Ep7 : เจ็บเข้ากระดองใจ (จบบท)

2476 คำ
(เจ็บเข้ากระดองใจ) ฉกานั่งก้มหน้าก้มตาขยี้ผ้าที่หอบเอามาซักยังลำธาร เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน จู่ๆก็รู้สึกเหมือนถูกมอง สาวน้อยเลยเงยหน้าขึ้นพอดีกับร่างสูงตระหง่านยอบกายลงนั่งตรงหน้าพอดี “อ้าวพี่ดง ฉันไหว้จ้ะ...” ฉกายกมือไหว้ดงอย่างถือศักดิ์เป็นพี่ชาย ดงพยักหน้ารับ หัวใจมันรู้สึกชุ่มฉ่ำอย่างบอกไม่ถูก เฮอะ!ทำไมหนอ เขาถึงไม่เจอสาวน้อยคนนี้เป็นคนแรก ดงมองใบหน้าหวานซึ้งอย่างสุดแสนเสียดาย พร้อมกับล้วงเอาของบางอย่างในกระเป๋าย่าม ส่งของในมือไปตรงหน้าสาวน้อย “พี่ฝากแหวนวงนี้ไปให้พี่ทัพแกหน่อย พี่เพิ่งเดินทางกลับไปเอามาเมื่อวาน ยังดีที่ยังไม่หาย...อยากให้แกมีไว้ติดตัว จะได้ช่วยคุ้มครองป้องกันอันตรายตอนที่พี่ทัพแกเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์” ของที่ว่ามองเผินๆคล้ายกับวงแหวน มันห้อยติดมากับสร้อยเงิน อันที่จริงก็เป็นแหวนนั่นแหละแต่หาใช่แหวนธรรมดาที่เอาไว้สวมใส่ประดับนิ้ว แต่เป็นแหวนปลุกเสกลงคาถาอาคมมาจากพระอาจารย์ชื่อดัง ดังแค่ไหนดงไม่รู้หรอกเพราะว่าดงไม่ใช่เจ้าของคนแรก ดงได้แหวนลงยานี้มาจากตาทวด ท่านให้พ่อของดงไว้สำหรับคุ้มครองยามมีภัยอันตราย ก่อนพ่อตายแกจึงส่งต่อมาให้ดงอีกทอดหนึ่ง จากรุ่นสู่รุ่นแต่คงจะจบที่รุ่นดงนี่แหละ เพราะดงรู้ว่าตัวเองหาใช่คนดี พล่าผลาญฆ่าคนราวกับผักปลา ดงเลยถอดแหวนลงคาถาวงนี้ออกจากนิ้ว จัดการฝังเก็บไว้พร้อมของมีค่าชิ้นอื่น เก็บไว้เฉยๆก็กลายเป็นของไร้ค่าเข้าสักวัน ดังนั้นสู้เอามาช่วยคุ้มครองคนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับผู้อื่นไม่ดีกว่าหรือ โดยเฉพาะคนที่มีบุญคุณกับดงอย่างนายบ้านทัพทอง ฉกายื่นมือรับของ ดงไม่ได้ยื่นส่งมาให้ หากเขากลับทำในสิ่งที่สาวน้อยสะดุ้งตกใจตาโต จะให้ดึงตัวหนีตอนนี้ก็ไม่ทันการณ์ ใครจะคิดเล่าว่าแทนที่พี่ดงจะวางวงแหวนในมือเธอ เขากับโหย่งตัวขึ้นสูงพร้อมสวมแหวนซึ่งมีสายสร้อยเงินคล้องติดไว้บนคอเธอซะอย่างนั้น ฉกาก้มมองแหวนห้อยตกลงมาตรงคอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนสวมด้วยความรู้สึกอิหลักอิเหลื่อ สังเกตไม่มีแววตาเจ้าชู้ให้ฉกากังวล สาวน้อยเลยผ่อนลมหายใจโล่งอก “ฝากเอ็งสวมคอเอาไว้ก่อนจะได้ไม่เผลอทำหล่นหายหรือเผลอวางลืมไว้ตรงไหน เพราะนี่เป็นแหวนพระมีคาถาลงยันต์ จะมาวางสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้เด็ดขาด เอาไว้พี่ทัพกลับมาแล้วเอ็งค่อยถอดคืนให้เขาก็แล้วกัน” ทั้งที่ใจเต้นตึกตักโครมคราม ดงยังคงปรับน้ำเสียงพร้อมด้วยสีหน้าให้เป็นปกติไร้พิรุธ “จ้ะ...ฉันจะรีบถอดคืนให้นายพราน...” ดงพูดอีกสองสามคำก็ลุกขึ้นเดินกลับกระท่อม เขายังมีของดีติดไม้ติดมือมาฝากส้มแป้น ไหนๆก็เสียเวลาย่องกลับเรือนเก่าทั้งที เขาจึงหยิบเงินใส่ผ้าสะพายบ่ามาหลายบาท ก่อนกลับเข้าเขตบ้านสามโคก ดงพรางหน้าแวะเข้าตลาดมะแว้ง หาซื้อของสวยๆงามๆแล้วก็ของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย เขาไม่ซื้อมาฝากฉกาให้พี่ทัพมันจับได้ แอบรักก็คือแอบรัก เขาไม่หวังจะครอบครองถ้านายบ้านยังปรารถนาในตัวเด็กสาว เขาจะไม่ก้าวล้ำ ยังไงเขาก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นไอ้คนเนรคุณคน กินบนเรือนขี้บนหลังคา ทั้งที่นายบ้านทัพทอง อุตส่าห์ออกโรงปกป้องชีวิตเขาไว้จากคมหอกคมดาบของพวกทางการ บุญคุณเพียงครั้งเดียวก็จริง ทว่าไอ้ดงคนนี้จะขอจดจำไว้จนวันตาย... ตัดมาอีกฝั่งของลำธาร ตามจุดต่างๆยังมีกลุ่มชาวบ้านฝ่ายหญิงต่างทยอยนำผ้าลงมานั่งซักกันอย่างเป็นกิจวัตรประจำวัน ตอนพวกหล่อนเห็นดงเดินมาแต่ไกลก็ไม่มีใครอยากเสวนาหรือให้ความสนใจ เลยต่างฝ่ายต่างพร้อมใจพากันนั่งหันหลังเปลี่ยนทิศการสนทนา ที่เป็นเช่นนั้น อาจเพราะด้วยกิตติศัพท์ความโหดเหี้ยมในอดีตของดง ต่างรู้ว่าดงเคยผ่านอาชีพอะไรมา จึงไม่มีชาวบ้านคนไหนในบ้านสามโคกอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว นอกซะจากสาวไม่สวยอย่างมะเฟือง ที่ถึงขั้นลุ่มหลงชนิดโงหัวไม่ขึ้น เวลานั้นเป็นเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่สนใจดง จึงไม่มีใครเห็นภาพตอนดงสวมแหวนให้ฉกา นอกซะจากสาวร่างอ้วน เจ้าตัวกระโดดหลบซ่อนตัวอยู่ทางด้านหลังก้อนหินใหญ่จึงเห็นภาพกะหนุงกะหนิงทิ่มตำหัวใจชัดเต็มสองตา ทำเอาสาวรูปร่างอ้วนใบหน้าไม่สวยผุดผ่องลมเพชรหึงออกหู เจ้าตัวค่อยโผล่ศีรษะขึ้นมาเหนือก้อนหิน หลังจากพาตัวเองมาหลบซ่อนตัวตอนเห็นพี่ดงเดินหน้าบานมาทางนี้ นึกเจ็บใจจนอยากกระโจนไปตบหน้าอีเด็กสาวจอมยั่วให้หันสักทีสองที ก็กลัวพี่ดงจะเห็นเข้า ค่อยรอเวลาก่อนเถอะแม่จะสั่งสอนเสียให้เข็ดหลาบ ทีหน้าทีหลังจะได้ไม่แรดร่านเที่ยวอ่อยผู้ชายเขาไปทั่ว มันได้นายบ้านไปนอนกกกอดจนนังส้มแป้นน้ำตาตกในทั้งคนยังไม่พอ มันยังหน้าด้านคิดจะมาแย่งชิงพี่ดงของเธอไปอีกคนงั้นหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงใครมันจะยอมได้เล่า นังฉกามันจะต้องเจ็บตัว ถ้าหน้ามันไม่หันอย่ามาเรียกเธอว่านังมะเฟือง!... มะเฟืองเข่นเขี้ยวโมโหเดือด หัวใจรุ่มร้อนราวกับถูกเหล็กนาบลงมา สาวร่างอ้วนเฝ้ารอเวลาให้ดงเดินห่างไปจากตรงนั้น แล้วเธอก็สมใจตาเป็นประกาย ไม่นานร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรก็เดินจากไป อีนังฉกา!มึงเจ็บตัวแน่ กูจะตบมึงให้หายเจ็บใจ มะเฟืองลุกพรวดขึ้นเหนือก้อนหิน ดวงตาทั้งสองวาวโรจน์ ชาวบ้านหลายคนยังขะมักเขม้นกับผ้าที่ซักอยู่ในมือ จึงไม่มีใครให้ความสนใจมะเฟืองที่กำลังเดินตรงปรี่ไปหาสาวน้อยคนงามของนายบ้าน อารมณ์โกรธปิดหูปิดตากลบความถูกผิดในใจ พอมะเฟืองเดินมาถึงเจ้าของร่างงามมือเตรียมจะง้างหมายจะฟาดหน้าสวยๆของมันให้ย่อยยับ สาวน้อยไม่ทันรู้ตัวว่าถูกปองร้ายจึงไม่ทันระวังตัว มาได้ยินเสียงหายใจแรงนั่นแหละจึงเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับหลับตาปี๋ รอคอยความเจ็บปวดมาเยือนซีกแก้มนวลผ่อง “โอ๊ย!...” เสียงกรีดร้องดังลั่นเรียกสายตาให้ชาวบ้านต่างหันมามอง ปรากฏว่าเป็นภาพของลูกสาวตาทองสุข ล้มหน้าคว่ำจับกบอยู่ข้างเด็กสาวของนายบ้านทัพทอง เยื้องมาไม่ห่างคือร่างสูงของคนเพิ่งลุกเดินจากไปไม่นาน ดงยืนสูงตระหง่านยกมือเท้าสะเอวสีหน้าถมึงทึง ดีนะที่เขานึกเฉลียวใจตอนหางตามองเห็นหลังไวไวของนังมะเฟือง เขาจึงย้อนกลับมาดู เลยเห็นตอนมะเฟืองกำลังง้างมือขึ้นสูงใกล้กับสาวน้อยฉกาพอดี ดงจึงวิ่งพรวดจัดการถีบก้นใหญ่เข้าให้อย่างจัง ปรากฏว่าร่างอ้วนถึงกับเซถลาล้มหน้าคว่ำหมดสภาพอย่างที่เห็น “ไอ้พี่ดงบ้า...มาถีบฉันทำไม? ฉันเจ็บนะ...ฮือๆ “ เสียงหวีดแหลมบวกกับท่าทางหมดสภาพพลอยเรียกเสียงหัวเราะครืดจากทั่วสารทิศ มะเฟืองทั้งเจ็บตัวทั้งรู้สึกอายขายขี้หน้า ร่างอ้วนสมบูรณ์พยายามตะเกียกตะกายพยุงตัวลุกขึ้นนั่งบนพื้นอย่างทุลักทุเล หัวเข่าถลอกปอกเปิก ฝ่ามือยังมีเลือดไหลซึม แสบผิวที่สัมผัสกับก้อนกรวดแข็งๆ ดงยืนมองมะเฟืองด้วยสายตาแทบจะกินเลือดกินเนื้อ โดยไม่คิดจะเข้าไปช่วยเหลือ เขาไม่ถีบซ้ำให้ก็บุญนักหนาแล้ว “ถ้าวันหลังข้ายังเห็นว่าเอ็งคิดจะรังแกฉกามันอีก เอ็งได้เจ็บตัวหนักกว่านี้แน่ ” สายตาทั้งสองข้างของเขาทอดมองไปยังร่างกลมกลึงอย่างห่วงใย “ฉกามาอยู่หลังพี่...” ออกหน้าปกป้องสุดฤทธิ์ยิ่งสร้างรอยร้าวในหัวใจมะเฟือง แววตาถูกกลบด้วยหยาดของน้ำใสจ้องมองไปยังชายที่ตัวเองรัก แสลงใจยิ่งขึ้นตอนเห็นร่างอรชรเดินก้มหน้างุดไปยืนเคียงข้างกันและกัน มันช่างดูเหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยก มะเฟืองเก็บภาพปวดใจอัดไว้ในทรวงอก ยังไม่ทันได้ร้องโวยวายซ้ำ ทั้งเสียงหัวเราะเยาะ เสียงตะโกนเอ่ยแซวกันอย่างสนุกปากก็ดังแทรกขึ้นมา “อ้าวเฮ้ย!นังมะเฟือง ไหง...เอ็งถึงไปนอนจูบดินเล่นตรงนั้นวะ?” มะเฟืองหันขวับ ส่งสายตาเขียวปั๊ดทั้งที่น้ำตายังเอ่อท่วมไปยังแหล่งกำเนิดของเสียงสนุกสนานครึกครื้น มะเฟืองกัดกลีบปากจนรู้สึกเจ็บ ยกมือสั่นเทาขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง หันไปชี้หน้าพวกกองเชียร์ที่เห็นคนอื่นดีกว่าลูกหลานให้หุบปาก แต่มีหรือใครจะสน ยิ่งเห็นมะเฟืองโมโหหน้าดำหน้าแดงเสียงหัวเราะก็ยิ่งดังขึ้นเป็นเท่าตัว คงจะสาสมใจของพวกชาวบ้านนักแล ปกติจะเห็นมะเฟืองหรือไม่ก็ส้มแป้นเป็นฝ่ายคอยตามรังแกเด็กสาวมาโดยตลอด พอมาวันนี้ได้เห็นมะเฟืองเป็นฝ่ายถูกกระทำคืนบ้าง ความรู้สึกสงสารหรือนึกเวทนาจึงไม่ผุดขึ้นแก่ใจพวกชาวบ้านสามโคก มีแต่จะสมน้ำหน้ากันเสียมากกว่า “พี่ดง มาพยุงฉันลุกขึ้นหน่อย ฉันเจ็บขาลุกขึ้นไม่ไหว” สองมือยกสูงหมายส่งให้ชายในดวงใจช่วย ดงไม่แม้แต่จะมอง เขาดึงร่างเล็กให้เดินผ่านมาเฉยๆ พาฉกามาเก็บเสื้อผ้าที่ยังซักไม่เสร็จ แล้วพากันย้ายมานั่งซักผ้าห่างจากร่างอ้วนที่ยังนั่งแหมะบนพื้นก้อนกรวดผสมดินโคลนชนิดดูไม่จืด ปล่อยให้มะเฟืองร้องไห้ฟูมฟายเสียอกเสียใจ โดยไม่คิดจะชายตาแลให้เปลืองเวลา... ----------------------------------------- ตกค่ำวันนั้นดงที่หมายจะเอาน้ำอบน้ำปรุงมาฝากส้มแป้นจึงทำสัญญาณส่งให้สาวเจ้าแง้มบานหน้าต่างรอ ส้มแป้นเองกำลังรอคอยดงอยู่เช่นกันถึงกับหูกระดิก เจ้าหล่อนรีบโผนลุกจากพื้นฟูกที่ตัดเย็บด้วยผ้าลายดอกยัดด้วยนุ่นจนนอนนุ่มสบายตัว พาร่างกายอันร้อนผ่าวที่กำลังกระหายในรสรักมาหลายวัน เร่งปลดกลอนหน้าต่างให้ชายหนุ่มในทันที ไม่นานบานหน้าต่างถูกดึงเปิดกว้าง ร่างสูงใหญ่จึงโหนตัวผ่านบานหน้าต่างเข้ามายืนสูงตระหง่าน ส้มแป้นโผกอดรัดร่างกำยำ มือซุกซนกระตุกปมกางเกงปล่อยให้มันหลุดร่วงลงพื้น ดุ้นเอ็นไร้เครื่องปกปิดผงาดล้ำ “ส้มแป้น...เอ็งนี่มันร่านร้อนถูกใจข้าเสียจริง” ดงปากคอสั่นไปกับการถูกสัมผัสกระตุ้นเลือดลมในตัวชาย เขากอดร่างงามก้มจูบปากอิ่ม พาเจ้าหล่อนเดินมาล้มตัวนอนบนฟูกหนานุ่ม ดงจัดการลอกคราบสาวเจ้าจนกายงามไม่เหลืออาภรณ์ปกปิดสักชิ้นเดียว สองเต้างามกลมกลึงมีหัวจะงอยสีชมพูหวานชี้ตั้งชัน เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกผายงอนงาม ดงหลงรูปแต่ไม่คิดจะรักใคร่ไยดี ในหัวใจทั้งดวงของเขานั้นมีสาวน้อยที่ชื่อฉกาเข้ามานั่งจับจองอยู่เต็มทั้งดวง “พี่ดงจ๋า...พี่ไม่มาหาฉันตั้งหลายวัน...ไม่รู้หรือไงว่าฉันคิดถึงจะแย่” คิดถึงตรงนี้เป็นที่สุด มือเล็กส่งขยับเข้าหาดุ้นเนื้อ หยอกล้อลูบมันเล่นอย่างหลงใหล ดงส่งเสียงครางอื้ออ้าชอบใจ เขาขยับขึ้นมาคร่อมร่างงาม โน้มตัวลงไปจูบปากหอมแรงๆ รุกรานด้วยปลายลิ้นจนพอใจ ลากไล้ไซ้ซอกคอหอมจรุงมาจนถึงเต้าอะร้าอร่าม มองเต้าอวบตาเป็นเป็นประกายวิบวับ “ข้าก็คิดถึงเอ็ง พอทำธุระเสร็จจึงรีบมาหานี่ไง...อยากได้ยินเสียงครางหวานๆของเอ็งใจแทบขาด” ปากร้อนครอบดูดหัวนมสาว ออกแรงดูดแรงๆจนแก้มสากตอบ ลำอวบเขาปวดหนึบหนับ หัวบานหยักหลั่งน้ำกามปริ่มส่วนหัวจนหยดแหมะ ส้มแป้นฮึมฮำเสียงครางสยิวผ่านลำคอระหง แอ่นทรวงงามอัดเข้าปากร้อน ตวัดลำขาเรียวดั่งเทียนเกี่ยวเอวสอบ รุกคืบด้วยการถูไถร่องสวาทไปตามความยาวของแท่งร้อน กล้ามหน้าท้องดงเกร็งขนัด “พี่ดงรีบเสียบเข้ามาที ฉันรอไม่ไหว” อารมณ์กระสันร่านร้อนจนไม่อยากรั้งรอเวลาทำให้สาวงามที่เคยเชิดหน้าถือว่าตนเป็นถึงคนโปรดปรานของนายบ้านหลงลืมความอาย เรื่องทำนองนี้ขืนมัวมาอายอยู่จะสนุกสุดเหวี่ยงได้เยี่ยงไร เธอต้องการชายผู้นี้มาปลดปล่อย อารมณ์โหยหาร้อนในรสรักนี้คงต้องโยนความผิดให้นายบ้านทัพทอง เขาปล่อยให้เธอเฝ้าคอยมาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรก็ไม่คิดจะเรียกหา นับตั้งแต่วันที่เขาได้อีนังฉกามานอนกกกอดถึงในเรือน สาวคนโปรดอย่างเธอจึงกลายเป็นหมาหัวเน่า กลัวจะถูกหลงลืม เธอจึงใช้เล่ห์กลหมายจะดึงนายบ้านให้หันกลับมาหลงเธอเหมือนเก่า แต่ฟ้าก็ไม่คิดเข้าข้างคนผิด สุดท้ายแล้วแผนการก็ไม่เป็นไปดั่งหวัง เธอถูกนายบ้านจับได้ แล้วก็ถูกลงโทษด้วยการตกเป็นทาสสวาทของหนุ่มนักฆ่า แรกๆส้มแป้นก็รับไม่ได้หรอกนะ แต่พอได้ระเริงรักกับพี่ดงเพียงครั้งเดียว ส้มแป้นก็ติดใจถึงขั้นนัดหมายให้พี่ดงลอบปีนขึ้นมาหาเธอบ่อยๆ โดยทพ่อกับแม่ไม่รู้เรื่อง...ส่วนนายบ้านไม่แม้แต่จะเฉียดกายเข้าใกล้เรือนเธอ เขาคงทั้งโกรธแล้วก็ทั้งแค้นเคือง... ----------------------------------------
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม