“คุณหนูกลับกันเถิดเจ้าค่ะ ถ้านายท่านรู้ว่าคุณหนูปลอมตัวเป็นบุรุษลักลอบออกจากจวนล่ะก็ นายท่านต้องเฆี่ยนคุณหนูหลังลายแน่นอนเจ้าค่ะ”
ลู่เพ่ยเหลือบตามองสาวใช้คนสนิทที่พยายามหว่านล้อมเกลี้ยกล่อมตั้งแต่ตัดสินใจออกจากจวนด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก ถ้านางยอมกลับไปตอนนี้ สุดท้ายก็ต้องเข้าวังไปเป็นสนมของฮ่องเต้เฒ่าที่มีสาวงามเป็นร้อยเป็นพันห้อมล้อมน่ะสิ นางไม่ยอมปล่อยให้ชีวิตนี้ต้องเข้าไปอยู่ในวังวนน่ารังเกียจนั่นหรอก ต้องใช้ผู้ชายคนเดียวร่วมกับสตรีคนอื่นๆ น่ะหรือ ยอมตายซะยังดีกว่า และตอนนี้คนที่จะช่วยนางได้มีเพียงคนผู้เดียวเท่านั้น นั่นคือ ฮ่องเต้องค์ต่อไป องค์ชายหก แต่เรื่องนี้นางบอกใครไม่ได้หรอกนะ เพราะองค์ชายหกในสายตาของคนยุคนี้ถึงจะเก่งกาจมีความสามารถรอบด้าน แต่สุดท้ายก็นอนป่วยอยู่บนเตียงมาสามปี
ป่วยหนักรึ! ไปบอกคนอื่นให้เชื่อเถอะ นางรู้ดีว่าอีตาองค์ชายหกไม่ได้ป่วยสักนิด แถมบทสรุปใกล้จบที่นางอ่านมาอีตานี่ยังได้เป็นฮ่องเต้อีกด้วย ถ้าหากชะตาชีวิตสุดท้ายของนางต้องเป็นสนมชายาจริงๆ ละก็ เลือกฮ่องเต้ในอนาคตผู้องอาจคนนี้ดีกว่าเลือกตาแก่เฟยหมิงที่กำลังจะตายนั่นเป็นไหนๆ เอาเถอะ คนที่เรียกนามฮ่องเต้และด่าได้ในใจ ตอนนี้คงมีแค่นางคนเดียวเท่านั้นที่กล้า
“คุณหนู บ่าวว่า...”
“ถ้าเจ้าพูดอีกคำก็ลงจากรถม้าไปเลย กลับไปเฝ้าเรือนอยู่กับมี่ฮวนและป้าเฉิงโน่น” เลือกตัดบทของคนสนิท อุตส่าห์เลือกมี่เจี๋ยที่พอจะมีหัวคิดหน่อย สุดท้ายอีกฝ่ายก็มาสร้างความยุ่งยากใจให้จนได้ “แต่ถ้าเลือกจะไปกับข้า เจ้าก็ต้องฟังคำสั่งของข้า เงียบ!”
ปากที่กำลังจะอ้าพะงาบๆ ของมี่เจี๋ยเป็นอันต้องหุบลงฉับพลัน ช่วงเวลาหลายวันมานี้นางไม่เข้าใจคุณหนูเลยสักนิด ทั้งๆ ที่แต่ก่อนคุณหนูเชื่อฟังคำสั่งของนายท่าน อยู่ในเรือนใจสงบอย่างเรียบร้อย ไม่ก่อเรื่อง ไม่ทำอะไรให้ตัวเองต้องเดือดร้อน บัดนี้ พอรู้ว่าต้องถูกส่งไปเป็นสนมนางในรับใช้องค์ฮ่องเต้ คุณหนูก็เริ่มเปลี่ยนไป หรือว่าเป็นเพราะ...
ดวงตาของมี่เจี๋ยเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม คุณหนูของนางคงไม่
ท่าทางตื่นตระหนกตกใจของมี่เจี๋ยทำให้ลู่เพ่ยต้องเอ่ยขึ้น น้ำเสียงราบเรียบยิ่ง “วางใจเถอะ ข้าไม่ยุ่งกับองค์รัชทายาทหรอก” องค์รัชทายาทหรือเฟยหลงผู้นั้น ไม่รู้ว่าคุณหนูรองของตระกูลลู่เคยพานพบสบตาตั้งแต่เมื่อใด ชื่อขององค์รัชทายาทถึงได้ตราตรึงอยู่ในหัวใจของร่างนี้นัก แต่เจ้าของร่างนี้มอบใจให้ไปก็เท่านั้น สุดท้ายองค์รัชยาทก็แต่งงานกับบุตรสาวตระกูลโหวอยู่ดี องค์ชายสูงศักดิ์ผู้นั้นหาได้มีความรักใดๆ ให้เจ้าของร่างนี้ไม่ ก็แค่ต้องการอำนาจสูงสุดอยู่ในมือเท่านั้น ถ้าอีตานั่นมีรักแท้ให้สักหน่อย นางอาจจะยอมบอกความลับที่ทำให้อีกฝ่ายได้ปกครองบ้านเมืองก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ คนที่จะครองบัลลังก์อย่างแท้จริง กลับเป็นคนที่นางจะไปพบต่างหาก
ลู่เพ่ยคิดเช่นนี้โดยไม่รู้เลยว่านับตั้งแต่นางก้าวเข้ามา ชะตาของคนหลายคนกำลังจะเปลี่ยนไป
เห็นรอยยิ้มน้อยๆ กับใบหน้าและแววตาสงบนิ่งของคุณหนู มี่เจี๋ยก็ผ่อนคลายกังวลขึ้น จนกระทั่งรถม้ามาจอดอยู่หน้าร้านขายยาอันดับหนึ่งของเมืองหลวงซึ่งมีหลายสิบสาขาทั่วทั้งแคว้นแล้ว มี่เจี๋ยก็ได้แต่ทอดมองเรือนร่างบอบบางของคุณหนูในชุดบุรุษตาไม่วาง หรือว่าคุณหนูไม่สบายถึงได้มาซื้อสมุนไพรด้วยตัวเอง แต่คุณหนูไม่สบายตรงไหนเล่า ทำไมบ่าวรับใช้ใกล้ชิดอย่างนางถึงไม่รู้
ลู่เพ่ยไม่ใส่ใจท่าทางของคนสนิทเลยสักนิด นางเดินเข้าไปภายในร้าน เบียดกับลูกค้าหลายสิบคนที่กำลังขอซื้อสมุนไพร แต่พอเข้ามาด้านในกลับเลือกเดินไปด้านหลังของร้าน หยุดอยู่หน้าห้องหนึ่งที่มีกล่องใส่ยาจัดเรียงไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย กลิ่นสมุนไพรคละคลุ้งจมูก จับจ้องอยู่สักพักถึงเลือกกดยากล่องหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำ
ตู้ยาสองตู้พลันเลื่อนออก เผยให้เห็นประตูบานใหญ่ นางผลักเข้าไปโดยมีมี่เจี๋ยพุ่งตามติด
เพียงก้าวเข้าสู่ด้านในก็ปรากฏเงาดำวูบหนึ่งหายออกไปจากประตู เข้ามาแล้วลู่เพ่ยก็กวาดสายตามองไปรอบๆ จนมาหยุดอยู่กับเก้าอี้แปดเซียน นางจึงนั่งลงแล้วจิบชาด้วยท่วงท่าสบายใจยิ่ง พลางคิดในใจว่าป่านนี้องครักษ์ผู้นั้นคงไปรายงานผู้เป็นนายเรียบร้อยแล้ว และนางคนที่ทะลุมิติเข้ามาในหนังสือนิยายเล่มโตก็จะได้ยลโฉมองค์ชายหกผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้าเสียที อยากรู้นักว่าจะรูปงามดังที่เนื้อหาพรรณนาหรือเปล่า หากผิดจากความทรงจำในเรื่องละก็ นางจะหาทางกลับโลกปัจจุบันแล้วเผาหนังสือเล่มนั้นให้มันมอดไหม้เป็นจุณเชียว
ถึงจะเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันคิดทำเช่นนั้น แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านางจะสามารถกลับไปได้หรือเปล่า คิดแล้วน้ำตาก็ไหลซึมออกมาเงียบๆ แต่ชั่วครู่เดียวก็สลายหายไปเหลือแค่เพียงใบหน้างดงามขาวผ่องของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในชุดบุรุษเท่านั้น ขณะที่คุณหนูรองนั่งเงียบๆ แต่คนรับใช้ใกล้ชิดกลับกังวลใจนัก
เพราะมีผู้บุกรุกเข้าไปในห้องซื้อขายความลับโดยไม่ได้แสดงตัวก่อนล่วงหน้า ทำให้องครักษ์ผู้ประจำการอยู่หน้าประตูต้องรีบเข้ามารายงานผู้เป็นนาย ใช้เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งก้านธูปก็กระโดดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องหนังสือชั้นใน คุกเข่าลงได้ก็ถวายรายงานด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับทะเลไร้คลื่นลม