-จังหวัดกระบี่วันถัดมา-
แสงสีทองของดวงตะวันที่กำลังจะตกลงไปตรงเส้นของขอบฟ้า แสงทองกระทบกับผิวน้ำทะเลยามอัสดงแลดูงดงามน่ามอง
บ่งบอกให้โลกรู้ว่าอีกเวลาไม่นานนับจากนี้แสงสีทองของขอบฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นความมืดของยามค่ำคืน
ผู้คนต่างก็หลั่งไหลกันมาอย่างพร้อมเพรียงกันราวกับได้นัดหมายกันไว้ บ้างก็นั่งบ้างก็ยืนจับจ้องไปในทิศทางเดียวกัน ดั่งกับพร้อมใจกันมายืนอำลาแสงทองสุดท้ายของวัน
บางคนก็ถ่ายรูปเก็บภาพเอาไว้เพื่อเอาไว้ดูย้ำเตือนเป็นความทรงจำ บ้างก็นั่งชมความงดงามอย่างเพลิดเพลินเพื่อเป็นอาหารตาอาหารใจ
หญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งในชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวกำลังนั่งชมแสงสุดท้ายอยู่ริมหาดทรายขาวกับชายหนุ่มหล่อราวกับพระเอกในซีรีส์เกาหลีในชุดเสื้อฮาวายสีขาวลายดอกไม้กางเกงขาสั้นสีขาวเข้าชุดยิ่งขับผิวขาวผ่องให้ดูโดดเด่นจนสร้างความไม่พอใจเล็กๆให้กับหญิงสาวข้างกายอยู่ไม่น้อย
เพราะยามใดที่ชายหนุ่มเผลอมักจะถูกสาวๆที่อยู่บริเวณใกล้ๆลวนลามด้วยสายตาอยู่เป็นระยะๆ อยากจะตะโกนบอกสาวเล็กสาวใหญ่เหล่านั้นเหลือเกินประไรว่า
'คนนี้ของฉันค่ะ'
"เป็นอะไรทำไมตาขวาง?"
แดนดินถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่อหันกลับมาเห็นสีหน้าของสาวสวยข้างกายอย่างกับไปกินรังแตนที่ไหนมา และวันนี้เธอบึ้งตึงใส่เขาบ่อยมาก
"บางทีหล่อเกินไปก็น่ารำคาญนะคะ"
พูดพรางมองไปที่ผู้หญิงกลุ่มข้างๆสี่-ห้าคนในชุดว่ายน้ำที่มองมาทางแดนดินเป็นระยะๆ อย่างกับว่ากำลังสำรวจให้แน่ใจว่าผู้ชายตรงหน้าใช่พระเอกในซีรีส์ที่พวกหล่อนดูกันหรือไม่ อะไรจะหล่อปานนั้น
"อ๋อ เข้าใจแล้วล่ะ"
มุมปากของชายหนุ่มถูกยกขึ้นเล็กน้อย เข้าใจบริบทของฉันชนิตแล้วว่าทำไมเจ้าหล่อนถึงได้อารมณ์เสียทั้งวัน
"รำคาญคนอื่นได้แต่อย่ารำคาญแดนดินนะครับ"
"ชิ!"
หญิงสาวนั่งกอดเข่าเบนหน้าหนีเขาอย่างแสนงอน เป็นครั้งแรกที่เธออยากจะงอน ๆ ๆ เขาทั้งวัน แดนดินอยากจะขำกลิ้งกับอาการของคนขี้หึงอย่างไม่รู้ตัวของฉันชนิตนัก เขาไม่เคยเจอในมุมนี้เลย แต่ ก็แอบพึงพอใจอยู่ไม่น้อยที่เธอออกอาการหึงหวงเขาจนควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้
'ผู้หญิงหึง แสดงว่าผู้หญิงรัก'
แดนดินยังคงมองคนข้างๆด้วยแววตาเอ็นดูปนขำๆ
"หวงเหรอ?"
"เปล่าค่ะ ใครจะไปหึงหวงคุณ อยากไปกับคนไหนก็ไปสิคะ สวยๆกว่านิตทั้งนั้น นิตสู้ไม่ได้อยู่แล้ว"ประชดประชันจริงจัง ปากกับใจไปคนล่ะทิศทาง
"โอ๋ ๆ อย่าหึง อย่าหวงเลยครับ ต่อให้แก้ผ้ามาเป็นร้อยคนก็ไม่!.."
"ไม่อะไรคะ?"
"ไม่ปฏิเสธ"
"คุณแดน!"
ฉันชนิตแหวใส่เขาเสียงดัง แดนดินยิ้มกว้างใส่คนขี้งอนเขารวบเอวคอดเข้ามาแนบชิดใกล้ๆอย่างเอ็นดู
"ล้อเล่นน่า คุณนิตก็น่าจะรู้นิสัยผมดี ว่าผมรักเดียว รักจริง และก็รักนานด้วย ไม่มองคนอื่นแน่นอนครับ"
คนหน้าบึ้งตึงถึงกับเปลี่ยนเป็นอมยิ้มเมื่อได้ยินแดนดินพูดยืนยันออกมาแบบนั้น ก็เขาหล่อจริงๆ เธอเองยังนึกอิจฉาในความขาวของเขา ซึ่งขาวกว่าเธอมาก ๆ ๆ
"มาคราวนี้ก็อาบแดดเยอะๆนะคะ จะได้กลบความขาวลงไปบ้าง นิตชักจะไม่อยากเข้าใกล้คุณแล้ว คุณทำให้นิดดูแย่"
ฉันชนิตเหย้ากลับเขาบ้างเอาจริงๆเธออิจฉาริษยาเขาจริงๆ พรางนึกน้อยใจทำไมเธอไม่เกิดมามีเชื้อจีนกับเขาบ้าง
อารมณ์ของคนขี้นอยด์ พลอยทำให้นิสัยด้านมืดของเจ้าหล่อนปรากฏออกมาทีล่ะเล็กล่ะน้อย มันไม่ใช่เล่นๆแล้วล่ะนี่เพราะความหึงความหวงแท้ๆ แดนดินช่างมีอิทธิพลกับใจเธอมากมายเหลือเกิน
"แต่ผมกลับมองว่าคนผิวสีน้ำผึ้งนั้นสวยมากกว่า รู้มั้ยผมอยู่เมืองนอกมานาน ผู้หญิงที่โน่นเค้าพยายามกันแค่ไหนกว่าจะให้ได้ผิวแบบคุณ จ่ายแพงก็ยอม ถ้าคุณไปเที่ยวฝั่งยุโรป ผมเองนี่แหละต้องอยู่ไม่ติดแน่ๆแบบคุณนิตน่ะสเปคฝรั่งเลยนะครับ ขาวๆที่โน้นมีเยอะจนผมมองว่ามันธรรมดาไปแล้ว แต่ผมไม่ได้หมายความว่าคนผิวขาวหรือผิวคล้ำจะมีใครดีกว่าใคร แต่ ผมกำลังจะบอกคุณว่า ผมรักคุณที่คุณเป็นคุณ ไม่ได้เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาเลยสักนิด"
แดนดินเปรียบเทียบยาวเหยียดบอกให้เธอรู้ว่าเธอไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย วงแขนของเขายิ่งกระชับแน่นขึ้นเมื่อผู้หญิงคนอื่นยังคงมองมา การกระทำของเขาเป็นการยืนยันว่าเขารักเธอแค่คนเดียว
"ซึ้งใจจังค่ะ ความคิดของคุณเหมือนกับคนที่โตมากๆ นิตไม่เคยเจอผู้ชายแบบคุณมาก่อนเลยในชีวิต คุณเป็นคนที่หายากมากๆสำหรับผู้ชายในยุคปัจจุบัน คุณรู้ตัวมั้ยคะ?"
ฉันชนิตอดที่ชื่นชมในตัวของแดนดินไม่ได้ อยากจะย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง แล้วรอเขาเพียงคนเดียว แต่ก็นะอดีตมันไม่สามารถย้อนได้ แค่ทำทุกวันนี้ให้ดีและมีความสุขที่สุดก็พอแล้ว
"ถ้าเป็นของเรื่องนิสัยผมเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ ไม่รู้เลยว่าผมจะเป็นผู้ชายหายาก เพราะฉะนั้นแล้วคุณนิตห้ามปล่อยผมหลุดมือไปนะ"
แดนดินจุ๊บแก้มเธอเบาๆ ต่อหน้าประชาชีชะนีทั้งหลาย เล่นเอาฉันชนิตถึงกับแก้มแดงอย่างขวยเขิน
"ว่าแต่คุณอยู่เมืองนอกไปตั้งแต่ตอนอายุน้อยมากขนาดนั้น แล้วทำไมถึงเพิ่งจะได้กลับมาเมืองไทยคะ?"
ฉันชนิตได้โอกาสถามขึ้นมา
"พ่อแม่ผมเสีย ผมเลยขอคุณย่าไปอยู่ต่างประเทศ เพราะผมอยู่ไทยก็เอาแต่เศร้าคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ จนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าคุณหมอเลยแนะนำให้ออกจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆที่พาให้เศร้า พอไปอยู่นานๆก็ผูกพันธ์เลยไม่อยากกลับมาเท่าไหร่น่ะครับ"
"แล้วไม่คิดถึงคุณย่าเหรอคะ?"
แดนดินนิ่งเงียบเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ดูเหมือนเขาเก็บอะไรไว้ในใจอยู่ตลอดเวลา และก็นี่คือหนึ่งสาเหตุที่เขาไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องที่บ้านเลย
"เอ่อ ผมว่าใกล้มืดแล้ว เรากลับโรงแรมกันดีกว่า เดี๋ยวผมจะพาคุณนิตไปกินอาหารทะเลด้วยดีมั้ย"
แดนดินรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเอ่ยถึงผู้เป็นย่า เพราะเขาไม่อยากจะพูดถึงเรื่องที่สะกิดแผลใจจนพาลให้ต้องนอนฝันร้ายอีกแล้ว
"ก็ได้ค่ะ"
เมื่อเขาไม่อยากเอ่ยถึงหญิงสาวก็ไม่อยากจะเซ้าซี้ เคารพในการตัดสินใจของเขา แม้ภายในใจจะแอบดื้อดึงอยากรู้มากเพียงใดก็ตาม
เพราะเธออยากจะเป็นผู้ปลดเปลื้องพันธนาการร้ายๆในใจของเขาออกไป ไม่อยากเห็นเขาไม่มีความสุขและเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจคนเดียว เธออยากจะเป็นผู้แบ่งเบาความเจ็บปวดในใจของเขาบ้าง