“ซ้อล่ะเฮีย”
“อยู่คอนโด เฮียแวะมาเอาของ”
“อ่อ แล้วนี่เฮียดูไร ผมเห็นนั่งจ้องตั้งแต่กินข้าวแล้ว แอบดูหนังโป๊เหรอเฮีย”
“เปล่ากูดูรูป”
“รูปไรเฮีย ขอดูมั่งดิท่าทางจะเด็ด”
“เด็ดสิ แต่มึงไม่อยากกดูหรอก”
“พูดเหมือนไม่รู้จักผมนะเฮีย ยิ่งเด็ดเปอร์ยิ่งชอบ ตกลงดูรูปไรอยู่เฮีย”
“หึๆๆ มึงรู้ไหมว่าโคตรเด็ดเลยเพราะมันเป็นรูป...รถกูที่ไอ้หน้าหมาอย่างมึงเอาไปทำระยำมาไอ้คูเปอร์!”
ฉิบหาย! วินาทีที่มันเฉลยว่ารูปที่มันเอาแต่นั่งจ้องตลอดเวลาคือรูปอะไรสมองผมก็เห็นแต่คำนี้ลอยอยู่เต็มไปหมด
“เฮียพูดไรวะ” ผมทำใจดีสู้เสือ มันไม่มีหลักฐานว่าผมเอาไปขับ อย่าเพิ่งยอมนะไอ้เปอร์ อย่าเพิ่งยอมรับตอนนี้เด็ดขาดตราบใดที่ยังไม่มีใครเป็นเกราะป้องกันส้นตีนไอ้ชัตเตอร์ให้มึงได้
“หึ! เฉไฉเก่ง กูให้โอกาสถ้าอยากมีชีวิตรอดอยู่บ้างมึงสารภาพความจริงมา” มันกระตุกยิ้มใส่ผม ท่าทางเยาะเย้ยรู้ทันผมทุกเรื่องทำให้ผมโคตรเกลียดแม่งเลย ทำไมแม่กับป๊าไม่ทำให้ผมฉลาดแค่คนเดียววะ
“แมวแถวบ้านมันวิ่งชนประตูรถเฮียรึเปล่า” ผมตอบทำเสียงกวนส้นตีนใส่
“มึงรู้? กูยังไม่ให้มึงดูรูปเลยนะไอ้เปอร์ว่ารถกูเสียหายตรงไหน” อ่าส์! ฉิบหายอีกแล้วมึงไอ้เปอร์ ปากแม่งพาซวยสัสๆ
“เดา”
“เดาพ่อง! ตอบมามึงเอาไปทำเหี้ยไรมาไม่งั้นกูกระทืบมึงจมตีนตรงนี้แน่” มันดูหงุดหงิดขึ้นมาหนักกว่าเดิม เชี่ยเตอร์แม่งทำเป็นหวงของ ทีตอนเด็กๆ กูเตะรถของเล่นมึงพังยับเป็นสิบคันไม่เห็นกระทืบกูเลยวะ
“ผมไม่ได้ทำเฮียคนอื่นทำ” ผมกรอกตามองบนนิดหน่อยก่อนจะตัดสินใจเลือกพูดความจริงหนักมันจะได้เป็นเบาเพราะไม่ว่ายังไงวันนี้ไอ้ชัตเตอร์ไม่มีทางปล่อยให้ผมหนีรอดไปหาเกราะป้องกันส้นตีนมันได้แน่นอน
“มึงไม่ทำแล้วหมาที่ไหนทำ?” แม่งไม่ได้ดูอารมณ์ดูขึ้นเลยครับ แต่ผมก็เข้าใจประตูรถเละทั้งแถบขนาดนั้น
“ไม่ใช่หมาแต่เป็นคนบ้า”
“คนบ้าเชี่ยไร อย่ามาตอบทีละคำสองคำ มึงเล่ามาให้กูฟังทีเดียวเดี๋ยวนี้!” ไอ้ห่านี่พอเห็นผมลงให้หน่อยแม่งขึ้นใส่ไม่ยอมหยุดเลย อย่าให้ถึงทีกูนะมึงไอ้ชัตเตอร์
“เออๆ ตั้งใจฟังอย่าเพิ่งวีนสิวะ เรื่องมันเป็นแบบนี้เฮีย” ผมกรอกตาใส่มันด้วยความรำคาญแล้วก็จ้องหน้าไอ้ชัตเตอร์ก่อนจะเล่า
“คืองี้เฮีย เมื่อวานผมแอบเอารถเฮียไปขับ อันนี้ผมผิดผมรู้เพราะผมไม่ขอยืมเฮียก่อน แต่ผมเอาไปใช้มันก็ปกตินะเฮีย โคตรทะนุถนอมริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แม้แต่ฝุ่นละอองแค่เห็นมันเกาะรถผมยังเคลียดเลยเฮีย”
“อันนี้ตอแหลไอ้เปอร์ เอาดีๆ เอาแค่พองามเพราะยิ่งตอแหลมันยิ่งเรียกตีนกู”
“อ่าส์~ เฮียไม่อินกับความทะนุถนอมของเปอร์สินะ”
“ไอ้เปอร์!” มันตะคอกผมอีกครั้งหลังจากที่ผมแค่พึมพำออกมาเบาๆ ด้วยความเซ็ง
“เออๆ นั่นแหละเฮีย ทะนุถนอมเหมือนรถตัวเองจริงๆ แถมจะกลับแล้วแต่พอดีมีคนโทรหา ปกติก็ขับไปคุยไปนะเฮียแต่เมื่อวานไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรถึงไม่อยากคุยโทรศัพท์ตอนขับรถก็เลยจอดคุย” ผมเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความซซวยที่ทำให้ผมต้องเจอยัยหายนะ แค่เริ่มเล่าผมก็เซ็งแล้วครับ
“แล้วไงต่อ” ไอ้ชัตเตอร์เฮียสุดที่รักของผมตั้งใจฟังขนาดนี้ใจผมก็ชื้นขึ้นมาเป็นกองเลยครับ
“แล้วผมก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา สวยฉิบหาย สวยโคตรๆ ผู้หญิงเชี่ยไรเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดทำปากขมุบขมิบเหมือนเดินด่าคนก็ยังสวย” ผมเล่าให้ไอ้ชัตเตอร์ฟัง สมองก็คิดถึงวินาทีแรกที่ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นจนเผลอชมเธออีกครั้ง แต่เรื่องความสวยของเธอช่างมันเถอะครับสวยแต่นิสัยเพี้ยนแบบนั้นก็น่ากลัวไป
“กูขอสาระ” ไอ้ชัตเตอร์ดูไม่ได้สนใจกับความสวย มันไม่สนก็ถูกแล้วครับ ซ้อผมก็โคตรสวยแถมนิสัยดีน่ารัก ถ้ามันไปสนใจความสวยของผู้หญิงคนอื่นก็สมองหมาเต็มทนแล้ว
“เออๆ ก็พอผมเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินมากผมก็เอาแต่จ้อง เธอดูอารมณ์เสียมากๆ แต่ใครจะคิดวะว่าผู้หญิงคนนั้นจะอารมณ์เสียหนักถึงขั้นขาดสติพุ่งมาเตะรถ นี่แหละเฮียสาเหตุที่ทำให้รถเฮียบุบทั้งประตู”
“มึงจะบอกว่ามีผู้หญิงมาเตะรถกู?” ไอ้ชัตเตอร์ฟังผมเล่าจบก็ย้ำถาม แต่จะถามซ้ำทำห่าอะไรวะในเมื่อกูเล่าเคลียร์แล้ว สมองควายฉิบหาย
“ใช่เฮีย” ผมพยักหน้ารับ มองดูไอ้ชัตเตอร์ที่ดูอารมณ์เย็นลงจากเดิมเยอะเลย
“เตะกี่ครั้ง”
“ครั้งเดียวเฮีย”
“ครั้งเดียว? รถกูแข็งขนาดนั้นผู้หญิงบ้าอะไรเตะครั้งเดียวประตูบุบไปทั้งแถบ” ไอ้ชัตเตอร์พูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเหลือเชื่อ ไม่แปลกหรอกครับที่มันจะมีอาการแบบนี้เพราะผมห็นสภาพรถครั้งแรกผมยังอึ้งเลย ยัยนั่นแม่งแรงควายอย่างที่ผมเรียกจริงๆ
“ไม่ผิดหรอกที่เฮียจะแปลกใจ ผมเห็นทีแรกผมยังอึ้งเลย ตัวเล็กๆ แต่ส้นตีนแม่งโคตรหนัก” นึกแล้วขยาด เตะรถยังขนาดนี้เวลาโมโหผัวขึ้นมาผัวยัยนั่นไม่ซี่โครงหักเลยเหรอ แต่ที่จำได้ยัยนั่นบอกว่าเพิ่งอกหักเพราะจับได้ว่าแฟนเป็นเกย์นี่หว่า แล้วตอนนี้ไอ้เกย์คนนั้นสภาพเป็นยังไงวะ
“มึงพูดเรื่องจริงใช่ไหมไอ้เปอร์” ไอ้ชัตเตอร์ เหี้ย ไม่ใช่สิ เฮียต่างหาก เฮียสุดที่รักของผมหรี่ตาจ้องมองผมเหมือนต้องการจะจับผิด ถ้าจะจ้องขนาดนี้ไปเป็นตำรวจอยู่ฝ่ายสอบสวนเถอะไอ้ห่า
“จะตอแหลทำห่าอะไรล่ะเฮีย”
“แต่กูเชื่อไม่ลงตั้งแต่มึงบอกว่าจอดรถคุยโทรศัพท์แล้วไอ้เปอร์! มึงจะตอแหลกูไปถึงไหน!” ไอ้ชัตเตอร์ตะคอกใส่ผม สีหน้ามันบ่งบอกอารมณ์ได้ดีว่ามันอารมณ์เสียและไม่เชื่อผมเลยสักนิดเดียว
“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิเฮีย ผมรู้ว่ามันไม่น่าเชื่อขนาดผมเองยังแปลกใจเลยที่ผมจอดรถคุยโทรศัพท์ แต่มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริงเฮีย บางทีมันอาจจะเป็นพรหมลิขิตให้ผมมีจิตสำนึกเพื่อเจอเรื่องซวยๆ ที่เป็นกรรมเก่าก็ได้ ผมแม่งน่าสงสาร”
“หึ! ถ้าเป็นพรหมลิขิตจริงคนที่น่าสงสารที่สุดคือกูที่มีน้องส้นตีนอย่างมึงไอ้คูเปอร์!” ไอ้ชัตเตอร์ชี้หน้าด่าผม แรงสัสๆ พ่อแม่มึงไม่สอนให้อ่อนโยนกับน้องบังเกิดเกล้าเหรอไอ้ห่า
“หัวร้อนอะไรขนาดนั้นล่ะเฮีย ใจเย็นดินี่ผมก็พูดความจริงแล้ว เฮียจะให้ผมไปสาบานที่ไหนก็ได้”
“คนส้นตีนอย่างมึงไม่กลัวการสาบานหรอกไอ้เปอร์ไม่ต้องมาท้ากู” ไอ้ชัตเตอร์แม่งไม่มีท่าทีจะอ่อนลงเลยครับ ลางร้ายเริ่มคืบคลานเข้ามาหาผมทุกที ผมคาดว่าอีกไม่นานปากผมถ้าไม่มีแค่รอยช้ำก็คงถึงขั้นมีน้ำสีแดงไหลออกมาแน่นอน
“โธ่เฮีย นี่ผมพูดจริงๆ เล่าให้เฮียฟังผมยังหงุดหงิดยัยนั่นเลย แถมเหตุผลที่ทำให้ยัยนั่นไบโพล่าร์กำเริบยังโคตรปัญญาอ่อน” หงุดหงิดจัดเลยครับ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงแถมสวยผมต่อยปากแตกตั้งแต่แรกไปแล้ว
“แต่งเรื่องเก่งสัส” ไอ้ชัตเตอร์แม่ง กูเป็นน้องมึงทำไมมึงไม่พยายามเชื่อใจกูเลยวะ!
“ให้ทำยังไงถึงจะเชื่อวะ เฮียแม่ง!” ผมเริ่มอารมณ์เสียเพราะมันแล้วครับที่พูดจนปากเปียกปากแฉะก็เปลี่ยนความคิดของมันไม่ได้
“หึ! ไม่ต้องทำเหี้ยไรเลยแค่เลือกมา จะให้กูทุบหัวมึงหรือให้กูทุบรถมึง” สีหน้าท่าทางมันไม่มีส่วนไหนเลยตอนที่พูดประโยคเมื่อกี้ที่จะบ่งบอกว่ามันแค่พูดเล่นหรือขู่เพื่อความสะใจ เล่นเอาผมเสียวสันหลังเลยครับ
“เราสามารถคุยกันได้แบบปัญญาชนไม่จำเป็นต้องใช้กำลังตัดสินปัญหานะเฮีย” ผมยิ้มอ่อนกล่อมมัน
“นั่นสำหรับคนอื่นไม่ใช่ไอ้หน้าหมาอย่างมึงไอ้เตอร์ เลือก!” ไอ้ชัตเตอร์ตะคอกใส่ผมในตอนท้าย สาบานว่าผมไม่ได้กลัวอะไรมันมากมายหรอกครับ เวลาผมจะต่อยปากมันก็มีเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องรถอย่าเล่นกับไอ้ชัตเตอร์ อย่าพยายามกร่างใส่มันถ้าไม่อยากตาย
“เฮีย~ ผมเล่าเรื่องจริงทำไมเฮียไม่เชื่อผม ผมไม่ได้เอาไปทำให้มันพังแต่มียัยงี่เง่าประสาทเสียแถมแรงควายมาเตะจริงๆ เฮียเชื่อผมเถอะอย่าทำร้ายผมเลย” ผมอ้อนวอนขอความเห็นใจจากมัน ทางเลือกแต่ละทางแม่งไม่มีอะไรที่ดีกับตัวผมเลยสักทางแล้วใครจะบ้าเลือกวะ
“กูจะเตะรถมึงทุกคันแล้วกลับมากระทืบปากมึง” ไอ้ชัตเตอร์ลุกขึ้นยืนแล้วก็บอกผมเสียงเย็น และแน่นอนผมรู้ว่ามันเอาจริง
“เฮีย~ ผมขอร้องอย่าทำเลย ผมเล่าเรื่องจริงไม่ได้แต่งเรื่องตอแหลอะไรเลยเฮีย ให้โอกาสผมเถอะให้ผมทำอะไรก็ได้” นานเท่าไหร่แล้ววะที่กูไม่ต้องมาอ้อนวอนมันแบบนี้ โคตรปัญญาอ่อนเลยแต่ก็ต้องทำ เพราะยัยนั่นคนเดียว ยัยหายนะ! ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลยผู้หญิงบ้าอะไรก็ไม่รู้ แม่งคิดถึงยัยนั่นทีไรหงุดหงิดทุกที หงุดหงิดโว้ย!
“ได้! กูจะให้โอกาสมึงก็ได้ ถ้ามึงไม่ได้ตอแหลจริงๆ มึงไปเอาผู้หญิงคนนั้นมายืนยันกับกูภายใน 3 วัน ถ้ามึงหาตัวผู้หญิงที่มึงพูดถึงมาไม่ได้มึงเละทั้งคนทั้งรถแน่ไอ้เปอร์”