“ถ้าฉันมันน่ารังเกียจ ก็เซ็นใบหย่าสิไม่งั้นก็แยกย้าย พี่จะทนอยู่ไปเพื่ออะไร” เมื่อถูกกระทำอย่างต่อเนื่อง อารมณ์ที่เก็บกักมาทั้งหมดของจันทร์เจ้าเริ่มปะทุออกมา เธอทนให้โรมพูดจาดูถูกสารพัดมาโดยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาและเธอก็ทนมาตลอดเช่นกัน เธอได้แต่โทษตัวเองที่ที่เป็นต้นเหตุทำให้โรมโกรธเธอมากขนาดนี้
“ปล่อยให้เธอไปมีความสุขงั้นเหรอ”
“แล้วทำไมคนอย่างฉันจะมีความสุขบ้างไม่ได้รึไง”
“ก็เพราะว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่สมควรได้รับมัน เธอพรากความสุขไปจากฉัน” น้ำเสียงเย็นยะเยือกแฝงไปด้วยความเจ็บที่บาดลึกข้างในใจ ตาดุจ้องมองใบซีดเผือดของจันทร์เจ้าที่คลอไปด้วยน้ำตา
“ฉันไม่ได้ตั้งใจและฉันไม่รู้ ฉันผิดที่ดูแลเขาไม่ได้แต่พี่ก็ไม่ควรจะทรมานฉันด้วยวิธีนี่ไหม” เสียงสั่นของจันทร์เจ้าตอบกลับโรมอย่างน่าสงสาร ทั้งน้ำเสียงและแววตาแสดงออกถึงความเจ็บปวดแสนสาหัส
“ลูกเธอทั้งคน เธอยังฆ่าเขาได้ลงคอ”
“ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่คิดจะฆ่าลูกของตัวเอง ถึงฉันจะไม่พร้อมดูแลเขาแต่เขาก็ลูกฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันบอกพี่ไปหลายครั้งแล้ว” เสียงเบาหวิวพร่ำเพ้อออกมาเหมือนคนไร้สติ เมื่อได้ยินโรมพูดถึงลูกที่จากไปทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้า
จันทร์เจ้าเธอเริ่มแสดงออกถึงความกระวนกระวายออกมาอย่างเห็นได้ชัด มือบางเริ่มสั่นเทา ความรู้สึกเสียใจตีตื้นขึ้นมาภายในจิตใจ อาการเหม่อลอยของจันทร์เจ้าเหมือนดั่งคนบ้า
“เธอเป็นบ้าอะไรจันทร์เจ้า” มือหนาจับไหล่บางล็อกเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ชายหนุ่มเรียกสติหญิงสาวที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย แววตาดุวูบไหวไม่น้อยเมื่อเห็นอาการของคนตัวเล็ก
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่คิดเคยคิดจะทำร้ายลูก” น้ำเสียงพึมพำของหญิงสาวพูดออกมา แววตาว่างเปล่า ใบหน้าตื่นตระหนกตกใจ เหงื่อไหลออกกรอบหน้าสวย
“จันทร์เจ้า ตั้งสติ” เสียงทุ้มแฝงไปด้วยความร้อนรนเมื่อเห็นอาการของคนตัวเล็ก หญิงสาวเหมือนไม่ได้ยินเสียงเอ่ยถามของชายหนุ่ม เธอเดินไปยังมุมห้องนอนทรุดตัวลงอย่างคนหวาดกลัว
“ฉันไม่ได้ทำ แม่ขอโทษ”
“จันทร์เจ้า มีสติหน่อยสิวะ” น้ำเสียงที่ดูอ่อนลงของโรมเอ่ยพูดกับหญิงสาว ร่างสูงโปร่งค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้คนตัวเล็ก ๆ ที่นั่งทรุดอยู่มุมห้อง ใบหน้าเนียนสวยไหล่พรากไปด้วยน้ำตาน่องหน้า
“แม่ขอโทษ ขอโทษ กรี๊ด!!”
“จันทร์เจ้า” โรมเอ่ยชื่อของหญิงสาวที่กรีดร้องและหมดสติลงตรงหน้า เขารีบมุ่งตรงเข้าไปประคองหญิงสาวเข้ามาแนบอก ได้แต่เอ่ยเรียกชื่อของเธอ แขนแกร่งยกร่างบางขึ้นอุ้มเธอเดินออกจากห้องคอนโดรีบมุ่งตรงไปยังลานจอดรถเพื่อพาคนตัวเล็กไปโรงพยาบาล
จิตใจร้อนรุ่มเมื่อเห็นร่างบางไร้สติลงต่อหน้า ตาดุหันมามองหญิงสาวที่อยู่เบาะข้างเป็นระยะด้วยความเป็นห่วง รถยนต์คันหรูแล่นบนท้องถนนด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด บ่งบอกถึงความรีบร้อนของผู้ขับได้เป็นอย่างดี
โรมพาจันทร์เจ้ามาโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง รถยนต์คันหรูจอดสนิทหน้าอาคารฉุกเฉิน ไม่รอช้าร่างสูงโปร่งรีบเปิดประตูวิ่งลงจากรถ ชายหนุ่มวิ่งอ้อมรถไปยังฝั่งข้างคนขับพร้อมกับเอ่ยขอความช่วยเหลือจากบุรุษพยาบาล
“ช่วยเมียผมด้วยครับ” ชายหนุ่มอุ้มร่างบางแนบอกเป็นจังหวะเดียวกันกับบุรุษพยาบาลวิ่งมาพร้อมกับเตียงนอน จันทร์เจ้าหมดสติไปนานพอสมควรจนทำให้ชายหนุ่มเริ่มเป็นกังวล ร่างบางถูกอุ้มวางบนเตียงคนไข้ เธอถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็วโดยมีโรมวิ่งตามอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง
“ญาติรอด้านนอกนะคะ”
ร่างสูงทรุดตัวนั่งลงเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินอย่างคนไร้เรี่ยวแรง มือหนาทั้งสองข้างบีบกันแน่นจนแดงเถือกโดยไร้ความเจ็บ ตาดุหันไปมองประตูห้องฉุกเฉินเป็นระยะ แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายจนยากจะคาดเดา จนประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกมาจากด้านใน
“คุณหมอครับ เมียผมเป็นยังไงบ้าง” คุณหมอวัยกลางคนเดินเปิดประตูออกมา โรมไม่รอช้ารีบลุกขึ้นและเดินไปหาคุณหมอทันที
“ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ คนไข้มีอาการช็อกจากเหตุการณ์ที่ฝังใจและมีอาการเครียด ทำให้หมดสติไป” คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมเมื่อได้ยินสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวหมดสติ ซึ่งข้อนี้เขาไม่เคยสามารถมาก่อน
“เกิดจากอะไรครับ”
“เครียดสะสม กดดันและถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจครับ”
“ทำไมถึงเป็น”
“หมอเองก็ไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้ คนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงด้วยเรื่องใด ยังไงหมอจะส่งเธอไปพบจิตแพทย์ครับ” คุณหมออธิบายคร่าวๆ ถึงสาเหตุที่ทำให้จันทร์เจ้าหมดสติ ก่อนจะขอตัวเดินจากไป ทิ้งร่างสูงยืนนิ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยคำถามมากมาย
เธอมีเรื่องกระทบจิตใจงั้นเหรอ? คำถามนี้ยังคงวนเวียนในหัวของโรม ตาดุจ้องมองไปยังบานประตูห้องฉุกเฉินที่มีหญิงสาวอยู่ด้านใน
“คนเลือดเย็นอย่างเธอ มีอะไรที่สามารถทำร้ายจิตใจเธอได้ด้วยเหรอ” เสียงทุ้มพึมพำพูดกับตัวเองทั้งที่เขายังคงยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ภายในใจเริ่มสับสนเมื่อเห็นอาการของหญิงสาว
ถ้าหากเขาไม่ได้พาเธอมาโรงพยาบาล เขาก็คงคิดว่าเธอแสดงละครตบตาเพื่อทิ้งความผิดของตัวเอง เมื่อถูกเขาต่อว่ากับเรื่องเลวร้ายที่เธอทำกับเขาจนแทบกระอักเลือดจนส่งผลถึงสถานการณ์ให้ปัจจุบันระหว่างความสัมพันธ์ของเขาและเธอ
ภายในห้องพักผู้ป่วยที่เงียบสงัด ร่างบางนอนไร้สติอยู่บนเตียงผู้ป่วย หลังมือเล็กถูกตรึงด้วยสายน้ำเกลือ ใบหน้าสวยซีดเผือดไร้เลือดฝาดบนใบหน้า
ชายหนุ่มเดินเข้าหยุดอยู่ข้างเตียง ตาดุจ้องมองร่างเล็กที่นอนไร้สติด้วยร้อนรน ถึงแม้จะได้รับการยืนยันจากคุณหมอว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้วก็ตาม แต่ชายหนุ่มก็อดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ฟื้นขึ้นมาสักทีหรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่หมอฉีดให้เพื่อให้จันทร์เจ้าได้พักผ่อนเต็มที่
โรมไม่แม้แต่จะขยับตัวไปไหน เขายังคงนั่งเฝ้าจันทร์เจ้าข้างเตียงไม่ห่าง มือหนานั่งกุมมือบางของเธอขึ้นมาแนบแก้มของตัวเอง นึกย้อนไปถึงอดีตที่แสนหวานของเขาและเธอที่เคยมีให้กันในอดีตที่ผ่านมาด้วยความคิดที่ตีรวนในสมองอันชาญฉลาดของตัวเอง