เรา : อะไรอีกคะรองผอ.//คนที่เข้ามาใหม่คือลุงหนึ่ง
ลุงหนึ่ง : เดี๋ยวจะให้หมอนทีมารับผิดชอบผ่าตัดผู้ป่วยรายนี้เอง
เรา : แต่มัน..หมอนทีอยู่ในห้องผ่าตัด จะให้คนไข้นอนรอแบบนี้ไม่ได้นะคะ ต้องรีบผ่าตัดด่วนๆ
ลุงหนึ่ง : ใครบอกให้รอล่ะ จะให้ผ่าตัดเดี๋ยวนี้เลยต่างหาก
เรา : หมายความว่ายังไง//เราถามกลับไป
ลุงหนึ่ง : ให้หมอสโนว์ไปผ่าตัดต่อจากหมอนทีที่ห้องroom1 ส่วนหมอนทีจะออกมาผ่าตัดผู้ป่วยรายนี้แทน
เรา : อะไรนะ!! มีแบบนี้ด้วยเหรอ ผ่าตัดยังไม่เสร็จต้องเปลี่ยนหมอกลางอากาศให้มาผ่าตัดผู้ป่วยคนอื่นเนี่ยนะ สโนว์พึ่งเคยเห็นนี่แหละ ทำแบบนี้ไม่ถูกนะคะ//เราเถียงลุงหนึ่งกลับไป
ลุงหนึ่ง : ไม่ถูกยังไง รพ.ของเรามีนโยบายดูแลผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยระบุมาแล้วว่าจะให้หมอนทีเป็นคนรักษา ลุงก็แค่ทำตามคำสั่งของผู้ป่วยก็แค่นั้นเอง
เรา : แต่หมอก็กำลังรักษาคนป่วยคนอื่นในห้องผ่าตัดอยู่ด้วย จะมาทิ้งกลางคันได้ยังไง จรรยาบรรณของหมอไม่ควรทำแบบนั้นนะคะ
ลุงหนึ่ง : ทิ้งที่ไหนล่ะ ก็หมอสโนว์ไปผ่าตัดต่อไง//เราได้ยินแบบนั้นกำมือแน่น กัดกรามด้วยความโกรธ จ้องหน้าลุงหนึ่งอยากจะต่อยให้หงายหลังซะเดี๋ยวนี้ แต่ต้องอดทนไว้ ห้ามใจตัวเองเอง"ใจเย็นๆ "
เรา : นั่นก็ผู้ป่วยคนนึง รองผอ.ก็ควรจะให้หมอนทีผ่าตัดต่อไป ส่วนทางนี้ฉันจะจัดการเอง
ลุงหนึ่ง : ไม่ได้!! ผู้ป่วยรายนี้สำคัญมาก หากเป็นอะไรขึ้นมารพ.ของเราเดือดร้อนแน่
เรา : สโนว์จะรักษาให้เองไว้ใจสโนว์ได้ อีกอย่างผู้ป่วยรายนั้นไม่สำคัญเหรอ
เค้าก็เป็นคนเหมือนกัน มีสิทธิ์ที่ได้รับการรักษา ไม่ใช่ให้รองผอ.มาทำแบบนี้
ลุงหนึ่ง : เป็นคนเหมือนกันจริง แต่เรื่องอำนาจและชื่อเสียงไม่เหมือนกัน//ลุงหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาทันที
เรา : เห๊อะ!! ถือว่าเป็นคนใหญ่คนโตสินะ!! //เรากัดฟันพูดจ้องหน้าลุงหนึ่ง
พี่นัด : เอ่อ..คุณสโนว์ค่ะ พี่ว่าทำตามที่ผอ.บอกก็ดีนะคะ//ควับ!! เราหันไปมองพี่นัดที่พูดแทรกขึ้นมา
พี่นัด : พี่รู้ว่าหมอสโนว์คิดยังไง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวพันกับหลายฝ่าย หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น รพ.ของเราอาจจะเดือดร้อนได้นะคะ
เรา : ไม่เห็นจะต้องไปกลัว
พี่นัด : เอาอย่างงี้ไหมคะ คุณสโนว์โทรไปหาผอ. ดูสิว่าผอ.จะว่ายังไง
เรา : ก็ได้ค่ะ//เราเดินออกมาจากห้อง พวกการ์ดก็มองเราใหญ่ เราเดินหลบมาด้านหลังที่เป็นทางบันไดหนีไฟ พี่นัดเดินตามมาด้วย เราหยิบโทรศัพท์โทรหาป๊า
ป๊า : มีอะไรตัวป่วน
เรา : ป๊ารู้แล้วใช่ไหมว่ามีผู้ป่วยคนใหญ่คนโตเข้ามาที่รพ.
ป๊า : อืม ป๊าให้ไอ้นทีเป็นคนผ่าเองแหละ//ป๊าพูดแทรกขึ้นมาทันที คงจะเดาได้ว่าเราโทรมาเรื่องนี้
เรา : ป๊า!! แต่มันยังอยู่ในห้องผ่าตัด จะให้มันทิ้งคนไข้แบบนั้นได้ยังไง//เราพูดเสียงแข็ง
ป๊า : สโนว์!! นี่มันเรื่องใหญ่ บอร์ดผู้บริหารตัดสินใจกันแล้วให้ไอ้นทีเป็นคนผ่าตัด มึงเป็นแค่หมอธรรมดาไม่มีสิทธิ์มาพูด
ป๊า : แสดงว่าป๊าบีบให้สโนว์เปลี่ยนจากหมอไปเป็นผู้บริหารรพ.แทนใช่ไหม
ป๊า : กูเคยบอกมึงตั้งแต่ต้นแล้วว่าให้ไปบริหารแทนกู แต่มึงยังเลือก
ที่จะเป็นหมอธรรมดา ไปแก้แค้นเรื่องไร้สาระอยู่ได้
เรา : ไร้สาระเหรอ!! ป๊าก็รู้ความจริงแล้วนิ ว่ามันเลวขนาดไหน ป๊ารู้ความจริงมาตั้งหลายปี สโนว์ไม่เข้าใจว่าทำไมยังปล่อยพวกมันทำงานในรพ.ของเรา มันทำสโนว์นะ ป๊าคนที่หวงและปกป้องสโนว์ไปไหนแล้ว ถึงตอนนี้ป๊าจะพูดยังไงสโนว์ก็จะแก้แค้นมันอยู่ดี//เราพูดขึ้นเสียงดัง
ป๊า : มันผ่านมาหลายปีแล้ว ทำไมถึงพึ่งมาล้างแค้นตอนนี้ ถ้าหากม๊ามึงไม่ป่วยมึงก็คงไม่กลับมาหรอก//เราถึงกับจุก เพราะสิ่งที่ป๊าพูดมามันเป็นความจริง เพราะหากม๊าไม่ป่วย เราเองก็คงไม่ได้กลับมาไทย
เรา : ก็...//เรากำลังพูด แต่ป๊าพูดแทรกขึ้น
ป๊า : ในเมื่อมึงบอกจะเป็นหมอที่เริ่มนับ1ใหม่ไม่อยากไปบริหาร ดังนั้นมึงก็ควรทำตามคำสั่งของผู้บริหารซะ ทำไม่ได้ก็ลาออกกลับอยู่เมกาไป//ตู๊ด..ตู๊ด ป๊าพูดจบก็วางสายทันที
เรา : ป๊า!! อะไรวะวางสายไปแล้ว
พี่นัด : ตกลงจะทำตามคำพูดของรองผอ.ใช่ไหมคะ//พี่นัดถามแทรกขึ้น
เรา : ก็ต้องเป็นแบบนั้นค่ะ ว่าแต่ช่วงหลายปีมานี้มีเรื่องอะไรที่สโนว์ไม่รู้เหรอคะพี่นัด//เราถามพี่นัดกลับไป
พี่นัด : ไม่มีอะไรหรอกค่ะ//พี่นัดหลบสายตาของเรา มันต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ และทำไมป๊าถึงอยากให้เราไปบริหารมากกว่ามาเป็นหมอผ่าตัดนะ
พี่นัด : พี่ว่ารีบไปดีกว่าค่ะ ห้องผ่าตัดคงพร้อมแล้ว
เรา : ค่ะ//เราและพี่นัดกลับมาที่ห้องคนไข้ห้องเดิม แต่ลุงหนึ่งและคนไข้ไม่อยู่แล้ว มีแต่คุณวุธที่อยู่ในห้องเท่านั้น
เรา : คนไข้ล่ะคะ//เราถามไป
คุณวุธ : มีนางพยาบาลมาพาตัวท่านไปแล้วครับ
พี่นัด : คงจะไปเตรียมที่ห้องผ่าตัดแล้วค่ะ คุณสโนว์ไปสแตนบายที่ห้องroom1 จะดีกว่านะคะ//พี่นัดพูดแทรกขึ้น
เรา : ค่ะ//เราเดินออกจากห้องทันที ลงลิฟต์ตรงไปยังตึกผ่าตัดด้านหัวใจโดยเฉพาะ เราเข้าไปโซนห้องroom1 ทุกอย่างในโซนนี้ดูหรูหรา เครื่องมือทันสมัย ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดตากว่าโซนroom2ที่เราผ่าตัดเมื่อวานซะอีก เราเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัดสีน้ำเงิน เอาหมวกคลุมหัวเรียบร้อย เดินออกมาเพื่อล้างมือทำความสะอาดเตรียมเข้าห้องผ่าตัด ในจ้งหวะนั้นเห็นพวกเจ้าหน้าที่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายหลายคนวิ่งออกมาจากroom1ด้วยความรีบร้อน พวกนั้นคงเป็นทีมของพวกไอ้ทีสินะ เราล้างมือเสร็จกำล้งจะใช้ขาเตะปุ่มเปิดประตู แต่ประตูถูกเปิดซะก่อน ผู้ชายในชุดผ่าตัดสีน้ำเงิน ใส่หมวกคลุมผม พร้อมใส่แว่นลูป เดินออกมาจากประตู สายตาคนนั้นจ้องมองเราตั้งแต่ห้วจรดเท้า อย่างดูถูก มันจะเป็นใครไปไม่ได้ มันคือไอ้นทีนั่นเอง
ไอ้นที : ฝากหมอสโนว์ผ่าตัดคนไข้ของผมต่อด้วย
เรา : ชิ๊!! //เราสบัดหน้าหันไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้ามันด้วยซ้ำ มันก้มตัวลงมาพูดข้างหูเรา
ไอ้นที : ไม่ใช่จะแอบฆ่าคนไข้ของผมซะล่ะ//เราได้ยินแบบนั้น หันควับ!! ไปจ้องมันทันที มันยกตัวขึ้นยืนปกติ ยกยิ้มกวนตีนมองหน้าเรา
เรา : กูมีจรรยาบรรณพอ ถึงกูเกลียดมึง กูไม่ลงกับคนไข้หรอก//เรากัดฟันพูดกับมัน
ไอ้นที : ก็ดี้!! ถือซะว่าผมให้หมอสโนว์ยืมห้องผ่าตัดroom1และให้ยืมทีมวิสัญญีและผู้ช่วยผมของผมอีก3คน หวังว่าคนไข้ของผมจะปลอดภัย
เรา : ห่วงมากก็เข้าไปผ่าตัดเองสิ จะทิ้งกลางคันทำไม
ไอ้นที : ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ความเป็นจริงอีกเหรอ ทุกอย่างมีกฏเกณฑ์ไม่ได้สวยหรูเป็นดั่งใจไปซะทุกอย่างหรอก
เรา : มึงกับพ่อของมึงก็คงเลว เห็นแก่ตัวเหมือนกัน
ไอ้นที : เสียเวลาคุยเปล่าๆ ไว้เจอกันหลังผ่าตัดคนไข้เสร็จนะเพื่อนรัก
//มันพูดจบก็เดินผ่านหน้าเราไป
เรา : เพื่อนฟ่องมึงดิ ใครเพื่อนมึง//เราตะโกนตอบไป แต่มันไม่สนใจ ไม่หันกลับมามองเราสักนิด เราใช้ขาเตะเปิดประตู เดินเข้าไปในห้องมีทีมแพทย์รออยู่แล้ว5คน
ทุกคน : สวัสดีค่ะ,ครับคุณหมอ//ทุกคนพูดพร้อมกัน
เรา : สวัสดีค่ะ ฝากการผ่าตัดด้วยนะคะ//เรากวาดสายตามองทุกคน มีผู้หญิงคนนึงเดินมาใส่ถุงมือให้เราจนเสร็จ เราไปข้างๆ เตียงผู้ป่วย มองหน้าผู้ป่วยเป็นผู้หญิงวัยชรา ไรผมสีขาวด้านข้างโผล่ออกมา ใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่น ตัวผอม ผิวหนังย่นตามอายุจนเห็นได้ชัด เราหันกลับมามองที่หน้าอกที่ไอ้หมอนทีผ่าตัดไว้ มันใช้เครื่องECMOในการช่วยผ่าตัด ทำให้หัวใจจริงๆ ของผู้ป่วยหยุดเต้นอยู่
..?? ..: รู้สึกยังไงที่มาเป็นหมอสำรอง จากการผ่าตัดที่ใกล้เสร็จคะ//มีเสียงผู้หญิงจากด้านข้างพูดขึ้น เราหันไปมอง เป็นผู้หญิงในชุดผ่าตัดสีน้ำเงินเข้ม เห็นแค่ลูกตา หล่อนจ้องตาเรากลับแบบหาเรื่อง
เรา : จะผ่าเองไหมล่ะ ชิ๊!! ผ่าเองไม่ได้ก็หุบปากไปซะ//เราพูดสวนออกไป ทุกคนในห้องต่างเงียบ เรื่องกระแหนะกระแหนแดกดันเราเจอมาบ่อย แค่นี้เรื่ิองเล็กมาก
เรา : การผ่าตัดถึงไหนแล้ว//เราพูดขึ้น หันไปมองคนที่ยืนตรงข้ามกับเรา
ผู้ชาย : ผมเป็นหมอผู้ช่วยหมอนทีครับ ชื่ิอเดฟครับ
เรา : ฉันสโนว์ค่ะ
หมอเดฟ : ครับหมอสโนว์ การผ่าตัดทำบายพาสเสร็จแล้วเหลือแค่เย็บช่องอกกลับไปเท่านั้น//ผู้ช่วยแพทย์ที่เป็นผู้ชายบอกเรากลับมา
เรา : ขอบคุณค่ะหมอเดฟ//เรามองที่แผลการผ่าตัดที่ไอ้นทีผ่าและเย็บทำบายพาสไว้ เราหันไปมองหน้านาฬิกาที่ติดด้านข้างผนัง แล้วให้กลับมามองการผ่าตัดที่หน้าอก ไอ้นทีมันใช้เวลาแค่ชั่วโมงครึ่งในการทำบายพาสก็ถือว่าเร็ว ฝีมือการเย็บการต่อบายพาสของมันก็ดี รอยแผลที่เย็บแทบมองไม่เห็นไหม ฝีมือของมันก็ใช้ได้ จริงๆ ถือว่าดีด้วยซ้ำมิน่ามันถึงได้มีชื่อเสียงทางด้านการรักษาโรคหัวใจ ตอนแรกเราคิดว่าเพราะฝีมือมันห่วย พ่อมันดันเลยทำให้มันมีชื่ิอเสียง แต่พอมาเห็นการเย็บการรักษาของมันใกล้ๆ แบบนี้ คงประมาทฝีมือของมันไม่ได้แล้วสินะ
หมอเดฟ : เริ่มเย็บปิดหน้าอกเลยไหมครับ//หมอเดฟถามเรา
เรา : จริงๆ เหลือแค่เย็บปิดหน้าอก ไม่จำเป็นต้องถึงมือฉันก็ได้ แค่หมอเดฟที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ก็เย็บได้//ใช่ การทำบายพาสเสร็จไปแล้ว เหลือแค่ปิดหน้าอกจริงๆ เราไม่ต้องเข้ามาด้วยซ้ำ
หมอเดฟ : บางทีหมอนทีอาจจะอยากให้หมอสโนว์เป็นคนเย็บปิดขั้นตอนสุดท้ายก็ได้นะครับ
หล่อน : เขาให้ทำก็ทำให้เสร็จเถอะหมอ//พยาบาลที่ยืนใกล้เรา พูดแทรกขึ้นมาอีกแล้ว แถมเสียงที่พูดออกมาฟังดูเบื่อๆ เรามาก
เรา : ฉันรู้ค่ะ ไม่ต้องให้พยาบาลอย่างคุณมาบอกหรอก//เราหันไปตำหนิพยาบาลคนนั้นทันที
พยาบาล : อวดเก่ง//หล่อนพูดขึ้นเบาๆ หันหน้าไปทางอื่น เราได้ยินที่หล่อนพูดแต่ไม่สนใจ หันกลับมามองช่องอกของคนไข้ต่อ เราล้วงมือไปจับที่หัวใจคนไข้ เพื่อดูเส้นเลือดดำที่อยู่อีกข้าง
เรา : ทำไมเป็นแบบนี้//เราถึงกับตกใจ เงยหน้ามองหมอเดฟ
หมอเดฟ : มีอะไรเหรอครับ
เรา : หัวใจอุ่น
หมอเดฟ : เรื่องปกตินิครับ หัวใจเป็นอวัยวะก็ต้องอุ่นเป็นธรรมดา
พยาบาล : กระโตกกระตาก ก็แค่เรื่องธรรมดา//พยาบาลคนเดิมพูดแทรกขึ้น
เราได้ยินแต่ปล่อยผ่านไม่อยากสนใจ
เรา : ขอฟิล์มเอกซเรย์หัวใจของคนไข้หน่อย//เราหันไปบอกทีมวิสัญญี
ทีมวิสัญญี : ค่ะๆ //มีคนนึงเดินไปหยิบฟิล์มเอกซเรย์แล้ววางไว้ที่ช่องฉายไฟที่กำแพงด้านข้าง หยิบฟิล์มเอกซเรย์วางไว้บนช่องนั้น
เรา : หลอดเลือดแดงโคโรนารีย์มีปัญหาจริงๆ ด้วย ทำให้เลือดสูบฉีดยาก หัวใจทำงานหนัก ถึงแม้จะใช้เครื่องECMOอยู่ แต่หัวใจมีความอุ่นจนเกินไป// เราเดินไปดูใกล้ๆ ฟิล์ม
หมอเดฟ : ห๊ะ!! เป็นไปได้ยังไงครับหมอสโนว์
เรา : เช็คประวัติคนไข้สิ สูบบุหรี่ ความดัน ไขมัน โรคกรรมพันธุ์ รวมถึงโรคเบาหวานอ่านมาให้ฉันฟัง//เราหันไปวิสัญญีคนเดิม แล้วเดินกลับมาที่เตียงคนไข้
วิสํญญี : ค่ะๆ หมอ//วิสัญญีคนเดิม เดินไปหยิบแฟ้มคนไข้มา อ่านให้เราฟัง
วิสัญญี : ผู้ป่วยไม่สูบบหรี่ ความดันปกติ ไขมันปกติ โรคทางกรรมพันธุ์ไม่มี แต่คนไข้กินยา ไพโอกลิทาโซน//วิสัญญีหันมามองหน้าเรา
เรา : เพราะแบบนี้สินะ ที่แท้คนป่วยเป็นโรคเบาหวานและเป็นแบบแห้งซะด้วย หากไม่มีการซักประวัติคนไข้ไว้ก่อน คนไข้ผอมแบบนี้คงดูไม่ออกหรอกว่าเป็นเบาหวาน//เราพูดกวาดสายตามองไปที่ทุกคน แต่ทุกคนกลับไม่พูดอะไร ได้แต่ทำตาโตแบบอึ้งๆ
หมอเดฟ : ผมไม่รู้เรื่องเบาหวานของคนไข้สักนิด และหมอนทีไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ หรือหมอนทีจะไม่รู้เหมือนกัน//เราใช้ความคิดตามที่หมอเดฟบอก เป็นไปไม่ได้ที่ไอ้นทีมันจะไม่รู้ แค่เห็นตัวยาที่คนไข้กินก็น่าจะรู้แล้วว่าเป็นเบาหวาน เดี๋ยวนะ!! แฟ้มคนไข้ไม่ได้ระบุเรื่องเบาหวานไว้ ไอ้นทีมันเจตนาจะปิดเรื่องโรคคนไข้กับเราล่ะสิ
เรา : ไม่ใช่..ไม่ใช่หมอนทีไม่รู้ แต่หมอนทีรู้อยู่แล้วต่างหาก เลยให้ฉันเข้ามา
ผ่าตัดต่อสินะ//มันคิดที่จะลองเชิงความสามารถของฉันสินะไอ้นที หากเราไม่เอะใจ คงเย็บปิดหน้าอก หลังคนไข้พักฟื้นตัองมีอาการโรคหัวใจกำเริบและมันจะต้องโยนมาเป็นความผิดของเรา มึงเลวมากไอ้นที
หมอเดฟ : หมอสโนว์จะทำยังไงต่อครับ//หมอเดฟพูดขึ้น
เรา : หมอนทีทำบายพาสไปที่หัวใจด้านซ้ายแล้ว ฝั่งขวาที่เป็นปัญหาคงทำไม่ได้อีก ดังนั้นจะต้องทำบอลลูน
หมอเดฟ : ครับๆ ทีมแพทย์เตรียมอุปกรณ์บอลลูน//หมอเดฟหันไปสั่ง ทุกคนทำตาม ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง หยิบอุปกรณ์และเครื่องมือเตรียมพร้อมไว้อย่างรู้งานไม่ต้องบอกเลยว่าต้องเตรียมอะไร นี่สินะทีมAที่เก่งและชำนาญของไอ้นที เราใช้เวลาในการทำบอลลูน40นาทีและเย็บปิดหน้าอกจนเสร็จทุกๆ อย่าง
เรา : เรียบร้อย!! //แปะ!! แปะ!! เสียงตบมือดังขึ้น ทุกคนต่างตบมือ
หมอเดฟ : หมอสโนว์เก่งมากครับ//หมอเดฟชมเรา
เรา : ขอตัวก่อน//เราดึงถุงมือยางออก เดินมาทิ้งที่ถังขยะ ดึงMaskออก รีบเดินออกมาจากห้องroom1 เพราะเราอยากไปดูการผ่าตัดที่ห้องroom2ที่ไอ้นทีกำลังผ่าตัดคนไข้นักการเมืองอยู่
..?? ..: เดี๋ยวครับๆ หมอสโนว์//มีเสียงเรียกจากด้านหลัง เราหยุดเดินและหันกลับไปมอง เป็นหมอเดฟที่วิ่งตามออกมา
หมอเดฟ : ตอนเย็นไปทานข้าวกันไหมครับ
เรา : ไม่ไปค่ะ ขอตัวนะคะฉันกำลังรีบ
หมอเดฟ : จะไปดูหมอนทีสินะครับ
เรา : ค่ะ//เราหันหลังกลับ กำลังจะเดินต่อ แต่มีผู่หญิงในชุดผ่าตัดวิ่งตัดหน้าเราไปอย่างเร็ว
หมอเดฟ : พยาบาลจุ๊บแจงคงเป็นห่วงแฟนนะครับ//หมอเดฟพูดแทรกขึ้น เราหันกลับไปมองหมอเดฟ
เรา : แฟน? //เรายกคิ้วถามหมอเดฟไป
หมอเดฟ : หมอสโนว์พึ่งจะย้ายมาคงไม่รู้สินะ หมอนทีกับพยาบาลจุ๊บแจงคนนั้นกำลังคบกันเป็นแฟนอยู่ครับ
เรา : เหรอคะ//เราได้ยินแบบนั้นทำเอาเราอึ้ง เพราะไม่เคยคิดเลยว่าไอ้คนชั่วๆ แบบไอ้นทีจะมีแฟนได้ แต่ก็อย่างว่าแหละอายุเยอะขนาดนี้ก็ต้องมีแฟนเป็นธรรมดา แล้วทำไมเมื่อวานมันถึงยังมาจูบเราอีกล่ะ เลวจริงๆ
หมอเดฟ : หมอ..หมอสโนว์
เรา : อ่ะ!! มีอะไรเหรอคะ//เราสะดุ้งนิดหน่อยเพราะมัวคิดอะไรเพลินๆ
หมอเดฟ : เป็นอะไรหรือเปล่าครับ อยู่ดีๆ หมอสโนว์ก็ใจลอย ไม่ใช่ลืมอะไรไว้ในตัวคนไข้หรอกนะครับ//หมอเดฟพูดไปยิ้มไป
เรา : ใช่ค่ะ!! ฉันลืมผ้าพันแผลไว้ในหัวใจคนไข้
หมอเดฟ : จริงเหรอครับ//หมอเดฟทำหน้าตกใจ สีหน้าเป็นกังวลมาก
เรา : ไม่จริงค่ะ ฉันแค่พูดเล่น
หมอเดฟ : เฮ้อ~~หมอสโนว์เล่นเอาผมตกใจเลยนะเนี่ย หมอมีอารมณ์ขำซะด้วย แต่จะว่าไปผิดกับผู้หญิงคนนั้น ผมก็พึ่งได้เห็นความปากร้ายของพยาบาลจุ๊บแจงก็เมื่อกี้นี่แหละครับ
เรา : ทำไมเหรอคะ
หมอเดฟ : ก็พยาบาลที่พูดกระแหนะกระแหนหมอสโนว์ในห้องผ่าตัด คนที่ยืนข้างๆ ก็คือพยาบาลจุ๊บแจงยังไงล่ะครับ
เรา : อ๋อ คนนั้นนี่เอง แต่ก็ปากร้ายจริงๆ แหละค่ะ
หมอเดฟ : ว่าแต่หมอสโนว์ไม่ไปดูการผ่าตัดของหมอนทีแล้วเหรอครับ
เรา : ไม่แล้วค่ะ ขี้เกียจไปเจอคนปากร้าย//เราส่งยิ้มให้หมอเดฟ
หมอเดฟ : ว้าว หมอสโนว์ยิ้มแล้วน่ารักมากครับ
เรา:ขอบคุณที่ชมค่ะขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ//เราเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุด
หมอเดฟ : เปลี่ยนใจไปทานข้าวเย็นกันไหมครับ//หมอเดฟตะโกนตามหลังมา แต่เราไม่สนใจ เดินต่อมาเปลี่ยนชุดที่ห้องของผู้หญิง เราใส่ชุดเดิมออกมา แล้วโทรหาพี่นัด
พี่นัด : คุณสโนว์ผ่าตัดเสร็จแล้วเหรอคะ
เรา : เสร็จแล้วค่ะ สโนว์แค่โทรมาถามว่าจัดโต๊ะทำงานให้สโนว์หรือยัง
พี่นัด : จัดไว้แล้วค่ะ ห้องทำงานอยู่ชั้น8ของตึกนั้นค่ะ เดี๋ยวพี่พาไปแนะนำนะคะ
เรา : ได้ค่ะ สโนว์ไปรอหน้าชั้น8นะคะ//เรากดวางสายทันที แล้วเดินขึ้นบันไดจากชั้น5มาชั้น8 มีลิฟต์แต่เราขี้เกียจใช้ ขอเดินออกกำลังกายและคิดอะไรดีกว่า เราเดินไปคิดไปในเรื่องการผ่าตัดเมื่ิอกี้ ไอ้นทีมันคิดที่จะลองเชิงเราจริงๆ สินะ เอาชีวิตคนไข้มาทำแบบนี้มันเลวจริงๆ
..?? ..: อ้าวหมอ...หมอสโนว์นี่หน่า//มีเสียงทักเราจากด้านหลังเราหันกลับไปมอง เป็นผู้หญิงใส่ชุดกาวน์สีขาวของหมอ ในมือถือกล่องใหญ่บังหน้าไว้
เรา : ใครน่ะ//เราถามไป ผู้หญิงคนนั้นชะโงกหน้ามาด้านข้าง เป็นปอนักศึกษาแพทย์นี่เอง กำลังยกกล่องอะไรสักอย่างทำสีหน้าว่าหนัก ทักเราจากด้านหลัง
เรา : อ้าวปอ ให้ช่วยไหม ถือของหนักแบบนี้ทำไมไม่ใช้ลิฟต์
ปอ : ไม่เป็นไรค่ะหมอ ปอจะได้ออกกำลังกายไปด้วย//ปอวางกล่องในมือไว้ที่ชั้นบันได
ปอ : ว่าแต่หมอสโนว์จะไปไหนคะ
เรา : จะไปชั้น 8
ปอ : ตกลงหมอสโนว์ได้เป็นหมอที่นี่แล้วใช่ไหมคะ//ปอทำตาโต
เรา : ใช่แล้วล่ะ//เราส่งยิ้มให้ปอ
ปอ : ดีใจจัง ปอจะได้อยู่ฝึกงานกับหมอสโนว์ด้วย
เรา : ตกลงได้ฝึกที่แผนกโรคหัวใจเหรอ ไม่ฝึกที่แผนกERแล้วใช่ไหม
ปอ : ฝึกที่แผนกโรคหัวใจดีกว่าค่ะ แผนกERงานเยอะจะตาย
เรา : ดูว่าห้องER คนเยอะก็จริง แต่นั้นได้ประสบการณ์เยอะเหมือนกันนะ
ปอ : ไม่เอาล่ะค่ะ ปอเลือกแล้ว อีกอย่างดูว่าห้องERงานเยอะคนเยอะก็จริง แต่แผนกโรคหัวใจงานเยอะกว่านะคะ ก็ดูนี่สิ ปอยังโดนใช้มาขนของหนักจากห้องแลปไปไว้ที่แผนกเลย//ปอก้มลงไปมองยังกล่องที่วางอยู่
เรา : นั่นสินะ แผนกไหนก็ทำงานหนักเหมือนกัน มาๆ ฉันช่วยถือ
ปอ : ก็ได้ค่ะหมอสโนว์//จากนั้นเราและปอช่วยกันยกกล่องคนละข้าง เดินขึ้นบันไดมาชั้น8 เจอพี่นัดพอดี
พี่นัด : อ้าวๆ ทำไมยกกันมาแบบนี้ ใครใช้หมอสโนว์เนี่ย//พี่นัดมาช่วยยกกล่องในมือพวกเรา ไปวางไว้บนเคาน์เตอร์ด้านหน้า
ปอ : ขอบคุณที่ช่วยถือมาให้นะคะ//ปอยกมือไหว้เรา
เรา : ไม่เป็นไรหรอก
พี่นัด : เอาล่ะค่ะ พี่จะแนะนำหมอสโนว์กับทุกคนเอง//พี่นัดพูดจบก็หันหน้าไปยังทุกคนมีทั้งพยาบาลและหมอในชุดกราว์เดินไปเดินมา
พี่นัด : ทุกคนมารวมตัวกันตรงนี้หน่อยค่ะ//พี่นัดพูดขึ้นเสียงดัง ทุกคนต่างพากันมายืนข้างหน้า
พี่นัด : วันนี้จะแนะนำหมอคนใหม่คือหมอสโนว์ จะเข้ามาเป็นทีมB ของแผนกโรคหัวใจแห่งนี้ค่ะ
เรา : ชื่อสโนว์นะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย//เราพูดแทรกขึ้นกวาดสายตามองทุกคนไปรอบๆ มีบางคนส่งยิ้มกลับมา แต่บางคนทำหน้าบึ้งไม่สนใจ
..?? ..: ก็แค่หมอทีมB//มีเสียงมาจากพยาบาลชุดสีขาวคนนึง อายุมากหน่อย พูดและทำหน้าเชิดใส่เรา
พี่นัด : ให้แนะนำไหมคะ ว่าเป็นลูกสาวผอ.//พี่นัดหันมากระซิบเราทันที
เรา : ไม่ต้องค่ะ//เรากระซิบตอบ
พี่นัด : นี่พยาบาลต้อย เป็นหัวหน้าพยาบาลแผนกนี้ค่ะ//พี่นัดแนะนำพยาบาลคนนั้นให้เรารู้จัก
เรา : อ่อ เป็นหัวหน้าพยาบาลนี่เองถึงได้วางท่าใหญ่โต//เราพูดสวนขึ้น คนอื่นทำหน้าอึ้งอย่างตกใจ ควับ!! หล่อนหันมามองเราทันที
พย.ต้อย : นี่หมอว่าฉันเหรอคะ//หล่อนหันมาถามเรา
เรา : ไม่ได้ว่าค่ะ พูดความจริงในสิ่งที่เห็น
พย.ต้อย : หมอจะหาเรื่องเหรอ//หล่อนกัดกรามแน่น จ้องเราตาแทบจะถลนออกมา
เรา : เรื่องอะไรคะ บอกหมอหน่อย//เราทำเสียงกวนตีน
พี่นัด : เอาล่ะๆ เดี๋ยวจะพาหมอสโนว์ไปห้องทำงานนะคะ คนอื่นแยกย้ายได้//พี่นัดจูงมือเราเดินมาทางซ้ายมือ เป็นพื้นที่แบ่งเป็นห้องๆ ทาด้วยสีครีม แยกเป็นห้องๆ มีประตูปิดมิดชิด แทบมองไม่เห็นข้างใน แต่ละห้องมีป้ายเขียนบอกไว้ว่าเป็นห้องอะไรและเป็นของใคร เราหันไปเห็นห้องนึงเขียนว่าเป็นห้องนอนรวม
เรา : ห้องนอนรวมคืออะไรคะ//เราถามพี่นัด
พี่นัด : ไว้สำหรับให้นอนพักแก่หมอและเจ้าหน้าที่ ที่เข้าเวร แบบว่าฉันเหนื่อยฉันกลับบ้านไม่ไหวก็นอนพักห้องนี่แหละค่ะ//พี่นัดอธิบาย
เรา : รพ.ของเราก็บริการดีนะคะ เอาใจหมอน่าดูเลย
พี่นัด : ก็คุณทีน่าเป็นคนทำริเริ่มไว้ค่ะ//ว่าแล้วความคิดแบบนี้เป็นแนวของฝั่งญี่ปุ่น ต้องเป็นม๊าแน่ที่ทำแบบนี้ พี่นัดเดินนำเรามาเกือบถึงห้องด้านในสุด เรามองป้ายหน้าห้องเขียนว่า"หมอสโนว์" ซึ่งจริงๆ ต้องเขียนชื่อ-นามสกุลเต็มๆ
พี่นัด : คุณสโนว์ให้ปิดฐานะตัวเอง พี่เลยให้เขียนป้ายชื่อไว้แค่นี้ค่ะ
เรา : ดีแล้วค่ะ เพราะถ้าเขียนชื่อ-นามสกุลเต็มๆ มีหวังรู้กันทั้งรพ.แน่
พี่นัด : ค่ะ//พี่นัดผลักประตู แล้วเดินเข้าไป เราเดินตาม กวาดสายตาไปมอง
รอบๆ ห้อง มีโต๊ะทำงาน มีป้ายชื่ออยู่บนโต๊ะ ด้านหลังใกล้ประตูมีตู้เหล็กไว้เก็บของ ด้านหลังโต๊ะทำงานมีตู้ไม้เตี้ยๆ แถวยาว ด้านบนวางหุ่นโครงกระดูกตัวเล็ก มีโมเดลหัวใจของมนุษย์ เราเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน
พี่นัด : ห้องอาจจะเล็กไป คุณสโนว์จะให้แก้ไขหรือเพิ่มเติมอะไรบอกได้นะคะ
เรา : ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องแก้ไขอะไรแล้ว ขอบคุณพี่นัดมากๆ นะคะ
..?? ..: ทำงานสบายจริงๆ นะหมอสโนว์ ผ่าตัดเสร็จไม่คิดจะไปรายงานผลบ้างหรือไง//มีเสียงดังมาจากประตู เราหันไปมอง