ในขณะที่นั่งรถกลับมาด้วยกันในรถมีแต่ความเงียบกริบ ต่างคนต่างก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพราะต่างก็มีเรื่องที่เก็บเอาไว้อยู่ภายในใจ ฉันชนิตคิดว่าตนเองคือภาระที่ต้องให้เขาคอยปกป้องตลอดเวลา ทำให้แดนดินต้องเดือดร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงเพราะผู้หญิงที่ไร้ค่าคนหนึ่ง
ส่วนแดนดินกลับคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวของเขาเองที่ดูแลฉันชนิตไม่ดีพอ ต่างคนต่างก็โทษตัวเองอยู่ภายในใจ
"เอ่อ คุณแดนคะ?"
ฉันชนิตตัดสินใจที่จะเอ่ยออกมา
"ครับ พูดมาได้เลย"
"ขอโทษนะคะ ที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อนอีกแล้ว"
"ทำไมต้องขอโทษผม ในเมื่อเป็นผมเองที่ต้องขอโทษที่ดูแลคุณไม่ดีพอ"
"ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ แค่คุณช่วยเหลือนิตอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้วค่ะ"
"คุณกำลังจะย้ำกับผมว่า ผมไม่ได้เป็นอะไรกับคุณอย่างนั้นเหรอครับ?"
"ค่ะ "
ต่างคนต่างก็เงียบลงไปอีกครั้ง แดนดินถึงกับจุกอยู่ข้างในที่ฉันชนิตบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน ทั้งๆที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าเขาคิดยังไงกับเธอ
"นิตไม่อยากทำให้คุณเดือดร้อนอีกต่อไป"
"ทำไมคิดว่าผมต้องเดือดร้อนเพราะคุณ ในเมื่อทุกอย่างที่ผมทำ คุณก็รู้ว่าผมคิดอย่างไร"
"นิตไม่คู่ควรกับคุณแม้แต่นิด"
"หยุดพูดคำนี้สักทีเถอะครับ ผมก็ใช่ว่าจะมีค่าอะไรขนาดนั้น อย่ามองผมเหมือนกับว่าผมเป็นเทวดา เป็นเทพบุตรแล้วมาบอกว่าผมดีเกินไป"
"คุณแดน.."
ฉันชนิตหันไปมองเซี้ยวหน้าเขาที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ เขาปรายตามามองเธอเล็กน้อย ความเงียบเข้ามาครอบงำอีกครั้ง ต่างคนต่างก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก
'นิตจะบอกคุณอย่างไรดี ว่านิตก็รักคุณเหมือนกัน แต่...นิตไม่คู่ควรจริงๆ'
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก็ขับรถมาถึงคอนโด แดนดินนั้นดูเหมือนจะเข้าใจฉันชนิตผิดอยู่เนื่องจากเข้าใจว่าเจ้าหล่อนไม่ได้มีใจให้เขา เพราะฉันชนิตไม่เคยบอกอะไรเขาเลย จากครั้งก่อนที่เขาเคยถามฉันชนิตก็เงียบไป
"เข้าไปพักผ่อนเถอะครับ มีอะไรก็เรียกผมได้ทุกเวลา ผมจะอยู่เสมอ อยู่ทุกครั้งทุกเวลาที่คุณต้องการ..ฝันดีนะครับ"
แดนดินพูดเสร็จก็กำลังจะเดินถัดไปอีกห้องซึ่งเป็นห้องของเขา แต่ทว่า
หมับ!
ถูกคนร่างเล็กดึงรั้งไว้
"คุณแดน...อยู่ด้วยกันได้มั้ยคะ คืนนี้"
ฉันชนิตตัดสินใจโพล่งออกมา เพราะถ้าคืนนี้ไม่ได้คุยกันให้เข้าใจ เธอคงนอนไม่หลับเพราะไม่สบายใจ
"คุณนิต..."
"อยู่กับนิตเถอะนะคะ นิตต้องการคุณ นิตก็รู้...รู้สึกแบบเดียวกับคุณเหมือนกัน"
แดนดินกลับหลังหันกลับมา ไม่มีคำพูดใดที่หลุดออกมาจากปากเขา นอกจากดึงร่างอรชรอ่อนแอ้นเข้าไปกกกอด ความเข้าใจผิดทั้งแต่แรกว่าเจ้าหล่อนนั้นไม่มีใจให้ก็ได้ถูกทลายลง รอยยิ้มแห่งความดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อตี๋ราวกับไอดอลเกาหลีของแดนดิน
ราตรีกาลในค่ำคืนนี้ช่างแตกต่างกับคืนอื่นๆ
"เรื่องวันนี้ผมขอโทษ"
"ขอโทษอีกแล้ว มันไม่ใช่ความผิดของคุณสักนิด"
บนโซฟาสีขาวในห้องนั่งเล่นมีสองร่างนั่งอิงแอบแนบชิดกันอยู่ไม่ต่างจากคู่รักหลังจากที่ถูกหญิงสาวเชื้อเชิญให้อยู่ด้วย แดนดินก็ไม่ลังเลที่จะทำตามหัวใจของตัวเองด้วยการอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหล่อน
"แต่ยังไงก็เถอะผมก็รู้สึกว่าดูแลคุณไม่ดีอยู่ดี"
มือใหญ่ลูบไปบนแก้มนวลของเธอ แล้วเลื่อนลงไปเชยคางมนขึ้นมา สายตาประสานสายตาความปรารถนาบางอย่างที่เก็บซ่อนเอาไว้ไม่อาจปิดไว้มิด หรือบางทีก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอีกแล้ว
ฉันชนิตสบตาของเขาอย่างหวานซึ้ง วงแขนเรียวของเธอสอดเข้าไปโอบกระชับรอบๆคอของคนตัวสูงกว่า
"ถ้าโทษตัวเองอีกครั้งนิตจะลงโทษแล้วนะคะ"
สายตาเจ้าเล่ห์ของฉันชนิตถูกส่งไปหาแดนดิน ชายหนุ่มยิ้มมุมปากมองเจ้าหล่อนอย่างเอ็นดู เขาเต็มใจที่จะโดนแม่เสือสาวลงโทษเต็มทีแล้ว
"อยากโดนลงโทษมากๆเลยครับ"
หน้าของทั้งคู่ขยับเข้ามาประชิดกันมากขึ้น แดนดินจ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มชมพูระเรื่อราวกลีบกุหลาบ ไม่รอช้าริมฝีปากของเขาก็แนบลงไปปิดปากรับโทษทัณฑ์เสียเอง
จูบอ่อนหวานดื่มด่ำแลกกันอย่างดูดดื่ม ลิ้นเล็กกับลิ้นใหญ่ที่ดุนดันพันกันอยู่ในช่องปาก จูบหวานที่เริ่มจะเร่าร้อนขึ้นเมื่อความต้องการปะทุออกมาเป็นไฟราคะที่ทั้งคู่ช่วยกันกองสุมกันอยู่เริ่มลุกโชนรุนแรงมากขึ้น
แดนดินดันร่างของหญิงสาวให้นอนราบลงไปบนโซฟา มือของเขาเริ่มลูบไล้สำรวจตามส่วนเว้าส่วนโค้งที่อวบอัดซ่อนรูปของหญิงสาว
"เอ่อคุณแดนคะ.."
"ครับ"
แดนดินขานเสียงเบาหวิวในขณะที่กำลังซุกไซ้อยู่ตรงซอกคอขาวเนียน ถ้าฉันชนิตจะมาหยุดเขาตอนนี้บอกเลยเขาไม่ยอมแน่ๆ
"ไปในห้องกันเถอะค่ะ"
ฉันชนิตกระซิบกระซาบบอกเขาเสียงแผ่วเบาด้วยความขวยเขิน เพราะเธอคิดว่าตรงนี้มันคงไม่สะดวกเท่าไหร่สำหรับบทรักครั้งแรกของเขาและเธอ แดนดินยิ้มมุมปากอีกครั้ง ลุกขึ้นอุ้มร่างบางขึ้นมาพาเข้าไปในห้องนอนตามต้องการของคนรัก ตอนนี้เรียกว่าเธอเป็นคนรักก็คงไม่ต้องกลัวแล้วว่าเธอจะเคืองหรือเปล่า และอีกเวลาไม่นานนับจากนี้ก็จะเป็นของกันและเสียทีหลังจากที่รอมาเป็นเวลาพอสมควร
แดนดินวางร่างบางลงบนเตียงนุ่มอย่างแผ่วเบา สายตาวาววับเป็นประกายของเขาสบตากับเธอนิ่ง ก่อนจะเริ่มซุกไซ้ลงบนซอกคอขาวเนียนหอมกรุ่นสานต่อเพลงรักอีกครั้ง มือของเขาก็เริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์บนเรือนร่างของหญิงสาว ใช้เวลาเพียงไม่นานเสื้อผ้าของทั้งคู่ก็ถูกเหวี่ยงลงไปกองรวมกันอยู่ข้างเตียง
แดนดินจ้องร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าอย่างตะลึง ถ้ามองผ่านเสื้อผ้าแทบจะไม่รู้เลยว่าฉันชนิตจะสวยราวกับเทพธิดามาจุติ อกสาวที่กลมกลึงงดงาม หน้าท้องแบนราบขาวเนียนไร้ไขมัน ส่วนเว้าส่วนโค้งดูดีสมส่วนไปหมดชายหนุ่มจ้องร่างเปลือยนิ่งอย่างคลั่งไคล้หลงไหล
"สวย.."
ชายหนุ่มเผลอหลุดปากออกมาราวกับถูกมนต์สะกดเข้าให้แล้ว สองทับทิมสีแดงนั้นยั่วยวนเขานัก มือใหญ่วางลงไปกอบกุมสองเต้าบีบขยำเคล้นคลึงเบาๆ เขาพรมจูบไปทั่วหน้าอกอวบอิ่ม แล้วกอบกุมป้อนเม็ดปทุมถันเข้าปากดูดเลียขบงับอย่างกระหาย
"อื้อ~ "
เสียงครางหลุดออกมาจากคนใต้ร่าง หญิงสาวเผลอเอ่นกายขึ้นรับสัมผัสที่สยิวจากเขา มือเรียวเล็กของเธอก็ลูบไล้ลงไปบนแผ่นหลังกว้างแกร่งแต่ขาวเนียนราวกับสตรีจนบางทีฉันชนิตก็นึกอิจฉาในความขาวโอโม่ไม่แบ่งใครของเขา