เด็กดื้อ-1
หลังจากที่แม่เสียไปตอนนี้ชีวิตฉันไม่ต่างอะไรกับกาฝาก แถมยังถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อย
ฉันชื่อ ‘มิลิน’ เป็นลูกสาวแม่บ้านหรือเรียกอีกอย่างว่าคนรับใช้ ตั้งแต่จำความได้ฉันก็เติบโตมาในคฤหาสน์หลังใหญ่ในฐานะลูกสาวคนใช้ โดยมีนายท่านของบ้านที่เอ็นดูส่งเสียให้ได้เรียนโรงเรียนดีๆ แถมยังได้เรียนมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศ
เรื่องราวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกเมียน้อย แม่บอกเสมอว่าต่อให้ใครจะคิดยังไงก็ช่าง เรารู้ตัวเองดีที่สุดว่าไม่ใช่ ถึงแม่ไม่ยอมบอกความจริง แค่ฉันเชื่อว่าแม่ไม่มีทางเป็นอย่างที่คนอื่นๆ กล่าวหา และสักวันคนอื่นจะรู้ว่าแม่ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น
วันนี้ฉันไม่มีเรียน พี่ลีวาย ลูกคนเดียวของนายท่านไม่ได้กลับบ้านเป็นอาทิตย์ ทำให้คุณท่านร้อนใจมาก จึงให้มาตามที่คอนโด
พี่ลีวายเป็นแบบนี้บ่อยเขาไม่ชอบกลับบ้าน อาจเป็นเพราะไม่อยากเจอหน้าฉัน
นั่งรถมาไม่นานก็มาถึงที่คอนโดหรูที่พี่ลีวายพักอยู่ ฉันรู้เพราะเคยมาตามเขาบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยอยากมาเลยเพราะรู้ดีว่าจะเจอคำพูดแบบไหน
มาถึงห้องสำหรับ vip ฉันใช้คีย์การ์ดที่คุณท่านให้สแกนด้านหน้าประตูแล้วเปิดเข้ามาในห้อง ก่อนจะผงะเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่ถูกถอดไว้แล้วพาดบนโซฟา แถมยังมีขวดเหล้าอยู่เกลื่อนห้อง
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะจัดการทำความสะอาดห้องให้ พลางคิดสงสัยว่าคอนโดหรูขนาดนี่ไม่มีแม่บ้านเลยหรือไง ทำไมห้องถึงได้รกขนาดนี้
กว่าจะทำความสะอาดเสร็จก็กินเวลาไปหนึ่งชั่วโมง จากนั้นฉันก็เปิดประคูห้องนอนเข้าไปเพื่อจะปลุกพี่ลีวาย
“พี่ลี…..” ดวงตาทั้งสองข้างของฉันเบิกกว้างพร้อมกับเสียงที่ขาดหายไป เมื่อเห็นร่างหนานอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง
รอยสักบนแขนและบนแผ่นหลังนั้นมันทำให้พี่ลีวายดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก เขาดูน่าค้นหาและน่าดึงดูด
“หยุดเต้นแรงได้แล้ว” ฉันยกมือขึ้นมาทาบบนหน้าอกของตัวเองแล้วพูดปรามหัวใจที่กำลังเต้นแรงไม่ยอมหยุด
กว่าจะทำใจปลุกได้ก็ผ่านไปแล้วสิบนาที ฉันค่อยๆ นั่งลงบนเตียงใกล้ๆ ร่างหนาที่นอนหลับ ก่อนจะเอามือเขย่าเบาๆ
“พี่ลีวาย พี่ลีวายคะ”
“อื้อ” น้ำเสียงอู้อี้ในลำคอที่ตอบกลับมาทำให้ฉันหวั่นไหวเอามากๆ
“คุณท่านให้มาตามค่ะ”
“ใคร”
“มิลินเองค่ะ”
รู้ดีถ้าพี่ลีวายตื่นมาแล้วเห็นหน้าฉันเขาจะเป็นยังไง เขาคงไม่พอใจและสาดคำพูดร้ายๆ ใส่ แต่ไม่รู้ทำไมทั้งที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นออกจะบ่อยฉันก็ยังเสียใจทุกครั้ง
“พี่ลีวาย…อร้าย!!”
จู่ๆ พี่ลีวายก็ยกแขนแกร่งขึ้นมาทับบนอกฉันแล้วกดให้นอนราบลงมาบนเตียง
ตึกตัก! ตึกตัก! ตอนนี้หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม ฉันได้แต่นอนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับข้างๆ กับร่างหนา
“พะ พี่ลีวาย…”
“อื้อ หนวกหู!!” ขนาดหลับอยู่ยังดุได้เลย
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ พลิกตัวตะแคงมองใบหน้าคมคาย คนอะไรก็ไม่รู้ขนาดตอนหลับยังหล่อเป็นบ้าเลย
เพราะไม่สามารถห้ามตัวเองได้ มือของฉันมันยกมาจับหน้าของพี่ลีวายเองตามความรู้สึก
“เลิกเกลียดมิลินไม่ได้หรอคะ” ฉันถามด้วยน้ำเสียงปนเศร้า มันเจ็บปวดมากเลยนะที่เห็นคนที่ตัวเองชอบเกลียดเราขนาดนี้
“มิลินผิดมากเลยใช่ไหม ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจพี่ลีวายสักอย่าง”
“มิลินชอบ…..” น้ำเสียงของฉันขาดหายไปพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าลืมตาขึ้น
“เอ่อคือคุณท่านให้มาปลุกค่ะ”
พูดแล้วฉันก็รีบหยัดตัวขึ้น แต่ทว่าถูกกดให้นอนลงมาอีกครั้ง จากนั้นพี่ลีวายก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมด้านบนพร้อมกับรวบมือทั้งสองของฉันขึ้นมาขรึงตรึงไว้เหนือศีรษะ
“0_0” หัวใจของฉันในตอนนี้มันเต้นรัวมากๆ
“มาที่นี่ทำไม” คนด้านบนเอ่ยถามเสียงแข็ง สายตาและสีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจ
“คุณ…ท่านสั่ง”
“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามเธอมาที่นี่!!”
“…….” ครั้งก่อนที่ฉันมาก็ถูกดุแบบนี้ แต่จะทำไงได้ในเมื่อมันเป็นคำสั่งของคุณท่าน
“ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะจำ” พี่ลีวายเว้นคำพูดแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ จนสัมผัสได้ถึงไอร้อนของลมหายใจ
“มะ มิลิน….”
“หรือว่าที่เธออยากมาเพราะหวังอย่างอื่น?”
“คะ?”
“ตั้งใจมาให้ท่าฉันถึงที่ห้อง คงอยากจะเป็นเมียฉันจนตัวสั่น”
“ไม่ใช่นะคะ” ไม่รู้ทำไมความคิดของพี่ลีวายที่มีต่อฉันมันถึงติดลบมากขนาดนี้
“ไม่ใช่แล้วขึ้นมานอนบนเตียงของฉันทำไม?”