เพื่อจะอธิบายให้หล่อนฟัง แต่การที่หล่อนไม่รับสาย กลับตัดสายทิ้ง
เขาจึงต้องยืนมองดูโทรศัพท์ ที่มีเสียงเพลงรอสาย แต่ไม่มีเสียงหวานของหล่อน
น้ำเสียงที่เขาอยากจะฟัง ความร่าเริงหรือในแง่คิดที่ทนายสาวพูดออกมา
กลับมาอยู่เงียบๆ เขาก็ไม่ได้กลับเข้าไปที่บริษัทเดิมอีก ผกายรุจีกลับมารู้เรื่องนี้ในภายหลัง..
แต่ผกายรุจีไม่มีอิทธิพลใดๆกับเขา
เขาจะต้องถูกปฏิเสธอีกครั้ง
ที่โทรเข้าหา ชฎาเดือน
หล่อนหายไปไหน ห้าหกวันหลังจากนี้
เขาเฝ้าเพียรโทร. แต่หล่อนไม่ใจอ่อน
ไม่รู้ทำไม ใจของหล่อนถึงแข็งดั่งหินผานัก
เขาอยากจะบอกโปรเจกต์หลายอย่าง ที่เขาออกมาทำคนเดียว สร้างฐานะตัวเอง
สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด คือ การยอมรับจากหล่อน
ชฎาเดือนได้มารับกับอากาศที่บริสุทธิ์ ลมเย็นและกระไอหนาวเย็นริมทะเล ที่ จังหวัดตราด
พักทุกอย่างเอาไว้ก่อน ไม่มีใครตามหล่อนมา นอกจากลูกน้องคนสนิทสองคน สำนักงานถูกปิดชั่วคราว
การอยู่คนเดียวของไอยวุธ เขาไม่มีความสุขเลย
ชฎาเดือนไปไหน หล่อนไม่ยอมบอกเขา
ทั้งที่เขารู้ว่า ตัดสินใจทำทุกอย่างเช่นนี้ เพื่อชฎาเดือนเพียงคนเดียว
ปลายมาเล่าถึงการฟอนแฟะสะเปะสะปะคบหาผู้ชายไปทั่วของภรรยาเขา
อย่างยากจะทำใจได้
ในขณะนี้เดียวกันรู้ว่า ปลายก็มีผู้หญิงอีกคนแอบเอาไว้ ทำอะไรเหมือนทั้งคู่ไม่อยากให้น้อยหน้ากัน
แต่มันผิดศีลธรรม ไม่ยอมหย่าขาดเป็นเรื่องราว
ปลายห่วงสมบัติจำนวนมหาศาล ที่เขาควรมีสิทธิ์ได้รับ ในฐานะลูกเขยของคนตระกูลนี้
ปลายเป็นคนทะเยอทะยานมาแต่ไหน
ไอยวุธรู้เรื่องดี
ไม่ได้เจอมานานเป็นแรมอาทิตย์
นอกจากย้ายที่พักอย่างเงียบๆ
ไอยวุธไม่ได้แจ้งบอกใคร แม้แต่ชฎาเดือนก็ไม่รู้
นี่คือการตัดสินใจแบบฟันธง จะไม่ย้อนคืนหลัง
แววตาเด็ดเดี่ยวจากดวงตาของเขา
แม้ท่านจะรู้สึกเสียดายเขาก็ตาม แต่ไม่อาจรั้ง และหยุดยั้งได้แล้ว
เขามาลาท่าน และท่านก็ให้พร
“ถ้ายังไงไปไม่ไหว ก็แวะมาที่นี่ได้นะ ยังต้อนรับเสมอ”
ไอยวุธพยักหน้ากับท่าน
“ขอบคุณครับ”
เท่านี้การเดินออกมาจากที่นั่นของเขา
ไอยวุธมีจุดหมายปลายทาง
เขาจะทำเพื่อคนที่เขารัก สิ่งที่เขานำติดออกมาด้วย คือความรู้ ความสามารถ และเชี่ยวชาญ
ซึ่งอาจไม่มีตัวตน หรือสิ่งจับต้องได้ แต่สามารถหางานใหม่ได้ เพราะมีประสบการณ์
ชฎาเดือนจะรู้ไหมว่า เขาวาดฝันถึงหล่อนมากมายแค่นี้
ผู้หญิงอื่น ไม่น่ามีอิทธิพลสำหรับเขามากกว่าหล่อน ยิ่งผกายรุจีน่ะหรือ เทียบชั้นกับหล่อนไม่ติด เรื่องงดงามที่ศีลธรรม
เขามองผู้หญิงคนนี้
ชฏาเดือนเป็นผู้หญิงที่ดูเป็นธรรมชาติ
แม้หล่อนจะเปรี้ยวเป็นบางครั้ง แต่ท่าทีการวางตัวของหล่อน เหมือนสาวโบราณ
ที่ยังอยู่ในกรอบแบบเดิม
เขาชอบความฉลาด และทันสมัย บวกกับนำของเดิมมาประยุกต์
ลงตัวเป็นผู้หญิงที่ดูบอบบาง แข็งแกร่งเช่นหล่อน
การที่หล่อนเป็นเจ้าของบริษัทนายความ รับว่าความ ทั่วสหราชอาณาจักร นั่นคือการประกาศ ความกล้า และเป็นผู้นำที่น้อยคนนักจะมี
มองเห็นเขาเดินผ่านมาทำเหมือนเฉยๆ
แต่หล่อนไม่ทักเขาก่อน แม้ว่าตอนนี้เขาจะพยายามซักฟอกตัวเองให้ขาวเต็มที่
กำลังจะไปได้ สวย หากเขาไม่พาตัวเองไปสู่วงเวียนเดิม
ชฎาเดือน ไม่มีพยาน ไม่มีการรู้เห็น
แม้เขาไม่เหมือนเพื่อน
เพื่อนที่หล่อนรู้ดีว่า เหมือนคนประเภท คลำไม่มีหางเป็นใช้ได้
เขาพยายามพิสูจน์ตัวเอง แม้กระทั่ง ลาออกจากบริษัทนั่น
นี่เขาบอกว่าเขา ทำเพื่อหล่อน จะเชื่อใจได้แค่ไหน ไม่พ้นผู้หญิงอย่างผกายรุจี
ต้องวิ่งไล่ตามหาเขาอีก เขาช่างมีเสน่ห์เหลือร้ายจริง
“ผมทำขนาดนี้แล้ว ยิ้มให้ผมบ้างสิ”
เขาบอก คงเห็นว่าลักษณะท่าทางของหล่อรนเวลานี้ตึงใส่เขา
เครียด แน่นอน หล่อนก็เครียดในงานเหมือนกัน เอกสารปึกใหญ่ ล้วนเกี่ยวกับกฎหมาย คดีความของลูกความ
จะให้หล่อนมายิ้มเหรอ
ชฎาเดือนไม่ได้ดูถูกเขา แต่หล่อนเป็นของหล่อน มาอย่างนี้ หล่อนเป็นของหล่อนอย่างนี้ เขาเคยยิ้มรับบอกว่ารับได้
“ฉันเป็นของฉัน อย่างนี้ มานานแล้วค่ะ”
หล่อนยิ้มอย่างทะนงตัว
เขาคิด แน่นอน เขาไม่มีอะไรทำ
เพราะลาออกจากงาน ไม่มีใครบังคับ สมัครใจลาออก เพื่อสงบ
เรียกว่าศึกก็ ได้ ศึกหัวใจ ที่เขาอยู่ตรงกลาง และกลายเป็นผู้ที่ถูกแย่งชิง
เขาไม่ยอมให้ใครมาชิงใจได้ง่า ย หากเขาไม่ปรารถนา
“ผมอยู่ในสภาพคนตกงาน”
เขาบอก
“หางานทำซะสิคะ”
“หาแน่”
ยิ้มให้กับตัวเอง ปลอบตัวเองในเวลานี้ด้วย อยากรู้เบื้องใจลึก หล่อนห่วงหาอนาทรเขาไหม
รู้แต่ว่าไอยวุธ เข้ามาใกล้ตัวหล่อนมากที่สุด
เขาซักฟอกตัวเองให้ขาวบริสุทธิ์แค่ไหน
หล่อนไม่มีคำตอบ เห็นใจในความพยายามของเขา ตอนนี้เขาตกงาน
หล่อนรับรู้
ไอยวุธเองดูเหมือนเขาโล่ง และเหมือนยกภูเขาออกจากอก
เขาเลิกไปหาปลายศก ตั้งนานแล้ว
เลิกคบหรือ ยังไม่ถึงขนาดนั้น
เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน
แต่ก็เหมือนกับลงโทษ เพื่อนคนนี้ ที่ชักชวนชีวิตของเขาให้เขวด้วย
เขาไม่อยากถูกมองผิด ในสายตาของชฎาธาร
“อยู่ยังไงคะ ทุกวันนี้”
รู้ว่าเขาตกอยู่สภาพอย่างไร
“ไม่ถึงกับลำบากครับ แต่ก็ต้องกินเงินเก่า”
“มากไหมคะ” หล่อนถาม เพื่อจะได้รู้
“ก็พอสมควร”
“คุณเก็บเงินเก็บ”
“ก็ต้อง เป็นอย่างนั้นล่ะครับ”
เพราะเขาเคยบอกว่า จะเก็บเงินไว้หมั้นหมายสู่ขอ หล่อน
เงินจำนวนนี้หรือเปล่า ไม่กล้าถาม
“พยายามต่อไป”
หล่อนให้กำลังใจ
“ขอบคุณครับ”
เขามาที่สำนักงานของหล่อนเลยบอกหล่อน
“มีอะไรที่ผม พอจะช่วยได้ไหม ตอนนี้ผมไม่มีงานทำ” เขาบอกสถานภาพของตัวเอง
หัวของหล่อนกำลังยุ่งอยู่ เขารู้ว่าเพราะอะไร ไม่ควรถาม
แต่ก็ไม่ถาม
หล่อนกลับยิ้ม
“อยากทำหรือคะ ไม่ใช่ตำแหน่งดีๆนะคะ ทั่วไป พื้นๆด้วยซ้ำ ส่งเอกสาร”
หล่อนบอก เขายิ้ม เรื่องแค่นี้ จิ๊บจ๊อย
“งั้น ผมจะลองทำ” เขาเอาทันที
หล่อนตกใจ
“อ้าว”
“ก็บอกว่า มีงานว่างนี่ ครับ ผมอยากทำ”
ชฎาเดือน มองหน้าเขาอีกครั้ง
“อยากทำ แต่คุณ ไม่ถาม เรื่องเงินเดือนหรือคะ ว่า จะได้ หรือไม่ได้”
“ได้หรือไม่ ผมก็ไม่สน ขอให้ทำงานให้คุณ”
หล่อนถอนใจ เอากับเขาสิ
“ฉันไม่ได้ใจดำขนาดนั้นหรอกค่ะเผอิญว่า ตอนนี้ เอกสารของลูกค้ามีเยอะ ลูกน้องคนเดียว คงไม่ไหวแน่ ฉันเองก็กำลังจะเปิดรับสมัครด้วย”
“ไม่ต้องรับใครแล้วครับ ผมอาสาเอง”
เขาตอบอย่างแม่นมั่น น้ำเสียงร่าเริง
“ไม่ต้องเอาวุฒิก็ได้ ผมมีแต่ความจริงใจ มาให้ กับซื่อสัตย์" เขาบอกหล่อนอย่างนั้น
ทำให้หล่อนอดขำไม่ได้
คำพูดของไอยวุธ ไม่ขำ ร่าเริง
ตัวหล่อนเล่า นิ่ง
จมอยู่เบื้องหน้า มองเขา
แม้จะพาเขาเข้ามาข้างใน ได้ที่นั่งที่เหมาะ ในที่ทำงานของเขา
หล่อนต้อนรับเขามากพอสมควร อาจจะเพราะเขามาของานทำกับหล่อน
ชฎาเดือนอาจจะคิดขำๆ แต่มันไม่ใช่
หล่อนเท่านั้นที่รู้ตัวเองดี
“ในช่วงนี้ ผมจะขยันมาที่นี่บ่อยๆ”
เขาจะต้องทำงานกับหล่อน