CHAPTER 4
VILLAIN CLUB
“หาวมาเชียว”
“เมื่อคืนมันคงจัดหนักมาสิท่า”
ผมก้าวเท้าเข้ามาในคลับเสียงไอ้ยูก็พูดขึ้นมาตามด้วยเสียงของไอ้คิน ท่าทางของผมมันฟ้องขนาดนั้นเลยเหรอวะก็แค่หาวแล้วเอาฝ่ามือบีบลำคอเพื่อคลายความปวดเมื่อยก็เท่านั้นใครๆ เขาก็ทำกันไม่ใช่แต่ทำไมผมทำมันดูแปลกขนาดนั้นเชียว
ฟุบ!
“สังเกตเหี้ยแม่งเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกมึง”
ว่าแล้วสายตาก็พลางมองไปรอบๆ เพื่อมองหาอาหารหูอาหารตามั้ง ถึงนี่จะยังหัวค่ำแต่ผีเสื้อราตรีก็แม่งเยอะที่โยกย้ายสะโพกอย่างเย้ายั่วก็อย่างว่าถึงที่นี้จะเป็นแค่คลับใต้ดินแต่ก็มีการตกแต่งที่ทันสมัย อุปกรณ์ครบครันจึงสามรถดึงดูดผู้คนไม่น้อย
ปึก!
“เอาไข่ลวกไหมวะ?”
ฝ่ามือใหญ่เข้ามาอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะแตะลงไหล่กว้างของผมจากนั้นมันก็นั่งลงข้างๆ โซฟาเดียวกับผมอย่างรู้ทัน จะใครที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่ไอ้โจเนสเมื่อผมเบี่ยงสายตามองหน้ามันก็แค่ยกยิ้มตรงมุมปากสีคล้ำ
“เออเอามาเยอะๆ”
พูดเพื่อตัดรำคาญมากกว่า รู้ไหมไอ้พวกนี้มันช่างถามขนาดไหน ถามไปถามมาผมเนี่ยแหละที่อาจจะตกที่นั่งลำบากเอาได้ การตั้งคำถามที่ไม่ธรรมดาบวกกับสายตาที่จ้องจะจับผิดมันทำให้คนอย่างผมจนมุมได้อย่างง่ายๆ
“โอ้พระเจ้า! ไอ้เทนยอมรับแล้วโว้ย” ไอ้ยูพูดขึ้นเสียงดังประกอบกับทำหน้าตาราวกับถูกหวยเป็นสิบล้าน “น้องๆ”
หลังจากนั้นมันยกมือขึ้นเรียกพนักงานเพื่อสั่งเสร็จแล้วก็มองมาทางผม
“ประสาท”
คำนี้เหมาะกับไอ้ยูเสือผู้หญิงตัวพ่ออย่างมัน วันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่นอนกกกับผู้หญิงหน้าไม่ซ้ำกันสักรายได้ชื่อว่าเสือร้ายในกลุ่มของเราทั้งหมด
“ไหนมึงบอกว่าเบื่อไงวะ?”
ผมคินถามไอ้เทนด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่ได้อะไรกับเมียมันทั้งนั้นเพียงแค่อยากรู้เฉยๆ ว่าคนที่ได้ชื่อว่าพูดเช้าเย็นว่าเบื่อรำคาญผู้หญิงที่ชื่อมิลล์มันมีการกระทำที่สวนทางกับคำพูดมากเหลือเกิน
รู้ไหมครับ?
เมื่อหกเดือนก่อนไอ้เทนถูกรุ่นพี่คนนี้ตามจีบทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น ณ คลับตรงนี้จนกลุ่มเราอยากจะรู้ว่ามันลงเอยกันได้ยังไงในเมื่อไอ้เทนไม่มีท่าทีสนใจเธอสักนิดเดียวพออีกวันก็เดินควงกันมาเข้าคลับบอกว่าเป็นแฟนกันเฉยเลย
แปลกไหมล่ะ?
“ก็เบื่อไง”
“กูคงเชื่อรอยเต็มคอขนาดนั้นไอ้เทน”
เอ้าก็มันไม่ได้มีกฎนิว่าถ้าเบื่อต้องห้ามไม่ให้เอากัน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นตามที่ธรรมชาติเป็นคนกำหนดอยู่แล้วอีกอย่างเราก็อย่าฝืนความต้องการที่เกิดขึ้นในร่างกายเลยผมพลางคิดไว้ในใจแต่ก็ไม่ได้พูดออกไปด้วยซ้ำจน...
“สวัสดีค่ะ”
และแล้วการสนทนาของหนุ่มๆ ทั้งสี่ก็ถูกขัดด้วยสาวสวยแต่งตัวโคตรโชว์เนื้อหนังมังสาที่ใจกล้าเดินเข้ามาในดงเสืออย่างพวกเขา สายตาดุจเหยี่ยวต่างสบตากันด้วยความสงสัยแต่ไม่มีใครพูดออกมาเลยสักคนเดียวและแล้วคนที่ทนความเงียบไม่ได้นานอย่างไอ้ยูก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
“มีอะไรหรือเปล่าครับคนสวย?”
พูดแล้วมันก็ยักคิ้วมาให้ผมเพื่อเป็นเชิงเหนือกว่าอะไรประมาณนั้น ไอ้นี่มันเจ้าชู้ตัวพ่อจริงๆ ผมจึงมองไปสบสายตาผู้หญิงคนนั้นด้วยความยั่วยวนแว๊บหนึ่งแต่ก็ไม่พูดอะไรหรือสานต่อได้แต่นั่งแล้วหันไปคุยกับไอ้โจเนสต่อเรื่องที่คุยก็ทั่วๆ ไป
“พอดีหนูอยากดื่มกับพี่เทน” สายตาสีดำสนิทถูกส่งมาทักทายด้วยแววตาที่กล้าหาญก่อนที่เธอจะถือวิสาสะเข้ามานั่งลงข้างๆ ผมและใช้มือกอดแขนเอาไว้แน่น “คงไม่มีใครว่าใช่ไหมคะถ้าแนนอยากนั่งด้วยคน”
เธอเบี่ยงสายตาไปมองผู้ชายทั้งสี่ทุกๆ เป็นเชิงขออนุญาตจนสายตานั้นมาจบอยู่ที่ดวงตาสีเทาหม่นน่าค้นหาดวงแรกที่เป็นเป้าหมาย
“ได้สิครับ พี่ไม่มีปัญหา”
ผมตอบรับอย่างไม่มีเงื่อนไขพร้อมทั้งยื่นแก้วสีให้เธอทันทีเพื่อเป็นการชนฉลองที่ได้เจอกันครั้งแรก โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำผู้หญิงใจกล้าแบบนี้ผมชอบนะ
ชอบเล่นๆ ด้วย...
ก่อนจะหันหน้าไปยักคิ้วใส่ไอ้ยูอย่างเหนือกว่า
“ขอบคุณนะคะพี่เทนยิ่งดูใกล้ๆ พี่เทนยิ่งหล่อ หล่อมาก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมยิ้มรับคำชมอย่างเขินๆ (มันเป็นการแสดง) ก่อนที่จะหยิบน้ำเมามากระดกลงคอแบบรวดเดียว “หล่อแล้วยังกินได้ด้วยนะ”
ยอมรับว่าตัวเองแรดร่านไม่ต่างจากผู้หญิงเลยสักนิดแต่ครั้งนี้มันก็เป็นแค่การหยั่งเชิงดูท่าทางเธอเท่านั้นแหละ
“ถ้างั้นคืนนี้แนนขอกินได้ไหมคะ?”
“หึ”
รอยยิ้มร้ายผุดออกที่มุมปากเป็นอันรู้กันทั้งกลุ่มว่าความร่านของไอ้เทนได้เริ่มต้นขึ้นแล้วถึงมันจะยังไม่ตอบรับคำแต่ก็ว่าจะไม่ตกลง
“น้องแนนมาเที่ยวที่นี่บ่อยหรอกครับ?”
ไอ้คินถามขึ้นมาบางเพื่อยากรู้อะไรบางอย่างเพราะจู่ๆ เธอจะเข้ามาในกลุ่มเรามันดูแปลกๆ ยังไงชอบกลอยู่
“บ่อยคะ มาดูพี่เทนร้องเพลง..”
“แต่วันนี้น่าเสียดายนะครับไอ้เทนมันไม่ร้อง น้องแนนไม่รู้เหรอ?” เสียงนั่นเป็นของไอ้ยูพูดขัดขึ้นมาก่อนที่มันจะมองหน้าผมแล้วยื่นแก้วไข่ลวกให้ “อะ..พลังงานทดแทนเสียไปเยอะไม่ใช่หรอวะ เออวันนี้กูกลับก่อนพอดีมีเรื่องด่วนวะ บาย”