกเขินขึ้นมา จะยกแขนปิด แต่ไพนต์รู้ทัน กดต้นแขนทั้งสองข้างแนบที่นอน เขาเหลือบตาขึ้นมามองหน้า ขณะตวัดลิ้นเลียปลายยอดสีอ่อน มันหวิววาบ “อ๊ะ” ตาเขาพราวระยับเหมือนกำลังสนุกสนาน วนลิ้นลากเลียไปทั่วยอดถันจากข้างหนึ่งไปอีกข้าง ตลอดเวลาที่ทำแบบนั้น เขายังมองหน้าฉัน ให้ตายเถอะ! หัวใจมันเต้นกระหน่ำจนแทบทะลุออกมานอกอก ตื่นเต้น ตื่นเร้า และเสียวกระสัน บรรยายไม่ถูก ปากลิ้นอุ่นกลืนกินยอดอกข้างหนึ่ง อีกข้างบีบเฟ้นด้วยมือ ก่อนสลับกัน ไพนต์แสดงให้เห็นว่า เขามือไวขนาดไหน มืออีกข้างลูบไล้ความอวบอิ่มอ่อนไหวในกางเกง ปลุกกระตุ้นเล้าโลมสร้างความเสียวสยิวหวิวหวาม ยามปลายนิ้วแข็งกรีดไล้ลงหารอยแย้มแยก กดเกี่ยวเกสรช่อน้อย บดบี้ ฉันสะท้าน ร้องครางอย่างสิ้นอาย “ไพนต์...” เสียงฉันอ่อนระทวย ขนอ่อนบนร่างกายลุกซู่กับกระแสรัญจวนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ยอดอกถูกดูดเลียจนเปียกชื้นทั้งสองข้าง ก่อนปลายลิ้นอุ่นจะลากเลียจากร่องกลางอก ลงไปหาแอ่งสะดือเล็ก จูบพรมดมดอมทั่วแผ่นท้องที่เดี๋ยวหดเกร็งเดี๋ยวคลาย ที่สุดเขาก็จูบเลาะเล็มตรงเอวกางเกงทำใจฉันกระหน่ำรัว จังหวะหนึ่ง ไพนต์หยัดกายขึ้นนั่ง ดึงรั้งกางเกงของฉันออกทั้งชิ้นนอกชิ้นใน ความเย็นวาบที่ลามไล้ผิวกายทำให้ฉันสะท้าน หนีบขาเข้าหากันอัตโนมัติ เขาจุดยิ้มมุมปาก เริ่มถอดเสื้อกางเกงของเขาบ้าง ขณะทอดสายตามองสบกัน ดวงตาคมหม่นเสน่หา ในอารมณ์นี้ ฉันรู้สึกว่าไพนต์มีเสน่ห์เกินต้าน ที่สุด ร่างกายแน่นตึงด้วยซิกซ์แพ็กกระชากหัวใจก็กระแทกตาฉัน รูปร่างของไพนต์สมาร์ตสมส่วน ผิวเขาออกขาวหากพอมีกล้ามเนื้อแน่นๆ กลับน่ามอง น่าแตะต้องลูบไล้ สัดส่วนความเป็นชายพุ่งผงาด อวดความแข็งขึงอลังการงานสร้างพานพาให้หน้าฉันร้อนผ่าวๆ จนต้องเบือนตาหลบ ด้วยสายอาชีพ ทำให้เห็นเจ้าสิ่งนั้นของผู้ชายมาพอควร โดยเฉพาะในช่วงฝึกงานนี้ต้องลงหน้างานราวกับหมอมืออาชีพ หากไม่มีของใครทำให้ใจฉันสั่นไหวได้เท่ากับผู้ชายตรงหน้า “เพิ่งเคยเห็นเธออาย” “ผู้หญิงอาย แปลกตรงไหนเล่า” “คนอื่นไม่แปลก” ไพนต์ก้มมาจูบแก้มฉันหนักๆ น้ำเสียงเขารื่นรมย์ “เธออายน่ารักดี” “ไอ้บ้า” เขาหัวเราะ คว้ามือฉันไปวางบนความแข็งชัน กุมจับสัดส่วนแข็งกร้าว “เธอสวยทั้งตัว ไม่มีอะไรต้องอาย” แล้วเขาก็ระดมจูบฉันตั้งแต่ปลายคาง เนินอก แวะงับยอดอกดูดดุนแรงจนฉันสะท้าน ก่อนเขาจะยอมลากปากลงไปตามร่องกลางอก ผ่านสะดือเล็ก เนินอวบที่ไร้พงขน ลากผ่านกลีบอวบที่ปิดสนิท ดุนดันปลายลิ้นสลับปัดเลียราวกับจะยืนยันให้ฉันรู้ว่า ฉันสวยและน่าเสน่หาสำหรับเขามากแค่ไหน ทำเอาฉันหวามวาบไปทั้งหัวใจ เผลอกำมือแน่น เสียงไพนต์สูดหายใจแรง ฉันฮึกเหิม ขยับมือรูดสาวแก่นกายกำยำยาวเบาๆ “อืม...” ไพนต์ครางพร่า ดันต้นขาฉันออกห่าง ความเย็นวาบจากปลายลิ้นตวัดกลางความเป็นหญิง ฉันสะดุ้ง ผงกหน้าขึ้น ตะปบมือขยุ้มกลุ่มผมนุ่มเต็มแรง ไพนต์เหลือบสายตาขึ้นมองฉัน หากปลายลิ้นนั้นปาดไล้กลางกายที่ชุ่มชื้น อึดใจสั้นๆ เขาก็ซุกหน้าลงหาแนบชิด จูบเคล้าเล้าเลียด้วยลีลาชั้นเชิงชาย ฉันต้องทิ้งกายลง แหงนหน้าครวญครางกับความทรมานบาดลึกอารมณ์อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความเขินอายทั้งหลายแหล่ถูกสะบัดทิ้งไปหมด เหลือไว้เพียงความเสียวกระสัน ฉันแยกขาออกห่างมากขึ้น เปิดเปลือยความสาวให้เขาเชยชิมทุกตารางนิ้ว แม้รู้แก่ใจว่า สิ่งที่เขากำลังทำ มันเป็นเพียงอารมณ์อยากประชดประชันผู้หญิงอีกคน ฉันยอม... เพราะฉันแอบรักไพนต์ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มองเขามากกว่าเพื่อน ฉันตอบไม่ได้ เรียนด้วยกัน เจอกันทุกวัน คลุกคลีสนิทสนมกันมาหลายปี ความเป็นเขาประทับในหัวใจฉันจนเกิดเป็นความรู้สึกลึกซึ้ง แต่ไพนต์ไม่เคยมองฉันมากกว่าเพื่อน ฉันจึงได้แต่เก็บงำความรู้สึกไว้มิดชิด กระทั่งวันนี้ “อื๊อ ไพนต์...” ที่สุด ฉันกระตุกสะท้านเมื่อทะยานสู่จุดหฤหรรษ์จนร่างกายแอ่นหยัดสะบัดสั่น ไพนต์กลับสอดมือเข้าใต้สะโพก เกร็งยกไว้ อีกมือดันต้นขาให้ยกแยกแหกกว้าง ระดมลำลิ้นบดตะโบมเข้าใส่ติ่งไตตูมเสียวเร่งรัว ความเสียวซ่านถูกกระชากให้พวยพุ่งฉับพลัน ฉันปล่อยแกนกายเขา ตะปบมือขยุ้มที่นอนแน่น แอ่นเกร็งหน้าขา ปลายเท้าข้างหนึ่งจิกที่นอน รับรู้ถึงความชุ่มเปียกที่หลั่งไหลออกมาจากกลางกายกับเสียงเสียดสีเปียกแฉะ อารมณ์ถูกกระตุ้นรุนแรงจนเกินต้าน ฉันพยายามส่ายสะโพกหนี ไพนต์ยึดตรึงเอาไว้ กระหน่ำปากลิ้นเข้าใส่หนักหน่วง บดบี้ ฉกเลีย เมื่อฉันพยายามปรือตาฝ่าความเสียดกระสันขึ้นมองก็เห็นเขากำลังจ้องหน้าฉันอยู่ คล้ายว่าจ้องมองแบบนั้นมาตลอด พอคิดอย่างนั้น ร่างกายฉันไหวสะท้าน ไพนต์อ้าปากงับเกสรดอกรักรวบดูดหนักหน่วง ส่งให้ฉันแตกพร่างจนตาพร่ามัวอย่างรุนแรง ตอนนี้เอง ไพนต์ดึงหมอนเข้ามารองใต้สะโพกฉัน เขาจูบโคนขา ฉันเสียววาบที่หัวใจ ตัวเขาแทรกเข้ามากลางหว่างขา ตวัดขาข้างหนึ่งของฉันพาดบ่ากว้าง ตาเราสบกัน ไม่มีคำพูดใดอีก ขณะฉันยังหอบกระเส่า เขาโน้มตัวไปดึงลิ้นชักตู้เล็กข้างเตียง หยิบซองฟอยด์ออกมากัดฉีก สวมพลาสติกบางใสกับความแข็งกร้าว จับประคองมันเข้าเสียดสีกลางความอ่อนไหว “เธอสวยมากเลยผิง...” ดวงตาของไพนต์หม่นมัวเสน่หา เขาจับจ้องจุดที่กำลังเสียดสีอย่างหลงใหล อึดใจสั้นๆ ก็กดความแข็งกร้าวเข้ามาช้าๆ ฉันถึงกับเกร็งไปทั้งตัว รับรู้ถึงอณูเนื้อที่ค่อยๆ แทรกเข้ามาในกาย ฉันคลี่ขยาย แน่นตึง ต้องเม้มปากแน่น สองมือขยุ้มมุมหมอนจนกำเกร็ง ครั้นเขากระทั้นเข้าหา ฉันสะดุ้ง เผลอร้อง “โอ๊ะ!” ไพนต์สูดปาก พ่นลมหายใจหนัก นิ่วหน้า หยุดชะงัก โน้มตัวลงมาจูบปากฉันคลอเคลีย “เจ็บเหรอ” “อือ...” “ทำไม” “นายใหญ่มั้ง” เขาชวนฉันต่อปากต่อคำอยู่หรือไงนะ ฉันอดค่อนขอดในใจไม่ได้ แต่รู้สึกว่าตลอดเวลานั้น ไพนต์ขยับเข้าหาเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบและไม่บุ่มบ่ามเอาความ “เจอแต่เล็กๆ มารึไง” พูดจบก็กระทั้นเอวอีกครั้ง ฉันสะดุ้ง ทุบแขนเขาไปทีหนึ่ง โทษฐานทำฉันเจ็บแสบจนหูอื้อ ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังแสร้งปากดี “พูดมาก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม