ตอนที่ 11

2026 คำ
11 “พี่ทำให้เนยลืมเขาได้นะ...” ที่มีคนพูดขึ้นมาก็น่าสนใจ เณศรากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จานสองใบในอ่างกลายเป็นว่าเขาเป็นคนล้าง ผู้ชายตัวโตค่อยเดินไปหยิบเสื้อนอนมาให้พร้อมผ้าขนหนูสีชมพูอ่อน “อาบก่อนเลยนะ แชมพูสบู่พี่ใช้ได้หมด” พูดอย่างเป็นกันเองให้คนตัวเล็กเลิกสั่นเกร็งจากพันธนาการหลวม ๆ เมื่อสักครู่นี้ เขาจับจ้องใบหน้าหวานงามด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยน พูดจาหว่านล้อมจนเธอเลิกต่อต้านหัวใจ เณศราตอบ ‘ค่ะ’ แค่นั้นแล้วเข้าห้องน้ำไป ขณะที่เสียงฝักบัวผ่านห้องน้ำพาใจชายสั่นไหว หัวพาลคิดถึงเส้นผมนุ่มหอมสีน้ำตาลลอนปลายเข้ากันกับเครื่องสำอางอ่อนโทนส้ม ริมฝีปากอิ่มงามเคลือบลิปสติกสีเดียวกันเป็นลิปแมทแนวธรรมชาติซึ่งเธอตั้งใจเลือกมันอย่างคนแต่งตัวเป็น ไหนจะความเป็นคนตัวเล็กเอวบางทำให้เธอยิ่งเหมือนตุ๊กตา ที่เธอเริ่มพูดจาเป็นกันเองกับเขา เรือนกายร้อนรุ่มแทบอดรนทนไม่ไหว พอหญิงสาวเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าขวยเขิน ป้องเกียรติชะงักนิ่งมองคนตัวเล็กความสูงเพียงบ่า กลิ่นหอมจากเรือนร่างงามในเชิ้ตนอนลายขวางพาอารมณ์รุ่มร้อนประหลาด ก่อนที่เขาจะสะบัดหน้าหนีไปไม่พูดจา “อะไรของเขากัน...?” เสียงหวานบ่นแต่เธอดันไม่อยากกลับบ้าน อยากอยู่คุยกับเขานาน ๆ หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตัก ลุ้นระทึกว่าข้างหน้าจะเกิดอะไร เณศรานั่งรอเจ้าของห้องจนเขาออกมาหย่อนก้นนั่งลงข้างกัน “จะเซ้าซี้ให้เนยอยู่ทำไมคะ? เสื้อผ้าก็ไม่มีใส่เห็นไหมล่ะ” “ตัวนี้ไงครับเสื้อ... ใส่อยู่นี่ไง” ไม่พูดเปล่า ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา วางศีรษะบนหน้าตักนุ่มแทนหมอน คว้ามือเล็กขึ้นมากุมพลางลอบยิ้มกรุ้มกริ่ม “ทำอะไรคะ? ที่นอนมีตั้งเยอะแยะ” “พี่อยากนอนตรงนี้ เนยอยากดูหนังเรื่องอะไร? พี่ตรวจงานเสร็จแล้วเรามาดูหนังกัน” “เรื่องอะไรก็ได้ค่ะ... ก็... เปิดดูไปเรื่อยแหละ” ด้วยความเป็นแขกที่ดีเธอคงไม่กล้าบอกว่าไม่ดูหนัง เธอชอบออกไปข้างนอกเดินเล่น ช้อปปิ้งหาวัตถุดิบมาทำอาหารมากกว่า แต่เพราะอีกคนช่างมีความสุขกับการจูบหลังมือเธอเหลือเกิน ยังเริ่มทำตัวเป็นผู้ชายขี้สงสัยถามเรื่องปัถฐกรอยู่นั่น แม้ว่าเธอจะบอกว่าไม่มีอะไร “เนยยังกลัวใช่ไหม? กลัวว่าพี่จะเหมือนปัดล่ะสิ” “ไม่ได้กลัวอะไรซะหน่อย เนยไม่ใช่คนคิดมากค่ะ” “เห็นอยู่ว่ากลัว... แต่เนยรู้ว่าพี่ไม่เหมือนใคร พี่เป็นพี่ป้อง... เป็นอาจารย์ป้องครับ” นั่นอาจเป็นข้อหนึ่งที่ทำให้เณศราตกหลุมพรางของเขาแต่แรกแล้วก็ได้ เธอบอกให้เขาพอ หยุดทำทุกสิ่งอย่างแต่เธอเองก็ชอบ ใจเต้นแรงทุกครั้ง “อาจารย์ป้องคิดไปเองทั้งนั้นเลยนะคะ ไปทำงานได้แล้วเนยรอ” “ครับเนย...” พูดพลางยิ้มร่าเริง มือกระชับจับมือเล็กขึ้นมาพรมจูบอีกครั้ง ไม่เลิกอ้อนหญิงสาวที่ทำให้เริ่มงานช้ากว่าทุกวัน กว่าจะยอมลุกไปจากตักนุ่มก็นานนับสิบนาที เขายังคอยส่งสายตาอ่อนหวานให้ราวกับว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งรู้จักการมีความรักใหม่ ๆ ขณะนั่งตรวจงานหน้าตาคร่ำเครียดในอีกมุมหนึ่งของห้องรับแขกที่มีโต๊ะทำงานตัวใหญ่ข้างเอกสารกองพะเนิน ต่างจากอีกคนที่ลอบมองเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตนอนลายตารางด้วยความคิดมากมายหลายอย่าง ทิ้งความคิดฟุ้งซ่านไปกับละครที่เธอไม่เคยคิดจะดูมัน เหมือนเข้าถ้ำเสือโดยไม่มีอาวุธติดมือ เป็นเรื่องโง่เขลากับการใช้ใจแลกใจ แล้วป้องเกียรติ... จะเป็นหนุ่มสมชื่อป้องเกียรติของเขาหรือเปล่า? เณศรารู้สึกตัวอีกทีในรุ่งเช้า ไม่ใช่บนหมอนนุ่มที่นอนนิ่ม ๆ แต่เป็นบนท่อนแขนแข็งแรงของผู้ชายตัวโตที่ไม่ยอมใส่เสื้อ เปลือยล่อนจ้อนเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ดวงตาคู่สวยไล่มองอกขาว ๆ ของผู้ชายที่ดูแลตัวเองดี นมชมพูอีกต่างหาก! อุณหภูมิร้อนระอุเห่อขึ้นแก้มแดงระเรื่อเพราะอารมณ์วาบหวิวประหลาด แต่เธอดันนึกโมโหคนชอบฉวยโอกาส “อาจารย์ป้องคะ…” เสียงเรียกดุพาเปลือกตาหนาขยับปรือ ร่างกำยำพลิกตัวตะแคงหาคนในอ้อมแขน สะลึมสะลือตอบ “ครับเนย...” “ทำไมมานอนโป๊แบบนี้ล่ะ?” “ร้อนอะครับ... ไม่กล้าปรับแอร์เย็นกว่านี้ กลัวเนยหนาว” พูดพลันกระชับกอดแม่สาวตัวนุ่มนิ่มในผ้านวมผืนโตผืนเดียวกัน เณศรายกมือขึ้นยันแผงอกเป็นล่ำสันไว้อย่างระวังตัว หลังจากที่เขาตื่นเต็มตาด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี แม้ขอบตาดำคล้ำเพราะหลับบ้างไม่หลับบ้างประสาหนุ่มโสดวัยกลัดมัน “ผู้ชายอะไรได้คืบจะเอาศอก เนยหลับไปตอนไหนทำไมไม่ปลุกล่ะ มานอนกอดเนย ลูกมีพ่อมีแม่นะ” “แล้วใครไม่มีพ่อแม่บ้างล่ะครับ? มันต้องมีการปฏิสนธิระหว่างชายหญิงก่อนนะถึงเกิดมาได้” คนได้ยินยิ้มประชด เพราะเหตุผลของเขามันฟังไม่ขึ้น! “ไม่ต้องมาทำนอกเรื่องค่ะอาจารย์” “ไม่นอกเรื่องก็ได้ครับ เมื่อคืนนี้พี่อุ้มเนยมานอนที่เตียง เนยมากอดพี่เอง ซุกเอา ๆ เห็นว่าหลับสบายอยู่เลยไม่อยากปลุก” เณศราหน้าเจื่อนไปหากว่าเธอเป็นฝ่ายผิด ถึงมันจะไม่มีอะไรการันตีว่าเขาไม่ได้โกหก แต่ป้องเกียรติไม่ใช่คนแบบนั้น ตาคมสำรวจเชิ้ตนอนลายขวางตีตารางสลับลาย ลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหิวกระหาย ก่อนจะพูดโพล่งออกไป “ขอจูบเนยได้ไหม?” คนตัวเล็กเบิกตากว้างตะลึง “คะ...?” “พี่... อยากจูบเนย คือเนยไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม? เรื่องปัด...” “หมายความว่าไงคะ? เนยไม่เข้าใจ” เธอย่นคิ้วเข้าหากัน ในอ้อมแขนของคนที่พยายามบอกอย่างใจเย็นและเข้าใจ “พี่กลัวเนยไม่สบายใจเรื่องผู้ชายคนก่อน แต่พี่ไม่ใช่เขา พี่ไม่เหมือนใคร พี่ดีใจที่เนยยอมรับความรู้สึกของพี่นะ” “ใครบอก... อุ๊ย!” อุทานทันทีที่ถูกฉกหอมฟอดใหญ่ มือเรียวยกขึ้นลูบหน้าแรง “ชักเอาใหญ่แล้วนะคะ เนยไม่ได้บอกว่าจะคบด้วยค่ะ แค่ยอมให้นอนตักให้จับมือเพราะสงสารหรอก พี่มากอดเนยก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วย เนยหลับค่ะ คนอะไรชอบคิดเองเออเอง...” “เปล่าคิดเองเออเอง เนยต่างหากที่ชอบหลอกตัวเอง... ว่าไม่ชอบอาจารย์” ใบหน้าแดงซ่านบอกความรู้สึกชัดเจน แม้แต่เสียงจังหวะของหัวใจที่เกือบจะกลายเป็นเสียงเดียวกัน ในอ้อมกอดหลวม ๆ ของเขา เณศราไม่คิดจะลุกหนีหรือทุบตีทั้งที่จะทำก็ทำได้ “ก็... ไม่ถึงขั้นนั้น แค่ถูกใจ” “เราสองคนอายุไม่น้อยแล้วนะครับ พี่สามสิบห้าเนยย่างยี่สิบหก ชอบควรจะบอกว่าชอบ” เรียวปากอิ่มงามเม้มปิดสนิทแน่น ในพันธนาการนี้เธอคงเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือ ยิ่งเขาไม่เลิกบริภาษ “ถ้าแค่ถูกใจคงไม่ยอมอยู่ด้วยกันถึงเช้า เว้นแต่ว่าเนยจะเป็นนักล่าแต้มนะครับ” “เนยบอกแล้วไงคะว่าเนยหลับ” เสียงหวานอ่อนลงแต่พอปลายนิ้วเรียวเลื่อนขึ้นมาปัดปอยผมของเธอไว้ข้างหลังด้วยท่าทางแสนอ่อนโยนราวกับว่าเธอเป็นสิ่งล้ำค่า หัวใจดวงน้อยสั่นไหวไปกับการกระทำและคำพูด... ของเขา... “พี่รู้ว่าเนยกลัว เมื่อวานนี้เนยหน้าตาไม่ค่อยดีเลยตอนเจอปัด...” “ทำไมต้องพูดถึงพี่ปัดด้วยล่ะคะ? เนยเลิกคุยกับเขาไปตั้งนานแล้วไม่เห็นต้องโยงมาเกี่ยวกัน” “เกี่ยวสิครับ เนย...” เสียงทุ้มแผ่วเบาลง ใบหน้าหล่อเหลาเข้มเครียดจริงจังค่อยโน้มลงประทับจุมพิตบนหน้าผากเนียน สัมผัสหวานของเขาราวแล่นตรงถึงใจ นัยน์ตาคู่สวยสบมองแววตากะพริบปรือ ซึ่งเธอรู้ว่าคนสายตาสั้นขนาดนี้อาจเห็นเพียงภาพที่พร่าเลือน “พี่รับปากว่าจะดูแลเนยไปตลอดไม่ให้ผู้ชายคนไหนมายุ่งแล้วนะ แต่พี่กลัวเป็นตัวสำรองใคร กลัวจู่โจมมากไป เกิดจูบแล้วโดนเนยตบทำไง พี่เป็นเด็กเรียนไม่มีประสบการณ์เรื่องพวกนี้หรอก” “ไม่รู้เรื่องเลยหรือคะ? เนยว่าอำแน่ ๆ อาจารย์ออกจะหยอดเก่งจีบเก่ง ต้อนเนยจนมุมทุกทีค่ะ” “พี่ไม่เคยจีบใครมาก่อนเลยนะ ทำไปด้วยสัญชาตญาณล้วน ๆ แค่ชอบผู้หญิงคนนี้ แต่กลัวโดนสาวตบเลยไม่กล้าจูบสักที... ถ้าเนยตบพี่คงไม่โอเค” “ทำไมคะ?” “เนยเป็นผู้หญิงเรียบร้อย เป็นคนดีครับ เนยตบหน้าอาจารย์ เนยคงต้องเสียใจแน่ ๆ” “เมื่อกี้ยังว่าเนยเป็นสาวล่าแต้มอยู่เลย อะไรกันคะกลับไปกลับมา ตลกค่ะ...” เธอยกมือป้องปากแสร้งหัวเราะประชดอย่างลืมตัว แต่อีกคนทำตาเขียวใส่เพราะไม่ขำไปด้วย “มันน่าตลกขนาดนั้นเลยรึไงครับ?” “อาจารย์ป้องเป็นคนตลกจังเลยค่ะ น้องคนไหนมาบอกเนยว่าอาจารย์โหดกัน นี่... ปล่อยเนยได้แล้วนะคะ” “ไม่ครับ รับรองว่าคราวนี้ไม่ตลก พี่ถือว่าขออนุญาตเนยแล้ว” ในน้ำเสียงเข้มเครียดจริงจัง พลันร่างหนาผลัดกายขึ้นคร่อมทับ ประกบปิดเรียวปากอิ่มงามฉับไว หญิงสาวเบิกตากว้างตกใจ ยกมือขึ้นทุบอกแกร่งแต่ก็แค่ครู่เดียวที่ออกแรงประท้วง หัวสมองของเธอขาวโพลนเมื่อตกอยู่ในสภาวะจำยอม สองมือเรียวอ่อนเปลี้ยวางพักไว้บนบ่ากว้าง เพียงทุกส่วนสัดของเรือนกายแนบชิดสนิทกันผ่านป้อมปราการบาง ๆ ใต้แผงอกเปลือยเปล่าของผู้ชายที่พกพาความร้อนแรงมาเต็มที่ หากว่าขัดขืนได้คงต้องใช้เรี่ยวแรงมหาศาลและใจ... ที่คงจะไม่อยู่กับเนื้อตัวในเมื่อเธอเองก็หวั่นไหว ปลายลิ้นเล็กกระหวัดตอบกลับไปอย่างไม่ประสีประสา เสียจนต้องให้ชายหนุ่มเป็นคนบอกสอนว่าเธอต้องอ้าปากแค่ไหนยังไง เขาดูเหนือชั้นกว่ามากทั้งที่บอกว่าไม่เคย เป็นความคิดผิด ๆ ของเณศราที่พยายามจะควบคุมเขาด้วยจูบอ่อนหัด ยังหลงผิดคิดว่าผู้ชายหงิม ๆ ไม่น่ากลายเป็นเสือร้ายไปได้! เมื่อเขาเริ่มตะบมจูบเธออย่างบ้าคลั่ง ทว่าอ่อนหวานด้วยความรู้สึกปรารถนามากมาย มอบอากาศให้เพียงน้อยนิดซึ่งการหอบหาแต่ละคราไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยอารมณ์รุ่นร้อนที่เก็บกดมาตลอดคืน ไม่บอกก็รู้ว่าบางคนไม่น่าทนไหว “อื้มม...” เรือนกายกำยำสั่นเกร็งพร้อมส่งเสียงคำรามผ่านลำคอแห้งผาก มือหนาหยาบเริ่มอยู่ไม่สุข บีบทั้งหน้าเรียวไข่ได้รูปสวยให้รับน้ำลายหวานหนืดผ่านจุมพิตดูดดื่มเร่าร้อน อีกข้างหนึ่งกอดรัดเอวคอดบางให้แนบกายไว้กับเขาอย่างไม่อยากแยกจาก กว่าที่เขาจะปล่อยจากริมฝีปากงาม ซุกปลายจมูกลงสูดกลิ่นหอมจากซอกคอขาวเนียนเหมือนคนไร้สติ “พี่... ป้อง... หยุดก่อนค่ะ อื้อ...” “พี่หยุดไม่ไหวแล้วครับ... อา... เนย...” เสียงทุ้มพร่าเรียก ขณะลากไล้ปลายจมูกโด่งเป็นสันคมไปตามกายสาว ประหนึ่งว่าเธอเป็นดอกไม้แรกแย้มบานส่งกลิ่นเกสรล่อแมลงตัวผู้ ด้วยความไร้ประสบการณ์ของเณศรา คงจินตนาการไม่ออกว่าเขากำลังจะทำอะไร ข้างหน้าจะเกิดอะไร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม