ตอนที่ 13

2723 คำ
13 ค่ำคืนแสนหวานผ่านพ้นไปกับหนุ่มคนใหม่ ไม่ใช่สิ... นี่ไม่ใช่เขา! เณศราเพิ่งรู้ตัวว่าเธอเข้าใจผิดทุกอย่างเกี่ยวกับอาจารย์หนุ่มหน้าหงิม แว่นหนาเตอะแสนเรียบร้อยสุภาพ เธอเคยคิดว่ารู้จักเขาดีในระดับหนึ่งเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้เหตุผลในการดำรงชีวิตก่อนเสมอ แท้จริงแล้วเธอไม่รู้จักเขาเลยต่างหาก อาจารย์ป้อง... เป็นผู้ชายที่... ร้อนแรงดิบเถื่อน! โหดหื่นบนเตียง! ถึงเรื่องเอาอกเอาใจจะดี หลังได้เลื่อนขั้นความสัมพันธ์ที่เธอเป็นฝ่ายยอมรับเขาด้วยตัวเอง จากคนห่างไกลถึงได้กลายเป็นพี่อีกคน สนิทชนิดว่า... ติดหนึบ “พี่ป้องคะ...” เสียงหวานเรียกแกมดุคนข้างหลัง ร่างสูงในเชิ้ตสีครีมหล่อเหลากระชับกอดเอวบางแน่น เกยคางไว้บนไหล่มนอย่างน่ารัก “ครับเนย...” “เลิกมาเกาะเนยได้แล้ว เนยอบเค้กไม่ถนัด ไหนจะลูกน้องเนยใครเดินเข้ามาเขาก็เกรงใจ พี่มาติดเนยเป็นตังเมแบบนี้เมื่อไรเนยจะทำงานเสร็จคะ?” “พี่อยากกินเค้กเนยนี่ครับ... หอมมากเลย คนทำเค้กก็หอม... หวาน... อยากกินอีก” ใบหน้าสดสวยแดงระเรื่อเพียงนึกถึงคนตะกละเรื่องกิน เขายังใช้สารพัดวิธีจะหลอกล่อเธอนั่นแหละ โดยเฉพาะการจัดหนักงานหวามซึ่งเธอขอให้เขาหยุดแค่ภายนอก มอบความสุขให้กันและกันเพียงเท่านั้น แต่พอเสร็จกิจเมื่อไรเณศรายิ่งรู้สึกไม่ดี “เนยจะเลิกคุยกับพี่ไปเลยนะคะถ้าไม่เลิกก่อกวนเนย ชิงสุกก่อนห่ามมันไม่ถูกต้องค่ะ” “พี่เลิกไม่ได้หรอกเพราะมันรู้สึกดี ส่วนเนยก็เลิกคุยกับพี่ไม่ได้เหมือนกัน” “คนอะไร... พูดไม่รู้เรื่อง...” งึมงำว่าหน้าตาบึ้งตึง อีกคนยิ่งมองว่าเธอน่ารักอ่อนหวาน ชมแล้วชมอีกไม่ขาดปากทั้งเรื่องนิสัยใจคอ เดรสกระโปรงดอกไม้ตัวนี้ก็สวย แต่งหน้าก็สวย มารยาทดีไม่เถียงผู้ใหญ่ ไม่เสียแรงที่เล็งไว้แต่แรก ชมอีกสักนิด... เณศราคงได้ลอยติดเพดานไปพร้อมกับคุกกี้ในเตา แป้งทรงกลมสีนวลอ่อนโรยด้วยเยลลีจับตัวเป็นก้อนพอดี ร่างบางในเดรสสีสดใสก้มตัวลงยกเข้าไปก่อนประคองถาดออกจากเตาขนาดใหญ่อย่างยากลำบาก จากที่เคยทำงานไว ๆ ชั่วโมงเดียวเสร็จนี่ปาเข้าไปสองชั่วโมง ถึงเมื่อเช้านี้จะมีพ่อครัวอายุราว ๆ สี่สิบกว่าปีเข้ามาช่วยดูแซนด์วิชขนมปัง สำหรับขายในแต่ละวันว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ผู้จัดการร้านมาถามเรื่องเอกสาร เจ้าของร้านยังมีงานต้องทำอีกสักเล็กน้อย “คนสวยเตรียมขยายกิจการใหญ่โต พี่ว่าอนาคตเป็นเศรษฐีแน่นอน แถมยังเป็นแม่ศรีเรือนขนาดนี้... มาเป็นแม่บ้านให้อาจารย์ได้ไหมครับ? จ้างรายเดือนแต่จะจ้างไปตลอด เงินเดือนออกให้น้องเก็บทุกบาท” “ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ทำงานยากจังเลย มีอะไรไม่รู้มาติดหนึบเป็นปลิง เนยว่าถ้าจะช้าไปกว่านี้ คงได้ปิดร้านช้าแน่ ๆ สงสัยคงไม่ได้กลับห้องพี่แล้วล่ะ” “พี่ก็เผื่อเวลาแล้วไงครับ... เรามากันตั้งแต่ตีสี่ครึ่งไม่มีทางที่มันจะไม่ทันเปิดร้าน ไม่เกี่ยวกับเวลาปิดด้วยครับ” “แต่มันช้าค่ะ เนยเคยทำงานคล่องแคล่วว่องไวกว่านี้” จนเธอเบื่อจะผลักเขาแล้วเลยได้แต่เธอทำตาขวางใส่รอยยิ้มไร้เดียงสา “พี่อยากช่วยงานเนยนะครับ เนยไม่บอกพี่ว่าให้หยิบจับทำอะไรบ้าง พี่กำลังเรียนรู้ที่จะหัดทำนะครับ เวลาสอนเด็ก ๆ พี่ยังให้โอกาสพวกเขาเลยทำไมเนยไม่ให้โอกาสพี่บ้างล่ะ?” “พี่ปั้นคุกกี้เป็นก้อนทองหยอดนะคะ บางอันก็เละตุ้มเป๊ะ... กลับไปเทรนด์งานใหม่ที่บ้านค่อยมาลองทำจริงได้ไหม? ให้เนยเปิดร้านก่อนนะ...” “วันก่อนเนยบอกจะสอนพี่ก็ไม่สอน เนยครับ... เดี๋ยวพี่ก็ไปเข้างานแล้วครับ ขอกอดเนยอีกนิดนะ” พอเขาทำเสียงหวานหน่อย ส่งสายตาออดอ้อนผ่านแว่นกรอบหนาผิดจากผู้ใหญ่คนเดิม เณศราก็ยอมเขาอีก! บางทีนั่นอาจเป็นจุดประสงค์ของคนเจ้าเล่ห์ที่ไม่ยอมเลิกราจากงานกอด หากได้โอกาสสักหน่อยมือหนาค่อยเคลื่อนไปลูบจับเดรสลายดอกไม้ทั้งก้นเอว หน้าท้องแบนราบด้วยอารมณ์หลงใหลคลั่งไคล้ เขาวนเวียนทำแบบนั้นแต่ถ้าหากว่ามีคนเดินผ่านเข้ามาก็จะหยุดทำหน้ามึนค่อยก้มตัวลงกอดเธอต่อ จนกระทั่งเค้กเด้งดึ๋งออกจากเตา ในถุงมือลายดอกไม้ได้รับการช่วยประคองไปวางบนโต๊ะ “อุ๊ย... ช็อกโกแลตหน้านิ่ม ใส่ดาร์กช็อกฯ ด้วย...” อุทานตาโต แต่พอคนตัวเล็กเสร็จงานชิ้นสุดท้ายแล้วถอดถุงมือออกวาง กลับจงใจผลักมือเรียวเล็กให้พลาดท่า เลื่อนผ่านช็อกโกแลตสีดำไป “โอย ๆ เปื้อนเลยเนี่ยพี่ป้อง...” เธอมีสีหน้าผิดหวังเหมือนใจสลายกับหน้าเค้กที่ถูกปาดไปเล็กน้อยถึงมันคงไม่เป็นไรถ้าจะหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ออกไปวางขาย ฉับพลันนั้น ผู้ชายตัวโตก็ฉกหลังมือของเธอขึ้นจัดการ ท่าทางแลบลิ้นเลียบริเวณหลังมือยังดูดดื่มเป็นไอศกรีม เดาได้ไม่ยากว่าเป็นฝีมือเขา! “พี่ป้อง... พอเลยนะคะ อยากกินเดี๋ยวเนยห่อใส่กล่องให้ไปทานที่มอนะ ครึ่งก้อนนี้แหละเนยยกให้ฟรี ๆ เลย คนอะไรยุ่งจริง” “เนยครับ...” จู่ ๆ เขาก็เรียกเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า กระซิบเบา ๆ ข้างหู “ไม่ได้ช่วยตัวเองบ้างเลยเหรอ? พี่ทำนะ... ในห้องน้ำตอนเนยหลับ พี่ทนไม่ไหวครับ” “ทะลึ่งลามกที่สุดคนอะไร... อีกหน่อยลูกศิษย์ลูกหาจะมีไหมคะ ใครเขาจะนับถือ” “มันเป็นเรื่องธรรมชาติครับ อาจารย์คนไหนใครเขาก็มีเมียทั้งนั้น เขาแค่ไม่เอาเรื่องบนเตียงมาพูดให้คนอื่นฟัง แล้วนี่พี่พูดกับเนยครับ มีแค่เราสองคน...” “ค่ะ... แต่ใครเป็นเมียพี่คะ?” “เนยไง” “ยังไม่ได้เป็นซะหน่อย... ใครบอกเป็นคะ?” “งั้นเราจะเป็นผัวเมียจริงจังกันเมื่อไรดี?” คนพูดฉีกยิ้มกว้าง ยกมือนุ่มขึ้นจรดริมฝีปาก กดจูบลงบนนั้นพร้อมรอยยิ้ม ใบหน้าหวานงามเห่อร้อนแล้วเธอก็กระตุกมือออก “เป็นแล้วนี่ ไม่ต้องหาเวลาเป็นแล้วเนอะ คุณสามีคะ...” พูดจบ เธอค่อยเลื่อนมือขึ้นจับเน็กไทสีน้ำเงินเข้มขยับให้ตรง “ได้ยินว่าวันนี้อาจารย์มีประชุม รีบไปทำงานนะคะเดี๋ยวจะสาย” “เลิกงานแล้วพี่มารับนะ กลับด้วยกันนะครับ พี่ไม่อยากนอนคนเดียว” “น่าจะนอนคนเดียวบ้างนะคะ เนยไม่นิยมอยู่ก่อนแต่งเลยพูดตรง ๆ นะ พ่อแม่เนยคงไม่โอเค” “ก็พรุ่งนี้ไปหาไง พี่เลิกงานวันนี้ไปกันเลยก็ได้ พี่อยากไปหากคุณพ่อคุณแม่เนยนะ เนยเอาแต่ผลัด” “ไว้ว่ากันค่ะ เนยขอโทรนัดพวกเขาก่อน” เณศราบ่ายเบี่ยงเขามาหลายวันแล้ว เธอบังคับให้เขาเข้าใจในเมื่อเขาก็ยังไม่กล้าพาเธอไปที่บ้าน ตาคมมองตามมือเรียวขาวปัดเสื้อเชิ้ตสีครีมที่เกิดรอยยับจากการก้มตัวลงกอดแฟนสาวหลายนาน ให้เรียบร้อยเข้าที่ แม้ว่าเขาจะยังไม่สบายใจเรื่องบางอย่างที่ปิดบังไว้ ขณะที่การลืมตาตื่นมาพบสาวในดวงใจเป็นคนแรก นอนหลับสบายในอ้อมแขนของเขาคงไม่มีสิ่งใดสุขไปกว่า เขาปล่อยให้เธอจัดแจงเสื้อผ้าเหมือนเป็นศรีภรรยา “อย่าลืมกินข้าวเช้าข้าวเที่ยงให้ตรงเวลานะคะ เนยทำกับข้าวใส่กล่องไว้ให้พี่ทานเผื่อเลิกประชุมช้า” มือเรียวหยิบของใส่ถุงพลาสติกใสมีโลโก้ร้านขนมปัง เหมือนถุงใส่อาหารกล่องของร้านที่วางขายด้านหน้า แตกต่างตรงเป็นกล่องข้าวข้างในถุงนั้นเป็นลวดลายน่ารักลายตุ๊กตามีซ้อนกันสองชั้นซึ่งบอกว่ามันพิเศษกว่าคนอื่น ๆ ป้องเกียรติรีบรับอาหารของเขามาถือ ก้มหน้าลงมองมันด้วยจิตใจพองโต “รับรองว่าจะกินไม่ให้เหลือสักเม็ดครับ...” “ไม่ต้องล้างนะคะเนยล้างเอง... กล่องข้าวอันนี้ของเนยซื้อมาไว้ทำกับข้าวให้พี่ กินเสร็จแล้วมาคืนที่ร้านค่ะ กินเยอะ ๆ นะ ฝีมือเนยอร่อยแน่นอน” “ทำไมเนยน่ารักจัง...” เขายิ้มแล้วก็นั่น... “ฮึ่มมม!” เสียงทุ้มดังจากทั้งจูบทั้งหอมฟอดใหญ่บนแก้มบ้างซอกคอ มือกระชับจับเอวบางไว้ในพันธนาการไม่ต่างจากฟัดเด็กตัวเล็ก ๆ สะบัดปลายจมูกอย่างมันเขี้ยว! เรียกหัวเราะคิกคักจากคนที่พยายามหลบ “อย่าค่ะ ๆ พอแล้วพี่ป้อง... มันจั๊กจี้หนวด…!” ป้องเกียรติทำแก้มนวลให้กลายเป็นสีแดงจากหนวดเป็นตอ ก่อนฉกริมฝีปากงามครั้งสุดท้ายแล้วจากไป โดยไม่ลืมข้าวกล่อง ผลไม้ ชากาแฟ คนข้างหลังก็เดินตามออกไปส่ง กำชับบอกเขาไม่ให้อุดหนุนอะไรหน้าร้านอีก ก็ไม่ใช่ลูกค้าอย่างเดิมแล้ว... แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้มันจะก้าวกระโดดไปไหม? ความสับสนเหล่านั้นสร้างรอยยิ้มบนวงหน้าหวาน ราวกับว่าความคิดถึงได้ติดตามแผ่นหลังแกร่งผ่านเสื้อเชิ้ตสีครีมตัวโตไปจนกระทั่งเขาลับสายตา น่าแปลกที่เณศรายังคงยืนอยู่หน้าร้านท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว ซึ่งกว่าเธอจะรู้ตัวว่าก้อนเนื้อในอกเต้นระรัวดังเสียงกลอง มันดันไม่อยู่กับเนื้อตัวเสียแล้ว ชีวิตเปรี้ยวอมหวานของเณศราทำให้ลืมเรื่องราวในวันวานทีละเล็กละน้อย เปิดร้าน ปิดร้าน กลับบ้าน ตื่นขึ้นมาทำเรื่องเดิม เคยไปไหนมาไหนกับชายคนหนึ่ง กินข้าวดูหนัง สลับกันขับรถบ้างหากว่าใครเหนื่อยจากการทำงาน และถ้าเขาไม่มานั่งที่ร้านเบเกอรี่เธอจะไปหาเขา ต่างที่ตอนนี้เป็นชายอีกคน แตกต่างอีกเรื่องคือเธอสามารถไปนั่งเล่นใต้ตึกคณะได้อย่างเปิดเผย ไม่เหมือนคราวคบหากับปัถฐกร ไม่เคยสักครั้งที่เธอจะน่าพึงพอใจสายตาคนรอบกายเขา ไปนั่งเล่นในล้อบบี้บริษัทพันล้าน เธอมักถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามจากคนในครอบครัวแม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ของชายหนุ่มเอง ถึงไม่เคยเก็บเอามาใส่ใจตอนนี้กลับนึกย้อนไปว่าตัวเองช่างโชคร้าย และโง่เง่าสิ้นดี อยู่กับอาจารย์ป้องยังมีความสุขซะกว่า... ไม่ต้องปิดบังความสัมพันธ์ นอกเวลาวิชาการแล้วเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายมีพิษภัย ติดขี้เล่นตลกร้ายอารมณ์ดี ถึงเวลาทำงานจะหน้าตาคร่ำเครียดไม่พูดไม่จา แต่เป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลพอสมควร เรื่องอะไรขัดใจเขาจะพาลบ่นไปเสียหมดแม้แต่รถไฟฟ้า ถนนริมทางเท้า ฯลฯ ด้วยความที่เรียนจบมาจากต่างเมืองด้วยทุนรัฐบาล ร้ายสุดคือการทำกิจกรรมสุขสันต์! ทำให้หัวสมองของเธอปั่นป่วน เมื่อนึกถึงเรียวปากหนาหยักได้รูปใต้จุมพิตเร่าร้อน มือที่ลูบคลำไปทั่วตามใจปรารถนา ตามด้วยการสำเร็จความใคร่ให้แม้ว่าเธอจะต้องการมันหรือไม่ ไม่บนเตียงก็ต้องเป็นที่ไหนสักแห่ง... ลับตาคนสองต่อสอง... ทว่าอย่างน้อยข้อดีคงมีมากกว่าข้อเสีย เรื่องเอาอกเอาใจเรียกได้ว่าเป็นผู้ชายในอุดมคติสาวหลายคน “ทำไรอะ? พี่เนย” เสียงเรียกของพนักงานหน้าร้านพาใบหน้านวลกลายเป็นสีแดงระเรื่อตามลำดับ ในถุงมือลายดอกไม้หวานเข้ากันกับชุดสวย เจ้าของร้านหันหลังกลับไปบอก “ไม่มีอะไร ๆ เตรียมเค้กไง” “เหม่อออ คิดถึงอาจารย์ป้องง!” แล้วก็โดนแซวทุกวัน! สองสาวที่นี่เรียนอยู่มหา’ลัยเดียวกันที่อาจารย์ป้องเกียรติสอน แต่เป็นคนละคณะ ในเวลาบ่ายที่ร้านเนืองแน่นหลังผู้คนอิ่มอาหารแล้วต้องมาทานขนมเค้กล้างปาก เณศราก้มหน้าก้มตาจัดการงานตรงหน้าเตาอบขนมปังต่อ ก่อนออกไปรับลูกค้าด้านนอก เธอไม่ลืมว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของนักศึกษาสาวผู้เป็นที่รักของเพื่อนอย่างน้องเมย์ เจ้าของร้านจึงจัดโพรโมชันพิเศษให้ ลูกค้าจะได้รับส่วนลด 20% แววตาคู่สวยทอดมองบรรยากาศระหว่างเพื่อน รอยยิ้มระบายในนั้น ด้วยนึกถึงบรรยากาศในสมัยเรียน มีทั้งเพื่อนสาวอย่างปวิมล เพื่อนคนอื่น ๆ และปัถฐพล ที่เธอยังคงผูกใจเจ็บกับการทรยศของเขา จังหวะพอเหมาะสักหน่อยพอลูกค้าโต๊ะใหญ่ด้านหน้าเป่าเทียนวันเกิดเสร็จ ร่างบางในเดรสหวานระบายความยาวประหัวเข่าเดินเข้าไปพร้อมก้อนแป้งหน้าตาน่ารักขนาดเท่าฝ่ามือ แต่งแต้มด้วยครีมลายตุ๊กตาหมี บนถาดมีอยู่นับสิบชิ้น “อันนี้ของขวัญวันเกิดจากพี่เนยนะคะ เป็นคัพเค้กไขมันต่ำ พี่อบให้น้องเมย์พิเศษ Happy Birthday นะคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ เรียนเก่ง ๆ นะ” “ไม่มีของขวัญชิ้นใหญ่กว่านี้หรือครับพี่สาว เอาอาจารย์ฮอตเนิร์ดของพวกเราไปทั้งคน สาว ๆ ปาดน้ำตากันเป็นแถ้ววว!” คนพูดทำท่าดราม่า เรียกเสียงของเพื่อนสาวและอีกสามคน คุณพี่ร้านเค้กยิ้มเจื่อนว่า “ช่างแซวเนอะน้องเปี๊ยก ยังไงพี่ขอขอบคุณน้อง ๆ นะคะ แต่ว่าอาจารย์ฮอตเนิร์ดฮอตมาก พี่ไม่คืนนะ” เสียงหัวเราะคิกคักเรียกเสียงโห่ร้องเบา ๆ ของบรรดานักศึกษา เณศราหยอกล้อเล่นกับน้อง ๆ เป็นประจำคงไม่ถือ ทันใดนั้นเอง ร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาลายทาง กางเกงสแล็คและหัวเข็มขัดราคาแพงเป็นเงามันกระทั่งรองเท้าสีดำขลับ ทำให้เธอชะงักนิ่ง “พี่อยากคุยเรื่องพี่ป้องหน่อย...” “มีอะไรคะ? พี่ปัด” ถามพลันสะบัดก้นหนี ชายหนุ่มยังคงเดินตามด้วยอารมณ์รุ่มร้อนริษยา เมื่อถูกตัดขาดความสัมพันธ์ทุกช่องทาง ไลน์หรือโทรไปหาเธอไม่เคยตอบรับจนเขาตัดสินใจมา “พี่เป็นน้องเขยเขา เนยไม่รู้เหรอ? เขาเป็นพี่ชายของรวิตา บ้านนี้มีลูกสามคน ลูกสาวสองคนกับลูกชายคนโตอาจารย์ป้องเกียรติ” ย่างก้าวอย่างมั่นใจสะดุดเท่านั้น หัวใจหญิงสาวกระตุกวูบ ก่อนจะหันกลับไปด้วยสีหน้าเฉยชา “แล้ว... ยังไงคะ? มันแปลกตรงไหนคะใครเป็นพี่น้องใครแล้วยังไง” “เนยคิดว่าตัวเองมีดีอะไร? อาจารย์ระดับดอกเตอร์ถึงได้มาจีบเนย” “เนยสวยไงคะ” คนพูดฝืนยิ้มเต็มที่ ในชุดสวยอย่างทุกวันนั้นเธอเปลี่ยนแนวของตัวเองจากกระโปรงบานเป็นเดรสลายดอกไม้ คาดผมด้วยผ้าลายตารางน่ารัก ปัถฐพลยืนกำหมัดแน่นเพียงเห็นว่าเธอไม่มีท่าทีใด ๆ กับความจริงข้อนั้นเลยหน้าโต๊ะตัวเดิมที่ไม่ได้มีเขาเป็นเจ้าของอีกต่อไป “เนยอบเค้กอร่อย ใจดี ยิ้มหวาน จิตใจดีไม่คิดทำร้ายใคร โดยรวม ๆ ก็คือสวยมาจากภายใน แต่ที่จริงมันก็ไม่ใช่ธุระของพี่ปัดแล้วนี่คะ มีอะไรอีกหรือเปล่า?” ใครจะรู้ว่าเณศราไม่พอใจกับเรื่องที่ได้ยิน ไม่ใช่เพราะมันคือความจริง แต่อีพี่ป้อง! กล้าหลอกเธอ! ดวงตาคู่คมปลาบประกายราวกับว่ามีเปลวไฟข้างใน ขณะประจันหน้ากับเจ้าของร้านสาว พอเขาไม่พูดอะไรเธอก็แค่ผายมือเชื้อเชิญ ไปทางเก้าอี้ “ถ้ามาทานเค้กเชิญนั่งเลยนะคะ แต่ถ้าไม่กิน... ก็จะไม่ขายค่ะ ไม่ขาย!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม