(ซุ้มโจร)
มีข่าวลือหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ถึงเรื่องหลายหมู่บ้านตอนนี้กำลังถูกกลุ่มโจรนิรนามบุกเข้าปล้นเป็นว่าเล่น นายบ้านทัพทองถึงกับต้องเรียกชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านสามโคกทั้งหมดให้มาประชุมด่วน จัดเวรยามเฝ้าระวังทางเข้าและออกหมู่บ้านอย่างเคร่งครัด ทำให้ลูกบ้านทั้งหลายใช้ชีวิตอุ่นใจมากขึ้น
โจรนิรนามที่ว่านั้นมีแหล่งกลบดานอยู่ในถ้ำทางป่าลึก ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของพวกมัน โจรกลุ่มนี้ที่จริงก็มีเพียงไม่กี่คน นับรวมๆก็ประมาณสิบคนเห็นจะได้ ทว่าทุกคนล้วนเหี้ยมโหดและมีฝีมือเรื่องเพลงดาบระดับพระกาฬ โดยซุ้มโจรกลุ่มนี้มีหัวหน้าชื่อว่า ไอ้เดื้อ มันเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ บนใบหน้าของมันมีรอยบากจากของมีคม ดวงตาดำทมิฬของมันดุดันเหี้ยมโหด มันไม่เพียงแต่บุกปล้นหากยังลงมือสังหารเหยื่อทุกราย
ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ถึงรูปร่างหน้าตาแท้จริงของไอ้โจรกลุ่มนิรนามนี้สักคน พวกที่เห็นก็มาถูกฆ่าตาย พวกมันจึงยังใช้ชีวิตลอยนวลเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ โดยไม่ต้องปกปิดอำพรางใบหน้าด้วยซ้ำ
เมื่อวานพวกมันเพิ่งบุกเข้าปล้นครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านดาวเรือง อย่างที่รู้กันดีหมู่บ้านนี้ทุกครัวเรือนล้วนมีฐานะมั่งคลั่ง รักการอ่านตำรามากกว่าลงมือจับดาบฟาดฟันกับผู้ใด ไอ้เดื้อกับลูกน้องจึงยิ้มแป้นเพราะว่าแทบไม่ต้องเสียเหงื่อแถมยังได้ทรัพย์สินเงินทองมากมาย
ไอ้เดื้อจัดการแบ่งสรรเงินทองที่ปล้นหามาได้กับลูกน้องอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนตัวของไอ้เดื้อรีบจัดแจงเอาเงินใส่หีบใบจิ๋ว จุดหมายปลายทางนั้นมีแน่นอน เดื้อรีบลงมือลอกคราบโจรทิ้ง เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มใบหน้าดุดันธรรมดา ต้องเร่งเดินทางออกจากป่าก่อนฟ้าจะมืด ไปถึงที่หมายเมื่อไรจะได้จัดหนักจัดเต็มสักที อดมาหลายมื้อกับเนื้อหนังมังสา
หวังว่านังแพงจะหายดีจากคราวก่อน
“จะไปบ้านสามดอกหรือหัวหน้า”
หนึ่งในกลุ่มโจรตะโกนถาม มันโหนตัวลงมาจากกิ่งไม้ บนร่างยังคงสวมชุดขึ้นปล้นของเมื่อคืน เห็นการแต่งกายก็พอจะเดาออก หากต้องถามให้แน่ใจ ก็เพราะว่าหนนี้หัวหน้าของมันกลับฉายเดี่ยวไม่เห็นจะชักชวนไอ้พวกเปลี่ยวใจไปด้วยสักคน
ไอ้เดื้อเลิกคิ้วเข้มยกนิ้วกลางส่งให้ไอ้คนถาม ทำปากขมุบขมิบด่าแล้วเดินเร็วผ่านเลยไป...ไอ้พวกนี้ทำไมสอบเสือกเรื่องของกูจัง
ยังไม่ทันเดินพ้นพุ่มไม้ดี หูไอ้เดื้อก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมา
“สายๆพวกฉันจะตามหัวหน้าไปก็แล้วกันนะ...เบาๆกับอีแพงมันหน่อยได้ยินมาว่าหลังจากหัวหน้าใช้งาน อาการมันหนักกว่าใครเพื่อนทุกที”
หัวหน้ากลุ่มโจรทมิฬยักไหล่ สีหน้าเฉยชาต่อคำเตือน จะให้ทำอย่างไรได้วะ ก็คนมันอดอยากปากแห้ง กว่าจะได้ออกจากป่าไปหาแหล่งปลดปล่อยกามได้แต่ละทีต้องใช้เวลาคอยซุ่มออกดักปล้นนานนับเป็นเดือนๆ ปล้นเสร็จทีเขาก็แทบวิ่งหางจุกตูดออกจากป่ามาหานังแพง อีสาวบ้านสามดอก ใช้มันเป็นเครื่องระบายความกำหนัด
ทางเดินในป่าค่อนข้างจะวกวนจึงไม่ต้องระแวดระวังหรือกลัวว่าใครหน้าไหนจะผ่านมาพบแหล่งกลบดาน เพราะนอกจากหนทางจะวกวน รอบด้านยังเต็มไปด้วยสัตว์ป่าดุร้ายอันตราย
เดื้อใช้เวลาเดินทางจากถ้ำจนกระทั่งพาตัวเองมาถึงหมู่บ้านดอกโสนตะวันก็ใกล้จะลับขอบฟ้า แสวสีส้มยังส่องสว่างทำให้ยังมีชาวบ้านหลายเรือนเดินสวนไปมาระหว่างทาง ไอ้เดื้อไม่นึกสนใจใครหน้าไหน นอกจากจุดมุ่งหมายสำคัญของมันคืออีสาวคนงาม ที่อยู่ยังบ้านสามดอก
หลังจากปล้นหนนี้ ไอ้ดงกะคงใช้เวลาพักเพียงไม่นาน จะออกปล้นครั้งใหม่ ซึ่งเดื้อหมายจะปล้นคาราวานสินค้าจากแดนไกล ซึ่งพอจะได้ยินชื่อเสียงว่าเป็นคาราวานที่มีแต่ของมีค่าทั้งนั้น...
-----------------------------------------
“อูย...พี่มิ่งจ๋า ตรงนั้นแรงๆได้เลยจ้า”
แพงแอ่นสะโพกป้อนพลูงามให้ลูกค้าหนุ่มได้ชิมรสชาติ เขาเป็นหนุ่มจากหมู่บ้านสามโคก รูปร่างหน้าตาค่อนข้างจะโดดเด่นเป็นพิเศษ แพงคิดว่าตัวเองช่างโชคดีที่ถูกเขาเลือก ใจยังนึกหวั่นกลัวชายหน้าบากจะมาบ้านสามดอกวันนี้ซะอีก ถ้าเขามาไม่แคล้วเธอต้องนอนพักรักษาตัวอีกเป็นแน่
อันที่จริงแพงเพิ่งหายดีจากการร่วมรักมาราธอน กว่าร่องหลืบบวมช้ำจะกลับมากระชับเข้ารูปเข้าทรงเก่าพร้อมต้อนรับลูกค้าได้ใหม่ก็ใช้เวลาพอควร ดีแค่ไหนที่ลูกค้าชายรายแรกเป็นชายหนุ่มหล่อผู้นี้ เขาไม่เรียกร้องมีแต่จะเสิร์ฟความสุขปรนเปรอแพงจนแทบสำลักความสุข
ตัดมาที่มิ่งแก้ว…ถือตัวว่าเป็นโสด ยังไม่คิดหมายตาสาวใดมาผูกแขนให้ปวดหัว ดังนั้นยามราคะเข้าตามิ่งแก้วจึงมักพาตัวเองมาปลดปล่อยยังบ้านสามดอกเสมอ สาวๆที่เขาเลือกใช้บริการต่างก็หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนโดยแทบจะไม่ซ้ำหน้า บังเอิญวันนี้เขาเจอแม่สาวหน้าหวานตรงทางเข้า จำได้ว่าชื่อแพง สำรวจตรวจตราดูทุกซอกทุกมุม ดูแล้วทรวดทรงองเอวของเจ้าหล่อนก็แพงสมชื่อ ซักไซ้ไต่ถามมีใครจองหรือยัง พอเจ้าหล่อนบอกว่ายังเขาจึงดึงแขนเข้าห้องจัดการปลดปล่อยอารมณ์ใคร่ทันที...
เรียวขาขาวผ่องแบะอ้ากว้าง ปล่อยให้กึ่งกลางถูกปรนเปรอจากริมฝีปากร้อนผ่าว พลูเนื้อสีค่อนข้างคล้ำเล็กน้อยฉ่ำวาวจากน้ำสวาท ถูกทั้งปลายลิ้น ทั้งนิ้วชอนไชจนแพงแทบร้องไม่เป็นภาษา ร่างงามบิดเร้า ผมสลวยแผ่กระจายเต็มพื้นเตียงพอตัดเข้ากับผิวขาวผ่องยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้น่าหลงใหล
มิ่งแก้วเกือกกลิ้งใบหน้าดอมดมกลิ่นหอมอ่อน กัดกินพลูเนื้อแสนหวานจนหนำใจแล้วควานมือบีบขยำทรงงาม แพงกรีดเสียงร้องโหยหวนคว้าเส้นผมหยักศกของเขาไว้แน่น กดศีรษะนั้นจนแทบจะจมหาย เอวเล็กคอดลอยเหนือพื้นก่อนทั้งร่างจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำคาวขุ่นไหลทะลักสวนปลายลิ้นร้อนออกมานองเต็มพลูงาม
“พี่จ๋า...ดีเหลือเกินจ้ะ...” แพงพึมพำเสียงกระเส่าเบาโหวง นัยน์ตาหวานเลื่อนลอยสุขสม ลมหายใจกระชั้นถี่รัว พี่จ๋าของแพงคลี่ยิ้มสมใจพร้อมกับการปาดปลายลิ้นเลียน้ำหวานจนหมดเกลี้ยง ฝ่ามือข้างหนึ่งยังไม่ปล่อยจากเต้าสล้าง หัวจุกนมถูกบี้บดในขณะที่ปลายลิ้น
มิ่งแก้วไม่คิดรังเกียจสาวในบ้านสามดอกหรอก ถ้ามีเวลาได้นั่งซักถามประวัติกันจริงจัง สาวๆเหล่านี้ล้วนมีชีวิตน่าเห็นใจ ไม่ถูกพ่อแม่เอามาขายแลกกับเงินทองไม่กี่บาท ก็ถูกไอ้คนชั่วที่เรียกตัวเองว่าผู้ชายอกสามศอกมันฉุดคร่ามาข่มแหงรังแก พอได้จนสมใจก็บังคับให้เขาเข้ามาทำงานในบ้านหลังนี้ ขูดเลือดขูดเนื้อบังคับเอาทรัพย์สินจากเขาต่างๆนาๆ ถ้าไม่ทำตามก็ถูกตบตี
เรียวขางามถูกดันให้เปิดอ้า แพงที่ยังรู้สึกเสียวกระสันไปทั่วร่างไม่หายหรี่ตาลงมอง เจ้าสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้าทำเอาแพงแทบจะหวีดเสียงร้อง
มันใหญ่โตราวกับงูเหลือมดีๆนี่เอง
สาวงามบ้านสามดอกกลืนน้ำลาย มองดุ้นเนื้อด้วยหัวใจระทึก...
“ใหญ่จังเลยจ้ะพี่จ๋า...” ใหญ่จนแพงกลัวจะต้องกลับไปนอนพักรักษาตัว ถึงกระนั้นแพงก็คิดว่ามันก็น่าคุ้มค่ากับความหล่อเหลาเอาใจเก่งของผู้ชายคนนี้ ชายบ้านสามโคกที่สาวๆในที่นี้ต่างเล่าลือกันอย่างหนาหู
แต่ละคนนั้นล้วนมีดีแตกต่างกันไป
“เอ็งเคยรับดุ้นใหญ่อย่างข้าหรือไม่?”
มิ่งแก้วรูดลำเนื้อสีน้ำตาลเข้มที่เริ่มขยับขยายขนาดใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะเหตุนี้อีกเช่นกันที่เขาเลือกจะมาปลดปล่อยที่นี่โดยไม่ใจอ่อนคว้าเอาอีสาวใจแตกทั้งหลายในหมู่บ้านมาหาความสุขชั่วครั้งชั่วคราว ผิดกับไอ้ทองก้อนไอ้เพื่อนเกลอ รายนั้นมันมีของดีใกล้มือ ของดีที่มันไม่เคยเห็นคุณค่า
“ขนาดเท่านี้ยังไม่เคยมีหรอกจ้ะ...”
แพงตอบตามความจริงไม่คิดหวังเอาใจ ตั้งแต่เธอถูกพ่อขี้เหล้าเอาขายแรกเงินไม่กี่บาทแล้วเริ่มรับแขกจริงจังก็ยังไม่เคยเห็นมีชายคนไหนอาวุธประจำกายขนาดใหญ่เท่านี้
ไม่เว้นแม้แต่ชายหน้าบาก ทั้งที่แพงคิดว่านั่นก็ใหญ่โตเกินจะรับไหวก็ยังไม่อาจสู้ชายหนุ่มผู้นี้
ไอ้มิ่งแก้วคลี่มุมปาก ใช้หัวนิ้วโป้งขยี้ติ่งกระสันกระตุ้นน้ำหล่อลื่นเข้าช่วย มือหนึ่งรูดหนังปลิ้นปล้อนจนมันพองโตพร้อมออกรบจึงปล่อย เปลี่ยนมารวมเอวคอดกิ่วไว้แน่น แพงบิดลำตัวเสียดเสียวจากแรงถูกบดขยี้ น้ำตาเธอคลอเบ้าปรารถนาเรียกร้องสิ่งเข้ามาเติมเต็ม ที่กำลังปั่นป่วน
“พี่จ๋า...ฉันไม่ไหวแล้วจ้ะ ใส่เข้ามาเถอะ ฉันอยากเหลือเกิน”
เร่งเร้าโดยมือยกขึ้นกอบกุมทรวงงาม ไอ้มิ่งแก้วโน้มตัวลงต่ำกดปลายหัวถอกสีแดงก่ำสอดผ่านกึ่งกลางพลูงาม แพงเกร็งสะโพกขึ้นรับ นัยน์ตากลมเบิกโพรงจากความรู้สึกอึดอัดคับแน่น กลีบปากอิ่มเผยอน้อยๆไอ้มิ่งแก้วขยับบั้นท้ายก้มใบหน้าแลกลิ้นกับสาวงามแห่งบ้านสามดอก
“อ๊า...รัดดีชะมัด...”
ผิวแก้มสากระคายร้อนผ่าว ลำอวบถูกโอบรัดไว้อย่างเหนียวแน่น ริมฝีปากร้อนของทั้งคู่บดทะยานเข้าหากัน ปลายลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดรัดรึงชนิดไม่มีใครยอมใคร ปล่อยรสชาติหวานหอมแผ่ซ่านในโพรงปากทั้งคู่
แพงยอมรับว่าเจ็บเสียวในวินาทีแรกที่ถูกดุ้นเนื้อกระแทกเข้าหา มันชนถูกผนังภายในเธอเสียงดังปรัก ช่องท้องเธอหวิวไหว น้ำรักสวนกลับดุ้นเนื้อออกมาจนล้นเอ่อเลอะไปทั่วง่ามขาอ่อน มีบางส่วนหยดแหมะลงบนพื้นเตียงด้วยซ้ำ
“ข้าจะขยับแล้วนะ เอ็งทนเจ็บหน่อยแล้วกัน”
จบคำนั้นเอวสอบก็เริ่มขยับทำงาน ดึงดันกระแทกกระทั้นเข้าออกในโพรงคับแน่น มิ่งแก้วส่งเสียงคำรามผ่านลำคอ ช้อนมือใหญ่เข้าใต้ทรวงอะร้าอร่าม นวดคลึงไปตามจะหวะตอกกระเด้าของสะโพกแข็งแกร่ง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง ปรัก ปรัก ปรัก ขาเตียงขนาดใหญ่ถึงกับสั่นตามดัง กึกๆ
ดุ้นใหญ่ยาวเกินขนาดทำให้แพงรู้สึกเหมือนถูกเขาจับเหวี่ยงขึ้นที่สูงแล้วจู่ๆก็ถูกผลักลงมาสู่เบื้องล่าง เขาจับเธอร่วมสวาทอยู่หลายท่า พาเธอน้ำแตกไปหลายรอบ จนกระทั่งเขากระแทกตัวเข้าหาถี่ๆภายในช่องท้องเธอก็รู้สึกเหมือนโดนน้ำอุ่นฉีดเข้าใส่ มิ่งแก้วกัดฟันคำรามเสียงผ่านในลำคอ สีหน้าเขาแดงจัด แพงลืมตามองใบหน้าหล่อเหลาด้วยหัวใจโครงเครง
ลีลาเขาก็ดี ไหนจะเอาอกเอาใจเธอเก่งอีกต่างหาก
“เอ็งชื่อว่าแพงใช่ไหม...” มิ่งแก้วชักปลายดุ้นเคลือบน้ำฉ่ำวาวออกมาพาดไว้เหนือพลูฉ่ำ ปลายหัวเห็ดยังมีน้ำเชื้อติดอยู่ เขาโน้มตัวลงหาร่างงาม จูบปากอิ่มเบาๆ เป็นการขอบคุณ ก่อนจะลากไล่ลงมาหา
“จ้ะ...ฉันชื่อแพง...” แพงมองการกระทำเขาตาปรอย รู้สึกแรงอารมณ์จะถูกกระตุ้นด้วยสัมผัสจากกลีบสวาท ก็เขาเล่นเอาดุ้นเนื้อขนาดยาววางพาด พอเขายับตัวเข้าหน่อยมันก็เสียดสีทำเอาเธอรู้สึกเสียวซ่าน นมทั้งสองเต้าถูกเขารวบไปดูดเลีย ก็เลยยิ่งเกิดอารมณ์ร่านร้อน สองขาของเธอจึงยกขึ้นเกี่ยวเข้ากับเอวสอบ เรียกร้องให้เขาทำมากกว่าปรนเปรอภายนอก
“ข้าชื่อว่ามิ่งแก้ว...หรือเรียกข้าว่าพี่มิ่งก็ได้”
“อูย...พี่มิ่งจ๋า จะไม่พักหน่อยหรือจ๊ะ”
“ไม่ละ...ข้าไม่อยากเสียเวลา”
สะโพกแกร่งโยกขึ้นสูงก่อนจะแทงพรวดเข้าไปในร่องสวาท เนื้อของสองกลีบงามปลิ้นปลอกไปตามขนาดของแท่งเนื้อ
แพงยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้องก็ถูกชายหนุ่มพลิกให้นอนตะแคง ข้อเท้าเล็กข้างหนึ่งถูกดึงขึ้นสูง ลำอวบยังปักคาร่องสวาทไม่มีทางหลุด แล้วบทเพลงเร่าร้อนก็บรรเลงขึ้นอีกครั้งจนกระทั่งประตูห้องถูกเคาะจากคนข้างนอก มิ่งแก้วก็รู้ได้ทันทีตามกฎกิติกา คงหมดเวลาใช้งานสามงามที่ชื่อแพง มิ่งไม่ประสงค์จะค้างคืนที่นี่ เขามีม้าและสะดวกกับการไปกลับซะมากกว่า
เขาก้มมองเจ้าของร่างอุ่น เจ้าหล่อนยิ้มให้เขาโดยที่มือนุ่มลากวนอยู่แถวหน้าอกแกร่ง จงใจบดสะโพกผายเข้าหาดุ้นเนื้อที่นอนซบเซาอยู่ระหว่างท่อนขา มิ่งแก้วส่ายหัว
“ข้าสบายตัวแล้ว คงไม่อยู่ต่อ” บอกกันตรงๆเพราะไม่คิดจะผูกมัดด้วยอะไรทั้งนั้น แพงถึงกับหน้าม่อยเพราะหวังจะร่วมรักกับเขาทั้งคืน
“คราวหน้าพี่มิ่งจะเรียกใช้แพงอีกหรือไม่จ๊ะ”
“ไม่รู้สิ ถ้าไม่ถูกใจใครก็คงจะเรียกหาเอ็งกระมัง”
มิ่งแก้วเลือกจะไม่ให้ความหวังกับสาวคนไหน เขามาเพื่อปลดปล่อยไม่ได้มาหาเมียหรือรักแท้ที่นี้ แพงยื่นใบหน้าขึ้นจูบปากร้อนผ่าว มิ่งแก้วตอบสนองตามนิสัยโอนอ่อน พอชักเริ่มจะเลยเถิดเขาก็ด้นร่างยวนเย้าออกห่างตัดใจคว้าเอากางเกงมาสวมแล้วเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมวางเงินไว้ให้สาวเจ้าโดยให้มากกว่าที่เคย...
ทันทีที่บานประตูปิดลง แพงก็ถึงกับตัวสั่นเยือกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“กูนึกว่ามึงจะล่อกับมันทั้งคืนซะอีกนังแพง...”
แพงตาโตเท่าไข่ห่าน จำได้เสียงดังนอกประตูนั้นคือใคร แพงตัวสั่นเทามือไม้อ่อนแรง แล้วไม่นานประตูบานเดิมก็ถูกผลักเข้ามาโดยแรง ร่างขาวโพลนสั่นเยือก อย่าบอกนะว่าเธอต้องกลับไปนอนพักรักษาตัวยาวอีกครั้ง...
ชายเจ้าของเสียงเหี้ยมโหดกระชากเสื้อผ้าบนกายจนล่อนจ้อน ลำโด่ชี้ตั้งตรง หัวบานหยักปริ่มด้วยน้ำเชื้อ ก่อนจะโผนทะยานเข้าหาร่างอวบอัดบนเตียงไม้ กระแทกเข้าใส่อย่างไม่ลืมหูลืมตา...
---------------------------------------------------