“โทรหากูแต่เช้า มึงมีอะไรไอ้โรม” น้ำเสียงที่ดูหงุดหงิดของภูผาตอบกลับปลายสายที่นิ่งไม่ยอมพูดอะไรออก สร้างความหงุดหงิดให้กับคนปลายสายจนต้องเป็นฝ่ายทักท้วงโรมอีกครั้ง
“ฝากบอกเมียมึง ลาให้จันทร์เจ้าด้วย”
“ไอ้โรม มึงทำอะไรน้องเขาวะ” น้ำเสียงร้อนรนของภูผาเอ่ยถามเพื่อนรัก เพราะเหตุการณ์เมื่อวานที่ภูผาเห็นโรมกระชากแขนเพื่อนรักของเมียตัวในรั้วมหาลัย
“.......” ไม่มีเสียงตอบรับจากโรม การกระทำที่ไม่อยากตอบของโรมทำให้ภูผาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างนึกปลงตก
“มึงก็ใจดีกับน้องเขาหน่อย เดี๋ยวกูบอกมีนาจดเลคเซอร์ให้” เมื่อได้รับคำตอบที่น่า พึงพอใจ ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรต่อ โรมกดตัดสายเพื่อนรักทิ้งทันที
ตาดุจ้องมองคนตัวเล็กที่นอนคลุมโปงอยู่บนเตียงผ่านประตูระเบียนคอนโด มือหนาคีบบุหรี่เอาไว้ในมืออย่างใจเย็นยากจะคาดเดาความคิดของเขา
จันทร์เจ้าถูกพิษไข้เล่นงานตั้งแต่เมื่อคืน ใบหน้าสวยซีดเผือด ร่างบางไม่ยอมขยับตัวลุกจากเตียงไปไหน จนทำให้โรมต้องโทรหาภูผา เพราะเมียของภูผาเป็นเพื่อนรักของจันทร์เจ้าและเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาตามภูผาไปรับเมีย ทำให้เขาเห็นผู้ชายวิ่งตามมาขอเบอร์จันทร์เจ้าจนรู้สึกอึดอัดใจ
ผู้หญิงใบหน้าใสซื่อแต่แฝงไปด้วยความโหดเหี้ยมภายในจิตใจ ทำไมถึงมีแต่ผู้ชายมาสนใจ ยิ่งตอนนี้เธอเข้าเรียนมหาลัย ยิ่งมาผู้ชายทักช่องทางออนไลน์เข้ามาหาไม่เว้นแต่ละวัน
“ทำไมเธอถึงทำแบบนี้วะ” น้ำเสียงที่ปนไปด้วยความเศร้าพึมพำออกมาเบา ๆ ตาดุยังคงจ้องคนตัวเล็กไม่วางตา ก่อนจะก้าวขาเดินเข้าไปภายในห้องนอนเงียบ ๆ เพื่อเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น
“เธอจะนอนอีกนานไหม” น้ำเสียงเรียบเฉยแกรมดุเอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่ไม่มีท่าทีว่าจะลุกจากที่นอน เมื่อจันทร์เจ้าได้ยินเสียงดุของโรม เธอค่อย ๆ ลืมตาอันหนักอึ้งที่กำลังร้อนผ่าวที่ถูกพิษไข้เล่นงาน
ตากลมโตปรับโฟกัสแสงสว่างช้า ๆ ลมหายใจที่ร้อนออกมาเหมือนเปลวไฟกำลังแผดเผาแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกจากเตียง
“ลุกขึ้น ทำความสะอาดที่นอนซะ!!” เมื่อพูดเสร็จโรมก็เดินออกจากห้องนอนไม่ได้แยแสคนตัวเล็กแต่อย่างใด จันทร์เจ้ายันตัวลุกขึ้นนั่ง ตากลมโตโฟกัสสภาพเตียงที่ยับยู่ยี่ เสื้อผ้ากระจัดกระจายเกลื่อนเต็มพื้น
ทำให้จันทร์เจ้าต้องรีบยันตัวลุกจากเตียง เพราะไม่อยากให้โรมกลับมาตะคอกเสียงใส่รอบสองซึ่งมันจะทำให้เขาโมโหและโกรธจนมาลงที่ร่างกายของเธอ
จันทร์เจ้าฝืนตัวเองเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายจนเสร็จและรีบออกมาทำความสะอาดห้องนอนตามที่โรมสั่ง แม้ว่าเขาจะไม่อยู่คอนโดในเวลานี้ก็ตาม
ครืด ครืด ครืด ระหว่างที่จันทร์เจ้ากำลังจัดเก็บห้องนอน เสียงเรียกเข้าจากมือถือเครื่องหรูของเธอก็ดังขึ้น ดวงตากลมโตจ้องสายที่โทรเข้ามาพักหนึ่งก่อนที่เธอจะตัดสินใจรับสาย
“ว่าไงมีนา”
“เจ้า แกไม่สบายเป็นอะไรมากรึเปล่า” น้ำเสียงร้อนรนของมีนาเอ่ยคำถามแทรกขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินคำถามของมีนาคิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปม ด้วยความสงสัย เหตุใดเพื่อนของเธอนั้นทราบได้ยังไงว่าเธอไม่สบาย
“เป็นหมอดูรึเปล่าเนี่ย”
“ฉันก็อยากเป็นอยู่หรอก อยากอ่านใจคนออก” รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าสวยของจันทร์เจ้า เมื่อได้ยินน้ำเสียงสดใสแกรมอารมณ์ขันของมีนา
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก พรุ่งนี้ก็ไปเรียนได้แล้ว”
“โอเค มีอะไรโทรหาฉันได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนะ”
“โอเค ขอบใจนะ” จันทร์เจ้ากดวางสายเพื่อนรักทันที ตากลมจ้องมองหน้าจอมือถือด้วยความสงสัยและก็ลืมถามมีนาไปสนิทแต่ก็คงมีไม่กี่เรื่องที่คนเราไม่สามารถไปเรียนได้
มีนาคือผู้หญิงที่โชคดีที่ได้แฟนดี รักและเอาใจใส่ ถึงแม้ว่าพี่ภูผาจะชอบฮาร์ดคอร์ใส่มีนาในบางครั้งก็ตาม แต่ทั้งคู่เป็นคู่ที่น่ารักจนเธอเองยังแอบอิจฉา และนึกย้อนไปในอดีตที่หวานชื่นของเธอและผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าใจร้ายอยู่ในตอนนี้
“จะยืนจ้องมือถืออีกนานไหม ไอ้หน้าโง่ที่ไหนมันหลงมารยาผู้หญิงอย่างเธออีกล่ะ” เสียงเข้มดึงขึ้นมาจากด้านหลังของจันทร์เจ้าที่กำลังยืนเหม่ออยู่จนคนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งโหยงจนมือถือแทบหลุดออกจากมือ
“.........” ไม่มีเสียงตอบกลับจากจันทร์เจ้า เธอเพียงแค่ถอนหายใจกับคำพูดร้ายกาจของโรมและกำลังจะเดินหนีเขาแต่ถือมือหนากระชากแขนเล็กเอาไว้ก่อน
“ทำไม ทนฟังไม่ได้เลยรึไง”
“พี่ช่วยเงียบเหมือนอยู่กับคนอื่นได้ไหม”
“หึ!!คนอื่นแม่ง!! ไม่ได้หน้าหงุดหงิดและน่ารังเกียจแบบเธอ”
“ถ้าฉันมันน่ารังเกียจมากนัก ให้ฉันกลับไปอยู่ที่ของฉันสิ จะให้ฉันอยู่รกหูรกตานายทำไม”
“เหอะ!!ผู้หญิงอย่างเธอไม่สมควรได้อยู่อย่างสงบสุข”
“ปล่อย!! โอ๊ย” ดวงตากลมโตเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เมื่อถูกคนตัวโตบีบแขนจนเป็นรอยนิ้วทั้งห้าของเขาและยิ่งได้ยินประโยคที่เขาพูดยิ่งเหมือนมีดกรีดลงกลางใจของเธอซ้ำ ๆ
“เธอมันน่ารังเกียจจันทร์เจ้า”