ตอนที่5

1415 คำ
"ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ หมอพยายามช่วยอย่างถึงที่สุดแล้ว..แต่ช่วยเด็กในท้องไว้ไม่ได้ครับ" คุณหมอเจ้าของไข้บอกกล่าวแดนดินด้วยน้ำเสียงช้าเนิบ ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นของคุณหมอฉายแววความเห็นใจอยู่เต็มเปี่ยม แต่ก็ใช่ว่าจะเจอเคสแบบนี้เป็นรายแรก คุณหมอย่อมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกวันในโรงพยาบาลแห่งนี้ ทำได้เพียงให้กำลังใจคนไข้และรักษาไปตามหน้าที่ที่หมอคนหนึ่งจะช่วยได้เพียงเท่านั้น "ท้อง!" แดนดินชะงัก อึ้งกับสิ่งที่ได้ยินจากปากคุณหมอในขณะที่ฉันชนิตยังคงนอนหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย ใบหน้าของเธอซีดเซียวมองดูแล้วยิ่งน่าเวทนาสงสารเข้าไปอีก เขาเป็นคนมีเลือดเนื้อหัวใจยังรู้สึกเจ็บปวดแทนขนาดนี้ ทำไมคนที่ใจร้ายทำกับเธอได้ลงคอ เขาอยากรู้นักว่ายังมีหัวใจอยู่มั้ย? "ครับ คนไข้เหมือนจะมีอาการอ่อนเพลียอยู่แล้วก่อนหน้านั้น ตอนนี้หมออยากให้เธอได้พักผ่อนเพื่อพักฟื้นร่างกายก่อนนะครับ ที่เหลือก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ" "ครับ" หมอพูดเสร็จก็เดินออกไป แดนดินลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆฉันชนิตที่ยังคงหลับสนิท ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมารับรู้เรื่องราวเหล่านี้เธอจะรู้สึกอย่างไร เขาอยากจะปลอบโยนเธอมากกว่านี้ แต่ เขาเป็นเพียงแค่คนที่รู้จักที่ไม่เป็นแม้แต่เพื่อนของเธอ คงไม่สามารถจะช่วยเหลืออะไรได้มาก ทำได้เพียงแค่รู้สึกสงสารในฐานะมนุษย์ด้วยกันก็เพียงพอแล้ว แดนดินยังคงนั่งเฝ้าเธออยู่เพราะเขารู้ดีว่าฉันชนิตนั้นไม่มีใครเลย รุ่งอรุณของวันใหม่ "คุณแดน" เสียงแหบพร่าของฉันชนิตเรียกชายหนุ่มที่นั่งหลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมา แดนดินยิ้มอย่างดีใจที่เธอตื่นขึ้นมามีใบหน้าที่สดใสจากเมื่อวานมาก "คุณนิตตื่นแล้วเหรอครับ?" "นิตเป็นอะไรไปคะ แล้วมาอยู่โรงพยาบาลได้อย่างไร?" ถามพรางกวาดสายตาไปรอบๆอย่างสับสนเพราะจำเหตุการณ์ของเมื่อวานได้ไม่หมด "คุณนิตเป็นลมไปครับ แล้วก็.." แดนดินลำบากใจที่จะเอ่ยออกมา แต่อย่างไรเสียก็ต้องบอกเธออยู่ดี "อะไรอีกคะ?" "คุณนิตแท้งลูก!" "ห้ะ! นิตแท้ง...." หญิงสาวตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ มือสั่นพร่าของเธอลูบท้องของตัวเองเบาๆ ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ เพียงแต่เธอตั้งใจจะบอกกับธันว์วันที่ได้พบเจอกับเขา แต่ว่า ตอนนี้ไม่ทันแล้วแต่ถึงจะทัน คนอย่างธันว์ก็คงไม่เอาอนาคตมาแลกกับเด็กคนนี้อย่างแน่นอน น้ำตาแห่งความเจ็บปวดทรมานก็เริ่มไหลหลั่งรินลงมาอีกครั้งอย่างห้ามไว้ไม่ได้ ฉันชนิตรู้ดีว่าที่ผ่านมาเธอโง่ ปิดหูปิดตาไม่ฟังใคร ตาบอดจนมองไม่เห็นความเป็นจริง "จะให้ผมบอกบอสให้มั้ยครับ?" "อย่าเลยค่ะ ระหว่างนิตกับเขาไม่มีอะไรที่ต้องพูดคุยกันอีกแล้ว บทเรียนครั้งนี้ที่นิตได้รับมันสาหัสเหลือเกินค่ะคุณแดน คุณกลับไปเถอะค่ะ นิตขอบคุณสำหรับทุกอย่างนิตอยากอยู่คนเดียวค่ะ" ฉันชนิตบอกเขาด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา แดนดินอยากจะซับน้ำตาให้เธอนักแต่ไม่กล้าจะทำถึงขนาดนั้น "ถ้าอย่างนั้นคุณนิตมีอะไร ก็รีบโทรหาผมทันทีเลยนะครับ" แดนดินอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ แต่ทว่า ดูเหมือนฉันชนิตอยากจะอยู่คนเดียวมากกว่า อีกอย่างเขามีเรื่องที่จะต้องทำในวันนี้ด้วย เลยต้องกลับไปอยู่ดี "ขอบคุณมากๆนะคะ" ฉันชนิตพยักหน้าให้เขาอย่างขอบคุณมากจริงๆ แดนดินเปิดประตูออกมาจากห้องพักฟื้นคนไข้ด้วยความรู้สึกมากมายที่เขาก็ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกสะเทือนใจปวดใจแทนเธอมากขนาดนี้ บริษัทของธันว์ "เรื่องเมื่อวานเป็นอย่างไรบ้าง?" ทันทีที่เจอกับแดนดินธันว์ก็อดที่จะถามถึงเรื่องเมื่อวานไม่ได้ "ยังแอดมิทอยู่โรงพยาบาลครับ บอสไม่ไปเจอเธอหน่อยเหรอครับ?" แดนดินมองหน้าธันว์นิ่ง ภายในใจของเขาอยากจะต่อยคนตรงหน้าให้ลงไปกองอยู่กับพื้นสักหมัดสองหมัด แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเขา ถ้าเขาทำอะไรแบบไม่คิดลงไปก็จะเกิดปัญหาตามมาทีหลังมากมาย ซึ่งตอนนี้แดนดินไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้อีกแล้ว "ไม่ล่ะ ไปก็ยืดยื้อไม่จบสิ้นสักที ให้มันจบแบบนี้ดีแล้ว" แดนดินไม่ได้บอกว่าฉันชนิตแท้งลูกอีกอย่างดูๆแล้วธันว์นั้นดูจะเลือดเย็นมาก ไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงเป็นใยฉันชนิตเลยแม้แต่นิด แดนดินเลยตัดสินใจไม่พูดเรื่องนั้น พร้อมกับยื่นซองสีขาวให้ธันว์ "คืออะไร?" ธันว์ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ "ใบลาออกครับ" "นายจะลาออก ลาออกไปไหน?" "กลับบ้านครับ" แดนดินตอบสั้นๆไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย ใจจริงเขาไม่อยากจะออกตอนนี้เพราะมันยังไม่ถึงกำหนด แต่เขาทนอยู่กับธันว์ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว "บ้านนอกน่ะเหรอ จะไปทำอะไรกิน อยู่ที่นี่เงินเดือนนายก็เยอะอยู่แล้ว อีกอย่างนายเป็นลูกน้องที่ทำงานได้ดีมากคนหนึ่ง " "ผมต้องไปดูแลคุณย่าครับ ชีวิตผมมีแค่คุณย่าคนเดียว" ธันว์ถอดถอนหายใจออกมาอย่างคิดใคร่ครวญ เขาตบบ่าแดนดินเบาๆ อย่างตัดสินใจ "เอาเถอะ!ไม่ห้ามนายแล้ว" "ขอบคุณครับบอส" เมื่อไม่มีอะไรพูดต่อ แดนดินก็เดินออกไปจากห้องทำงานของธันว์เพื่อไปเก็บของส่วนตัวในห้องทำงาน เขาทำงานที่นี่มาประมานสองปีกว่าแล้วหลังจากที่กลับมาจากอเมริกาโดยที่ไม่ได้บอกให้คนที่บ้านรู้ว่าเขากลับมาเมืองไทยนานแล้ว โรงพยาบาล พลั่ก! "นิต เป็นยังไงบ้าง?" อัญญาเปิดประตูเข้ามาโผเข้าหาเพื่อนสาวที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยทันทีด้วยความเป็นห่วงและกังวลมากมาย หลังจากที่รู้ว่าเพื่อนอยู่โรงพยาบาลหญิงสาวก็รีบมาทันทีอย่างไม่ได้รอที่จะลางานก่อน "ไม่เป็นอะไรมาก แค่เป็นไข้" ฉันชนิตพยายามฝืนยิ้มทำหน้าให้เป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้อัญญาเป็นห่วงเธอมาก "ทำไมไม่บอก เมื่อคืนจะได้มาเฝ้า" "เกรงใจ" "เกรงใจเรื่องอะไรเราเพื่อนกันนะนิต" "งั้นไม่เกรงใจก็ได้" "ต้องให้ได้แบบนี้สิ แล้วเรื่อง.." "เรื่องอะไร?" "เมย์ว่านิตก็คงทราบแล้วแหละใช่มั้ย?" ความจริงอัญญาไม่อยากจะพูดเท่าไหร่ แต่ เรื่องนี้ฉันชนิตต้องรับรู้ไม่ว่าอย่างไรซะ เธอก็ไม่ยอมให้ผู้ชายคนนั้นมาทำลายชีวิตของเพื่อนเธอได้อีกแล้ว อีกอย่างปิดบังไปก็เท่านั้นตอนนี้สื่อลงเกี่ยวกับงานแต่งของนางเอกสาวเขมจิราทุกช่องทาง "ทราบแล้ว" "อย่าบอกนะที่เข้าโรงพยาบาลเพราะเรื่องนี้..ก็แค่ผู้ชายเลวๆคนเดียวนิตลืมๆมันไปเถอะนะ" "เปล่าหรอก นิตไม่สบายมาหลายวันแล้ว เมย์ก็เห็นนี่นา" อัญญานึกไปนึกมาเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าหลังๆมานี้เพื่อนเธอไม่ได้สบายจริงๆ "เออใช่ ขอโทษนะที่ไม่ได้ดูแลนิตเลย" อัญญาจับมือของเพื่อนมากุมไว้ทำตาพริบๆ จนฉันชนิตนึกขำขัน "ขอโทษทำไมกัน เรื่องแค่นี้เอง..หือ" "โอเคป่ะนี่" "โอเคมาก นิตบอกแล้วไงว่าไม่ว่าอย่างไรนิตจะไม่โทษใคร แค่อกหักน่ะสบายมาก" ฉันชนิตฝืนยิ้มกว้างออกมา ไม่ได้บอกความจริงกับอัญญาทั้งหมดว่าเธอแท้งลูก เพราะถ้าอัญญารู้ความจริงทั้งหมด ธันว์ต้องอยู่ไม่เป็นสุขแน่ๆ ซึ่งฉันชนิตต้องการให้เรื่องทั้งหมดจบลงแค่นี้ ถึงแม้ว่าภายในใจของเธอจะแหลกสลายไปแล้วก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม