ร่างเปลือยเปล่าที่ผนึกหลอมรวมกันอยู่บนเตียงกว้าง ใบหน้าของทั้งคู่เหมือนคนที่ตกอยู่ในห้วงฝันของกามารมณ์ อกสล้างขนาดพอดีมือยังคงถูกเขาบีบขยำโลมเลีย ตรงส่วนล่างที่เริ่มพองตัวและปล่อยให้ชี้โด่กำลังถูไถอยู่ตรงร่องกลีบกุหลาบที่เต็มไปด้วยน้ำหวาน
"เป็นของผมนะ"
แดนดินกระซิบเสียงแผ่วเบาข้างๆหู ลมอุ่นๆที่ลดลงมาจากริมฝีปากทำให้คนฟังขนลุกซู่ด้วยความวาบหวิวรัญจวน
"ค่ะ.."
ฉันชนิตพยักหน้าอนุญาตด้วยแววตาโหยหาต้องการเช่นกัน แดนดินแยกขาเรียวออกค่อยๆสอดแก่นกายขนาดใหญ่เข้าไปในร่องกลีบฉ่ำสีชมพูอวบอิ่ม ยิ่งมองเขาก็ยิ่งคลั่งในความสวยน่ากลืนกินของเธอ
"อ๊า.."
ถึงแม้จะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่เธอก็รู้สึกเจ็บเมื่อโดนรุกล้ำเข้ามาจนสุดลำแท่ง เพราะขนาดที่ไม่ธรรมดาของเขา แต่ขนาดนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าเขาวัดกันอย่างไรถึงจะเรียกว่าไซส์เท่านั้นเท่านี้ใครจะบ้าไปวัดขนาดกันในตอนที่เข้าด้ายเข้าเข็มขนาดนี้
"อาส์ เสียว"
แดนดินต้องหลับตาพริ้มเพราะร่องสาวที่ตอดรัดบีบของเขาราวกับสาวบริสุทธิ์ของฉันชนิต ทำให้แก่นกายของเขาถูกบีบรัดอย่างแรงจนรู้สึกเสียวซ่านแทบจะหลั่งรินน้ำรักออกมา
เมื่อจัดท่าจัดทางให้เข้าที่ผนึกร่างราวกับเป็นคนๆเดียวกันแล้ว แดนดินก็เริ่มควบจังหวะรุกถาโถมเข้าหากลีบสวรรค์อย่างเป็นจังหวะนุ่มนวลละเมียดละไม
"เจ็บมั้ย?"
ในจังหวะนั้นเขาถามคนที่นอนหลับตาพริ้มด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเซ็กซี่ แดนดินก้มลงพรมจูบไปที่พวงแก้มนวล เปลือกตาและจมูกโด่งเล็กราวกับตุ้กตาบาร์บี้ของฉันชนิต
"นิดหน่อยค่ะ แต่มันดีมาก อือ~"
ตอบพรางครางออกมาเบาๆ สบสายตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความเสน่หารัญจวน แดนดินจับร่างเพรียวให้นอนคว่ำในท่าใหม่
เขาสอดแทรกแท่งร้อนเข้าไปใหม่ สะโพกงามงอนทั้งสองข้างถูกเขาจับเอาไว้ เปลี่ยนจังหวะถาโถมเข้าออกที่เร็วและแรงขึ้นเพราะเห็นว่าหญิงสาวเริ่มที่จะปรับตัวรับจังหวะร้อนแรงได้แล้ว
เสียงครางของทั้งคู่ดังกระหึ่มต่างคนต่างฟาดฟัดตั้งรับจังหวะเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
อารมณ์ร้อนแรงถูกปลดปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติไร้ซึ่งความเอียงอาย เพราะทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของหัวใจทั้งสิ้น
ตั่บ! ๆ ๆ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นเป็นจังหวะที่น่าฟัง
"อ๊า อื้อ คุณแดนขา~"
ฉันชนิตถึงกับต้องครางระบายความเสียวซ่านออกมาเป็นชื่อเขารัวๆไม่หยุด
"เมียจ๋า โอว~ ผมจะไม่ไหวแล้วนะ"
เขาโพล่งคำว่าเมียออกมา ฉันชนิตรู้สึกเขินขึ้นมาแม้ว่าจะอยู่ห้วงอารมณ์รัญจวนก็ตาม
"นิต ก็ จะแตกแล้วค่ะ"
บอกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าหน้าเหยเก
"พร้อมกันครับ"
พั่บ! ๆ ๆ
"โอว~"
เสียงครางสลับเสียงเรียกขานชื่อกันไปมา เป็นเสียงที่แดนดินชอบมาก เพราะปกติบุคลิกของฉันชนิตแล้วเธอจะนิ่งๆ ไม่ได้ดูร้อนแรงเซ็กซี่ขนาดนี้
แต่เขาชอบเธอตอนนี้มากๆ ชอบให้เธอแสดงอาการเร่าร้อนออกมาแบบนี้กับเขาเพียงคนเดียว
"นิต...อืม"
แดนดินจับร่างบางเข้ามาในท่าเหยียดกายตรง สองเต้าของเธอถูกมือใหญ่ครอบครอง ส่วนล่างของเธอยังถูกเขากระแทกกระทั้นไม่หยุด เมื่อความเสียวซ่านเข้ามาถึงสุดทาง เขาก็ปล่อยน้ำสวรรค์ฉีดเข้าไปในร่องแคมจนหมด
"อ่าส์~"
ร่างของทั้งคู่อ่อนปวกเปียกล้มลงนอนซบโอบกอดกันอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา เหงื่อเม็ดเล็กๆค่อยๆผุดขึ้นมาประปรายกระจายอยู่ทั่วเรือนร่าง แดนดินจุมพิตบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบาอ่อนหวานอ่อนโยนรักใคร่หวงแหน
เรียกได้ว่าตอนนี้เขาคือเจ้าของของเธอโดยสมบูรณ์และแดนดินคนนี้ถ้าได้รักใครแล้วจะไม่มีวันที่จะทิ้งเธอเด็ดขาด
เพราะโดยนิสัยส่วนตัวของแดนดินเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ประตูดินต่างกับผู้ชายอื่นๆที่พบเห็นทั่วๆไปโดยสิ้นเชิง ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายแบบ'ธันว์'
"ผมรักคุณ"
ฉันชนิตยิ้มใส่ตาเขาอย่างหวานซึ้งพยักหน้ารับรู้แล้ว และเชื่อแล้วว่าแดนดินรักเธอจริงๆ
การกระทำของเขาทั้งหมดที่ผ่านมาก็ทำให้เธอรักเขาจนหมดหัวใจเหมือนกัน แม้จะรู้สึกว่าต่ำต้อยไม่คู่ควรกับเขาอยู่บ้าง
แต่รักครั้งนี้มันยากเหลือเกินที่เธอจะหักห้ามใจเอาไว้ได้ ในชีวิตของฉันชนิตเหลือแค่อัญญาที่เป็นเพื่อนสนิทอยู่เพียงคนเดียว
และตั้งแต่ธันว์เข้ามาแล้วก็สลัดเธอทิ้งไปแต่งงานอย่างไม่ใยดี
อยู่ๆเธอก็โชคดีที่แดนดินเดินเข้ามาเยียวยาทุกสิ่ง แม้จะผ่านแผลใจที่เหวอะหวะมาพอสมควร
แต่เขารักษาเธอไว้ด้วยความรักที่จริงใจทำให้แผลเก่าเมื่อวันวานนั้นมลายหายไปจนหมดสิ้น ไม่เหลือแม้แต่แผลเป็นใดๆให้ต้องหลบเลียอีกแล้ว
'นิตก็รักคุณค่ะ รักมาก ๆ '
ฉันชนิตบอกรักเขาอยู่ในใจ แต่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยบอกตรงๆ อยากจะคบหาดูใจกันไปให้นานสักหน่อย
ถึงแม้รักครั้งนี้จะต้องผิดหวังหรือเจ็บปวดอีกครั้ง เธอบอกใจตัวเองว่าพร้อมที่จะลองเสี่ยงอีกครั้ง
อีกหนึ่งเรื่องเธออยากจะแก้ปมเรื่องระหว่างคุณกรองทองและแดนดินให้กลับมามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ถึงแม้จะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในเรื่องนี้ก็ตาม ฉันชนิตเพียงต้องการให้ตั้งคู่กลับมามีความสุขเฉกเช่นย่าหลานทั่วๆไป
เธออยากทำเพื่อคนที่รักให้มีความสุขอย่างที่เขาดิ้นรนทำเพื่อเธอทุกอย่าง
"คิดอะไรอยู่ครับ?"
"เปล่าสักหน่อย"
"โกหกหรือเปล่า หือ? หรือว่า.."
"ว่าอะไรคะ?"
ฉันชนิตตกใจนึกว่าเขาจะล่วงรู้ความจริงเรื่องที่เธอแอบไปพบกับคุณกรองทองมา
"ได้ผมแล้วจะทิ้งใช่มั้ย?"
"เฮ้!นิตต้องเป็นฝ่ายคิดหรือเปล่าคะแบบนั้นน่ะ"
ฉันชนิตถึงกับกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ แอบถอนหายใจโล่งอกเบาๆที่ไม่ใช่เรื่องของคุณกรองทองย่าของเขา ถ้าเกิดมาโป๊ะแตกตอนนี้ไม่รู้แดนดินจะโกรธหรือไม่ที่แอบปิดบัง
'เห้อ!ตอนนี้กลายเป็นวัวสันหลังหวะไปแล้วเหรอเรา' หญิงสาวแอบบ่นในใจ
"ใครจะไปรู้ล่ะ สมัยนี่ผู้หญิงเก็บแต้มมีเยอะกว่าผู้ชายบอบบางอย่างผมอีก"
"บอบบางมากเลยค่ะ ตอนนี้นิตยังจุกไม่หาย"
ฉันชนิตเอ่ยพรางเอานิ้วไปจิ้มตรงปลายจมูกโด่งของเขาอย่างหมั่นเขี้ยว
ยิ้มหวานผุดขึ้นที่มุมปากพร้อมกับส่งสายตามีประกายความหมายลึกล้ำใส่เขา
"เอ๊ะ! หมายถึงหุ่นหรือว่า...."
แดนดินลุกขึ้นไปคร่อมบนร่างบางของหญิงสาวอีกครั้ง บ่งบอกให้รู้ว่าบทเพลงรักครั้งต่อไปกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
"ทำอะไรคะ คุณแดน?"
"พิสูจน์อีกรอบว่าจุกจริงอย่างที่คนบางคนบอกหรือเปล่า"
"คุณแดน...อุ้ย!"
หญิงสาวโดนพรมจูบซุกไซ้ไปทั่ว แรกๆเหมือนจะปัดป้องไม่ยินยอม แต่พอเริ่มโดนรุกมากขึ้นกลับอ่อนปวกเปียกยอมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่ขัดขืนใด ๆ และคิดว่าคืนนี้น่าจะอีกยาวนานถึงแม้พรุ่งนี้จะมีแปลนบินไปกระบี่แต่เช้า
แต่ด้วยพลังที่เหลือล้นของคนตัวสูงใหญ่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
"อื้อ~"
เสียงครางกระเส่าอันไพเราะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และไม่รู้ว่าคืนนี้แดนดินจะปล่อยให้เธอหลับนอนหรือไม่
แดนดินคือผู้ชายที่เป็นอุดมคติของฉันชนิตทั้งแต่แรก แต่เสียดายตรงที่ได้พบเจอเขาช้าไป
กว่าจะได้เรียนรู้ได้รักกันก็ปาเข้าไปนานพอสมควร เขาสุภาพ อ่อนโยน เคร่งขรึม เย็นชาและสุขุม อย่างหลังสองสามข้อน่าจะเป็นบุคคลภายนอกที่สัมผัสได้แบบนั้น
แต่สำหรับฉันชนิตแล้ว เขาอ่อนโยน อบอุ่น ปกป้องเธอในทุกๆเรื่อง ใช่ เขาคือเจ้าชายในนิยายที่เธอคิดว่าไม่น่าจะมีอยู่ในชีวิตจริงด้วยซ้ำ