Ep10 : ตอกย้ำความเจ็บ(จบบท)

2148 คำ
(ตอกย้ำความเจ็บ) เรื่องกลุ่มโจรนิรนามหายเงียบไปพักใหญ่รวมทั้งอาการของฤทธิ์ก็ดีวันดีคืน ช่วงนี้มิ่งแก้วเลยไม่ต่างจากมีคู่หูคนใหม่ จะทำอะไรก็ไปกันสองคน ทองก้อนเลยตกกระป๋องไปโดยปริยาย ใต้ถุนเรือนบ้านนายทองสุข สองผัวเมียนั่งพูดคุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระหลังจากผ่านพ้นอาหารมื้อเช้า นางมะยมเลือกมอดจากข้าวสารทิ้ง ส่วนนายทองสุขนั่งสูบยาจากใบตองแห้ง “ไอ้หนุ่มที่เป็นหัวหน้ากองคาราวาน พอมันรักษาเนื้อรักษาตัวจนหาย ดูท่าทางมันไม่เลวเลยนา รูปร่างหน้าตาองอาจเชียวละ พูดกันตรงๆระหว่างเราสองคนนะพ่อเอ็ง ฉันอยากได้มันมาเป็นลูกเขย...” นางมะยมพูดกับผัว สีหน้าดูเอาจริงเอาจัง นายทองสุขเหลือบตามองเมียพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วง “ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ก็ต้องตามใจผู้นอน...เอ็งคิดว่านังมะเฟืองมันจะเอากับเอ็งด้วยหรือไง ขนาดโดนไอ้ดงมันไล่เช้าไล่เย็น ลูกสาวเอ็งยังไม่สะทกสะท้าน วิ่งแจ้นคอยไปส่งข้าวส่งน้ำให้มันทุกวัน” ในเวลานี้ก็ไม่ต้องถามหา คงจะหิ้วปิ่นโตเดินหน้าระรื่นไปกระท่อมท้ายป่า ตอนขาหิ้วปิ่นโตไปน่ะเห็นว่ายิ้มแย้มใบหน้าแจ่มใสดีอยู่หรอก ไอ้ตอนขากลับมาเรือนนี่สิ ไม่ร้องไห้จนตาบวมตุ่ย ก็มีสีหน้าทุกข์ระทมทุกที ในฐานะคนเป็นแม่แววตามะยมจึงดูทุกข์ระทม โทษเป็นความผิดของตัวเองด้วยซ้ำ ดันเกิดมาหน้าตาไม่สวยรูปร่างยังทั้งอ้วนทั้งดำอีกต่างหาก พอมีลูกสาวก็ดันได้ทุกสัดส่วนของนางไปจนหมด ทีนี้ผู้ชายที่ไหนมันจะมามอง มะยมคงลืมนึกถึงข้อหนึ่งของตัวเองไป สิ่งนั้นอยู่ใกล้แค่ตาเห็น ตอนนี้ตัวเองก็มีคู่ครองที่ดีไม่ใช่หรือ นายทองสุขยังนั่งหัวโด่เป็นหลักฐานทนโท่ ตอนมะยมสาวๆผู้ชายในหมู่บ้านก็ไม่เคยมอง นอกจากคู่ชีวิตที่อยู่ๆฟ้าก็ส่งมาให้นางโดยไม่รู้ตัว เพียงแต่ว่าต้องรอเวลาเท่านั้นเอง “ทุกวันนี้ฉันก็ได้แต่คิดว่าคงเป็นเวรกรรมของนังมะเฟืองมัน ดันไปหลงรักคนมองเพียงแค่เปลือกภายนอกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้สนใจสิ่งความรู้สึกกันถึงข้างใน...นังมะเฟือง มันก็จัดเป็นกุลสตรีที่ดีคนหนึ่งเชียวนะ” มะเฟืองมันไม่สวยปากคอไม่ค่อยดีก็จริง ทว่าเรื่องงานบ้านงานเรือนมันไม่เคยขาดตกบกพร่อง ไหนจะเรื่องชู้สาวไม่เคยมีมาเข้าหูให้พ่อแม่รำคาญใจ ถึงจะบอกว่ามันไม่สวยไม่มีใครมองก็ตาม แต่มันไม่เคยทำตัวง่ายแบให้ชายใดมาก่อนสักคน จนกระทั่งมีไอ้ดงโผล่หัวเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านสามโคกนั่นแหละ มะเฟืองมันก็เป็นอย่างทุกวันนี้... “ว่าแต่ไอ้หนุ่มนั่น มันชื่อว่าอะไรนะ...” “ชื่อพ่อฤทธิ์ หน้าตาก็หล่อเหลาใช้ได้ จะว่าไปหล่อกว่าหนุ่มๆบ้านสามโคกด้วยซ้ำนา...” “แต่ลูกสาวเรามันไม่สวยนี่น่ะสิ เขาจะอยากผูกข้อมือกับมันด้วยหรือเปล่า?...” นายทองสุขค้านเมียด้วยเรื่องจริง มะยมหน้าม้านพลันคิดว่าคงเป็นไปได้ยาก แต่ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้สักหน่อย เอาไว้นางจะลองหาทางเรียบๆเคียงๆถามไอ้หนุ่มนั่นดู นึกสนใจลูกสาวนางบ้างไหม เกิดดวงนังมะเฟืองมันโชคดีจะได้มีผัวชื่อว่าไอ้ฤทธิ์ คอยดูเถิดอีมะยมคนนี้จะยกสวนมะม่วงแถมปลูกเรือนให้อยู่ฟรีเลยละมึงเอ๊ย... สองตายายนั่งปรับทุกข์กันอยู่สักพัก นายสุขพ่อของรำเพยก็มาตามนายทองสุขไปดูไก่ชน ส่วนมะยมกลับขึ้นเรือนไปเอนหลัง บ่ายหน่อยค่อยไปเรือนยายแล่ม หาเรื่องมานั่งคุยให้สนุกปาก... -------------------------------- ดงกำลังยืนผ่าดุ้นฝืนตุนไว้ใช้ก่อนฤดูฝนจะมาเยือน...อากาศช่วงนี้ร้อนจัดทำให้เหงื่อออกค่อนข้างมาก ดงยกมือปาดเหงื่อทิ้งแต่แล้วจู่ๆก็มีผ้าขาวม้าผืนเล็กยื่นส่งมาด้านข้าง ดงหันขวับไปมอง ใบหน้ากลมดิกลอยเด่นขึ้นมาทันที “ผ้าเอาไว้เช็ดเหงื่อจ้ะ...” ดงมองเมินเบี่ยงตัวหลบร่างอ้วนที่เบียดกายเข้ามากระแซะจนน่ายันให้สักโครม เขายกขวานในมือขึ้นสูง ฟันลงฉับบนท่อนไม้ฟืน จนมันกระเด็นตกเกือบถูกขาของมะเฟือง หญิงสาวร้องว๊าย! ถูกซีกไม้ฝืนกระเด็นบาดโดนขาจนเลือดออก สาวร่างอ้วนหน้าเสียก้มมองเลือดที่ไหลเพราะปากแผลลึกพอสมควร ผ้าขาวม้าในมือถูกกำเอาไว้แน่น ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจผุดผายเข้ามา ถ้าเป็นอีสาวคนอื่นพี่ดงคงไม่ทำกิริยาเช่นนี้ ดูอย่างตอนสอนเพลงดาบให้อีพวกสาวๆหน้าตาน่าเอ็นดูพวกนั้นปะไร พี่ดงมีแต่คอยเอาอกเอาใจ ใช้น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนในยามสอน ต่างจากตอนสอนเธอลิบลับ ใบหน้าเขาบูดบึ้ง ไหนจะน้ำเสียงคำพูดทั้งแข็งกร้าวทั้งตวาดลั่นจนเธอหน้าเสียจนต้องรีบวิ่งกลับเรือน อารมณ์เสียใจถาโถมจนไม่รู้สึกเจ็บ “บอกให้ฉันหลบดีๆก็ได้นะพี่...” น้ำเสียงสั่นเครือ กระบอกตาร้อนผ่าว ไม่รู้กันบ้างเหรอไง...คนไม่สวยมันก็มีหัวใจเจ็บเป็นเหมือนกันนะ มะเฟืองไม่ตอแยเดินปรี่ออกห่างมาตักน้ำในตุ่มข้างกระท่อมเทราดไปบนปากแผลที่ถูกท่อนไม้บาดจนเกิดเลือดซึม ดงขมวดคิ้วเข้ม เอี้ยวตัวมองตามคนเดินขากะเผลกไปนู่น โกรธเขาหรือ? เออ...ขอให้มันโกรธเขาให้มากๆ จะได้รีบไปให้ไกลๆจากเขาซะที ต่อให้ในใจคิดไม่ดีแต่ก็ต้องยอมรับเมื่อกี้เขาเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เห็นซีกไม้ฝืนบาดเข้าเนื้อของมะเฟือง ถึงขั้นเลือดตกยางออกใจเขามันก็รู้สึกไม่ดี มะเฟืองล้างแผลจนสะอาด เอาผ้าขาวม้าในมือกดเลือดให้หยุดไหล เธอพาตัวเองมาทรุดนั่งตรงขอนไม้ หนนี้ดูเหมือนมะเฟืองเริ่มโกรธดงขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ สองตามะเฟืองจึงไม่แลขึ้นมอง เพราะแทนที่เขาจะเดินมาถามไถ่อาการกันบ้าง เขากลับหันหลัง ตั้งหน้าตั้งตาผ่าฟืนต่ออย่างสบายใจเฉิบ “มะเฟืองนั่นขาเอ็งไปโดนอะไรบาดมา...แผลถึงได้เลือดออกเยอะขนาดนั้น” เสียงถามไถ่ดังมาจากทางต้นโมก พุ่มของมันกำลังออกดอกสีขาวสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมละมุนไปทั่วทั้งท้ายหมู่บ้าน มะเฟืองเอี้ยวคอไปมอง เห็นสองหนุ่มตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ยืนโดดเด่นไม่แพ้กันทั้งคู่ มิ่งแก้วกับฤทธิ์ยืนมองเธอ...สลับขึ้นไปมองเจ้าของกระท่อม ดงยังยืนผ่าดุ้นฟืนโดยไม่คิดสนใจจะหันมาทักทายสองเพื่อนเกลอ สองหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา...ต่างหันมาสบตาพร้อมกับส่ายหัว ไม่เคยถูกสาวตามตื๊อจนกลายเป็นเงาตามตัวมาก่อนซะด้วย เลยไม่รู้ความรู้สึกมันเป็นอย่างไร จากการสังเกตอาการของไอ้ดงก็คงจะไม่ดีสักเท่าไรกระมัง ดูสิ...หน้ามันบูดยิ่งกว่าตูดลิงซะอีกละมั้งนั่น “ขาฉันถูกซีกไม้บาดมาจ๊ะพี่มิ่ง...คนทำก็ยืนหัวโด่อยู่นู่นไง” ได้ทีก็ฟ้องซะหน่อย...เพราะให้ทำอย่างอื่นก็ทำไม่ลง มิ่งแก้วหันมาสนใจคนเจ็บปล่อยให้ตัวคนทำมันลอยนวลไปก่อน จัดการกับทางนี้เรียบร้อยเมื่อไร...เดี๋ยวค่อยวกกลับไปซักไซ้ไล่เบี้ยเอาทีหลัง...ทำไมถึงได้ลงไม้ลงมือกันหนักถึงขั้นเลือดตกยางออก จะเบื่อจะรำคาญก็ไม่ควรทำร้ายให้อีกฝ่ายเจ็บตัว “อ้าว!แล้วแผลลึกหรือเปล่าวะนั่น เห็นเลือดยังซึมผ้าออกมาไม่หยุด...ระวังบาดทะยักมันจะกินจนต้องตัดขาทิ้ง ข้าเห็นมานักต่อนักแล้วไอ้แผลเล็กน้อยแต่รักษาไม่ดี มาให้ข้าดูปากแผลหน่อยมันลึกแค่ไหน พอดีข้ากับไอ้ฤทธิ์เพิ่งได้ตัวว่านดีมาจากเรือนหมอคง เอาไว้ใส่พวกแผลสด...” มิ่งแก้วไม่ได้มีอคติกับมะเฟือง ออกจะเอ็นดูเจ้าหล่อนพอๆกับรำเพย สองสาวที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันราวกับเหว ส่วนปากคอเราะรายพอๆกันทั้งคู่ ส่วนส้มแป้นเขาไม่ค่อยสนิทด้วย…รายนั้นพอได้ขึ้นเป็นคนโปรดของพี่ทัพทองก็แทบจะไม่ให้ความเคารพนับถือใครทั้งนั้น พอได้ยินว่าจะถูกตัดขาทิ้งมะเฟืองก็หน้าเสีย...รีบแกะผ้าขาวม้าที่ใช้พันรอบขาลวกๆออก ยื่นขาอวบไปให้มิ่งแก้วดูอาการ “ฉันไม่ยอมถูกตัดขาทิ้งนะพี่ ลำพังเกิดมาหน้าตาไม่สวยก็ไม่มีใครเขาจะเอาฉันทำเมียอยู่แล้วเนี่ย...ขืนฉันกลายเป็นหญิงขาด้วนเท้าพิการ คงต้องนอนบนคานรอให้พ่อกับแม่เลี้ยงไปจนแก่ตายแน่เลย...” มิ่งแก้วขำพรืดทรุดร่างสูงนั่งลงบนพื้นดิน มะเฟืองทำหน้าเหวอ กะพริบตาปริบมองคนร่างโตที่นั่งบนพื้นดินอย่างไม่กลัวเปื้อน “เอ้า!มัวแต่นั่งตาลอย ส่งขามาให้หมอมิ่งดูหน่อยสิ” มิ่งแก้วแซวตัวเองแต่ไม่รอให้สาวเจ้าส่งขาข้างเจ็บมาให้ เป็นเขาที่เอื้อมมือยกขาข้างเจ็บขึ้นมาดูอาการซะเอง ส่วนฤทธิ์นั่งลงบนขอนไม้อีกอัน รอบสำรวจมองแม่สาวร่างอวบอยู่เงียบๆ ถ้าจับแต่งเนื้อแต่งตัวลดน้ำหนักลงอีกสักหน่อยขี้คร้านจะกลายเป็นสาวงามคนหนึ่งเลยสิไม่ว่า แต่นี่ไม่ใช่ธุระกงการ...ฤทธิ์จึงไม่เสนอความคิดเห็น “แผลไม่ลึกมาก เอาว่านยาตัวนี้ไปพอกไม่กี่วันปากแผลก็หายสนิท...” ฤทธิ์ส่งว่านยาสำหรับใส่แผลสดพร้อมด้วยผ้าพันผืนเล็กให้มิ่งแก้วไปจัดการ ยาคือตัวว่านเอามาขยำตรงส่วนใบให้พอแหลกพอกปิดไว้บนปากแผลสด มันเรียกว่าว่านนพเก้า สรรพคุณคือใส่แผลสดหรือยาสมานแผล “ฉันไหว้ขอบใจพี่ทั้งสองคนนะจ๊ะ...” มะเฟืองยกมือไหว้ทั้งมิ่งแก้วแล้วก็ไม่ลืมไหว้ฤทธิ์ ต่อให้ตัวเองจะนิสัยเสียปากร้ายกับใครต่อใคร แต่เธอก็ถูกพ่อแม่อบรมสั่งสอนเรื่องมารยาทมาเป็นอย่างดี เขาใจดีมาเธอจึงยกมือไหว้ตอบถือเป็นการขอบคุณน้ำใจซึ่งกันและกัน “เออ...ส่วนนี่ใบว่าน เอ็งเก็บไว้เอาไปพอกตอนเช้ากับตอนเย็น สองวันปากแผลก็น่าจะเป็นสนิท” ฤทธิ์ส่งห่อยาให้ มะเฟืองรับมาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ...สำหรับน้ำใจของทั้งสองหนุ่ม ไม่เหมือนกับใครบางคน ดูสิจนขนาดนี้...เขายังเอาแต่ยืนผ่าฝืนทำราวกับทั้งสามคนเป็นเพียงอากาศธาตุ “จ้ะ...ถ้างั้นฉันขอตัวกลับเรือนก่อนนะ เอ่อ...พี่มิ่งฉันวานหน่อยเถิด...” มิ่งแก้วช่วยพยุงร่างอ้วนลุกขึ้นยืน “เอ็งจะวานอะไรข้าวะนังมะเฟือง...” มะเฟืองยิ้มแหย่ไม่ลืมความตั้งใจเดิมตอนมาหาพี่ดงถึงกระท่อม เดินเท้ากะเผลกมาหยิบเอาปิ่นโต...มายื่นส่งให้กับมิ่งแก้ว “ฉันฝากปิ่นโตไปให้พี่ดงหน่อย ตอนนี้ฉันหมดแรงจะตามตื๊อแล้วแหละ... บอกตามตรงว่าเหนื่อย ขอกลับไปนอนพักเอาแรงสักวัน...เอาไว้พรุ่งนี้ฉันค่อยมาตื๊อใหม่” ฤทธิ์เกือบหลุดขำส่วนมิ่งแก้วรับปิ่นโตมาถือไว้ด้วยสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ “อืม...แล้วเอ็งเดินกลับเรือนไหวไหมนั่น หรือจะให้ข้าสองคนหิ้วปีกเอ็งไปส่งถึงเรือนดี...” “ไหวจ้ะไหว...ฉันลาละนะ ไหว้พี่ทั้งสองจ้ะ...” ดงไม่ใช่ไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสามคน เขาเลือกจะไม่สนใจเท่านั้นเอง ได้ยินตอนมะเฟืองมันเอ่ยปากลา เขาจึงผ่อนลมหายใจยาวเหยียด ทอดเวลาออกไปเล็กน้อยกะให้สาวเจ้าเดินออกไปห่างๆ เอี้ยวคอมามองก็เห็นเพียงแผ่นหลังไวไว ส่วนสองหนุ่มปาท่องโก๋เดินหายไปไหนไม่รู้...แต่แล้วจู่ๆปิ่นโตก็ถูกพุ่งมาเกือบกระแทกถูกหน้า ทำเอาดงสะดุ้งโหยง “เฮ้ย!...” --------------------------------------------
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม