“เรียกแค่ชื่ออีกแล้วนะ.. เรียกว่าแดดดี้ไม่ดีกว่าหรอ”
“ไหนเรียกซิ ..แดดดี้น่ะ”
หน้าผมยังร้อนผ่าวไม่หยุด ต่อให้เอาตัวเองออกมาจากห้องของเขาแล้วก็ตาม ผมเอาแต่เดินเงียบมาตลอดทางระหว่างที่มีการ์ดตัวใหญ่คอยประกบข้างมาด้วย
เอาจริงคือคลับที่นี่มันโคตรสุด นอกจากเพลงอีดีเอ็มจังหวะจะมันส์จัดจนผมเกือบจะออกสเต็ปขาโจ๋หน้าเวทีไปหนึ่งแมทช์ ผมกับเขาก็ออกมาที่ลานจอดรถ หัวโล่ง หูหายอื้อ แต่ตายังลายกับภาพความเซ็กซี่ของหญิงสาวในคลับไม่หาย
มันสุดยอดตรงที่มีฟอร์ชั้นสองให้โยกย้ายกันเต็มที่ มันเหมือนเป็นสถานที่เพื่อมาดื่ม มาสังสรรค์ มาปลดปล่อย ทุกคนดูสุดเหวี่ยงจนผมละสายตาไม่ได้เลย
แต่สุดท้ายงานเลี้ยงก็ย่อมมีวันเลิกรา ต่อให้หัวผมตอนนี้ยังหนักอึ้งอยู่เพราะวอดก้ามาร์ตินี่แผงฤทธิ์ แต่ยังไงก็ต้องกลับไปนอนห้อง เพราะสายตาเจ้าของคลับที่นี่ไม่น่าไว้วางใจอย่างมาก
“ที่จริงผมกลับ..”
ผมที่กำลังจะหันกลับไปพูดกับภาคชวินทร์ ค่อยๆ หุบริมฝีปากตัวเองลงทันทีกับภาพของรถตรงหน้า
Mercedes-Benz AMG จอดเด่นหราอยู่ตรงหน้าผม ความสวยของมันเตะตาผมปังใหญ่ เพราะสีที่ดูดุดันรวมถึงดีไซน์ในแบบที่ผมชอบ ต่อให้จอดแบบไม่ต้องได้ยินเสียงรถก็รู้สึกหลงรักแล้วว่ะ
รถในฝันของใครหลายคน แล้วผมก็ได้แต่ฝันถึงมันแล้วอ้าปากค้างมองเจ้าของรถตัวจริงเดินผ่านตัวผมไป พร้อมกับเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับให้
เขาหันไปพยักหน้ากับการ์ดสองคนที่เดินตามมา ให้เหลือทิ้งไว้แค่เราสองคนกับผมที่ยังคงเห็นประโยคแดดดี้นั่นลอยอยู่ในหัวทุกครั้งที่เผลอสบนัยน์ตาสีหม่นเข้า
ผมแอบเม้มริมฝีปากกลั้นยิ้ม ก่อนขึ้นรถแอบใช้นิ้วแตะลงบนฝากระโปรงรถทีนึง
พอเข้ามานั่งข้างในก็ดี๊ด๊าแต่ออกหน้าออกตามากไม่ได้ เก็บอาการไว้ด้วยการนิ่งเฉยเมื่อเขาเดินขึ้นมานั่งบนรถ ภายนอกว่าสวยแล้วพอผมได้เข้ามานั่งข้างในมันสวยกว่าเดิมอีก
อยากจะเอามือสำรวจมากกว่านี้ แต่ก็กลัวว่าจะถูกเจ้าของรถตัวจริงเขาดุเอา ถึงอีกฝ่ายจะไม่ได้ดูซีเรียสเรื่องนี้มากก็ตาม
เขาจัดการปักหมุดบนหน้าจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า พลางชำเลืองสายตามองผมแล้วยกยิ้มมุมปาก
เป็นท่าบริหารเสน่ห์ที่ดูทรงแล้วมันคงเข้ากับแค่ภาคชวินทร์เพียงคนเดียว
ผมยกมือขึ้นเกาะกระจกรถเหมือนลูกหมา ตื่นเต้นเวลาที่รถเคลื่อนตัวออก สายตาเหลือบมองซันรูฟด้านบนเห็นท้องฟ้าสีหม่นในยามค่ำคืนพอดิบพอดี
“โห ที่นี่โคตรสุด” ผมพูดแล้วหันกลับไปมองคลับด้านหลังอีกรอบ
“หมายถึงหน้าอกผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ”
“ปะ..เปล่า”
“เธอมองนาย”
“ผมไม่ได้สนใจผู้หญิง”
“งั้นก็หันมาสนใจฉันสิ”
สิ้นเสียงประโยคกึ่งคำสั่งของเขา ผมก็หันกลับมานั่งกระชับตัวตรงไม่ได้ให้ความสนใจเขาแต่อย่างใด แค่มือไม้หาที่จับวางไม่ถูกกับประโยคเมื่อครู่เท่านั้นเอง
เหตุการณ์มันคือก่อนหน้านี้ มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาหาผมแล้วเธอก็แค่ชวนผมดื่ม เรื่องมันคงจะแค่นั้นถ้าความบิ๊กบึ้มที่ไม่ได้อยู่ในการวางโฟกัสสายตาของผมมันมาถูแขนผมด้วย
นั่นแหละมีคนหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดแล้ว
“ฉันนั่งอยู่ข้างนายทั้งคน จะเมินเฉยกันจริงหรอ” เขาพูดต่อขณะที่หักพวงมาลัยเลี้ยวด้วยมือขวาข้างเดียว
“.....”
“ถ้าชอบ.. ก็มาหาฉันอีกสิ นายมาที่นี่ได้ทุกเมื่อ การ์ดฉันจะต้อนรับนายอย่างดีหลังจากนี้”
“ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย ผมก็แค่อยากจะเอาของมาคืนไม่ได้อยากจะ..”
“เพราะฉันชอบนายไง”
“ชอบคนที่รู้จักไม่ถึงสามวันเนี่ยนะ” ผมสวนกลับทันควัน ไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่าที่รับรู้ได้ว่าลมหายใจร้อนผ่าวของตัวเองกำลังผ่อนปรนออกมา
“อาจจะมากกว่านั้นก็ได้..” เขาไหวไหล่
“แต่ผมไม่รู้จักคุณ เราเพิ่งรู้จักกันด้วยซ้ำ.. ผมไม่ได้รู้สึกชอบคุณด้วย ไหนจะสร้อยนี่อีกมันไม่มากเกินไปหน่อยหรือไงครับ”
“งั้นมาทำความรู้จักกันซะตั้งแต่ตอนนี้เลยมั้ย”
ผมนิ่งงันไปชั่วขณะ ก่อนจะกะพริบตาสองสามทีที่รู้ตัวว่าเผลอจ้องอีกฝ่ายนานเกินไป
“ฉันจะไปเจอนายให้บ่อยขึ้น เราจะได้รู้จักกันมากขึ้นไง”
“คุณรวยจากธุรกิจมืดหรอ”
ภาคชวินทร์หัวเราะครืนชอบใจ “เปล่า ฉันเป็นประธานบริหาร เจ้าของ CHAWIN GROUP นายอาจจะเคยเห็นสินค้าจากทางเราผ่านตามาบ้าง”
“กำลังจะขายของหรอครับ”
“ของน่ะขายไปแล้ว..”
ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนคิ้วที่มุ่นเข้าหากันจะคลายลงแล้วแปรเปลี่ยนเป็นเบิกตาโพลง ท่ามกลางเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามอยู่ข้างใน
“บนเฟอรารี่ใต้แสงจันทร์คืนนั้นไง.. ของที่อยากจะเสนอขายให้นายเฉพาะ”
เขาหยิบมือถือขึ้นมาสไลด์เข้าเว็บไซต์แล้วยัดมันใส่มือให้ผมชม หลังจากที่สติของขุนพลหลุดลอยไปกับภาพบนเฟอรารี่คืนนั้นไปแล้ว
ให้ตายเหอะว่ะ ไม่เคยเจอใครร้ายเท่าเขามาก่อนเลย
ปกติผมรุกเก่งจะตาย ต่อให้จะได้แห้วเป็นของรางวัลตอบแทน แต่ผมก็พอจะรู้วิธีการเข้าหาพวกเขาเหล่านั้น
ทว่ากับผู้ชายที่ชื่อภาคชวินทร์ผมรับมือไม่ถูก หนึ่งวันมีหลายเหตุการณ์ที่สร้างความสับสนสัปดนเยอะแยะไปหมดเวลาอยู่กับเขา
“เสื้อผ้าแบรนด์เรา เฟอร์นิเจอร์.. หรือแม้แต่อาหารบางอย่างที่นายอาจจะเคยกินก็เป็นสินค้าจากเครือบริษัทของเรา” เขาอธิบายเสียงเรียบ
“ผมมีตัวนี้ในตู้ มาจากบริษัทเครือข่ายคุณหรอ”
คู่สนทนาพยักหน้ารับ
“ตัวนี้ลิมิเต็ดผมโคตรอยากได้”
“ที่ห้องฉันมีตัวนึง ถ้านายอยากได้ ฉันก็จะให้”
สายตาผมเปล่งประกายทันที ระริกระรี้จนอีกฝ่ายกลั้วขำจนผมต้องหันกลับมานั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวเหมือนเดิม
เฟิรส์สเต็ปกับการรู้จักภาคชวินทร์คือเขาโคตรรวย รวยแบบว่าร๊วย รายได้อาจจะลายตาเพราะเลขศูนย์นับไม่ถ้วนในบัญชี ที่หนี้สินก็อาจจะไล่เลี่ยกันมา แต่เอาเป็นว่าเขาคือถังเงินถังทองขนาดมหึมาเลยล่ะครับ
อันดับต่อมาคือมีความสามารถบริหารจัดการได้ดี จนไม่คิดว่าจะทำหลายอย่างได้ด้วยวัยเพียงเท่านี้ของเขา ข้าวของบางอย่างผ่านมาผมมาหมด แค่ไม่ทราบว่าเป็นของในเครือของชวินทร์กรุ๊ปเท่านั้นเอง
สุโคร่ยเดสสึเนจัด
“หึ เด็กน้อย”
“ดูเหมือนเวลาว่างคุณจะเยอะนะครับ หน้าที่การงานดีขนาดนี้แต่มีเวลาว่างถมที่เลย”
“งานก็ส่วนงาน ตอนทำงานฉันก็ไม่ได้พักหรอก พอพักแล้วจะทำงานไปทำไม”
“อ่า พอเข้าใจได้ครับ”
บทสนทนาจบลง แต่หัวใจผมยังรันคำถามไปมากมายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
การพลิกผันมารู้จักคนใหญ่คนโตไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้นในชีวิตหรอกนะครับ ไม่รู้ว่าผมเอาชีวิตของตัวเองไปคาบเกี่ยวกับเขาตอนไหน ถึงได้พลัดหลงมานั่งอยู่บนรถเบนซ์ของเขาซะได้
ความวุ่นวายนี้มันเริ่มขึ้นตอนไหนกัน..
วันที่เขาเดินเข้ามาหาผมถึงร้านเหล้าแล้วผมเผลอสบเข้ากับนัยน์ตาสีเขียวหม่น หรือตอนที่เราจูบกันบนเฟอรารี่ หรืออาจจะเป็นตอนที่ผมเสียซิงเป็นรับให้เขากันแน่
“มัลดีฟน่ะ”
“.....”
“บินมะรืนนี้”
ผมหลุดออกจากภวังค์แล้วชำเลืองมองกรอบหน้าเด่นชัดของอีกฝ่าย พลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“ถ้านายเต็มใจจะไปด้วยกันก็โทรมาหาฉัน.. แล้วฉันจะส่งคนไปรับ”
“เรื่องนั้นมัน..”
“ฉันทำอึดอัดหรอ” เขาเลิกคิ้วถาม
ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะหลุบตามองมือตัวเองที่บีบเข้าหากันแน่น
“ฟังนะขุนพล.. นายคิดว่าฉันเอาเงินมาทุ่มใส่นายเพราะหวังอะไรหรือมีจุดประสงค์ร้ายอื่นอยู่ใช่มั้ย”
“คุณภาค”
“แต่ความจริงคือไม่ใช่”
“.....”
“ฉันไม่ใช่พวกชอบเปย์ไปเรื่อยหรอกนะ ไม่ใช่พวกที่มีเด็กเลี้ยงไว้ในสต็อกด้วย”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มฟังลื่นหูกำลังสาธยายความจริงที่ทำให้กำแพงอึดอัดข้างในใจผมมันลดลง ริมฝีปากแอบแห้งเล็กน้อยจังหวะที่เขาจอดรถนิ่งสนิทติดไฟแดง
ตอนนี้มันเลยกลายเป็นว่าเขาหันมาให้ความสนใจผมแทน ชนิดที่เรียกได้ว่าผมช็อคค้างไปเลยกับรอยยิ้มเมื่อครู่
“รับของที่ฉันซื้อให้ไว้เถอะนะ ฉันไม่ใช่พวกป๋ากระเป๋าหนักจ่ายให้ใครพร่ำเพื่อ”
“.....”
“แต่ฉันจะเปย์หนักเฉพาะของที่อยากได้.. หรือชอบมากจริงๆ อยากได้มากจริงๆ”