นีรนาราเดินสะบัดตูดกลับมาที่แผนก แม้ว่าสีหน้าจะสดใส เรียวปากอิ่มจะแต้มยิ้มกว้างสักเพียงใด ทว่าในใจกลับว้าวุ่นจนแทบนั่งไม่ติด ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เธอเริ่มเห็นเค้าลางความฉิบหายของชีวิต
“โอ๊ย! ฉันจะบ้าตาย ชาติก่อนไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนาวะ ถึงได้หนีอีตานี่ไม่พ้นซะที” มือเรียวยกขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เจ้าหล่อนพ่นลมหายใจระบายความหงุดหงิดที่มีสาเหตุมาจากอธิวรรธน์
เมื่อเห็นว่าตัวเองเริ่มฟุ้งซ่านมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหล่อนจึงรีบสะบัดหัวไล่ความคิดทั้งหลายที่มีอยู่ในหัวตอนนี้ “พอๆ ยัยเบลล์ เลิกคิดเรื่องไอ้หมอบ้านั่น แล้วกลับมาตั้งใจทำงานที่เธอรักซะ” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง
นีรนาราหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะทำท่าฮึบๆ แล้วเดินไปเตรียมตัวเพื่อจะออกตรวจคนไข้ในช่วงเช้า
“สวัสดีค่ะคุณหมอ วันนี้สดใสเชียวนะคะ”
นีรนารายิ้มให้พยาบาลสาวสวยประจำแผนก นอกจากเธอแล้วก็คงเป็นผู้หญิงคนนี้นี่แหละ ที่อายุยังน้อยและหน้าตาน่านำกลับไปรับประทานที่บ้าน
“ค่ะ คุณแหวนก็ดูสดใสเหมือนกันนะคะ”
“ค่ะ แหวนมีหมอส่วนตัวคอยดูแลดีน่ะค่ะ ช่วงนี้เลยสดใสเป็นพิเศษ”
กาญจนาเป็นผู้หญิงสวยเฉี่ยว ดูเปรี้ยวจนบางครั้งก็ดู..
..นังนี่มันร้าย
“น่าอิจฉาจังเลยนะคะ” เธอส่งยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าให้ชะนีตรงหน้า แหมหล่อน! พูดขนาดนี้ทำไมไม่บอกชื่อเลยละว่าไอ้ ‘หมอส่วนตัว’ น่ะชื่อ ‘อธิวรรธน์’
“อย่าอิจฉาฉันเลยค่ะ ถึงจะมีหมอส่วนตัวคอยดูแล แต่ก็ไม่ค่อยได้ออกสื่อ ทำให้ใครหลายๆ คนไม่รู้ เราคบกันแบบสบายใจด้วยกันทั้งคู่ กลางวันแยกย้ายไปทำงาน ส่วนกลางคืน..”
“หมอขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ คนไข้รออยู่ ขอโทษด้วยนะคะ เผอิญว่าคนไข้สำคัญกว่าเรื่องไร้สาระ”
มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ากาญจนาตั้งใจจะมาแสดงตัวว่าเป็นเมียบนเตียงของอธิวรรธน์ และพยายามมาเตือนเธอว่าอย่ายุ่งกับผู้ชายคนนี้ แหม! อยากจะตะโกนใส่หน้าเหลือเกินว่า..
ผู้ชายแบบนี้ ให้ฟรีแถมเงินสิบล้าน.. ฉันก็ไม่เอา!
นีรนารายิ้มให้คุณพยาบาลคนสวยตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะพาตัวเองเดินไปที่ห้องตรวจโรคทั่วไป เพื่อทำหน้าที่ของตน เธอมาที่นี่เพื่อทำงาน ไม่ได้กลับมาเพื่อแย่งชิงผู้ชายกับใคร
ตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนเล็กบนข้อมือ บอกว่าตอนนี้เวลาเจ็ดโมงห้าสิบห้า นีรนารารีบสาวเท้าเดินไปที่แผนกผู้ป่วยนอก บริเวณหน้าห้องตรวจโรคทั่วไปซึ่งมีป้ายชื่อ ‘แพทย์หญิงนีรนารา อัศวพิพัฒน์’ มีคนไข้ซึ่งมารอรับการวินิจฉัยและการรักษามากเสียจนเก้าอี้ไม่พอนั่ง เหล่าบรรดาคุณพยาบาลและผู้ช่วยล้วนแล้วแต่ตั้งใจทำหน้าที่กันอย่างขะมักเขม้น ทั้งวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก สอบถามประวัติ และจัดคิวรอเข้าพบแพทย์
ด้วยว่าทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุนมาปีกว่า ภาพคนไข้ที่แน่นขนัดและบรรยากาศเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับแพทย์หญิงนีรนารา เพราะมันสามารถเห็นได้ทั่วไปตามโรงพยาบาลรัฐฯ
“สวัสดีค่ะคุณหมอ”
แพทย์หญิงนีรนาราเงยหน้าขึ้นจากชาร์ตคนไข้ คุณหมอคนสวยมอบรอยยิ้มให้หญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นคนไข้รายแรกของเธอในวันนี้
ข้างกายของคุณป้ามีผู้หญิงใบหน้าละม้ายคล้ายกัน หากแต่ต่างด้วยวัย ยืนประคองและคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง
“สวัสดีค่ะ วันนี้อาการเป็นยังไงบ้างคะ”
“ป้าปวดเข่าข้างขวา”
แพทย์หญิงนีรนาราเลื่อนเก้าอี้มาใกล้ๆ คนไข้ เธอใช้มือจับเข่าข้างขวา ซึ่งเป็นข้างที่คุณป้าแจ้งว่ามีอาการปวด
“ปวดมานานหรือยังคะ”
“เป็นปีแล้วล่ะหมอ แต่มันไม่ปวดมาก พอปวดป้าก็กินยาแก้ปวด แป๊บๆ ก็หาย”
เธอรู้เลยว่าคนไข้มาหาหมอเพราะยาแก้ปวดไม่สามารถทำให้อาการทุเลาลงได้ มีคนไข้หลายรายที่โชคดียังสามารถรักษาหาย แต่บางรายโชคร้าย.. ไม่สามารถรักษาให้หาย ทำได้แค่ประคองอาการ เพราะปล่อยไว้นานจนเกินไป ทั้งโกรธทั้งเห็นใจ แต่เมื่อมายืนอยู่ในจุดจุดนี้ หมอมีหน้าที่รักษา ไม่ใช่ต่อว่า ดังนั้นเธอควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“เวลาเดินหรือขยับจะรู้สึกลั่น เหมือนกระดูกเราลั่นไหมคะ”
“ค่ะ ปวดหนึบๆ เวลาที่มีอาการปวด เข่าป้ามันจะร้อนด้วยค่ะคุณหมอ”
เธอก้มดูอีกครั้งอย่างละเอียด “ขาคุณป้าบวมด้วยนี่คะ เป็นมากี่วันแล้ว”
“ขาบวมเป็นมาประมาณหนึ่งอาทิตย์ค่ะ”
“หมอจะส่งคุณป้าไปให้แพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยเพิ่มเติมนะคะ” เนื่องจากว่ามันเกินขอบเขตความสามารถของแพทย์ทั่วไปเช่นเธอ นีรนาราจึงส่งต่อคนไข้ไปให้แพทย์เฉพาะทางดูแลรักษาต่อ
“ขอบคุณมากๆ นะคะหมอ”
คนไข้และญาติที่มาด้วยยกมือไหว้ขอบคุณเธอ นีรนารารีบยกมือรับคำขอบคุณ ก่อนจะก้มลงเขียนอาการบนชาร์ตคนไข้รายนี้เพื่อส่งต่อไปยังแผนกตรวจโรคเฉพาะทาง
หลังจากตรวจคนไข้รายสุดท้ายของวันเสร็จเรียบร้อย แพทย์หญิงนีรนาราก็นั่งดูแฟ้มประวัติการรักษาของคนไข้รายล่าสุด ก่อนจะเขียนผลการวินิจฉัยและสั่งจ่ายยา การทำงานวันแรกนับว่าเป็นการเริ่มต้นได้ดี ยกเว้นก็แต่เรื่อง..
นีรนาราพนมมือขึ้นมาก่อนจะ..
“สาธุ! ถ้าบุญลูกช้างยังมี ขออย่าให้ได้เจอะได้เจออีตาหมอจี๊ปเลย”
เจ้าหล่อนอ้อนวอนขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง เทวดา อารักษ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ช่วยเหลือเปิดทางให้กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ไม่เจอมารผจญระหว่างทาง
เมื่อสบายจิตสบายใจแล้ว หญิงสาวจึงเก็บของใส่กระเป๋าแล้วก้าวเท้าออกจากห้องทำงาน