CHAPTER 5
“แต่วันนี้น่าเสียดายนะครับไอ้เทนมันไม่ร้อง น้องแนนไม่รู้เหรอ?” เสียงนั่นเป็นของไอ้ยูพูดขัดขึ้นมาก่อนที่มันจะมองหน้าผมแล้วยื่นแก้วไข่ลวกให้ “อะ..พลังงานทดแทนเสียไปเยอะไม่ใช่หรอวะ เออวันนี้กูกลับก่อนพอดีมีเรื่องด่วนวะ บาย”
ไม่ทันได้พูดอะไรไอ้ยูก่อนหันหลังเดินออกไปในทันที เรื่องด่วนของมันก็แค่นอนกกสาวอีกตามเคย นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำควงไปนู้นแล้วไง ผมส่ายหัวอย่างเอือมๆ
“น้องแนนทานไข่ลวกไหม วันนี้อาจใช้พลังงานเยอะนะครับ”
ถึงแม้มันจะเป็นคำพูดหรือประโยคที่ดูเล่นๆ แต่ประโยคที่ไอ้ยูพูดทิ้งไว้ให้คิดก่อนกลับมาก็ทำให้น่าคิดไม่น้อย ผู้หญิงคนนี้บอกว่ามาฟังผมร้องเพลงบ่อยๆ แต่ทำไมถึงไม่รู้ละว่าวันนี้เป็นวันหยุดที่ผมไม่ร้องแสดงว่า...
“บ้าพี่เทนก็”
“เมียนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ยังจีบสาวอีกเหรอคะ ผัวขา...”
สายตาของทั้งกลุ่มหันไปในทางเดียวกันอย่างรวดเร็วราวกับว่าได้มีการนัดหมายและแล้วสายตาก็ได้ปรากฏร่างสาวนั่งไขว่ห้างอยู่บนที่พิงด้านข้างของโซฟาตรงข้ามกับเทน
เธอสวมชุดรัดโชว์สัดส่วนเว้าโค้งของร่ากายด้วยสีแดงสดสวย ผมยาวถูกทำเป็นลอนใหญ่ปล่อยให้สยายกลางหลัง ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ดวงตาสวยหวานคู่นั้นบัดนี้ถูกเปลี่ยนด้วยอายไลน์เนอร์สีดำกรีดชนิดที่เรียกว่าเฉียบเนี๊ยบดุ ริมฝีปากเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดเรียกสายตาให้ผู้คนเดินไปมาได้หันมามองอย่างดี
“…”
“พี่มิลล์..”
เสียงของคินและโจเนสพูดขึ้นพร้อมกันอย่างแผ่วเบาเรียกฉันให้เบี่ยงสายตาไปยิ้มให้ด้วยความมีมารยาทก่อนจะกลับมาที่เดิมอีกครั้ง
“ใครเหรอคะพี่เทน?”
ผู้ที่มาใหม่อย่างแนนคงไม่รู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเป็นใครเพราะไม่บ่อยนักที่เธอจะย่างก้างเข้ามาในคลับแห่งนี้ หกเดือนแล้วสินะที่ไม่ได้มาเลยด้วยซ้ำ....
แล้วนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้เธอมาอีกครั้ง
“…”
ผมไม่สนใจคำพูดที่เข้ามากระทบหูเลยด้วยซ้ำเขาเอาแต่มองพี่มิลล์อย่างไม่วางสายตาจน ผู้หญิงที่ควงแขนอยู่เริ่มที่จะไม่พอใจในขณะนั้นเองผมก็รู้สึกตัวจึงรีบเบี่ยงสายตาหันไปตอบ
“เอ่อ..”
“ตอบไปสิคะ ผัวขา....”
ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าด้านกินยางมะตอยเข้าไปหรือไงถึงไม่ได้ยินที่ฉันพูดกับเทน ยังมีหน้าเสนอเกาะแขนแบบนี้ชาติที่แล้วคงเกิดเป็นปลิงชอบเกาะผัวชาวบ้าน
“…”
“อ๋อแต่หนูไม่สนหรอกคะว่าพี่เทนจะมีเมียหรือไม่แค่อยากได้และก็จะเอา!”
ความเงียบงันเริ่มเข้ามาสู่กลุ่มที่เมื่อกี้ยังเฮฮากันอยู่แต่บัดนี้กลับเงียบ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะปริปากพูดออกมา มีแต่แววตาของสองสาวที่ได้แต่มองกันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“เฮ้ย ไอ้คินกูว่าเผ่นเถอะวะ มึงเคยได้ยินไหมความเงียบงันมันมักมาพร้อมกับหายนะเลยนะเว้ย”
เสียงไอ้โจเนสพูดกระซิบกับผมเบาๆ เพื่อที่ให้ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น สายตาที่ทั้งสองสาวฟาดฟันกันผมว่าเรื่องนี้มันอาจจะเป็นอย่างที่ไอ้โจเนสพูดขึ้นอย่างแน่นอน
“เออกูก็ว่าวะ”
“น้องคิดแบบนั้นจริงๆ หรือ?”
“…”
แต่ความคิดนั้นก็ได้สลายลงไปเมื่อพี่มิลล์เริ่มพูดแบบไม่ไว้วางใจขึ้นมาบ้าง ผมที่กำลังจะลุกขึ้นเผ่นกับไอ้โจเนสกับต้องนั่งลงอีกครั้งหนึ่ง
นางแน่มากที่กล้าพูดแบบนี้ออกมาต่อหน้าคนอย่างมิลล์ เมื่อมองไปยังเทนก็มีแต่ความเงียบเขาไม่ปริปากพูดปกป้องหรือบอกผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่ประโยคเดียว
“ดอกมากกว่าที่คิดนะ..”
“นี่แกว่าใคร?”
ไม่ว่าเปล่าผู้หญิงคนนั้นถึงกับลุกขึ้นยืนเพื่อชี้นิ้วมองยังใบหน้าของฉันเองที่นั่งอย่างสบายๆ อย่างไม่สะทกสะท้านอีกทั้งยังคว้าแก้วเหล้ามาดื่มมีละนิดๆ
“…”
“ฉันถามทำไมไม่ตอบกลัวหรือไง?”
“แหกตาดูนะว่าตรงนี้มีผู้หญิงกี่คนแล้วทำไมฉันจะต้องว่าให้ตัวเองด้วย มันไม่จำเป็นเลยสักนิด!”
“แก!...”
มือของยัยนั่นสั่นไหวด้วยแรงโกรธหล่อนจ้องจองหน้าของฉันราวกับโกรธแค่นมาตั้งแต่ชาติปางไหน กิริยาแบบเมื่อกี้ฉันไม่ตบสวนให้ก็บุญแล้ว รู้ไหมภายในใจมันโกรธมากแค่ไหนเมื่อเห็นคนที่ได้ชื่อว่าคนรักมีสาวควงแขนนั่งดื่มเหล้าแบบสบายใจอย่างนั้นถ้าฉันไม่ก้าวขาเข้ามาในคลับนี้ก็คงไม่มีทางเห็นการกระทำแบบนี้เป็นอย่างแน่นอน
สองวันก่อนนั้นมันก็คงเป็นแบบนี้....
ยอมรับว่าครั้งนี้แผนของยัยแพทมันทำสำเร็จ มันทำให้ฉันโกรธมากจนแทบอยากระเบิดออกมาอีกนิดเดียวเท่านั้นฉันจะระงับอารมณ์ไว้ไม่ไหวแล้ว
มันน่าน้อยใจไหมล่ะที่ได้รู้ทีหลังแบบนี้ ฉันไม่มีทางเข้าไปในหัวใจนายบ้างเลยเหรอเทน สักนิดก็คงไม่มีใช่ไหมเป็นประโยคที่ฉันคิดได้เพียงในใจ
เผียะ!
และแล้วความเจ็บปวดแก้มข้างซ้ายก็โลดเข้ามาสู่ร่างกายเมื่อรู้สึกตัวก็พบว่าตัวเองโดนตบไปหนึ่งฉากแล้วเพราะมัวแต่คิดเรื่องบ้าๆ
หมับ!
“พอได้แล้ว”
น้ำเสียงคุกกรุ่นบอกร่างบางที่กำลังจะตบเข้าไปยังใบหน้าของคนตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง มือใหญ่บีบมือของเธอจนห้อเลือดไปแล้ว
“พี่เทนแต่ผู้หญิงคนนี้ว่าให้แนนก่อนนะคะ!”
“บอกให้หยุดไงวะ!” คนตัวใหญ่เสียงดังด้วยอารมณ์เสีย ผมไม่รู้ว่าตัวเองเข้าไปห้ามผู้หญิงที่ชื่อแนนเมื่อไหร่ รู้สึกอีกทีมันก็เข้าไปมีส่วนร่วมแล้ว “ซื่อบื้อจริงวะ”
“แต่ฉันไม่หยุด!”
เผียะ!
เผียะ!
แรงตบฉากใหญ่เข้าไปกระทบใบหน้าของผู้หญิงที่ชื่อแนนไม่นานนักตรงมุมปากก็มีเลือดไหลซึมออกมาทีละนิด คนอย่างมิลล์ไม่ยอมให้ใครมาตบฟรีๆ หรอกและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมให้ผู้หญิงประเภทนี้
~ซ่า~
เป็นอีกครั้งที่น้ำเมาถูกสาดเข้าใบหน้าของคนที่ฉันออกแรงตบไปเมื่อกี้ ความอดทนที่เริ่มมีมาตั้งแต่ต้นมันได้หมดลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กรี๊ดดด!
เสียงกรี๊ดร้องดั่งเปรตร้องขอส่วนบุญทำให้คนรอบข้างมองมายังกลุ่มเราเป็นจุดศูนย์กลางของคลับ เหล้าที่สาดไปนั้นคงทำให้ผู้หญิงคนนั้นเกิดความแสบใช่น้อยเลยล่ะ
“นังบ้า!”
หมับ!
“โอ้ย!”
“ถ้าไม่อยากตายเลิกยุ่งกับผัวขาของฉันซะ!” แรงทั้งร่างกายของฉันส่งไปที่ฝ่ามือที่ตอนนี้บีบกรามทั้งสองข้างของผู้หญิงที่ชื่อแนนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ผัวตัวเองเอาไม่มัน ชอบไปคันกับผัวชาวบ้านหรือไงเจออีกทีไม่แค่โดนแค่นี้นะ”
สายตาจริงจังถูกส่งมาพร้อมกับใบหน้าสวยที่ไม่รู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวกับเหตุการณ์ที่ตัวเองได้ก่อขึ้นทำให้เกิดความหวั่นให้กับผู้หญิงที่ชื่อแนนไม่น้อย
“อ๋อแล้วก็ฝากไปบอกนังแพทด้วยเตรียมรับมือการตีกลับจากฉันได้เลยคราวนี้ไม่ร้องไห้ไม่เลิกแน่อยู่ดีๆ ไม่ชอบเอง”
เคล้ง!
และแล้วฉันก็ปล่อยมือออกจากใบหน้าของยัยนั่นจากนั้นก็เดินออกมาจากที่นั่นทันทีโดยไม่ลืมที่จะทำให้แก้วเหล้า ขวดเหล้าล้มอย่างระเนระนาด
ในเมื่อเทนไม่สนใจฉันแม้แต่หางตาก็อย่างหวังว่าฉันจะสนใจเขาอีกเลย ต่างคนต่างทำมันก็แฟร์ดีเหมือนกัน สายตาของฉันมองไปยังทางจอดรถที่มืดมิดมันรู้สึกเหงาๆ ยังไงชอบกล คนที่เดินไปมามีแต่เดินควงคู่กับแฟน
หมับ!
“จะรีบไปไหน?”
“…”
“กลับด้วยกัน”
“ฉันไม่อยากกลับกับคนอย่างนายเทน!” ฉันรีบสะบัดแขนออกจากการจับกุมของผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟน “ปล่อย!”
“ก็บอกว่ากลับด้วยกันไงวะอย่าดื้อ”