ฉันชนิตกลับมาทำงานถึงแม้ว่าเธอจะพยายามสักเท่าไหร่ที่จะสนใจอยู่กับหน้าจอคอมตรงหน้าก็ตาม แต่ในสมองของเธอก็คิดซ้ำๆอยู่แต่เรื่องเดิมๆ สายตาเจ้ากรรมก็ปรายตาไปมองแต่หน้าจอโทรศัพท์ซึ่งไม่มีแม้แต่เสียงแจ้งเตือนหรือข้อความขยะจากการโฆษณาเข้ามาแม้แต่นิด
ตึ่ง!
เสียงดังแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือ
(แดนดิน)
"คุณแดนดิน...มีอะไรกัน"ฉันชนิตพูดออกมาอย่างสงสัยและแปลกใจ เพราะปกติคุณแดนดินจะไม่ติดต่อเธอมาทางแอพพลิเคชั่นนอกจากจะโทรเข้าเบอร์มือถือเท่านั้น
(คุณนิตครับตอนเย็นเจอกันที่ร้านกาแฟข้างๆหอพักคุณนิตนะครับผมมีเรื่องจะคุยด้วย)
"แต่นิดมีนัดกับคุณธันว์นี่คะ"
(บอสยกเลิกนัดครับ พอดีมีประชุม)
"อ๋อ อย่างนั้นก็..เจอกันนะคะ"
ฉันชนิตวางโทรศัพท์มือถือลงด้วยมือสั่นเทา รู้สึกสงสัยทำไมเขาไม่โทรมาบอกเธอเอง ทำไมต้องผ่านผู้ช่วยของเขาด้วย
'อาจจะยุ่งก็ได้มั้ง'
อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติมากมาย ตลอดระยะเวลาเกือบสี่เดือนมานี้เธอไม่เคยมั่นใจกับความสัมพันธ์นี้เลย แม้เขาบอกว่าจะแต่งงานกับเธอ พูดให้ความหวังเธอมากมายเพราะสิ่งที่เขาพูดออกมาทั้งหมด เขาพูดตอนที่มีอะไรกันเท่านั้น
เมื่อเขามีสติ เขาไม่เคยพูดจริงจังกับเธอสักครั้ง และไม่บอกใครว่าคบกับเธออยู่ มีแต่เธอที่ไม่เคยปิดบังเพื่อนๆว่ากำลังคบกับเขา
18:00 น. ณ.ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
ฉันชนิตเดินเข้าไปข้างใน เธอเห็นคุณแดนดินรอเธออยู่ก่อนแล้ว สายตาที่เขามองมาที่เธอมีแววเศร้าแปลกๆ
"นั่งก่อนสิครับ ผมสั่งเครื่องดื่มมาให้คุณแล้ว"
ฉันชนิตหันไปมองกาแฟเย็นอเมริกาโน่ใส่เลมอนที่เธอชอบกิน ก็แอบสงสัยว่าแดนดินทราบได้อย่างไรว่าเธอชอบกินกาแฟรสชาดแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าถาม
"มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
"บอสฝากเอาเช็คหนึ่งล้านบาทมาให้คุณครับ"
แดนดินยื่นซองมาให้เธอ ฉันชนิตรีบแกะซองออกเห็นเช็คหนึ่งล้านบาทจริงๆตามที่แดนดินบอก
"เขาให้นิตทำไมคะ?"
"ให้เป็นการตอบแทนที่คุณนิตเคยทำให้บอสมีความสุขในช่วงเวลาหนึ่งครับ"
"มะ หมาย ความว่าอย่างไรคะ?"
มาถึงตอนนี้สิ่งที่ฉันชนิตคิดเอาไว้ก็เริ่มที่จะกระจ่างชัดมากขึ้น
"บอสกำลังจะแต่งงานเดือนหน้าครับ บอสจำเป็นต้องเลิกกับคุณ"
สิ้นเสียงคำกล่าวอธิบายความกระจ่าง หยดน้ำตาที่เอ่อล้นก็ไหลลงมาอาบแก้มของเธอทันทีอย่างไม่อาจสะกดกลั้น
"แปลว่าทั้งหมดที่ผ่านมา เขาเห็นนิต..เป็นผู้หญิงขายบริการให้เขาหรือคะ"
เสียงสั่นพร่าพยายามฝืนเอ่ยออกมา มือเรียวค่อยๆปาดน้ำตาออกไป แดนดินมองภาพนั้นด้วยความสะเทือนใจเขารู้สึกสงสารเธอจับใจ
"คุณนิตครับ..."
แดนดินยื่นทิชชูให้เธอ แต่ว่า
"ฝากบอกเขาด้วยนะคะ เช็คหนึ่งล้านบาทของเขานิตไม่รับค่ะ และไม่ต้องห่วงนิตจะไม่ไปตอแยเขาแน่นอนไม่ต้องเอาเงินมาฟาด"
พูดเสร็จเธอก็ลุกผละออกไปทันที ฟ้าข้างนอกมืดครึ้มขึ้นมาทันทีดั่งกับใจของเธอที่กำลังจะแตกสลายในตอนนี้ ฉันชนิตเปิดประตูออกมาจากร้าน ที่มีคุณแดนดินยืนมองเธออยู่จากข้างในร้านด้วยใจที่สั่นๆ อยากเข้าไปปลอบเธอมากกว่านี้แต่สถานะของเขาไม่สมควร
ฉันชนิตเดินอยู่ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา ตอนนี้ความมืดมิดก็เข้ามาปกคลุมเช่นกัน สายฝนที่เทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสายราวกับว่ากำลังร้องไห้เป็นเพื่อนเธอ ฉันชนิตร้องไห้ออกมาเสียงดังโดยไม่สนใจว่าจะมีคนเห็นน้ำตาหรือว่าจะเปียกปอนหรือไม่
ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสราวกับว่าเธอกำลังโดนเข็มพุ่งเข้ามาทิ่มแทงเป็นหมื่นๆเล่ม เจ็บปวดเหลือเกิน เสียใจเหลือเกิน ทุกข์ใจ ผิดหวังพังทลายไปหมดในทุกๆเรื่อง
"ทำไม? ทำไมกันเพราะอะไร?"
หญิงสาวทรุดนั่งลงริมฟุตบาท สายฝนยังคงเทลงมาอย่างหนักหน่วง เธอรู้สึกหนาวเหน็บสะท้านไปทั้งกายใจพร้อมๆกับน้ำตาที่มันยังคงไม่แห้งเหือดไปไหน
"คุณนิต!"
ร่างสูงของแดนดินเดินตามเธอมาพร้อมกับร่มคันใหญ่
"ทำไมคะ? ทำไมคะ? คุณแดนทำไมเขาตอบแทนความรักของนิตแบบนี้ ฮือ ๆ" เสียงสะอื้นยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่องมองดูแล้วน่าเวทนานัก
"ไปเถอะครับ ผมจะพาคุณไปส่ง"
แดนดินประคองร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนขึ้นมา แต่ทว่า....ฉันชนิตกลับเป็นลมหมดสติไปต่อหน้าต่อตาของเขา
"คุณนิต!"
แดนดินโยนร่มทิ้งไป เขาอุ้มร่างบางขึ้นมาแล้วพาไปขึ้นรถของเขาที่จอดอยู่ข้างทางอย่างตกใจ ร้อนรนใจ เป็นห่วงให้วุ่นวายไปหมด
"อย่าเป็นอะไรนะครับ ผมจะพาคุณไปหาหมอเดี๋ยวนี้!"
แดนดินรีบเหยียบพาหญิงสาวไปโรงพยาบาลทันทีอย่างไม่สนใจว่าฝนจะเทกระหน่ำมาหนักสักแค่ไหน เพราะเขาเป็นห่วงร่างที่ไร้สติของคนข้างๆมากกว่า ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมต้องเป็นห่วงเธอขนาดนี้ด้วย
โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
เอี๊ยดดด!
แดนดินเบรครถเสียงดัง เขารีบเปิดประตูรถอุ้มร่างเพรียวของฉันชนิตออกมา
"ช่วยหน่อยครับ!"
แดนดินตะโกนบอกเจ้าหน้าที่หน้าห้องฉุกเฉิน ทุกคนต่างกรูกันเข้ามาทั้งเตียงผู้ป่วยทั้งเจ้าหน้าที่พยาบาล แดนดินยังคงไม่ทิ้งฉันชนิตไป เขารีบวิ่งตามเข้าไปอย่างไม่ลังเลและรีรออะไร
ในใจยังรู้สึกโกรธและเจ็บใจผู้เป็นเจ้านายของตัวเองที่ทำลายผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งให้เจ็บปวดใจ
"คนไม่มีหัวใจ!"
แดนดินสบถออกมาเขากำหมัดแน่น แล้วทรุดนั่งลงบนเก้าอี้รอหน้าห้องฉุกเฉิน หายใจหอบถี่ ๆ
น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัวด้วยความสงสารลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่สมควรมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้เลย เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเปียกปอนจนเห็นกล้ามเนื้อแน่นเพราะตากฝนตอนที่ช่วยฉันชนิตเอาไว้ตอนเป็นลม เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ แต่เขาแค่เจ็บปวดใจแทนผู้หญิงคนที่อยู่ในห้องฉุกเฉินมากๆ เป็นห่วงมากแค่นั้นเอง
ตี๊ด~
สายของคนที่แดนดินกำลังโกรธโทรเข้ามา
"ครับบอส"
(เป็นยังไงบ้าง?)
"เธอไม่รับเช็คครับและตอนนี้กำลังอยู่โรงพยาบาล"
(อืม..งั้นก็ฝากนายดูแลด้วยล่ะกัน ลองเพิ่มจำนวนเงินให้เธอดู ล้านนึงอาจจะน้อยเกิน)
แดนดินไม่ตอบอะไรผู้เป็นเจ้านายเขาตัดสายทิ้งกะทันหันเพราะไม่อยากฟังสิ่งที่ผู้เป็นนายพูด ใจของเขาตอนนี้รู้สึกขยะแขยงมาก
"คงได้เวลาแล้วสินะ"
แดนดินนั่งพิงพนังอย่างหมดแรง เขาตัดสินใจอะไรบางอย่างได้อย่างทันท่วงทีเพราะต่อไปนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้วกับเรื่องของ ธันว์
แดนดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกดโทรออกไป
"อะโหลคุณย่าเหรอครับ ผมกลับมาแล้ว พรุ่งนี้เจอกันครับ"