EP.6 LOVE HURTS รักเจ็บลึก
ตอน เงินแลกงาน
________________
"อย่างเธอนะเหรอ จะทำได้ทุกอย่าง?"เขาถามขึ้นก่อนจะส่ายหน้าและเดินหันหลังจากไปอย่างไม่ไยดี
"พี่ลูคัสคะ พี่ได้โปรดเห็นใจฉันสักครั้ง"ฉันพยายามร้องเรียกแต่ขามันก็เดินต่อไปไม่ไหว
ฉันทำได้แค่มองเห็นแผ่นหลังของเขาเดินหายจากไป
ฉันทรุดตัวลงพิงกับขอบประตูห้อง เพราะหมดเรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ แผลตึงจนเจ็บระบมไปทั้งแขนและขา
"คนไข้มาทำอะไรตรงนี้คะ?" พยาบาลรีบเดินเข้ามาช่วยพยุงฉันให้กลับไปนอนต่อที่เตียง แม้ฉันพยายามจะปฎิเสธแต่ก็ไม่มีแม้แต่แรงจะพูดหรือลุกหนีออกไปได้
"นอนเฉยๆก่อนเถอะนะคะ ร่างกายคุณยังบอบช้ำอยู่มาก ไม่ควรใช้ร่างกายจนหักโหมเกินไปนะคะ"พยาบาลพูดปนๆตำหนิที่ฉันพยายามจะหนี
"ฉันไม่มี..(เงิน)"ฉันอยากจะบอกปัญหาส่วนตัวกับเธอไป แต่สุดท้ายมันก็พูดอะไรไม่ออก
"คนไข้นอนรอหมอมาตรวจตอนเช้าก่อน แล้วถ้าคุณหมอเห็นว่าสามารถกลับบ้านได้แล้ว"
"ค่อยถอนสายน้ำเกลือและเปลี่ยนชุดนะคะ"พยาบาลคนเดิมเข้ามาเปลี่ยนชุดคนไข้และทำแผลให้ฉันใหม่อีกครั้ง เพราะมีเลือดซึมๆออกมาจากผ้าพันแผลผื่นเก่า
ฉันทำได้แค่นอนแน่นิ่งอย่างน้ำท่วมปาก ไม่กล้าจะบอกว่าฉันต้องการหนีไป เพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา
"ยาแก้ปวดค่ะ"เธอยื่นยาให้กับฉันพร้อมแก้วน้ำเปล่า
หลังจากที่พยาบาลคนนั้นเดินออกไป ไม่รู้เพราะว่าฤทธิ์ของยาแก้ปวดนั้น หรือความอ่อนเพลียของฉัน ทำให้ฉันหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
-เช้าวันต่อมา-
ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความปวดระบมร้าวลึกไปทั้งแขนและขา เหมือนยาแก้ปวดเมื่อคืนมันหมดฤทธิ์ลง
เอาจริงๆฉันยังถือว่าโชคดีมากๆ ที่เหตุการณ์รถชนเมื่อคืนมันไม่ได้แรงมากขนาดนอนไม่ได้สติ
ฉันค่อยลืมตามองไปรอบๆก็หันไปเจอกับพยาบาลที่กำลังถอดสายน้ำเกลือให้กับฉันอยู่พอดี
"แผลถลอกพยายามอย่าให้โดนน้ำ7วันนะคะ"พยาบาลเอ่ยขึ้นขณะที่ฉันมองตามผ้าพันแผลของฉันไปด้วย
"คุณหมออนุญาตให้คุณกลับบ้านได้แล้วนะคะ"
"ยังไงชำระค่ารักษา และรอรับยาได้เลยนะคะ"พยาบาลขึ้นอย่างสุภาพก่อนจะเดินไปออกไป
@แผนกจ่ายเงิน
ฉันถูกบุรุษพยาบาลเข็นรถมาส่งยังหน้าห้องการเงิน
