ตอนที่ 16

1341 คำ
“นี่ คุณ ทำกับ ฉันอย่างนี้ได้ยังไง ปล่อยมือฉัน เอา มือสกปรกของคุณ ออกไปจากตัวฉัน ฉันไม่ต้อนรับคุณ เข้ามานั่งในรถ โน่นเชิญ คุณนั่งแท็กซี่กลับไปเองเถอะ” วาจาเช่นนี้บ่งบอกเขาว่าชฎาเดือนไม่ได้ล้อเล่น หรือแค่หยอกเล่น เสียแล้ว แต่มันกลายเป็นความจริงที่หล่อน ดูจริงจังไปเสียหมด จนเขาต้องเบรกตัวเอง กับท่าทีที่เย้าหยอก หล่อนทิ้งลง “นี่ คุณ เอาจริงหรือ” “ฉันพูดจริง” ชฎาเดือนย้ำในน้ำเสียง “ทำไมเป็นอย่างนั้นที่ผมบอกคุณว่า ผมไม่อยากนั่งแท็กซี่ ผมก็พูดจริง และผมก็อยากจะนั่งรถไปกับ คุณ มากกว่า” “ฉันบอกคุณไปแล้วไงคะ คุณไม่ได้ยินหรือว่า ฉันไม่อนุญาต” “ชฎานี่ คุณโกรธผมนะ” เขาหลุดเอ่ยคำนี้ออกมา และชฎาเดือน ก็รู้ว่าใช่ หล่อนไม่คิดจะไขสือ หรือเฉไฉด้วยหรอก เพราะอารมณ์ของหล่อน ใน เวลานี้ มันเป็นแบบนี้ ซึ่งเมื่อเขานั้นได้พูดแบบนี้แล้ว ทำให้ชฎาเดือนต้องครุ่นคิด จนหล่อนเอ่ยพูด “แต่ถึงอย่างไร ฉันก็ไม่ยอม ให้คุณไปด้วยแน่ คุณเหมือนคนมีชนักปักหลัง” และชฎาเดือนได้เอ่ยใส่หน้าของเขากับคำนี้ทำให้เขาเลยยิ่งตรึงตัวเอง กับคำตอกย้ำ ที่หล่อน คงเชื่อว่าเขานั้นทำผิดหรือไม่ซื่อต่อเธอ ความดีของคนเรา พิสูจน์กันด้วยอะไรหรือ ความซื่อสัตย์ หรือ การทรยศหักหลัง ชฎาเดือนพยายามตั้งคำถามนี้กับตัวเอง หล่อนปล่อยให้หยาดน้ำไหลรินลงผ่านหางตา โดยไม่สนใจที่จะเช็ดมัน ขณะที่ขับรถกลับคนเดียว โดยที่ใจแข็ง ไม่ยอมให้เขาไปด้วย ผู้หญิงคนหนึ่งโทร.มาหาหล่อน เป็นใครก็ไม่รู้ “เธอชื่อชฎาเดือนใช่ไหม ขอโทษฉันได้เบอร์ของเธอจากคนรู้จัก กำลังงงจึงตอบนึกว่าลูกค้า ที่ต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องคดี “มีอะไรเหรอคะ ต้องการให้ช่วยเรื่องคดี” “เปล่า ฉันอยากจะให้หล่อนเลิกยุ่งกับผัวฉัน” อึ้งจนหูชากับน้ำเสียงของอีกฝ่าย ที่หล่อนไม่เคยรู้จักมาก่อน ใช้กิริยาที่เกรี้ยวกราด “ขอโทษ คุณเป็นใคร ชื่ออะไร ถึงพูดจาแบบไม่ได้รับการสั่งสอนจากบรรพบุรุษโคตรเหง้า” ใบหน้าของชฎาเดือน เข้มเป็นสีระเรื่อ และตอกกลับไป ชนิดให้อีกฝ่ายหน้าหงาย “ขอถามหน่อยเถอะค่ะ ผัวเฮงซวยของคุณชื่ออะไร ถึงต้องมาตามหาที่นี่” ทำเอาอีกฝ่ายเงียบกริบ เพราะไม่นึกว่าจะถูกสาดด้วยวาจาเผ็ดร้อน จนเนื้อตัวสั่นเทิ้มแล้วก็ปิดเครื่อง ชฎาเดือนคาดเดา ผู้หญิงคนนี้ได้เบอร์โทร.ของหล่อนมาจากไหน ถึงได้ตู่ทักหน้าด้านๆแบบนี้ แล้วคำตอบของเธอ ก็คือ ผู้ชายที่หล่อนให้เบอร์ด้วยความไว้ใจ ในการทำงาน แทบจะไม่มีเวลาหยุดพักเลย คนนั้นไม่ใช่เครื่องจักร ทนายสาวอยากจะขอพักไปสักระยะหนึ่ง จึงบอกดาวียาคนแรก “ฉันจะขอพักผ่อนส่วนตัว ไปที่ไกลๆ ไม่ต้องมีใครมาพบเจอดีที่สุด” ดาวียาไม่ใคร่เห็นด้วยที่เพื่อนรักพูดแบบนี้ “เธอคงจะเจออะไรที่มันสุดๆ และแย่เข้า” ด้วยความเข้าใจเพื่อน “เกี่ยวกับเขาด้วยหรือเปล่า หรือเรื่องงานอย่างเดียว” “ยังไม่ขอตอบได้ไหม ฉันสับสน” ชฎาเดือนตอบเพื่อนและหยุดพูด ไอยวุธตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เขาเดินตรงไปยังห้องของฝ่ายบุคคลชี้แจง “ผมขอลาออก” ฝ่ายบุคคลตกใจอย่างมาก ไอยวุธไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ เขาตั้งใจอย่างนั้น “เรื่องนี้ ได้บอกกับท่านประธานหรือเปล่าคะ” เห็นเขาทำงานดี ฝ่ายบุคคลสาวใหญ่ สอบถาม “ไม่ได้บอก แต่ผมตัดสินใจเอง และตัดสินใจอย่างดีแล้ว” ไอยวุธตอบชัดเจน สาวใหญ่ฝ่ายบุคคล ทำสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ “คุณไอย ต้องบอกท่านประธานก่อนไม่งั้นพี่โดนเล่นงาน” “การลาออกเป็นการตัดสินใจของผม ส่วนการบริหารงานไม่เกี่ยวกันสักหน่อย ไม่มีผม บริษัทต้องเดินหน้าได้” สีหน้าของฝ่ายบุคคลยิ่งเป็นกังวลหนักกว่าเดิม “ผมขอใบลาออก” สักครู่สาวใหญ่จึงค่อยๆดึงแผ่นเอกสารมาส่งให้เขา ไอยวุธใช้เวลาในการกรอกไม่นาน ซึ่งคราวนี้เขาต้องส่งเอกสาร ให้กับท่านประธานเป็นผู้เซ็น ขั้นตอนต่อจากนี้จะถือว่าเสร็จสรรพ วัดใจดูว่า ท่านจะเซ็นหรือไม่เซ็นเท่านั้น ไอยวุธมีคำตอบ และเหตุผลเพียงพอไว้แล้ว นี่คือผกายรุจีกับแมน หล่อนรับรู้ในสิ่งที่หล่อนทำลงไป แต่พร้อมที่จะกระโจนลงในบาป เด็กหนุ่มคนนั้นชื่นมื่น เขาหลงใหลหล่อน ดูเหมือนจะเป็นคนที่หล่อนจะปั้น หรือสั่งให้ทำอะไร เขาพร้อมจะทำให้ทุกอย่าง ดำกฤษณาที่หล่อนลืม มองข้ามศีลธรรม หล่อนทำประหนึ่งว่า ขาดผู้ชายไม่ได้ ต้องการเอามาแต้มเติมตกแต่งในชีวิตของหล่อน ปลายก็ไม่ได้ซื่อสัตย์กับหล่อนสักเท่าใด “ผมรู้ว่าพี่มีเขา แล้วพี่จะเก็บผมไว้ที่ไหน” คำถามของเด็กหนุ่มวัยไม่เกินสิบแปด เรียนมหาวิทยาลัย แต่ทำงานที่ผับ ที่หล่อนสามารถใช้เงินตอบสนอง ผกายรุจีกลับฟังผิดหู คำนี้ทั้งสั่นคลอน วี๊ดขึ้นมาที่หัวสมอง “ฉันไม่ต้องการฟังคำนี้” หล่อนตวาด ทำให้เด็กหนุ่มต้องเงียบ เขาหันหลังให้หล่อน ขณะที่แผ่นกายยังเปลือยเปล่า ในคอนโดหรูชั่วคราว ที่ราคาของมันไม่ได้สะดุ้งสะเทือนสำหรับผกายรุจี สักนิด “อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จแล้วเธอกลับไปก่อน” พอหล่อนใจเย็นลงแล้วถึงพูด ไม่ลืมที่จะยื่นค่าตอบแทนให้เขา เพียงแค่นี้ แมนก็ยิ้มแป้น ทนฟังเสียงด่าหน่อยหนึ่ง เขาก็พ้นจากที่นี่แล้ว ไอยวุธหยิบเอกสารตรงเข้าไปยังห้องท่านประธาน ตัดสินใจเคาะนิดหนึ่ง ชี้แจงให้เลขาส่วนตัวของท่านทราบ ตัดสินใจก้าวค้อมกายอยู่ตรงหน้า “ท่านครับ ผมจะขอลาออก โปรดช่วยเซ็นอนุมัติให้ด้วยครับ” คำพูดสั้นๆ ที่ไอยวุธ ไม่อยากพูดอะไรมากกว่านั้น “แน่ใจแล้วจริงๆหรือ” ชายวัยกลางคนสวมแว่น เงยหน้ามองเขาอย่างเข้าใจ เพราะคุ้นเคยและร่วมงานกันมานาน จึงรู้สึกเสียดาย “แน่ใจ แล้วครับ ก่อนตัดสินใจ ผมคิดดูแล้วหลายรอบ” ไอยวุธตอบประหยัดน้ำเสียงและตรงไปตรงมา ท่านประธานบริษัทถอนใจ “มีเหตุผลอะไรมากกว่านี้ไหม” “ผมต้องการสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองครับ จากประสบการณ์ที่มีอยู่” “ถ้างั้น ก็ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จ” “ขอบคุณครับท่าน” เมื่อเอาเหตุผลและความจริงขึ้นมาอ้าง ไอยวุธกลับไม่ถูกยับยั้งหรือทัดทาน เป็นเพราะท่านประธานบริษัท มองเห็นความสามารถของพนักงานหนุ่มคนนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ดังนั้นเอกสารในมือที่ยื่นส่งให้ จึงถูกเซ็นผ่านกริ๊กเดียว เหมือนยกภูเขาออกจากอก เมื่อตัดสินใจทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเองสักที ไอยวุธมีความหวัง นอกจากความฝัน เชื่อว่าเขาจะทำได้ดีที่สุด ต้องทำได้ดีที่สุดเท่านั้น เขาตั้งเป้าหมาย และจะไปให้ถึง จึงออกจากที่ทำงานซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากเก็บข้าวของส่วนตัว ร่ำลากับเพื่อนพนักงานที่รู้จักคุ้นเคยและสนิทสนม ซึ่งเป็นอาวุโส และบางคนที่เขาไม่ได้สนิทสนมด้วย อาจจะเป็นตรงกันข้ามคือไม่ชอบเขา แต่ไอยวุธต้องการ ลาเพื่ออโหสิเงียบๆในใจ แล้วเขาจะก้าวจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ทุกข์ร้อนใดๆ กลับมาตั้งหลักใหม่ เขาจมอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ในที่พักส่วนตัว บอกตามตรงดีใจที่ทุกอย่างผ่านฉลุย และกดเบอร์หาชฎาเดือนก่อนใคร แต่หล่อนไม่รับสาย เขารู้ถึงปัญหาที่คลุมเครือ และเข้าใจผิดบางอย่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม