วันถัดมา
ห้องทำงานสี่เหลี่ยมผนังกั้นเป็นกระจกมีพาทีชั่นกั้นไว้เป็นห้องๆอีกทีหนึ่ง ชั้นวางแฟ้มเรียงเป็นล็อก ๆตามรายชื่อพยัญชนะตัวอักษร ก-ฮ บนโต๊ะทำงานที่มีเอกสารกองพะเนินเทิกทึก ฉันชนิตกำลังจ้องเขม็งอยู่หน้าจอคอมบนโต๊ะทำงานมีเอกสารกองโตที่เธอต้องจัดการให้เสร็จสิ้น
ตึ่ง!
(วันนี้แต่งตัวสวยๆนะไปดินเนอร์กันครับที่รัก)
ข้อความจากแอพเขียวดังขึ้นที่หน้าจอมีข้อความถูกส่งมาจากคนที่เธอเรียกว่าคนรัก ฉันชนิตเปิดอ่านด้วยใบหน้าที่ยิ้นแป้นอารมณ์ดีขึ้นมากะทันหัน หลังจากที่เมื่อสักครู่กำลังเครียดอยู่กับงาน
'ค่ะ...ที่รัก'
เธอตอบกลับไปอย่างไว ไม่ได้รีรอหรือเล่นตัวแม้แต่นิด
"อะไรจ้ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน"
อัญญาเดินมาตามเธอจนถึงโต๊ะที่ทำงาน ฉันชนิตเงยหน้ายิ้มหวานใส่เพื่อนรัก
"ไม่มีอะไรสักหน่อยแค่อยากยิ้ม"
"หือ จ้า เชื่อแล้ว เก็บ ๆ เลยเมย์หิวแล้ว"
อัญญามองเพื่อนด้วยสายตาที่เอ็นดูเมื่อเห็นว่าฉันชนิตนั้นมีรอยยิ้มปรากฏอยู่ตลอดเวลา แสดงว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ทำให้เพื่อนเธอหมองหม่น หรืออาจจะเป็นตัวของอัญญาเองที่คิดมากเกินไป อัญญายักไหล่ไล่ความคิดอคติและความเป็นห่วงที่มีต่อเพื่อนสาวมากเกินไป
"วันนี้สวยจัง ชุดนี้ที่ไปซื้อมาด้วยกันใช่มั้ย ใส่ไม่บอกกันเลยนิตจะได้ใส่มาด้วย"
"แหม ๆ มันอยู่ที่ไม้แขวนปกติ ไม้แขวนดีใส่อะไรก็ดูดีไปหมดอยู่แล้ว ก็คนมันสวยอ่ะนะ"
ฉันชนิตอดที่จะขำขันอัญญาไม่ได้ที่ดูเจ้าหล่อนจะภูมิใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองเป็นพิเศษ ใช่ อัญญาสวยมาก สวยเด่นสมัยเรียนเธอเป็นถึงดาวมหาลัยจนฉันชนิตคิดว่าเพื่อนของเธอจะไปเป็นดาราซะแล้ว
แต่ไม่เลย อัญญากลับไม่ชอบที่จะเดินเส้นทางนั้น อัญญาตามเธอมาทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนด้วยกัน อีกอย่างแฟนของอัญญาก็ค่อนข้างจะหวงมากๆเลยไม่มีโอกาสได้ไปทางนั้น
สมัยเรียนอัญญามีหนุ่มๆมาขายขนมจีบไม่หวาดไม่ไหว ต่างกับฉันชนิตที่แทบจะเป็นจุดด้อยไปเลยเมื่ออยู่ใกล้กับอัญญาไม่ใช่ว่าเธอไม่สวยแต่เธอกับอัญญานั้นสวยคนล่ะแบบ
อัญญาผิวขาวผ่องเพราะเป็นคนมีเชื้อสายจีน เธอดูขาวหมวยเซ็กซี่แบบพิมพ์นิยมคนเอเชีย ส่วนฉันชนิตนั้นรูปร่างทรวดทรงองค์เอวของเธอไม่ต่างกับอัญญาเลยแต่ฉันชนิตกลับมีผิวสีน้ำผึ้งหน้าสวยคม
ซึ่งคงจะได้รับความนิยมแบบสาวอินเตอร์เนชั่นแนลมากกว่าไทยแลนด์ ถ้าไปยืนเทียบกันที่ฝั่งประเทศตะวันตกคงจะกลับกันฉันชนิตเองที่ดูโด่ดเด่นกว่าอัญญามากนัก
ต่างกับในประเทศไทยพอยืนเทียบกันแล้วผู้ชายจะมุ่งตรงไปที่อัญญามากกว่า ซึ่งฉันชนิตก็ชอบให้เป็นแบบนั้น เพราะเธอรู้สึกรำคาญพวกผู้ชายเหล่านั้นมากมาย ชีวิตส่วนตัวของอัญญาแทบจะไม่เป็นส่วนตัว จนเธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนจึงทำให้พวกผู้ชายเหล่านั้นค่อยๆห่างหายกันไปทีละคนสองคน
ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
"วันนี้พานิตมาร้านเปิดใหม่เลยนะ"
ฉันชนิตกวาดสายตาไปรอบๆร้านอาหารที่ให้บรรยากาศเป็นสไตล์มินิมอล เน้นสีขาวประดับด้วยต้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ก็ทำจากงานไม้ทั้งหมดแต่คงสภาพกลิ่นอายของญี่ปุ่นเต็มๆ
"จะถ่ายรูปกับชุดใหม่ใช่มั้ยล่ะ?"
"รู้ทันอีกแล้วนะ เฮ้อ ไม่สนุกเลย"
อัญญาทำหน้าเซ็ง ๆที่เพื่อนรู้ทัน แต่ฉันชนิตกลับขำมากกว่า
"เอ๊ะ!นั้นคุณเขมจิรานี่นา"
"ใครน่ะ?"
"คุณเขมจิรานางเอกดัง บอกไปนิตก็ไม่รู้หรอกเพราะนิดไม่ดูละคร แต่เอ๊ะนางมาคนเดียวซะด้วยอ่ะอยากถ่ายรูปจัง สวยมากๆ"
"อย่าเข้าไปเลย เค้าอาจจะกำลังกินข้าวอยู่"
ฉันชนิตเตือน เพราะเธอเคยเห็นในข่าวดาราบางคนไม่ชอบให้ถ่ายรูปเวลาที่กำลังนั่งกินข้าว ซึ่งฉันชนิตคิดว่ามันเป็นอะไรที่เสียมารยาทและคุกคามเวลาส่วนตัวของดารามากเหมือนกัน
"เออ จริงด้วย"
ฉันชนิตยิ้มให้อัญญาและพยักเพยิดให้อัญญาสนใจกับอาหารตรงหน้าเพราะดูท่ามันจะเย็นและจืดชืดหมดแล้ว แต่อัญญาก็ยังคงสนใจอยู่กับโต๊ะข้างๆที่มีดาราสาวแสนสวยนั่งอยู่มากกว่า
"เมย์ กินข้าว!"
"แฮ่ ๆ ลืมตัว "
อัญญายิ้มแห้งๆเมื่อโดนเอ็ด
30 นาทีผ่านไป
"นิต ๆ ๆ!"
"อะไร?"
"นั่นใช่แฟนแกรึเปล่าที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับคุณเข็มน่ะ"
ฉันชนิตรีบหันขวับไปตรงโต๊ะนั้นทันที ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งที่เพียงแค่มองจากข้างหลังเธอก็จำได้ว่าเป็นใคร
"ใช่ เป็นเค้า"
"เค้ารู้จักกันเหรอ เข้าไปทักมั้ย?"
อัญญาสะกิดถามฉันชนิตเพราะดูจากท่าทางทั้งคู่ดูสนิทสนมกันไม่เบา
"จะดีเหรอเมย์"
ฉันชนิตลังเลที่จะเข้าไปทัก แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะทักทายผู้เป็นคนรัก แต่คิดไปคิดมาถ้าเขาโกรธขึ้นมาล่ะ
"ไม่ดีกว่า เรากลับกันเถอะ"
"แต่เอะ คุณธันว์มองมาที่แกอ่ะ แต่ทำไมไม่ลุกมาทักทาย"
ฉันชนิตหันไปอีกที เขามองมาจริงๆด้วยแต่ไม่พูดอะไรทำราวกับว่าไม่รู้จักเธอ
"เรากลับกันดีกว่า เค้าอาจจะคุยเรื่องส่วนตัวกันก็ได้ ไปเถอะ"
เมื่อคิดเงินค่าอาหารกันเสร็จแล้ว ฉันชนิตก็รีบดึงเพื่อนของเธอให้ลุกขึ้นเดินตามเธอมา เพราะดูเหมือนว่าอัญญาจะพาเธอเข้าไปแสดงตัวกับธันว์เสียให้ได้
"นิต ทำไมไม่เข้าไป ถ้าเกิดเค้าคบกันอยู่ล่ะ "
"เขาอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้มั้ง ช่างเถอะ"
"แกโอเคใช่มั้ย?"
อัญญาสังเกตุได้ว่าหน้าตาของฉันชนิตที่ดูสดใสเมื่อสักครู่นั้นแปรเปลี่ยนเป็นความกังวล
"โอเค"
"คอยดูนะ ถ้าคุณธันว์อะไรนี่มาหลอกนิตนะ เราจะเอาเลือดหัวออกให้ได้เลย"
"อิอิ ดูน่ากลัวจัง ถ้าเค้ามาหลอกนิตจริงๆ ก็อย่าโทษเค้าเลย นิตเองต่างหากที่ใจง่าย"
มาถึงตอนนี้ฉันชนิตอดที่จะคิดมากไม่ได้เพราะว่าเมื่อสักครู่ ธันว์ทำเหมือนกับว่าไม่ได้รู้จักเธอจริงๆ แถมยังมีสีหน้าและสายตาที่ดูเย็นชาเรียบเฉย ราวกับว่าเป็นคนล่ะคนกันกับเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนเพียงลำพัง
บริษัทของธันว์
"แดนเข้ามาหาผมในห้องหน่อย"
ธันว์เรียกคุณแดนดินผู้ช่วยของเขาเข้ามาพบในห้อง หลังจากที่คิดและตัดสินใจบางอย่างได้ ภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา
"เข้ามาครับ"
สิ้นเสียงอนุญาตร่างของสูงโปร่งของแดนดินก็เปิดประตูเข้ามาในห้องทันที
"มีอะไรจะให้ผมทำเหรอครับบอส"
"เอาเช็คหนึ่งล้านบาทไปให้ฉันชนิตพรุ่งนี้"
"ถึงเวลาของเธอแล้วเหรอครับ?"
แดนดินอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
"อย่าถามมากเลย ออกไปได้แล้ว"
"ครับ "
แดนดินหยิบซองสีน้ำตาลขึ้นมาแล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที อดรู้สึกสงสารฉันชนิตไม่ได้เพราะจากที่เขาพบเจอกับเธอมาหลายครั้ง เนื่องจากต้องเอาของขวัญจากเจ้านายไปส่งให้เธอบ่อยๆ ฉันชนิตเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีเป็นกันเองและน่ารักมากๆ ไม่สมควรที่จะโดนทิ้งกว้างเลยแม้แต่นิด