อย่างไม่อาจจะแอบหลบหนี หรือหลีกเลี่ยงได้เลย
"เดี๋ยวรอเรียกชื่อตรงนี้นะครับ"เขาพูดอย่างสุภาพๆและเดินออกไปเมื่อวสิ้นสุดน่าที่ลง
โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ชื่อดัง
มีทั้งหมอและพยาบาล บุคคลากรที่เชี่ยวชาญในทุกด้านและบริการที่ดี ห้องพักที่เรียบหรูอย่างกับโรงแรม
ซึ่งแน่นอนว่า ตั้งแต่แก่มาฉันไม่เคยคิดจะย่างเท้าเข้ามาในที่นี้ ฉันนั่งก้มหน้ากุมมือของตัวเองอย่างคิดไม่ตก
ไอ้ครั้นจะเดินหนีไปตอนนี้ ก็คงไม่ทันอยู่ดีเพราะแค่เดินยังเซเลย
แน่นอนว่าถึงแม้ฉันจะไม่มีเอกสารอะไร ติดตัวมาด้วยเลย แต่ตอนที่ถูกรถชนตำรวจก็มาเช็คประวัติของฉันครบหมดแล้ว โดยอ้างอิงจะเลขบัตรประชาชนและข้อมูลส่วนตัวในอินเตอร์เน็ต
"คุณพลอยลาลิลณ์ "เสียงเรียกชื่อดังขึ้นที่ช่อง เคาร์เตอร์ 2 ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปหาพนักงานคนนั้นด้วยใบหน้าซีดเซียว
"ผู้ป่วยรายใหม่นะคะ ไม่เคยมีประวัติการรักษากับทางโรงพยาบาลเราl”พนักงานพูดและเรียบเรียงเอกสารสองสามแผ่นส่งให้กับฉัน
"ค่ารักษารวมค่ายาสำหรับวันนี้ทั้งหมด 38,000บาทค่ะ"เธอยื่นใบเสร็จมาตรงหน้า
"เช็ดรายละเอียดก่อนได้นะคะ"เธอพูดย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าฉันแน่นิ่งไป
"คือว่า.."ฉันมองที่บิลค่าใช้จ่ายนั้น อย่างไม่กล้าจะสบสายตาของเธอเลยจริงๆ
"มีอะไรรึเปล่าคะ?"เธอเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง
"คือว่า ดิฉันไม่มีเงินที่จำชำระค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดนะคะ"ฉันกลั้นใจพูดออกไปและเงยหน้าสบตาเธอคนนั้นอย่างหมดทางเลือก
ฟุ๊บ! ก่อนที่ใบเคดิตสีดำสนิท กรอบทองของใครสักคนจะยื่นมาที่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ ที่ฉันยืนอยู่
พอหันกลับไปก็เจอกับคนตัวสูงที่ใส่เสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำสนิทและสวมแว่นตากันแดดสีชา
"พี่ลูคัส.."ฉันเรียกชื่อนั้นอย่างแอบตกใจที่เป็นเขา
"จ่ายด้วยบัตรเคดิต"เสียงห้วนๆดังขึ้นจากด้านหลังของฉัน
"อ่อค่ะๆ"เธอก็รีบรับบัตรของเขาไปและรูดทันที
หลังจากที่ชำระเงินและรับยาเสร็จ
"ขอบคุณนะคะ"ฉันยกมือไหว้เขาไปทั้งรอยยิ้ม แม้ว่าเขาจะยังคงยืนหน้านิ่งๆอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรในคำขอบคุณของฉัน
"ตามมา!"ทันทีที่เขารับบัตรเคดิตคืนพร้อมกับถุงยา
เขาก็ยัดเยียดถุงยานั้นให้ฉัน ก่อนจะเดินนำหน้าไปอย่างไม่คิดจะรอคนที่เจ็บอย่างฉันสักนิด
"เดินไวจัง~"ฉันทำได้แค่บ่นเบาๆกับตัวเองอย่างท้อใจ
ฉันพยายามที่จะฝืนเดินกึ่งวิ่งตามคนข้างหน้าไปให้ทันขณะที่ฉันเริ่มเดินตามเขาไม่ทัน จู่ๆคนตรงหน้าก็หยุดเดินและหันกลับมามองฉันที่ยังคงพยายามเดินตามเขาอยู่ไกลๆ
"ฉันจะรอที่รถนะ เดินให้มันไวๆหน่อย"นั้นคือคำตอบจากผู้ชายคนนั้นก่อนที่เขาจะเดินไปยังลานจอดรถ
และขึ้นไปสตาร์ทรถรอฉันที่เดินตามไปแบบกะเผลกๆ
@บนรถ
"ไม่ต้องขอบคุณฉัน เพราะว่าฉันไม่ได้จ่ายเงินนั้นให้เธอฟรีๆ"เขาพูดทันทีที่ฉันก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ
"ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณค่ะ"ฉันพูดก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณเขาไปด้วยใจจริง
เขายักไหล่ตอบมาอย่างไม่ได้ว่าอะไร
"อีก4วันฉันมีงานจะให้เธอทำ"เขาถอดแว่นและมองตรงมาที่ฉันนิ่งๆ
"งานอะไรเหรอคะ?"ฉันเอ่ยถามไปอย่างคล้องใจ
"งานง่ายๆ"เขาตอบเพียงสั้นๆ
ก่อนจะสวมแว่นตามเดิม ฉันแอบชำเลืองมองที่คอของเขาที่มีรอยแดงๆช้ำๆ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร
ทำได้เพียงแค่หลบสายตามองไปทางอื่นแทน
"คาดเข็มขัด!"เขาชี้นิ้วอย่างออกคำสั่ง
"อ่อ ค่ะๆ"ซึ่งฉันก็รีบทำตามทันที และยิ้มๆตอบไป
บนท้องถนนที่แสนจะเงียบกริบ
"ฉันจะไปส่งเธอที่บ้าน แล้วอีกวัน4วันฉันจะมารับเวลาเดิมนี้!"เขาพูดขึ้นพลางมองนาฬิกาบนหน้าปัดของรถสุดหรูคันใหม่ ที่ไม่ใช่คันเดียวกับที่ชนฉันเมื่อวาน
"ส่งฉันที่บ้านงั้นเหรอ?"ฉันทวนสิ่งที่เขาพูดอย่างเริ่มวิตกกังวลในใจเบาๆ
"อ่อแล้วก็ ไปทำงานกับฉัน1อาทิตย์นะ เตรียมเสื้อผ้าข้าวของไปด้วย"เขาพูดและเหยียบคันเร่งพุ่งทยายไปข้างหน้า
"ค่ะ"ฉันพยักหน้าตอบ
ยอมรับว่าพี่ลูคัสขับรถเร็วจนฉันแทบไม่กล้ามองทาง และเสียวไปตลอดทางจริงๆ เขาเหยียบแทบจะมิดไมล์
ควบคุมพวกมาลัยได้อย่างชำนาญ
"ว่าแต่เธอบอกฉันว่า ทำงานได้ทุกอย่าง"คนขับเอาลิ้นดุ้นๆแก้มอยู่สักพัก ก่อนจะเข้าเกียร์เปลี่ยนเพื่อเร่งแซงคันด้านหน้าที่ขับสูสีกันมาสักพัก
บรื้นนนนนนนนน!!
"ฉันไม่เกี่ยงงานแน่นอนค่ะ ส่วนเรื่องหนี้ค่ารักษาพยาบาล"ฉันตอบไปอย่างไม่เต็มเสียงเพราะนั่งเกร็งตัวไปตลอดทาง
"พี่ลูคัสหักได้ตามค่าจ้างที่คิดเอาไว้ได้เลยนะคะ"ฉันตอบไปอย่างหลับตาปี๋และกำขอบเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น
"ก็ดี"
"จริงๆเธอก็ไม่เลวนะ"เขาพูดพลางยิ้มมุมปากเล็กน้อย และมองต่ำลงมาที่โค่นขาของฉัน
แต่ฉันก็ยิ้มตอบไปอย่างไม่ได้คิดอะไร
หลังจากแซงรถคันนั้นได้ พี่ลูคัสก็เบาๆเครื่องยนต์ลงทันทีเพราะเจอกับการจราจรที่ติดขัดในเขตชุมชน..
นั้นทำให้ฉันเริ่มหายใจหายคอได้มากขึ้น....
"เออ แล้วอลิเซียตอนนี้เป็นยังไงบ้างเหรอคะ?"ฉันเอ่ยถามถึงเพื่อนที่แสนดีคนหนึ่งในชีวิต ซึ่งเธอเป็นน้องสาวแท้ๆของผู้ชายตรงหน้า และตอนนี้เธอกำลังเจอเรื่องราวที่น่าเศร้า แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย
"ไม่กินข้าว ไม่ยอมออกจากห้องมาหลายวันแล้ว"เขาตอบด้วยใบหน้านิ่งๆตายังคงมองตรงไปบนท้องถนน
มือกำพวกมาลัยแน่นอย่างเคร่งเครียด เมื่อฉันถามถึงน้องสาวของเขา
"น่าสงสารอลิเซียนะคะ ได้เจอความรักดีๆแล้วแท้ๆแต่กลับไม่ได้อยู่ด้วยกัน"ฉันพูดออกไปอย่างไม่ทันได้คิด
ทำเอาพี่ลูคัสที่กำลังขับรถหันมามองฉันนิ่งๆ
เขาส่ายหน้าและกัดริมฝีปากเล็กน้อย
"งั้นถ้าหาก.."
"ความรักมันให้เธอเจ็บเจียนตาย"
"เธอยังจะเรียกความเจ็บปวดนั้นว่ารักอยู่มั้ย?"เขาเลิกคิ้วและถามกลับมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แววตาดุดันคู่นั้นจ้องมองตรงมาที่ฉันอยู่สักพัก
"ฉันคิดว่า..ถ้าเราลองรักใครสักแล้ว ต่อให้เจ็บปวดแค่ไหน"
"มันก็คือความรักอยู่ดีนะคะ"ฉันตอบไปตามความคิดของฉันสำหรับเรื่องราวความรักที่น่าเศร้าของอลิเซีย
"น้ำเน่าดี!"เขาตอบกระแทกเสียงกลับมาสั้นๆ
เพียงแค่นั้นฉันก็พอจะเข้าใจ.. พี่ลูคัสเขาคงไม่ใช่คนที่ศรัทธาในเรื่องของความรักมากสักเท่าไหร่
พี่ลูคัสขับรถมาจนถึงหน้าบ้านเช่าหลังเล็กๆของฉัน
ที่ๆเขาเคยขับมาส่งฉันกับอลิเซียครั้งก่อนๆ
"ถึงบ้านเธอแล้ว!"เขาพูดขึ้นเมื่อขับรถมาจอดยังหน้าบ้านเช่า
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"ฉันก้มหัวให้พี่ลูคัสเล็กน้อย
ฉันปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเปิดประตูเพื่อลงจากรถของเขา
"เดี๋ยวก่อน!"จู่ๆเขาก็เรียกฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะปิดประตู
"จริงๆฉันมีเอกสารให้เธออ่านก่อนที่จะทำงานจริง"พี่ลูคัสหยิบกระดาษA4 ปึกใหญ่ๆส่งให้กับฉัน
"อ่านและจดให้ได้ทั้งหมด ภายใน4วัน"เขาพูดและมองไปที่ปึกกระดาษหนาๆ
"ทำได้มั้ย?"
"ได้ค่ะ ได้"ฉันพยักหน้ารับทันที
"ปิดประตูสิ ฉันมีธุระต่อ"เขาพูดขึ้นก่อนจะก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อไปอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร
"อ่อ ขอโทษค่ะๆ"ฉันรีบปิดประตูทันที
เสียงเข้าเกียร์รถทำให้ฉันรีบก้าวถอยหลังมาทันที ก่อนที่รถหรูจะขับออกไปด้วยความเร็วและเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มนั้น..
บรื้นนนนนนนนน!!!
@บ้าน
"เราหายไปไหนว่า ลิลณ์?"พี่บัวเอ่ยถามขึ้นทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในบ้าน
"พอดีลิลณ์โดนรถชนนะคะ ก็เลยไปนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลมา"ฉันตอบพี่สาวตัวเองไปตามตรง
"โถ่ลิลณ์ เจ็บมากมั้ย"
"แล้วทำไมไม่โทรมาบอกพี่?"เธอพูดพลางเดินเข้ามาประคองตัวของฉันและช่วยพยุงเข้าห้องนอน
"แล้วไปทำยังไงถึงถูกรถชนได้?"พี่บัวถามไถ่ฉันด้วยความเป็นห่วง
"นี่พี่เต้ไม่ได้บอกอะไรพี่บัวเลยเหรอคะ?"ฉันถามกลับไปด้วยเสียงสั่นๆและกำหมัดแน่นอย่างพยายามอดพยายามกลั้น
"เต้เอาเจ้าตัวเล็กไปรับวัคฉีคนะจ่ะ พอดีพี่รู้สึกปวดหัวนิดๆเพราะนอนน้อย พ่อเขาก็เลยต้องพาลูกไปคนเดียว"พี่บัวพูดถึงสามีของเธอด้วยรอยยิ้ม
"นี้เงินเดือนของเต้เดือนแรก ก็จ่ายค่าเช่าบ้านและค่านมลูกไปหมดแล้วนะ เขาทำงานมาเหนื่อยๆแต่แทบไม่ได้ใช้เงินเลยสักบาท"พี่บัวยังคงพูดถึงด้านดีๆของชายชั่วคนนั้นให้ฉันได้ฟัง
"นี่ตอนที่เราหายไป เต้เขาก็เป็นคนไปแจ้งความกับตำรวจให้ด้วยนะ"พี่บัวพูดต่อจนฉันไม่กล้าจะบอกความจริงเรื่องเมื่อคืนก่อน
"พี่บัว~~"ฉันถอนหายใจและกำลังจะเอ่ยขึ้น
แต่ว่า เสียงเปิดประตูบ้านก็ดังขึ้นซะก่อน
"กลับมากันแล้วสินะ"พี่บัวรีบปล่อยมือจากฉันและเดินไปเปิดประตูรับสามีกับลูกตัวน้อยของเธอทันที
"ลาลิลณ์ 0_0 "พี่เต้มองมาที่ฉันอย่างตกใจสุดขีด
"ลิลณ์กลับมาแล้วนะเต้ น้องถูกรถชนจนนอนโรงพยาบาลมาทั้งคู่ แต่บัวกับไม่รู้เรื่อง"พี่บัวหันไปเล่าให้สามีเธอฟังอย่างรู้สึกผิด
"อ่อ"พี่เต้หลบสายตาของฉันทันที
"งั้นเดี๋ยวบัวเอาลูกกินนมและเข้านอนทีสิ"พี่เต้ยัดลูกน้อยที่แนบอกของเขาส่งให้กับพี่บัวทันที
"เดี๋ยวพี่มาคุยด้วยต่อนะลิลณ์"พี่บัวเองก็รีบเดินอุ้มหลานของฉันกลับเข้าไปในห้อง เพื่อป้อนนมจากเต้าและกล่อมให้หลับ
ทันทีที่พี่บัวเดินหายเข้าไปในห้อง และปิดประตูลง
พี่เต้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก็ทรุดตัวคุกเข่าลงต่อหน้สฉันทันที
"คืนนั้น....พี่ขอโทษนะครับน้องลิลณ์"เขายกมือพนมไหว้
"คืนนั้นพี่เมามากจริงๆ"เขาพูดต่อด้วยเสียงที่แผ่วเบา
