เช้าวันต่อมา @โรงแรมของชาลิดา
"ได้อ่านสคริปต์ที่พี่ส่งให้แล้วใช่มั้ยคิง ตอบตามสคริปต์นะ อย่าก่อเรื่องไปมากกว่านี้ พี่ขอร้อง" รสาบอกกับราชันย์ที่ยืนอยู่ข้างๆในลิฟต์ในขณะที่กำลังจะตรงไปยังห้องประชุมของโรงแรมที่จัดให้เพื่อเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับที่ออกมา
"ผมรู้แล้ว" ราชันย์ตอบกลับไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนักแต่ก็ยอมทำตัวว่าง่าย
"ดี ท่องไว้ในใจเลยว่าวงแบดกายจะอยู่ต่อไปหรือไม่นั้น มันขึ้นอยู่กับการแถลงข่าวครั้งนี้" รสาบอกกับซุปตาร์หนุ่มที่กำลังทำหน้าเซ็งใส่เธออย่างใจเย็น
"ถ้าผมทำให้วงดูแย่มาก ทำไมไม่เอาผมออกจากวงเลยหละครับพี่โรส ไม่เห็นต้องเอาอนาคตของวงมาขึ้นอยู่กับการแถลงข่าวของผมในครั้งนี้เลย"
"เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคิง ที่ทุกวันนี้วงแบดกายดังมาได้เพราะพวกนายห้าคนเล่นดนตรีด้วยกัน ไม่ใช่ดังเพราะใครคนใดคนหนึ่ง ถ้างั้นหากขาดใครสักคนไป ก็ไม่ต่างจากการยุบวง"
"...." คำพูดของรสาทำเอาราชันย์พูดไม่ออกทันทีกับสิ่งที่ได้รับรู้ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้นไปอีกกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาในรูปนี้
"อย่าทำให้เสียเรื่อง พี่ขอร้อง" รสาเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่ลิฟต์จะเปิดออก
การแถลงข่าวกับข่าวที่ออกมาเมื่อสองวันก่อน มีเพียงราชันย์เท่านั้นที่มาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ส่วนสมาชิกคนอื่นๆไม่ได้มาร่วมนั่งให้สัมภาษณ์ด้วย โดยเฉพาะหมอสายลม หรือ พายุ ที่ตอนนี้กำลังฝึกงานแพทย์ปีสุดท้ายที่เชียงใหม่ทำให้งดรับงานต่างๆจนกว่าจะเรียนจบ ส่วนคนอื่นๆนั้นก็รับงานประปรายเหมือนราชันย์ในช่วงที่รอรวมตัวกันทั้งวงอีกครั้ง อาทิเช่น เป็นแขกรับเชิญให้กับศิลปินในค่ายเดียวกัน เป็นแบรนด์แอมบัสเดอร์ให้กับสินค้าต่างๆ
เวลาต่อมา @ห้องแถลงข่าว โรงแรมชาลิดา
"นั่นคิง!"
"คิงจริงด้วย!"
"คิงมาแล้ว!"
"คิงยอมมาแถลงข่าวเหรอเนี๊ย"
"คิงตัวจริงหรือเปล่า"
เสียงนักข่าวจากสำนักข่าวต่างๆพากันพูดขึ้นมาอย่างตกใจและประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นราชันย์เดินเข้ามายังห้องแถลงข่าว และกำลังจะเดินไปยังโต๊ะด้านหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมีรสาผู้จัดการวงแบดกายเดินตามมาด้านหลัง
ซึ่งที่ผ่านมานั้น ไม่ว่าจะเกิดข่าวอะไรเกี่ยวกับตัวเขา จะมีเพียงผู้จัดการวงและทีมงานของบริษัทเท่านั้นที่ออกมาให้ข่าวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกครั้งที่มีข่าวของเขาออกมา แต่ครั้งนี้สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับเหล่าสื่อมวลชนเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสถามความเป็นมาเป็นไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเจ้าตัวเองโดยตรง
"สวัสดีค่ะนักข่าวทุกท่าน วันนี้ที่เราจัดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงภาพที่ออกมาของคิงให้ทุกคนได้คลายสงสัยกับประเด็นข่าวที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งได้ออกข่าวมาโจมตีคิง ซึ่งข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น เราจึงถือโอกาสนี้ให้คิงได้ออกมาตอบข้อสงสัยให้ทุกท่านได้ฟังที่นี่ที่เดียวพร้อมกันเลยค่ะ" รสาเปิดประเด็นการแถลงข่าวก่อนที่จะหันมาทางราชันย์ที่นั่งนิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉยรอจังหวะให้ทางรสาเขาได้พูด
"ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะให้นักข่าวทุกท่านสามารถถามคิงได้ในกรณีข่าวที่ออกมา แต่เราขออนุญาตให้นักข่าวหนึ่งท่านต่อหนึ่งคำถามเท่านั้น หลังจบดารแถลงข่าววันนี้ ทางเราจะมีการฟ้องร้องกลับต่อสำนักพิมพ์ดังกล่าวที่จงใจทำลายชื่อเสียงของคิงเป็นลำดับต่อไปนะคะ เอาหละค่ะนักข่าวท่านใดต้องการจะถามก่อนรบกวนยกมือได้เลยค่ะ" รสาหันมามองหน้าราชันย์พร้อมกับพยักหน้าให้ซุปตาร์หนุ่มรับรู้ว่าถึงคิวของเขาที่ต้องพูดแล้ว
"คุณคิงไปทำอะไรที่โรงแรมที่เป็นข่าวครับ" นักข่าวจากสำนักข่าวหนึ่งยกมือขึ้นแล้วลุกขึ้นถามเป็นคนแรกทันที
"โรงแรมที่เป็นข่าวคือโรงแรมที่ทางพวกผมจัดแถลงข่าวตอนนี้ครับ และถามคนที่ติดตามวงเราเป็นอย่างดีจะทราบว่าโรงแรมนี้เป็นที่พักของสมาชิกวงเรา" คิงตอบคำถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมสีหน้ายิ้มให้นักข่าวเล็กน้อย
"แล้วไม่ทราบว่าผู้หญิงในภาพมีความสัมพันธ์อะไรกับคุณคิงคะ เธอเป็นแฟนคุณคิงหรือเปล่า"
"อันนี้ผมถือว่าเป็นสองคำถามนะครับ ผมขอตอบคำถามแรกคำถามเดียว ผู้หญิงที่เห็นในภาพที่ออกมา เธอเป็นพนักงานโรงแรมนี้ครับ เราสองคนไม่มีความสัมพันธ์อะไรลึกซึ้งต่อกัน จะเรียกว่า แทบไม่ใช่คนรู้จักกันด้วยซ้ำ"
"แล้วเธอมาทำอะไรหน้าห้องพักของคุณคิงครับ"
"เธอ.." ราชันย์หยุดคำพูดไว้ก่อนจะหันไปมองทางรสาที่พยักหน้าให้รู้ว่าเขาควรตอบคำถามตามสคริปต์ที่เธอส่งให้เขาตอบแล้วสายตาที่ถ่ายทอดบอกเขาอีกว่าอย่าก่อเรื่องเพิ่ม
"พอดีห้องของผมมีปัญหาครับ ผมเลยโทรเรียกพนักงานให้มาดูที่ห้องให้ จากชุดที่เธอใส่พวกคุณก็เห็นว่าเธอเป็นพนักงานโรงแรมจริงๆ ไม่ได้เป็นสาวไซต์ไลน์ที่ไหน" คำพูดกึ่งประชดประชันที่ราชันย์เอ่ยออกไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักกับการเขียนข่าวที่ออกมาในพฤติกรรมของเขา
"ไม่ใช่เรียกมาทำอย่างอื่นเหรอคะ" นักข่าวสาวคนหนึ่งโผล่งขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ยกมือขึ้นถาม ทำให้นักข่าวคนอื่นๆหันมองหน้ากันแล้วซุบซิบถามกันกับคำพูดของนักข่าวคนนั้น
ส่วนราชันย์ที่ได้ยินประโยคนั้นของนักข่าวคนนั้นถึงกับมีสีหน้าไม่พอใจแต่ก็รีบปรับสีหน้าเป็นปกติทันทีเมื่อเห็นแววตาที่รสามองมาที่ตน
"ไม่มีเรื่องแบบนั้น และเพื่อความบริสุทธิ์ใจเราได้เชิญพนักงานโรงแรมคนดังกล่าวมาแถลงข่าวร่วมด้วยในวันนี้" เมื่อจบคำพูดของรสา ราชันย์ที่มองหน้าผู้จัดการสาวอย่างแปลกใจเล็กน้อย เพราะสิ่งที่ผู้จัดการเอ่ยออกมาไม่มีการบอกเขาไว้ก่อน
ราชันย์หันไปมองทางประตูพร้อมกับนักข่าวทั้งห้องแถลงข่าวก็ปรากฏภาพหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในชุดยูนิฟอร์มพนักงานโรงแรม เธอเดินเข้ามายังโต๊ะแถลงข่าวแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างกับราชันย์ที่มองเธอไม่วางตา
"นี่คือพนักงานโรงแรมที่มีภาพออกมาในวันนั้นค่ะ คุณชาลิดา เกียรติสกุล" ชื่อและนามสกุลของพนักงานโรงแรมที่รสาเอ่ยขึ้นมาทำให้กลุ่มนักข่าวพากันตกใจมากพอสมควร
ชื่อของหญิงสาวที่เหมือนกับชื่อโรงแรมที่จัดห้องแถลงข่าววันนี้ อีกทั้งนามสกุลที่เป็นนามสกุลผู้ส่งออกชาอันดับหนึ่งและมีไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยังไม่พอนามสกุลนี้ยังเป็นนามสกุลของผู้ก่อตั้งโรงแรมแห่งนี้ด้วย จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าพนักงานโรงแรมที่นั่งข้างราชันย์นั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของโรงแรมแห่งนี้นั่นเอง เสียงที่วิพากษ์วิจารณ์ของนักข่าวที่ดังขึ้นกลบห้องจนไม่มีใครฟังใคร สุดท้ายผู้จัดการโรงแรมที่เห็นสถานการณ์ตรงหน้าจึงรีบพูดใส่ไมค์ออกมาทันที
"ขอโทษนะคะ รบกวนอยู่ในความสงบเพื่อฟังคำชี้แจงจากคุณชาลิดาด้วยค่ะ" รสาพูดจบจึงหันหน้าไปหาชาลิดาพร้อมกับส่งไมค์ให้หญิงสาวต่อทันที
"สวัสดีค่ะ ดิฉันชาลิดา เกียรติสกุล นักข่าวทุกท่านคงไม่คิดว่าฉันเป็นหลอกเพื่อช่วยคุณคิงหรอกใช่ไหมคะ จากภาพที่ออกมาดิฉันคิดว่านักข่าวทุกท่านรู้ว่านั่นคือดิฉันเอง เพราะดิฉันคิดว่านักข่าวหลายท่านคงซูมรูปดิฉันจนเห็นเม็ดสิวของดิฉันด้วยซ้ำ" ชาลิดาพูดติดตลกในตอนท้ายแต่ไม่มีใครในห้องที่จะหัวเราะออกมา มีเพียงสีหน้าของราชันย์ที่แสยะยิ้มใส่เธอ
ตอนนี้นักข่าวในห้องเริ่มร้อนๆหนาวๆ เมื่อทราบว่าผู้หญิงในภาพที่เป็นข่าวกับคิว พร้อมแคปชั่นภาพที่ว่า หญิงสาวคนดังกล่าวมาเสนอตัวให้คิง คือหลานสาวคนเดียวของท่านเจ้าสัวศรุต เกียรติสกุล ผู้มีอิทธิพลทางภาคเหนือ นักข่าวทั้งหลายไม่อยากจะคิดเลยว่าสำนักพิมพ์ดังกล่าวที่ออกข่าวคิงพร้อมรูปภาพที่มีหลานสาวของท่านเจ้าสัวศรุต พร้อมแคปชั่นข่าวที่ออกมาในด้านลบของหลานสาวท่านด้วย สำนักพิมพ์นั้นจะเปิดได้นานอีกกี่วัน เสียงเงียบกริบแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครเกิดข้อสงสัย ทั้งๆที่ชาลิดายังไม่ได้ชี้แจงอะไรออกมาด้วยซ้ำไป
นักข่าวหลายคนรู้จักท่านเจ้าสัวศรุตเป็นอย่างดี จากชื่อเสียงและเป็นเจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งมีธุรกิจอย่างอื่นด้วยอีกมากมายที่ถือหุ้นอยู่หลายบริษัทในประเทศไทย ในวงสังคมเรียกท่านเจ้าสัวว่า นักบุญหลังม่าน เพราะท่านมักจะช่วยเหลือมูลนิธิมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยที่ไม่เคยออกตัวในสื่อเลยสักครั้ง แต่ในสังคมธุรกิจต่างรู้กันเป็นอย่างดี
ส่วนเรื่องหลานสาวคนเดียวของท่านเจ้าสัว ในวงสังคมไฮโซต่างพากันรู้ดีว่าท่านหวงมาก ไม่เคยปรากฏตัวในสื่อ สังคมไฮโซ หรือแม้กระทั่งรูปถ่ายก็แทบจะไม่เคยมีใครเห็น นอกจากวงในจริงๆที่มีโอกาสได้พบเจอบ้างจากการออกงานสำคัญในวงเครือญาติ อย่างงานแต่งงาน งานเปิดบริษัทในเครือญาติ และทุกคนต่างรู้ดีว่าโรงแรมแห่งนี้ท่านเจ้าสัวตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อมอบให้หลานสาวคนเดียวดูแล งานนี้มีคนมากระตุกหนวดราชสีห์อย่างท่านเจ้าสัว ที่บังอาจมาแตะต้องหลานสาวคนเดียวที่รักดั่งดวงใจ คงต้องมีเจ็บตัวกันบ้าง แนวโน้มว่าจะถูกปิดสำนักพิมพ์แววจะมาสูงมาก จากการคาดเดาของคนในห้องแถลงข่าว
"มีนักข่าวท่านไหนต้องการคำชี้แจงจากดิฉันหรือเปล่าคะ" เสียงอันเยือกเย็นของชาลิดาพร้อมสายตาที่มองไปรอบๆห้องประชุมที่ตอนนี้บรรยากาศของห้องเริ่มเป็นป่าช้าเข้าไปทุกที
"ถ้าไม่มีคำถามแล้ว ทางเราขอจบการแถลงข่าวเพียงเท่านี้นะคะ" หลังจากที่ห้องจัดแถลงข่าวเงียบอยู่สักพัก รสาจึงตัดสินใจเอ่ยปิดการแถลงข่าวในเวลาต่อมา
ผู้จัดการสาววางแผนมาถูกที่ให้ชาลิดาปรากฏตัวในครั้งนี้ นอกจากเธอจะขอความช่วยเหลือจากชาลิดาในงานนี้แล้ว ตัวเธอเองลงทุนถึงขนาดถ่อสังขารตัวเองบินไปเชียงใหม่เพื่อขอพบท่านเจ้าสัวศรุต เพื่อขออนุญาตท่านเจ้าสัวให้ชาลิดาปรากฏตัวในงานแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย ซึ่งตอนแรกท่านไม่ยอมให้หลานสาวคนเดียวออกสื่อเป็นอันขาด อีกทั้งยังเสนอความเห็นว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เองด้วยซ้ำไป
เวลาต่อมา @ห้องรับรอง โรงแรมชาลิดา
"พี่ขอบคุณน้องน้ำชามากนะคะที่ออกมาช่วยแถลงข่าว" รสาเอ่ยออกมาอย่างจริงใจพร้อมกับยิ้มให้ โดยมีราชันย์ที่นั่งอยู่บนโซฟาและมองการกระทำของผู้จัดการวงของเขาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย
หลังจากที่โดนสวดชุดใหญ่พร้อมกับถูกบังคับให้ขอบคุณชาลิดา ราชันย์ก็มีสีหน้าที่ไม่พอใจออกมาอย่างปิดไม่มิด เขามองสีหน้าของหญิงสาวคู่กรณีที่ยักคิ้วหลิ่วตาอย่างเป็นต่อและพอใจกับสิ่งที่รับจากการกระทำของเขาเป็นอย่างมาก โดยที่ไม่มีใครได้เห็นสีหน้าแบบนั้นของเธอเลย นอกจากคู่กรณีของเธอที่เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ แถมเป็น ซุปตาร์หน้าหื่น อีกด้วย
"ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้น้ำชาก็มีส่วนผิดด้วย อีกอย่างน้ำชาแทบไม่ได้ตอบคำถามอะไรนักข่าวเลยด้วยซ้ำ" ชาลิดาตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มบางๆให้อีกฝ่าย
"รู้ตัวก็ดี" เสียงของราชันย์ดังขึ้นมาทำให้หญิงสาวสองคนที่ยืนคุยกันอยู่หันมาหาเขาเป็นตาเดียวกัน
"คิง!" เสียงเข้มของผู้จัดการสาวที่เอ่ยเรียกเขา ทำให้เกิดสีหน้าพอใจออกมาจากหญิงสาวคู่กรณีของเขาจนถึงขนาดยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นมาให้เขารู้ว่าเธอเป็นต่อเขาอยู่มาก ในตอนที่รสาหันไปดุซุปตาร์หนุ่ม ทำให้เขามีสีหน้าที่ไม่พอใจหนักมากจนต้องลุกเดินออกไปจากห้องรับรองทันที
"พี่ขอโทษแทนคิงด้วยนะคะที่แสดงอาการแบบนั้นออกมาต่อหน้าน้องน้ำชา"
"ไม่เป็นไรค่ะ น้ำชาไม่ถือเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอกค่ะ"
"สมกับเป็นหลานท่านเจ้าสัวศรุตจริงๆ นิสัยได้คุณปู่มาก ในเรื่องการไม่ถือสากล่าวโทษคนอื่นและการช่วยเหลือผู้อื่น"
"พี่โรสรู้จักคุณปู่น้ำชาด้วยเหรอคะ" ชาลิดาขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเห็นอีกฝ่ายชื่นชมคุณปู่ของตนเหมือนรู้จักท่านดี
"เอ่อ รู้จักจากสัมภาษณ์ตามนิตยสารต่างๆค่ะ" รสาเลี่ยงที่จะบอกความจริงว่าเธอไปเจอตัวจริงท่าเจ้าสัวพร้อมกับได้พูดคุยกับท่านด้วย
"อ๋อ แบบนี้นี่เอง ไม่คิดว่าคุณปู่ของน้ำชาก็ดังเหมือนกันนะคะ" ชาลิดายิ้มให้อีกฝ่ายอย่างดีใจเมื่อได้ยินว่ามีคนชื่นชมคุณปู่ของตนเอง
"งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณน้องน้ำชามากนะคะที่ช่วย และขอโทษที่ทำให้ชื่อเสียงของโรงแรมติดลบ หลังจากแถลงข่าววันนี้ พี่คิดว่าภาพลักษณ์ที่ดีของโรงแรมต้องกลับมาอย่างแน่นอน" รสาเอ่ยขึ้นมาอย่างมั่นใจว่าสำนักพิมพ์ดังกล่าวที่ออกข่าวสร้างภาพลักษณ์ทางลบให้กับโรงแรมและตัวหลานสาวของท่านเจ้าสัวต้องออกมาแก้ข่าวอย่างเร็วที่สุดแน่นอน ถ้าหากไม่อยากมีปัญหาจนสำนักพิมพ์โดนปิดตัวลง
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
เวลาต่อมา @อาคารจอดรถ โรงแรมชาลิดา
"จะไปไหน" รสาเอ่ยถามราชันย์ที่กำลังเดินไปยังรถของตัวเอง
"ผมไม่มีงานไม่ใช่เหรอวันนี้" ราชันย์เอ่ยถามกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"ใช่ วันนี้คิงไม่มีงาน แล้วทำไมไม่พักผ่อน"
"เฮ้อ ผมขอออกไปข้างนอกไม่ได้เหรอ" ราชันย์ถอนหายใจพร้อมกับตีสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาต่อหน้าผู้จัดการวงของตนเอง เพื่อหวังว่าเธอจะยอมให้เขาได้ออกไป
"ไม่ได้!" รสาเอ่ยออกมาเป็นประกาศิตพร้อมกับชี้นิ้วให้เขาเข้าไปในโรงแรม
"พี่โรส ผมขอหละ"
"คิง นายเพิ่งแถลงข่าวไป คิดว่านักข่าวจะไม่ตามหาข่าวนายมาเล่นเหรอ"
"แล้วไงพี่"
"แล้วไงเหรอ นายถามพี่คิดบ้างหรือเปล่า"
"แล้วผมต้องอยู่แต่ในห้องนานแค่ไหน"
"จนกว่าจะมีงานให้ไป"
"พี่โรส!"
"นายรู้มั้ย ถ้าผู้หญิงในภาพนั้นไม่ใช่น้องน้ำชา หลานสาวคนเดียวของท่านเจ้าสัวศรุต คิดว่าเรื่องจะจบง่ายแบบนี้มั้ย"
"ก็ผมบอกแล้วว่ามันไม่ใช่ความผิดของผม ยัยชาเย็นนั่นต่างหากที่ผิด"
"คิง!"
"ผมจะออกไปข้างนอก"
"ถ้านายออกไป พี่จะรายงานเรื่องนี้ให้แม่นายรู้"
"พี่เล่นแบบนี้เลยเหรอ"
"ใช่ ถ้านายออกไปพี่จะบอกแม่นาย"
"โว้ย ไม่ไปก็ได้วะ"
จากนั้นซุปเปอร์สตาร์หนุ่มก็เดินกลับเข้าไปยังโรงแรมทันที ทิ้งให้ผู้จัดการวงสาวยืนถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจกับซุปเปอร์สตาร์หนุ่มที่เธอดูแลอยู่ ตั้งแต่ที่เธอเป็นผู้จัดการดูแลวงแบดกาย ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะได้กลับบ้านอย่างสบายใจ โดยเฉพาะกับคิง ราชันย์ เรียกได้ว่าตัวปัญหาสำหรับเธอ การที่เขาเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นทำเอาเธอต้องคอยเก็บกวาดเรื่องพวกนี้ให้เขาเพื่อไม่ให้เกิดข่าวไม่ดีออกมาของซุปเปอร์สตาร์หนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟชนกันที่ค่อนข้างเกิดบ่อยช่วงหลัง เรื่องที่ซุปตาร์หนุ่มมีข่าวกับนางแบบ นักแสดง นักร้อง การปรากฏตัวของเขากับผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่ต้องคอยตามปิดข่าวและแก้ข่าวเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว
แต่เพราะความสามารถบวกกับพรสวรรค์ของเขาที่ทำให้คิง ราชันย์ยังยืนอยู่จุดนี้ได้ และเป็นที่รักของประชาชนมากมาย ใบหน้าอันหล่อเหลา ความสามารถที่เกินล้นคนทั่วไป อีกทั้งการศึกษาและฐานะทางสังคม ทำให้เขาเป็นที่หมายปองของผู้หญิงมากมาย ขนาดถูกขนาดนามว่า เสือผู้หญิง แต่ก็ยังมีผู้หญิงมากมายที่พร้อมอยากจะลองเข้ามาเป็นเหยื่อให้เขาขย้ำเล่น เหมือนกับอยากจะลองลีลา ความสามารถของตนว่าจะสามารถหยุดเสือตัวนี้ได้หรือไม่ แต่จนถึงป่านนี้ก็ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนหยุดเสือตัวนี้ได้สักคน
เวลาต่อมา @ทางเดินโซนวีไอพี โรงแรมชาลิดา
"นาย!" ชาลิดาเอ่ยขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อหันหลังมาเจอคู่กรณีที่เพิ่งปะทะคารมกันไปขณะที่เดินตรวจความเรียบร้อยโซนวีไอพี
"ว่าไง สนใจไปนั่งเล่นห้องผมมั้ย" ราชันย์เอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มๆเหมือนเสือที่กำลังจะตะครุบเหยื่อตรงหน้า
"ห้องนายก็โรงแรมฉัน มีอะไรที่น่าสนใจอยากให้เข้าไปนั่งเล่นมิทราบ"
"ลองเข้าไปดูก่อนมั้ยหละจะได้รู้ว่ามีอะไรน่าสนใจ"
"ฉันไม่หลงกลนายหรอก คนหื่น!" ในจังหวะที่ชาลิดากำลังเดินผ่านเขาที่หน้าห้องของเขาพอดี
ราชันย์ใช้จังหวะที่หญิงสาวเผลอเอื้อมมือไปจับแขนเธออย่างเร็วพร้อมกับกระชากเธอเข้ามาปะทะกับอกแกร่ง ก่อนที่เขาจะเปิดห้องพักตัวเองเข้าไปทันที โดยที่หญิงสาวกำลังจะกรีดร้องเรียกหาคนช่วงแต่ก็ถูกคนตรงหน้าเอาริมฝีปากปิดเสียงนั้นของเธอทันที
"อื้อ..อ๊ะ" เสียงร้องออกมาเมื่อโดนจู่โจมด้วยจูบอันดุเดือด พร้อมกับสัมผัสจากฝ่ามือของเขาที่ลูบไล้ตามร่างกายของเธออย่างเอาแต่ใจโดยที่หญิงสาวไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนกระทั่งซุปตาร์หนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากริมฝีปากบางเป็นที่ซอกคอแทน ทำให้ชาลิดาสามารถร้องออกมาได้ แต่ก็ไม่สามารถให้คนช่วยได้เพราะห้องพักโซนวีไอพีทุกห้องเป็นห้องเก็บเสียงอย่างดี
"กรี๊ด..ปล่อยนะ"
"ปั๊ก! / อ๊ากก" เสียงเข่าที่กระทุ้งเข้ามาที่ท้องซุปตาร์หนุ่มพร้อมกับเสียงร้องเจ็บของเขาที่ดังออกมาในเวลาเกือบพร้อมกัน
"หึ ลืมบอกไปว่าฉันเรียนศิลปะป้องกันตัวมา คิดจะแอ้มฉันมันไม่ง่ายหรอกนะ" ชาลิดามองซุปตาร์หนุ่มที่เอามือกุมท้องตัวเองนั่งอยู่ตรงหน้าอย่างพอใจ
"ยัยตัวแสบ"
"ว่าคนอื่น ตัวเองดีตาย"
"คิดว่าเอาเวอร์จิ้นฉัน ไปฝึกฝีมือให้ดีกว่านี้นะ ไอ้ซุปตาร์หน้าหื่น" ชาลิดาเอ่ยขึ้นมาก่อนจะเปิดประตูห้องซุปตาร์หนุ่มออกไปด้านนอก พร้อมกับเสียงร้องว่าจากซุปตาร์หนุ่มที่ว่าเธอ
"ยัยชาเย็น!"