เช้านี้ที่โต๊ะอาหารบรรยากาศชวนอึดอัดเนื่องจากผู้ใหญ่ในบ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่กไม่มีใครรู้ว่าจะพูดอะไร แม้แต่คุณหญิงฐิตินันท์ก็ยังไม่ได้เอ่ยเหน็บแนมลูกสะใภ้เลยสักคำตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้
"นี่ ที่เธอขอฉันไว้ ฉันโอเค"คุณหญิงพูดลอยๆออกมาแต่ธัญญ์นลินเข้าใจความหมายดีว่าเป็นเรื่องเรียนพิเศษของลูกชายคนโตแม่สามีรับปากแล้วจะช่วยดูแลให้
"ขอบคุณคุณแม่มากค่ะ"เธอยิ้มบางๆไม่ได้จงใจยิ้มหวานกวนอารมณ์ใส่เหมือนเช่นทุกที
"หนูพลาดอะไรไปหรือเปล่าคะคุณแม่"ฐิติชญาเอ่ยถามมารดาที่พูดรู้เรื่องกันอยู่สองคนวันนี้เธอไม่มีเรียนจึงได้พักอยู่บ้าน
"สอดรู้ให้มันน้อยๆหน่อยเราน่ะ"ฐิติชญาหน้างอหันไปทางคนเป็นพ่อที่เอาแต่มองหลานชายคนโต
"ได้ข่าวว่าจะไปงานวันเกิดเพื่อน ให้ปู่ไปเป็นเพื่อนไหม"ทุกคนหันขวับไปหาคนพูดพร้อมกันแทบจะทันที นายสิทธิกรจะออกไปงานเลี้ยงกับหลาน แม้แต่งานใหญ่ที่จัดบางงานเขายังปฎิเสธเลย แล้วนี่แค่งานของเด็กๆ
"ทำไม ไม่ได้หรอ"ทุกคนเงียบไม่กล้าพูดอะไร ฐิรดลมองไปทางแม่ เขาไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจยังไง
"บัวบอกกับลูกว่าจะไปเป็นเพื่อนน่ะค่ะ ที่งานไม่ค่อยมีอะไรมาก คุณพ่อไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ"ธัญญ์นลินเอ่ยบอกพ่อสามีแทนบุตรชาย
"เดี๋ยวผมจะไปส่งเอง"คราวนี้ทุกสายตาย้ายมาทางร่างสูงของฐิติกร
"ทำไม ไม่ได้หรอ"คำนี้คุ้นๆ นิสัยแบบนี้ได้มาจากใครก็คงไม่ต้องบอก
"กะ ก็ได้ค่ะ"ธัญญ์นลินติดอ่าง ส่วนฐิรดลนั้นหันไปมองพ่อสายตาฉายแววดีใจแวบนึงก่อนหันไปหาคนเป็นปู่ คราวนี้รอยยิ้มน้อยๆก็ผุดออกมาทำให้ใบหน้ายิ่งหวานเข้าไปอีก
"งั้นก็ดี กลับมาจากข้างนอกแล้วก็พาน้องมาหาปู่นะ ช็อกโกแลตเรายังไม่ได้กินเลย"เด็กชายพยักหน้ารับคำ ดีใจที่ปู่ยังไม่ลืม
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จช่วงสายเธอก็พาลูกๆออกไปซื้อของเด็กๆมีท่าทางตื่นเต้น
ที่จะได้ไปเที่ยวข้างนอกพร้อมพ่อกับแม่เป็นครั้งแรก ธัญญ์นลินเดินจูงมือลูกชายคนเล็กส่วนฐิติกรจูงมือลูกชายคนโต หญิงสาวเอ่ยถามลูกชาย
"ซอ ไปซื้อของขวัญให้เพื่อนก่อนไหมลูก"เด็กชายตอบตกลง
"ไปดูของเล่นดีกว่านะ เพื่อนซอน่าจะชอบ แล้วรู้หรือเปล่าว่าเขาชอบอะไร"ฐิติกรก้มลงไปถามลูกชาย
"น่าจะทรานส์ฟอร์เมอร์สนะครับ"เขาเห็นเพื่อนชอบคุยเรื่องนี้บ่อยๆ
"งั้นก็ไปดูกันดีกว่า"สองพ่อลูกจูงมือกันไป ฐิรดลยิ้มเขินรู้สึกได้ว่าพ่อกับแม่สนใจรับฟังความเห็นของเขาสำหรับเด็กเรื่องแบบนี้ก็สำคัญเหมือนกันเพราะนั่นเขาได้แสดงความคิดของตัวเอง สองพ่อลูกเลือกดูสินค้ากันไปปล่อยให้สองแม่ลูกอีกคู่ตบตีกันอยู่อีกฝั่งที่ท่าทางน่าจะต้องตกลงกันนานเพราะต่างก็ยกเหตุผลมาข่มกัน
"ตัวนั้นที่บ้านมีแล้วครับ"ธัญญ์นลินว่าเมื่อเห็นลูกชายชูมือกลมป้อมที่ถือโดเรม่อนแมวสีฟ้าที่ตัวกลมแข่งกันกับเขาให้เธอดู
"ที่บ้านตัวใหญ่ อันนี้ตัวเล็ก"
"จะตัวเล็ก ตัวใหญ่ก็หน้าตาเหมือนกัน"
"ไม่เหมือนครับ ตัวใหญ่กอดยาก ตัวนี้กอดง่าย"ว่าแล้วก็เอาแก้มถูๆตุ๊กตาเบาๆอย่างรักใคร่
ธัญญ์นลิน "..."
"ไม่ดูอย่างอื่นหรอครับ ตัวที่บ้านจะน้อยใจนะแถมตัวนั้นคุณย่าเป็นคนซื้อให้ซอลด้วย"เธอยกคุณย่าเขามาอ้าง แต่จะว่าไปฐิรวิชญ์ก็พูดถูกตัวที่บ้านใหญ่กว่าเด็กชายสองเท่าจะอุ้มจะเล่นคงลำบากเพราะคนเป็นย่าเห็นหลานชอบเลยซื้อแต่ตัวใหญ่ๆให้
"อยากได้ตัวนี้ นะ นะ นะครับคุณแม่" โห ร้าย เกาะแข้งเกาะขาทำตาปริบๆ อ้อนเก่งเหลือเกิน หัวใจคนเป็นแม่อ่อนลงจนแทบละลาย
"ก็ได้ค่ะ แต่วันหลังห้ามซื้ออีกแล้วนะ มันเยอะจนจะทับบ้านแล้ว ไม่มีที่ให้อยู่ไม่รู้ด้วยนะ" เด็กชายพยักหน้ารัวๆเชื่อที่แม่พูด
ส่วนสองพ่อลูกที่อยู่อีกฟากก็คุยกันไปช่วยกันตัดสินใจผิดกับฝั่งแม่ลูก
"ชอบตัวนี้หรอ ดูดีนะ บังคับได้ด้วย"เขาเอ่ยถามเมื่อลูกชายจับจ้องไปที่รถบังคับวิทยุทรานฟอร์เมอร์ของเล่น2in1 ที่สามารถแปลงเป็นหุ่นยนต์ได้
"ครับ ซื้อตัวนี้ได้ไหมครับ"
"ได้สิ ซออยากได้อะไรก็บอกพ่อ"เขาลูบศีรษะลูกชายเบาๆ อยากชดเชยให้กับลูกที่ไม่เคยได้สนใจไยดีคนนี้ให้มากที่สุด เขาหันไปพยักหน้าตกลงกับพนักงานขายฝากให้ห่อของขวัญให้ด้วย
"แล้วของซอล่ะ มีอะไรที่อยากได้เองไหม"เขาถามลูกชายที่ตั้งแต่เข้ามาก็ไม่ได้ดูของสำหรับตัวเองเลย เขารู้สึกเหมือนลูกโตเกินวัย เด็กวัยนี้บางคนยังร้องไห้งอแงขอของเล่นอยู่เลย แต่ก็นั่นแหล่ะก็เป็นเพราะเขาอีกเช่นกันที่ทำให้ลูกเป็นแบบนี้เพราะเด็กชายไม่มีโอกาสได้งอแงกับใคร
"นั่นสิคะ นานๆทีคุณพ่อจะซื้อให้นะ"หญิงสาวที่จูงมือฐิรวิชญ์เข้ามาสบทบเอ่ยบอกลูกชาย เด็กชายมองหน้าคนเป็นพ่อเหมือนใช้ความคิด เขาเหลือบมองกระเป๋าเป้การ์ตูนที่เป็นรูปโล่กัปตันอเมริกา แต่เขามีกระเป๋าสไปเดอร์แมนแล้ว เด็กชายจึงหน้าส่ายหน้าเบาๆ
"ที่บ้านมีแล้วครับ แบบเดียวกันแค่เป็นคนละลาย"
"อย่างนั้นก็ไม่เหมือนกันสิ"คนเป็นพ่อแย้ง
"อยากได้ลายไหน ไปเอามาเลยลูกอยากได้กี่ลายก็หยิบมา"
ธัญญ์นลิน "..."
เด็กชายหันไปมองแม่ที่หนังตากระตุกนิสัยนี้มันเหมือนเจ้าแสบของเธอเลยนี่นา ถึงจะไม่ค่อยพอใจนักที่พ่อลูกใช้เงินฟุ่มเฟือยแต่ก็ไม่อยากขัดใจลูก
"ถ้าชอบก็ไปเอามาเถอะ แต่แค่ใบเดียวนะครับใบที่บ้านยังใหม่อยู่เลย"เธอบอกลูกชาย แต่คนเป็นพ่อไม่ยอม
"ได้ไงคุณ แค่กระเป๋าเด็กผมมีปัญญาจ่ายน่า จะสลับลายให้ครบทั้งห้าวันก็ได้"ว่าแล้วก็บอกพนักงานขายว่าเอาทุกลาย ทั้งซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน กัปตันอเมริกา ไอรอนแมน และก็แบทแมน ธัญญ์นลินโมโห เขากำลังทำตัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกเห็น
"เอาแค่ใบเดียวก็พอ"หญิงสาวบอกพนักงาน
"เอาหมดนั่นแหล่ะแล้วคิดเงินเลย"เขาหันไปบอกพนักงานคนเดิม
"นี่คุณ กระเป๋าน่ะ บ้านไหนจะเปลี่ยนกันบ่อยๆ"
"ของแบบนี้มันอยู่ที่ความพอใจต่างหากคุณ"เขาเถียง พนักงานขายสีหน้าไม่ค่อยดีนักที่เห็นสองผัวเมียเริ่มทะเลาะกันเลือกไม่ได้สักที
"ผมว่าคุณพ่อคุณแม่ตกลงกันดีๆก่อนนะครับ ใจเย็นๆค่อยๆตัดสินใจ"เขาบอกอย่างเกรงใจ ลูกค้าคนอื่นก็เริ่มเมียงมองมาทางนี้บ้างแล้ว
"ที่บ้านมีลายสไปเดอร์แมนแล้วครับ ผมแค่อยากได้ลายกัปตันเท่านั้นเอง"เสียงลูกชายดังขึ้นแทรกพ่อกับแม่
"งั้นก็เอาทุกลายยกเว้นสไปเดอร์แมนละกัน"ฐิติกรตัดสินใจแล้วยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานตัดปัญหา ธัญญ์นลินโกรธจนพูดไม่ออกยื่นตุ๊กตาของลูกคนเล็กส่งให้พนักงานคิดเงินพร้อมกันแล้วก็พาลูกๆออกไปรอด้านนอก
"อยากซื้อเยอะก็ถือเองแล้วกัน"เธอว่าอย่างฉุนๆจากนั้นก็พากันเข้าไปซื้อเสื้อผ้าให้กับลูกๆที่ได้มาคนละห้าชุดเลยทีเดียว แต่รอบนี้ธัญญ์นลินไม่ปฎิเสธเพราะยังไงก็ได้ใช้ นานมากแล้วด้วยที่ไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้กับพวกเขา เมื่อชาติก่อนก็พากันโตหมดแล้วของพวกนี้เธอเลยไม่ต้องซื้อให้อีกพอได้กลับมาตอนลูกยังเด็กอีกครั้งเธอก็เผลอช็อปเพลินไปเหมือนกัน พอออกจากร้านเสื้อผ้าฐิติกรก็มีถุงใหญ่พะลุงพะลังเต็มสองมือแต่ไม่บ่นว่าอะไร เขาไม่เคยถือของให้ใครมาก่อนเลย แม้แต่ของตัวเองยังมีคนถือให้
ทั้งสองพาลูกๆไปกินข้าวและไอศกรีมตามที่รับปากซื้อขนมไปฝากคนที่บ้านแล้วก็พากันกลับบ้านโดยที่ไม่ได้ซื้อของให้ตัวเองเลยทั้งคู่ เด็กๆพอมาถึงก็พากันไปหาคุณปู่ที่ตึกใหญ่กันสองคนโดยพ่อกับแม่ไม่ได้ไปด้วย
"มากันแล้วหรอ ซื้ออะไรมาฝากปู่"
นายสิทธิกรถามหลานชายทั้งสองฐิรวิชญ์วิ่งเข้าไปหาคุณย่าอย่างคนคุ้นเคยส่วนฐิรดลเดินตามหลังมาในมือถือถุงขนมยื่นส่งให้กับแป้งแม่บ้านที่รอรับอยู่เพื่อเอาไปใส่จานเสิร์ฟ
"หนมชีสครับ"คนตัวเล็กที่อยู่บนตักย่าบอกคุณปู่
"มันจะอร่อยหรือเปล่า"
"ไม่รู้ครับ คุณแม่บอกว่าของฝากคุณปู่กับคุณย่า ห้ามกิน"ฐิรวิชญ์บอกตามที่แม่สั่งจนปู่กับย่าขำกลิ้ง
"ฮ่าๆๆ อนาคตคงเป็นตลกได้อยู่"เขาแซวหลานคนเล็ก
"งั้นก็มากินด้วยกันพร้อมกับช็อกโกแลตของพี่ซอเลย"เขาเรียกหลานชายคนโตให้เข้ามานั่งใกล้ๆสั่งให้คนไปเอาช็อกโกแลตเมื่อวานมาให้ สักพักชีสทาร์ตร้านดังก็ถูกจัดใส่จานมาเสิร์ฟพร้อมกับช็อกโกแลตที่มีเมล็ดอัลมอนด์ตรงกลาง
"ช็อกโกแลตอร่อย"แขนป้อมหยิบช็อกโกแลตเข้าปากพรางยื่นป้อนครบทุกคนทั้งปู่ย่าพี่ชาย
"คุณแม่บอกว่าอย่ากินเยอะเดี๋ยวปวดท้อง"ฐิรดลเอ่ยเตือนน้องชายที่ยังกินไม่หยุด
"นั่นสิพี่ซอพูดถูก พอแค่นี้ก่อนนะลูก กินเยอะไปไม่ดี"คุณหญิงฐิตินันท์บอกหลานชายคนเล็กนางหันไปยิ้มให้หลายชายคนโตเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นครั้งแรก
"พาน้องกลับบ้านไปนอนกลางวันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมากินต่อ"
"ครับคุณย่า"ฐิรดลยิ้มรับเดินไปจับมือน้องชายที่ยังมองช็อกโกแลตตาละห้อย เด็กชายดึงแก้มน้องเบาๆที่เลอะทั้งขนมทั้งช็อกโกแลต
"กินจนปากมอมหมดแล้ว เหมือนลูกหมาเลย"
ปู่กับย่า "..."