พี่ลีวายกำลังกล่าวหาว่าฉันตั้งใจมานอนอยู่บนเตียง ทั้งที่ความจริงเขาเป็นคนดึงฉันลงมานอนด้วย
“มิลินเปล่านะคะ”
“มองหน้าเธอฉันก็รู้แล้วว่าคิดอะไร”
“……..” ฉันไม่รู้จะพูดยังไงให้พี่ลีวายเข้าใจ เพราะต่อให้พูดไปพี่ลีวายก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
“อย่าพยายาม เพราะฉันไม่มีวันลดตัวไปทำเรื่องต่ำๆ แบบนั้นกับลูกคนรับใช้อย่างเธอ”
“เกินไปแล้วนะคะ” ฉันโกรธกับคำพูดที่ไม่สนใจว่าอีกคนจะรู้สึกยังไง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“อ่า! หรือจะเรียกว่าลูกเมียน้อยดี”
น้ำตามันเอ่อล้นเต็มสองข้าง ฉันใช้แรงทั้งหมดที่มีดันตัวเองออกแล้วรีบลุกขึ้นจากเตียง
“ทำไมต้องพูดขนาดนี้ด้วย อึก~” ฉันเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ไม่อยากจะร้องไห้แต่มันกลั้นเอาไว้ไม่ได้
“ใช้ใครให้เธอมาวุ่นวายกับฉัน”
“คุณท่าน อึก~ สั่งให้มา” บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วแต่เหมือนพี่ลีวายอยากจะใช้คำพูดแรงๆ เพื่อเล่นกับความรู้สึกฉันมากกว่า
“ออกไปฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
“อึก~” ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะวิ่งออกมาจากห้อง
ความใจร้ายของพี่ลีวายมันเริ่มมากขึ้นทุกวันๆ จนฉันไม่สามารถอดทนกับคำพูดเหล่านั้นได้ บางทีฉันเองก็อยากออกไปอยู่คอนโดจะได้ไม่เจอกับเขาอีกและไม่ถูกคุณท่านสั่งให้มาตามแบบนี้ด้วย
@คฤหาสน์หลังใหญ่
ขณะที่ฉันกำลังซักผ้าจู่ๆ พี่นาที่เป็นแม่บ้านก็มาตาม บอกว่าคุณท่านมีเรื่องด่วนจะคุยด้วย
พอเดินมาถึงห้องทำงานของคุณท่านก็เห็นว่าพี่ลีวายอยู่ด้วย เขามองฉันเขม็ง
“มานี่สิ” คุณท่านบอก ฉันค่อยๆ เดินมานั่งข้างๆ ท่านแล้วถาม “คุณท่านมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มหาวิทยาลัยใกล้จะปิดเทอมแล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ เดือนหน้าก็ปิดแล้ว”
“ถ้าฉันจะขอให้หนูมิลินมาเป็นเลขาลูกชายฉันในช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดเทอมอยู่จะได้ไหม”
“เอ่อ…”
“ไม่ได้ครับ” เสียงพี่ลีวายรีบปฏิเสธออกมาทันที ก่อนที่เขาจะพูดต่อ “ผมไม่ต้องการให้เธอมาเป็นเลขา”
“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อฉันจะให้หนูมิลินไปเรียนรู้งานกับแก”
“ถ้าอยากให้เรียนรู้พ่อก็สอนเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับผม”
“ไอ้ลูกคนนี้!! เดือนหน้าฉันจะบินไปต่างประเทศ แกอย่าทำให้ฉันลำบากใจได้ไหม”
“แล้วพ่อจะเอาอะไรมากกับลูกคนรับใช้ ทั้งให้เรียนมหาวิทยาลัยดีๆ ไม่พอ ยังจะให้มาฝึกงานที่บริษัท เพราะเธอเป็นลูกเมียน้อยของพ่อหรอครับ”
“ลีวายแกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!”
“ที่แม่ต้องตรอมใจตายไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรือไง!!”
“ลีวาย!! ฉันบอกให้แกหยุด”
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพี่ลีวายตวาดเสียงดังใส่คุณท่านแบบไม่เกรงกลัว แถมเขายังจ้องฉันราวกับจะฆ่าให้ตายตรงนี้
เรื่องราวทั้งหมดมันมีความเป็นมายังไงฉันไม่รู้ แต่ฉันเชื่อว่าแม่ไม่ทำอย่างที่พี่ลีวายกล่าวหาแน่ๆ ส่วนคุณหญิงที่ท่านเสียเพราะว่าป่วย
“ก็ได้ครับ พ่ออยากจะทำอะไรก็ทำ แต่รู้ไว้อย่างหนึ่งว่าผมไม่มีวันญาติดีกับผู้หญิงคนนี้!!”
พูดจบพี่ลีวายก็เดินออกไปจากห้องทำงานของคุณท่าน เมื่ออยู่สองคนคุณท่านก็ยกมือขึ้นมาลูบหัวฉันเบาๆ แล้วบอก
“อย่าถือสาลูกชายฉันเลยนะ”
“ค่ะ หนูชินแล้ว”
“มีอะไรก็ไปทำเถอะ ฉันจะพักผ่อนสักหน่อย”
ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกมาจากห้อง แต่ทว่าเดินมาได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกกระชากแขนเข้ามาในห้องๆ หนึ่ง
“พะ พี่ลีวาย” ฉันอุทานเสียงดังเมื่อเห็นพี่ลีวายอยู่ตรงหน้า และนี่คือห้องของเขา