CHAPTER‬ 7

2223 คำ
CHAPTER‬ 7 ความตั้งใจที่จะเอาคืนแพทชาของฉันมีเต็มเปี่ยมรู้ไหมว่าทันทีที่นึกเรื่องนี้ได้เท้ามันก็หวนกลับไปยังอีกทางหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายไปทางคอนโดของแพทชาฉันไม่ได้มาที่นี่บ่อยนักหรอกแต่ก็ไม่ถึงกับว่าจะจำทางไม่ได้เลย ตอนคบกับเทนใหม่ๆ ความลังเลและการไม่เชื่อใจมันมีอยู่ไม่น้อยเลยตั้งใจมาแอบดูเทนว่าจะกลับมาหาแฟนเก่าอย่างแพทชาบางไหม แต่สุดท้ายก็เลิกพฤติกรรมนี้ไปเพราะไม่เคยเห็นเทนมาสักครั้ง ตึก! และแล้วฉันก็มาถึงจุดหมายจนได้โดยใช้สองเท้าของตัวเอง ความโกรธเข้ามาควบคุมร่างกายจนทำให้เราไม่รู้สึกตัวเมื่อกระทำอะไรลงไปบ้าง สายตาของฉันมองขึ้นไปไล่เลี่ยในแต่ละชั้นกับแสงไฟที่ส่องออกมาของแต่ละห้องของคอนโดหรูพรางคิดว่ายัยแพทชาจะอยู่ห้องไหนชั้นไหน เนี้ยใช่ไหมที่ความโกรธมันบังทุกๆ อย่างจนหมดสิ้น “จะถามใครดีเนี่ย” ฉันคิดหนักยิ่งกว่าข้อสอบเสียอีก ก็ใครมันจะไปรู้แค่รู้ว่าคอนโดคนที่ตัวเองเกลียดอยู่ไหนมันก็มากเกินไปแล้วปะ ไม่มีใครอยากจะรู้ทุกความเคลื่อนไหวของคนที่เกลียดหรอก อึก! ฉันกลืนน้ำลายที่เหนียวหนืดลงลำคออย่างยากเย็นราวกับว่ามันเป็นของขมมากมายจนแทบกลืนไม่ไหว ม่านตาเกิดการขยายอย่างอัตโนมัติจรดไปถึงทั้งตัวของฉันเกิดการหยุดนิ่งเหมือนกับโดนสาปทั้งๆ ที่ยังมีความรู้สึก รถคันหรูที่คุ้นเคยจอดอยู่ตรงหน้า มันใกล้จนฉันจำไม่ผิดแน่เพราะว่าเทนพึ่งขับออกไปจากคลับเมื่อไม่กี่ชั่วโมงเอง ที่คือสิ่งที่ฉันพยายามเห็นมาตั้งแต่ต้นที่คบกับเทนจนเลิกอยากเห็น ไม่คิดว่าวันนี้มันจะได้เห็นเป็นครั้งแรก นี่อย่าบอกนะว่าเทนมาหาแพทชา! เพียงแค่นั้นน้ำตามันก็เริ่มคลออยู่ทั้งสองเบ้าตาอย่างไม่ได้ตั้งตัว เท้าของฉันก้าวเข้าไปใกล้รถทีละนิดๆ เหมือนกับว่าเดินจงกลมและนี่มันเป็นเหตุผลที่เทนไม่ทนง้อฉันต่ออีกสักหน่อยทั้งที่เหตุการณ์ที่เกิดวันนี้ฉันไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องเสียหน่อย ทุกอย่างเขาก็น่าจะรู้ดีว่ามันเกิดจากอะไร นิ้วมือเรียวขยับเข้าไปสัมผัสรถด้วยมือที่สั่นเทา ทุกอย่างมันเดินทางมาถึงจุดที่เดือดที่สุดอย่างไม่มีอะไรมาขวางกั้นและสิ่งที่ทำให้ฉันชักงักที่สุดก็คงเป็นเสียงพูดกันที่ดังขึ้นมาในซอกตึกที่มืดสลัวๆใกล้กับบริเวณที่รถจอดเทียบอยู่ มันเป็นน้ำเสียงที่แสนเย็นชาสไตล์เรียบๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนฉันชัดๆ ถึงจะยังไม่ได้เห็นหน้าฉันก็จำได้และรับรู้ได้ “รัก รักมาก” ถึงแม้มันจะเป็นเพียงสามพยางค์แต่มันก็เป็นสามพยางค์ที่ทำให้ฉันเจ็บปวดที่สุดแทบจะไม่สามารถขยับตัวให้ก้าวเดินต่อไปได้ เทนบอกรักแพท? แสดงว่าสองคนนั้นคบกันอยู่ คบกันลับหลังฉันอย่างงั้นเหรอ? ฉันรีบเอาฝ่ามือปิดปากเพื่อปิดเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องจนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดและตัดสินใจยังก้าวเท้าเข้าไปใกล้ซอกตึกนั้นด้วยหัวใจที่ปวดร้าวเต็มทนกระทั่งสายตาบรรจบไปเห็นเงาของสองคนกำลังกอดกันอย่างแนบแน่น “แพทรักเทนนะ ไม่เคยหมดรัก…” เสียงของแพทตอบขึ้นมาบ้างพร้อมกับเสียงสะอื้นออกมาเป็นระยะๆ มันเหมือนการสารภาพรักกันของวัยรุ่นมากกว่าว่ากันไหม “…” ไม่มีเสียงตอบจากคนที่แพทชาพึ่งบอกรักไปเมื่อกี้ ถ้าสังเกตน้ำเสียงของเธอดีๆ อาจจะได้เห็นหรือแปลกใจกับอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคนนี้ หึ! ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนอย่างฉันจะถูกหลอกตั้งระยะหนึ่งที่เทนตกลงคบกับฉัน ความฉลาดที่คิดว่าตัวเองมีเหนือกว่ายัยแพทบัดนี้มันไม่มีเหลือเสียด้วยซ้ำ มีแต่เขาที่อยู่บนหัวกับหญ้าที่กินทุกวันมั้งที่สองคนนั้นมองเห็นในตัวของฉัน ตึก! จนท้ายที่สุดความอดทนของฉันมันก็หมดลง วันนี้อะไรจะพังก็ให้มันพังทุกอย่างมันควรจบลงได้แล้ว ฉันจึงก้าวเท้าออกไปเผชิญหน้ากับทั้งสอง “สนุกมากไหม?” พรึ่บ! “พี่มิลล์..” ผมผลักแพทชาออกจากร่างกายของตัวเองทันทีเมื่อได้ยินเสียงของพี่มิลล์ก่อนที่จะเผชิญหน้ากับเธอ คำถามหลากหลายมันวิ่งเข้ามาในหัวสมองของผมเต็มไปหมด ทำไมพี่มิลล์มาที่นี้ได้เธอได้ยินอะไรบ้างจนสุดท้ายผมก็เห็นน้ำตาของเธอไหลลงมาอาบทั้งสองแก้ม “ฉันถามว่าสนุกมากไหมที่ได้เห็นฉันเป็นควายแบบนี้?” “…” “เงียบทำไมหญิงชั่วชายเลว!” “มันไม่ใช่อย่างที่คิด” เสียงเรียบของผมดังขัดขึ้นก่อนที่พี่มิลล์จะพูดอะไรออกไปมากกว่านี้เพราะผมรู้ไงว่าตอนนี้พี่มิลล์เหมือนจะเข้าใจอะไรตามที่เธอได้สรุปไปเองทุกอย่างทั้งสีหน้าและแววตาของเธอบอกความรู้สึกทั้งหมด “พี่มิลล์เข้าใจผิด” “หึ! นายเห็นฉันสวมเขาเป็นเครื่องประดับหรือไง การกระทำที่ได้เห็นทั้งหมดวันนี้มันคืนยันว่าทุกวันนี้ฉันโง่ยิ่งกว่าควายเสียอีก!” จะหน้าไหนตอนนี้คนอย่างมิลล์มันไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว สิ่งที่เก็บกั้นมาทุกอย่างมันต้องได้ระบายออกยิ่งตอนที่ฉันเบี่ยงสายตาไปยังยัยแพท มันก็ได้เห็นสีหน้าท่าทางยิ้มเหยาะอย่างเหนือกว่าตัวเองหลายเท่าตัว “…” “ให้มิลล์เห็นแบบนี้ก็ดีนะเทน เราสองคนจะได้ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป...” “เงียบแพท เธอก็รู้ว่ามันทำไม” สายตาไม่พอใจของผมเบี่ยงตวัดไปทางแพทอย่าหาเรื่องและเป็นการบอกนัยๆ ว่าให้เธอหุบปากซะ “คนนอกอย่างเธออย่ายุ่ง!” แรงตวาดดังลั่นขึ้นในยามค่ำคืนที่ดึกดื่นมีแต่แสงของจันทราเท่านั้นที่ยังส่องแสง การกระทำนั้นทำให้ฉันอึ้งเล็กน้อยก่อนที่จ้องมองไปยังเทนที่ตอนนี้ส่งสายตาแข็งพร้อมขู่คุกครามไปยังยัยแพทที่ยืนหน้าซีดตัวสั่นเหมือนกับลูกนกตัวน้อยที่ฝนพร่ำตกใส่ในยามหน้าฝน อาการที่ยัยแพทแสดงออกมานั้นฉันเชื่อว่าเป็นอาการกลัวจริงๆ ขนาดตัวฉันเองยังตกใจไม่น้อย ไม่เคยเห็นด้านนี้ของคนอย่างเทนเลยสักครั้งตั้งแต่ที่คบกันมา สายตาแข็งกระด้างเปล่งประกายที่แดงสนิทบวกกับใบหน้าหล่อเหลาที่ต่อนี้ดูบิดเบี้ยวไปตามอารมณ์ที่แสดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาสะบัดมือของแพทออกอย่างไม่ใยดีกระทั่งเบี่ยงใบหน้ามาสบตาฉันที่ยืนห่างระยะหนึ่งจนกระทั่งเท้าใหญ่เริ่มรุกล้ำเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกระชากแขนฉันให้เดินตาม “ปล่อย!” “…” เสียงห้วนๆ ของฉันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่สนว่ามันจะดึกดื่นรบกวนคนอื่นๆ บ้างหรือเปล่า ในเมื่อตอนนี้ฉันไม่อยากไปกับผู้ชายคนนี้อีกแล้วแต่ว่าแรงกระชากและบีบแขนมันเพิ่มเวลขึ้นหลายเท่าตัวจนความเจ็บปวดเริ่มมาเยือนทั้งนี้รอยแดงก็คงมาพร้อมอีกเช่นกัน เท้าฉันที่ถูกลากตามล่างใหญ่ที่มัวแต่เดินอย่างรวดเร็วมันทำให้ตอนนี้ฉันมีสภาพไม่ต่างจากวิ่งแข่ง เหงื่อไหลออกมาเต็มกายทั้งใบหน้า แขนขาถ้าฉันหยุดเดินเอาทื้อๆ คนอย่างเทนก็คงจะไม่หยุดเดินเป็นแน่นอนเขาคงจะลากฉันทั้งๆ แบบนั้น ถ้าทำจริงๆ ผิวขาวๆ ของตัวเองมันก็เป็นรอยหมดสิ รู้ไหมสิ่งที่ฉันเกลียดมากๆ ก็คือรอยแผลเป็น กึก! โอ้ย! ผมจัดการตวัดร่างเล็กของพี่มิลล์เข้าไปกระแทกกับรถด้วยอารมณ์ที่ยังไม่ค่อยดีนัก ความจริงแล้วไม่มีใครหรอกที่จะสามารถเห็นด้านนี้ของตัวของผมนอกจากไอ้พวกกลุ่มเพื่อนที่คบกันมา แต่เสียดายชะมัดที่ผู้หญิงสองคนนี้ได้เห็นเป็นครั้งแรก ด้านที่มันค่อนข้างรุนแรงจะป่าเถื่อนมากกว่านี้ถ้าไม่รีบเดินออกมาจากเหตุการณ์ ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่ระงับอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยอยู่ มันจะระเบิดขึ้นมาในตอนที่ผมเกิดความไม่พอใจอะไรมากๆ เช่นเดียวกับคำพูดของแพท.. ที่ทำให้ผมระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ คนที่มีนิสัยดี อารมณ์ดียิ้มแย้มตลอดเวลา หรือว่าออกจะแรด ร่านก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้มีอารมณ์แบบนั้นตลอดเวลา บางคนเวลาองค์ลงมันยิ่งกว่าพายุลูกใหญ่พัดพาความโหดร้ายเข้ามาทำให้ผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำเรียบเป็นหน้ากลองเลยก็ว่าได้ ประสาทการรับรู้ของฉันเหมือนหยุดการใช้งานไปชั่วขณะ สายตาที่พร่าเลือนจนมองไม่เห็นอะไรเลย จะเริ่มรู้สึกขึ้นมาก็ตอนที่สามารถตั้งสติได้แต่ก็โดนเทนเหวี่ยงตัวมาติดกับรถแล้ว แผ่นหลังกระทบกับรถจนมีอาการปวดหนึบไม่หมดแต่ยังรู้สึกเย็นตามมามากกว่าเนื่องจากชุดที่ใส่เที่ยวมันค่อนข้างเปิดแผ่นหลัง ตุบ! มือใหญ่ข้างหนึ่งเข้ามากั้นตัวของฉันไว้กับตัวรถ ส่วนอีกข้างก็ยังล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรเลย “มาที่นี่ทำไม?” การส่งสายตาพร้อมกับคำพูดเงียบๆ ของเทนยิ่งฉันได้ยินมันก็ยิ่งทำให้หงุดหงิดจิตใจจนกระทั่งฉันส่งสายตายอย่างตำนิไปให้เขาบางเขาก็ไม่สนใจอะไรเลย ยังทำท่าทางสบายๆ เหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันไม่ได้มีความสำคัญอะไร ก็แน่สิถูกจับได้ว่าแอบกินกันคาหนังคาเขาจะแก้ตัวยังไงอีกละ “ทำไม ถ้าไม่มาฉันก็คงโง่ไปอีกนานเลยใช่ไหม?” “…” ก็แบบนี้ไงชอบเงียบ ใช้ความเงียบเป็นคำตอบจนเป็นนิสัยจนทำให้จริงๆ แล้วฉันไม่รับรู้เลยด้วยซ้ำว่าคนอย่างเทนคิดยังไง “ประโยคที่นายถาม ฉันน่าจะเป็นคนถามมากกว่าด้วยซ้ำ? หึ! แต่ก็นะคำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว” พอพูดออกไปน้ำตาเจ้ากรรมก็หลั่งไหลออกมาราวกับเขื่อนแตกต่อหน้าต่อตาเทน ฉันไม่อยากที่จะอ่อนแอในสายตาของใครทั้งนั้นแม้กระทั่งคนที่ตัวเองรักมากแต่แล้วครั้งนี้มันค่อนข้างหนักหนาสาหัสเอาการอยู่ “มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิด” “แล้วมันเป็นยังไงอยู่ๆ นายมาหาเพื่อนที่คอนโดนี้แล้วเจอยัยแพทแฟนเก่านายอย่างนั้นเหรอปัญญาอ่อนไปมั้ง!” ผมหลับตาลงอย่างช้าๆ หลังจากที่ได้ยินพี่มิลล์พูดแบบนั้นออกมา ผมไม่ได้เบื่อแต่ตอนนี้มันเหนื่อย เหนื่อยมากเหลือเกินที่ต้องอธิบายเรื่องบ้าๆ พวกนี้ ทั้งๆ ที่ถ้าอธิบายให้พี่มิลล์ฟังแล้วเธออาจจะผ่อนคลายความโกรธลงบ้าง “…” “คนอย่างนายมันก็เอาแต่เงียบอ่ะ ไม่ว่าจะดีใจเสียใจตื่นเต้น ทุกอย่างนายไม่เคยอธิบายให้ฉันเข้าใจเลยด้วยซ้ำ!” การตะคอกใส่หน้าเทนเรื่อยๆ ทั้งที่ใบหน้าเขาก็ห่างจากฉันเพียงไม่ถึงคืบมันอาจเป็นวิธีระบายความโกรธในตัวของฉันเองก็ว่าได้ “รู้ไหมวันนี้เป็นวันที่ฉันเสียใจที่สุดในเรื่องและสิ่งที่นายกระทำจนฉันเริ่มคิดว่าเราสองคนน่าจะละ...” “หยุดพูดคำนั้น!” เสียงอันแข็งแรงพูดออกมาขัดจังหวะฉันทันที สายตาสีเทาหม่นเหมือนมีไฟรุกอย่างช่วงโชติ ดวงตาของเขาจ้องฉันราวกับไม่พอใจ หมับ! มือใหญ่ข้างที่ล้วงกระเป๋าบัดนี้ถูกยำออกมาใช้งานโดยจับไหล่ของฉันไว้ด้วยความรวดเร็ว แรงบีบที่เทนส่งมามันเจ็บไม่ใช่น้อย “ทำไมจะพูดไม่ได้ในเมื่อฉันตัดสินใจแล้ว!” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งหนึ่งและเสียงก็ดังก้องกว่าเก่าเป็นร้อยเท่าเพื่อย้ำความชัดเจนที่ประกาศออกไป “อย่าคิดมาลองดีกับคนอย่างผมพี่มิลล์!” “ไม่ได้ลองแต่ฉันพูดจริง เลิกกัน เป็นทะ....” กึก! อื้อ... ยังพูดไม่จบริมฝีปากร้อนๆ ของคนตัวใหญ่ก็เขามาประกบลงอย่างรุนแรงเพื่อดูดกลืนความหวานมาจากริมฝีปากได้รูปของคนตัวเล็กทันที ความร้อนแรงที่เริ่มปะทุขึ้นอย่างเรื่อยๆ มันมีความเจ็บปวดใจซ่อนอยู่ลึกๆ พรึ่บ! “อย่าคิดจะเลิกกับผมเด็ดขาดเพราะยังไงพี่ก็เป็นของผมคนเดียว!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม