ผมนั่งถอนหายใจระหว่างที่กำลังนั่งเคลียร์ให้เสร็จภายในวันนี้ ไอ้เฟรมเองก็คอยเอาใจช่วยผมจนเกรงว่ามันจะตะคริวกินแทน สมาธิสติสัมปัชชัญญะเริ่มถดถอย กับการที่ผมเอาแต่โฟกัสการเคลียร์งานเพื่อจะได้ทิ้งร่างไปมัลดีฟ ก็ไหนคนเขาบอกว่าโอกาสก็เหมือนไอติม ไม่รีบกินเดี๋ยวจะละลาย นี่มัลดีฟมากองอยู่ตรงหน้าจะให้ผมนิ่งเฉยเป็นรูปปั้นเลยก็ยังไงอยู่ ภาคชวินทร์กล้าเสนอ ขุนพลก็กล้าสนองเหมือนกัน “กูถามมึงอย่างดิ” ผมถึงดินสอในมือลง ก่อนจะหันหน้ามาจับเข่าคุยกับเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าจริงจัง “อะไรของมึงวะ กูตกใจหมด” ไอ้เฟรมที่เอาขนมกรอกปากยกมือขึ้นกุมอก “สมมตินะ ถ้ามึงมีโอกาสได้ไปเที่ยวมัลดีฟฟรี มึงจะไปป่ะ” “หน้าอย่างกูเนี่ยนะ” “กูพึ่งบอกว่าสมมติ” มันกระชับแว่นทรงกลมบนใบหน้าแล้วคิดตอบ ไม่วายหยิบเยลลี่ในกระเป๋าผมไปแกะกินอีกสองอันกว่าจะคิดออก “เหอะ ถ้าเรื่องจริงนะ กูส่งชิงโชคจนเบาหวานจะขึ้นตาละไม่เห็นได้ ดวงหดเท่า