"พี่ขอโทษที่ทำอะไรไม่ดีกับน้องลิลณ์นะครับ"เขาพูดออกมาและเงยหน้ามองฉัน แววตามีน้ำตาคลอๆ
"พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะครับ ตอนนั้นพี่คิดว่าลิลณ์เป็นบัว!"ฉันอึ้งไปเลยกับท่าทีของคนตรงหน้า และคำพูดที่ประดิษฐให้ดูสวยงาม ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เลย
"จริงเหรอคะ?"ฉันกัดฟันถามกลับไปเสียงดัง
จนหลานสาวตัวน้อยร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น
"มีอะไรรึเปล่ายัยลิลณ์?"เสียงพี่บัวเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยๆ แต่ฉันเลือกที่จะเงียบและไม่ตอบอะไรไปเลยสักคำ
"เออ~ไม่มีไรจ่ะบัว ลิลณ์แค่เล่าเรื่องเมื่อคืนให้เต้ฟังนะ"คนตรงหน้ารีบตะโกนกลับไปทันทีอย่างตีหน้าซื่อๆ
เขาลุกขึ้นยืนและเดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าของฉันทันที
"พี่ไม่อยากให้บัวรู้ เรื่องของเราในคืนนั้น"จู่ๆเขาก็พูดและมองไปที่ประตูนอนพี่บัวที่ปิดสนิท
"คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ลิลณ์ยกโทษและลืมๆมันไปได้มั้ย?"
"ลืม?"ฉันชักสีหน้าใส่อย่างโกรธแต่ต้องเก็บอาการเอาไว้
"พี่ยังอยากอยู่ดูแล ลูกกับเมียพี่ต่อไป"เขาพูดและมองเข้าไปในห้องนั้นก่อนจะหันกลับมามองฉันด้วยสายตาที่สำนึกผิด(?)
"อย่าบอกบัวเลยนะ พี่รักครอบครัวของพี่"คนตรงหน้าร้อนรนอย่างกลัวต่อความผิดที่ก่อเอาไว้
"บัวมีเรื่องให้คิดมากพออยู่แล้ว พี่เป็นห่วงบัว"เขาพยายามอ้างถึงพี่สาวของฉัน เพื่อให้ฉันยอมจำนนได้ในที่สุด
"ห่วงลูก"เขาพูดเสริมขึ้นมาด้วยแววตาเศร้าๆ
ฉันที่เงียบอยู่สักพัก ก็ตัดสินใจหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกัดฟันและพูดออกไป
"อยู่ให้ห่างจากฉันเอาไว้!!"ฉันจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
"และถ้าพี่คิดอย่างที่พูดออกมาจริงๆ ก็ทำหน้าที่ของพี่ไปซะ!!"
"แต่ถ้ามีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าพี่เมาหรือขาดสติอะไรยังไงก็ตาม"
"ฉันจะบอกพี่บัวให้เลิกกับพี่ทันที"
"และแจ้งความเอาเรื่องพี่ให้ถึงที่สุด!"ฉันพูดออกไปอย่างเอาจริง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นมันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายมากๆ แต่ที่ฉันจำใจให้โอกาสผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ ก็เพราะเขาคือสามีของพี่สาว และพ่อแท้ๆของหลานฉัน ฉันทำลายความสุขของพี่บัวไม่ลงจริงๆ แม้ว่าฉันจะต้องทนอยู่ต่อไปอย่างกล้ำกลืนก็ตาม
"ได้ พี่สาบานเลยว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน"