9
“ไม่หรอก อย่างน้อยฉันก็มีเพื่อนถึงสองคน”
“เพื่อนอย่างคุณแทนไทกับคุณธงชัยน่ะหรือคะ หนูว่ามีก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ ทำเหมือนไม่มีตัวตน”
หญิงสาวหมายถึงลูกน้องหนุ่มของมาคัส ที่ไม่ว่าเธอและชายหนุ่มจะไปทางไหนถึงแม้ทั้งคู่จะตามไปด้วย แต่ก็เหมือนว่ามีเพียงแค่เธอและมาคัสอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่เวลาที่เกิดปัญหาทั้งคู่ก็มาช่วยและป้องกันเธอและมาคัสได้อย่างรวดเร็วราวกับพายุ
มือเล็กเรียวลูบบาดแผลอย่างแผ่วเบา ราวกับต้องการจะสื่อให้ชายหนุ่มเห็นว่าเธอห่วงใยเขา ใบหน้านวลหลับตามอบสัมผัสอันอบอุ่นและอ่อนโยนส่งผ่านปลายนิ้วเล็กๆ เข้าสู่ร่างใหญ่และหวังว่าคงจะสื่อไปถึงหัวใจอันแข็งกระด้างของชายหนุ่มบ้างไม่มากก็น้อย สำหรับเธอแค่มีดบาดเล็กน้อยก็น้ำตาไหลแล้ว แต่นี่เขาถูกยิงปางตายแค่คิดน้ำตาอุ่นร้อนก็เอ่อล้นคลอเบ้า
“ตอนนั้นพี่มาร์คคงจะเจ็บมาเล ยนะคะ” หญิงสาวถามราวกับว่าต้องการจะแบ่งปันความเจ็บปวดจากกายใหญ่
“อืม...เจ็บเหรอ ไม่เลยมันก็แค่ชาๆ พักโรงพยาบาลแค่อาทิตย์เดียวฉันออกมาเดินปร๋อได้แล้ว” มือใหญ่เล่นกับปอยผมนุ่ม ตอนนั้นเพราะความที่เขาดีใจที่มีครอบครัวและแสนจะน่ารักและอบอุ่นอย่างที่ใจเขาใฝ่หามาตลอด อีกทั้งคุณอนันต์กับธนัญญาคอยดูแลไม่เคยห่างกายมันยิ่งเป็นกำลังใจให้เขาหายดีภายในเร็ววัน
คุณอนันต์สอนเขาทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือร้าย หวังเพียงแค่อย่างเดียวให้เขาดูแลธนัญญา นรินทร์และอินทิราลูก น้องและหลานให้ดีที่สุด และหาคู่ครองที่ดีและเหมาะสมให้ธนัญญาและอินทิราเมื่อถึงเวลาเพราะท่านรู้ตัวดีว่าจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน แล้วเมื่อเขามารับตำแหน่งดูแลธุรกิจทั้งหมดของพ่อบุญธรรมก็ใช่ว่าจะราบรื่นเพราะเขาต้องต่อสู้กับทั้งลูกน้องเก่าๆ และญาติสนิทอย่างนรินทร์น้องชายที่เจ้าชู้แต่ก็เงียบขรึมและดุอย่างน่ากลัว และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ไว้ใจเขาและคอยดูแลตรวจสอบการทำงานและความประพฤติเขาอยู่ตลอดเวลา
“อย่ามาสนใจเรื่องของฉันเลย มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกมีแต่เรื่องเลือดตกยางออก ว่าแต่มะลิเถอะอยู่กับใครและคิดไงถึงได้มาทำงานกลางคืนแบบนี้” ชายหนุ่มถามแต่เขาก็ไม่ทันได้ฟังคำตอบเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่วางไว้ในตะกร้าไม่ไกลนัก ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
“ฮัลโหล”
“นายครับทางไนต์คลับเกิดเรื่องครับ”
เสียงแทนไทเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในไนต์คลับให้ชายหนุ่มฟังอย่างละเอียด
“อือ...” มาคัสพยักหน้ารับรู้ “แทนนายไปจัดการก่อน แล้วพรุ่งนี้ฉันจะตามไป แล้วนายก็ระวังตัวด้วยอย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่นด้วย” ชายหนุ่มกำชับไว้
แทนไทเป็นคนสุขุมและรอบคอบแต่ว่าเป็นคนมือหนักและเท้าหนัก หากเขาลงมือกับใครส่วนใหญ่จะต้องเข้าไปนอนพักฟื้นในโรงพยาบาลหนึ่งสองสองอาทิตย์เป็นอย่างต่ำ ส่วนธงชัยนั้นถึงจะมีฝีมือแต่ก็มุทะลุและวู่วามมากกว่า เป็นแบบว่าถนัดใช้กำลังมากกว่าสมอง แต่ยังดีว่าทั้งสองคนเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งเขาอย่างเคร่งครัด
“แต่ว่านายครับ” แทนไทเดินวนเวียนรอบๆ ห้องทำงานนายหนุ่มอย่างเสียอารมณ์ เพราะยัยเด็กมะลิวัลย์นั้นแท้ๆ เลยทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น “เอาน่าแทนนายไม่เชื่อใจฉันหรือไง”
“เปล่าครับนาย”
“งั้นก็ไปจัดการได้แล้ว”
“ครับ”
แทนไทวางโทรศัพท์ไปแล้ว แต่เสียงร้อนรนที่ชายหนุ่มเล่าให้เขาฟังยังคงดังก้องในศีรษะ ตำรวจเข้าตรวจจับพนักงานและยาเสพติดภายในร้านเขา แค่นั้นยังไม่พอยังมีพนักงานเสิร์ฟพี้ยาหนักเกินไปจนตายคาห้องน้ำ มันเป็นไปได้ยังไงกันในเมื่อเขาได้สั่งห้ามไว้อย่างเด็ดขาดแล้วนี่น่า หรือว่าจะมีใครกลั่นแกล้งเขา
“เกิดอะไรขึ้นค่ะพี่มาร์ค” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นใบหน้าชายหนุ่มเคร่งเครียด ดวงตาแข็งกร้าวและเป็นประกายดุร้ายขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่แทนที่ชายหนุ่มจะตอบคำถามเขากลับเดินกลับเข้าไปในเคบินและสตาร์สและพาเรือกลับเข้าฝั่งอย่างรวดเร็ว
มะลิวัลย์หน้าเสียเพราะคิดว่าชายหนุ่มคงจะโกรธเคืองเธอที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขามากเกินไป ร่างเล็กบางเดินเข้าไปหยิบเสื้อตัวใหญ่มาคลุมกาย และนั่งมองท้องทะเลอย่างเหงาหงอย ตลอดที่อยู่ด้วยกันถึงแม้เธอจะรู้ว่าชายหนุ่มรักและเอ็นดูเธอ แต่ในเมื่อเขาไม่เคยเอ่ยปากบอก เธอก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง ได้แต่กล้ำกลืนความรู้สึกของตัวเองไว้ในใจเท่านั้น
คืนนั้นทั้งคืนมาคัสเฝ้าปลอบขวัญและหาความสุขจากเรือนร่างบอบบางตลอด และเหมือนว่ามะลิวัลย์เองก็รู้ตัวดีว่าวันเวลาที่เธอจะต้องจากชายหนุ่มนั้นใกล้จะมาถึงแล้ว เธอเองก็ยินยอมมอบและรับความสุขจากเขาตลอดทั้งคืนด้วยเช่นกัน
จวบจนรุ่งสางของอีกวันดวงตะวันโพล่ขึ้นแตะขอบฟ้ากว้าง ส่องแสงสว่างอันอบอุ่น แต่หนุ่มสาวทั้งสองคนยังไม่ยอมหยุดการมอบความสุขให้แก่กันและกัน
“มะลิ” มาคัสเรียกหญิงสาวในอ้อมแขนเสียงแผ่วเบา
“ขา”
“ฉันจะต้องกลับเข้าไปดูไนต์คลับ เธอจะอยู่คนเดียวสักสองสามวันได้หรือเปล่า”
ชายหนุ่มถามอย่างโหยหา อยากจะพาหญิงสาวไปด้วย แต่กลัวว่าจะทำให้เขาห่วงหน้าพะวงหลัง กลัวว่าหญิงสาวจะรับไม่ได้ กลัวว่าจะมีคนวางแผนและหาทางทำร้ายคนที่เขารัก ความกลัวต่างๆ นานาเกิดขึ้นในหัวใจมาคัสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รู้เพียงแค่ว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาคงจะรับไม่ได้ แต่ถ้าหากอยู่ที่นี่เขาก็จะรู้ว่าหญิงสาวปลอดภัยและสบายดี เพียงแค่เขาอาจจะคิดถึงเธอมากไปสักหน่อยมันก็ยังดีกว่าให้มะลิวัลย์ไปเสี่ยงกับเขาด้วย
มะลิวัลย์เหม่อมองออกไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่างกระจกบานใหญ่ น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอเบ้า
“ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยรับปากไปอย่างแผ่วเบา เมื่อเขาไป มันก็จะถึงเวลาของเธอที่จะต้องไปด้วยเช่นกัน ป่านนี้กานต์เขตลูกพี่ลูกน้องคงจะเที่ยวตามหาเธอให้วุ่นแล้ว และถ้าพี่ชายเกิดบอกกับแม่ไปละก็เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าแม่จะเป็นห่วงและกังวลแค่ไหน
ใจดวงน้อยแตกแยกออกเป็นสองส่วน อยากจะอยู่ที่นี่รอคนที่เธอรักหรือว่าจะกลับไปหาแม่ที่บ้านนอก
มาคัสเดินเข้ามานั่งชิดร่างบอบบางโอบแขนรอบลำตัวเล็ก ดวงตาคมกวาดมองไปทุกส่วนพร้อมๆ กับที่มือก็ค่อยๆ ไล่ไปตามสายตา ตั้งแต่ใบหน้าขาวใส ริมฝีปากอิ่มเต็ม จมูก และหยุดอยู่ที่ดวงตากลมโต ปลายนิ้วป่ายปัดขนตายาวงอนเพื่อบันทึกภาพของหญิงลงในความจำส่วนลึกของสมองและหัวใจ ปากหนาก้มลงแตะหน้าผากนวล
“ฉันไม่รู้น่ะว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง แต่อยากให้เธอรู้ไว้อย่างหนึ่งว่าในช่วงเวลานี้ที่มีเธออยู่เคียงข้าง ฉันมีความสุขมาก เธอมาให้ฉันรู้สึกอบอุ่น ให้ฉันรับรู้ว่าฉันไม่โดดเดี่ยว” ปลายมือใหญ่ลากไล้ไปบนใบหน้าเนียนนุ่ม “เมื่อฉันเหลียวมองกลับหลังมาจะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกับรอยยิ้มหวาน สองมือที่โอบรอบตัว คอยให้กำลังใจและจะร่วมฝ่าฝันอุปสรรคและปัญหา แล้ววันหนึ่งเราก็จะมีวันที่มีความสุขร่วมกัน”
มือเล็กเรียวยื่นไปวางบนอกกว้าง ทั้งอบอุ่นและเป็นสุขยามที่ได้ฟังคำพูดหวานๆ ที่ออกจากปากหนา “ในตอนแรกหนูอาจจะเกลียดคุณไม่ชอบคุณเพราะคุณบังคับหนูด้วยความไม่เต็มใจและพรากสิ่งที่มีค่าไปจากหนู”
สองแขนเรียวโอบรอบลำตัวใหญ่ ศีรษะทุยซบลงกับอกกว้างอย่างฝากเนื้อฝากตัว
“แต่มาถึงตอนนี้หนูก็อยากให้คุณรู้เหมือนกันว่าหนูดีใจที่ได้รู้จักคุณ ได้มีสิ่งดีๆ ร่วมกันแบ่งปันความทุกข์ความสุขที่คุณมี และคุณยังมอบสิ่งดีๆ ให้หนูจนหนูจะพูดออกมาได้ไม่หมด”
ใบหน้าสวยเงยขึ้นดวงตากลมโตเปล่งประกายหวานเชื่อม รอยยิ้มที่ประทับอยู่บนหน้าหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มถึงกับตะลึง มันทั้งหวานและเว้าวอนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนอยากที่จะเปลี่ยนใจจากสิ่งที่ต้องทำแล้วมอบความสุขให้กับหญิงสาวอีกครั้งอย่างไม่ยอมหยุด แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะตามมาแล้วชายหนุ่มก็จำต้องตัดใจ ร่างสูงใหญ่ลุกจากเตียงนอนพร้อมกับช้อนร่างบอบบางขึ้นตามไปด้วย
“อุ๊บ! พี่มาร์คจะพาหนูไปไหนคะ?” หญิงสาวถามพร้อมกับที่เรียวยกขึ้นโอบรอบคอแกร่งอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยซบกับอกกว้าง
“ฉันก็จะอาบน้ำให้เธอไงมะลิ แล้วเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปทำธุระก่อน ฉันถึงจะไป”
มาคัสบอก เขายังไม่รู้เลยว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการจัดการปัญหาครั้งนี้ อาจจะแค่หนึ่งถึงสองวัน หรืออาจจะเป็นอาทิตย์ แต่ไม่แน่บางทีอาจจะเป็นเดือนเลยก็ได้กว่าที่ไนต์คลับของเขาจะเปิดให้บริการใหม่ได้อีกครั้ง