ตอนที่ 18

1377 คำ
การขยันเป็นสิ่งดี ชฎาธารไม่ทักท้วง หล่อนไม่คิดว่า ตัวเองเป็นเจ้านายของเขา ไม่ชอบแบบนี้ แม้สำนักงานทนายความจะเป็นของหล่อน แต่ก็เป็นนิติบุคคล “คุณลดตัวเองมากไปหรือเปล่า” หล่อนตัดสินใจถาม “ผมไม่ได้เกี่ยงงาน” เขารีบตอบ เข้าใจ “ฉันทำถูกหรือเปล่านี่” “ผมเป็นฝ่ายขอร้อง ของานกับคุณเอง แบบไหน ผมก็ทำได้” คำนี้ยืนยันหนักแน่นอีกครั้ง “อย่ากังวลเลย” ชฎาเดือนแค่เข้าใจ หล่อนปล่อยเขา ในเมื่อต้อนรับเขาเป็นพนักงานของบริษัทคนหนึ่ง ทึ่งในความรู้สึกเขา ที่เขายอมเป็นอะไรได้ ทุกอย่าง เขาจะทุ่มเท ขยันเพื่อเอาใจหล่อน มันก็ดี ชฎาธารคิดอย่างนี้ มาพบท่าน คือ คุณการันต์ ความจริงไอยวุธไม่ได้มีเวลาว่างวขนาดนั้น เขาไม่เกี่ยวข้องอะไรที่นี่ เขาลาออกไปแล้ว แต่มีเรื่องร้อนรน ที่คุณการันต์ ถึงกับขอร้อง “ช่วยกลับมาในที่ทำงานหน่อยเถอะ” ความที่ท่านเป็นเจ้านายเก่า ทำให้ไอยวุธปฏิเสธไม่ออก มีเรื่องสำคัญ ที่จะถาม ท่านเรียกตัวเขา เข้ามาในห้องส่วนตัว มิดชิด เหลือแต่ไอยวุธกับร่างของท่านประธาน “เล่าเรื่องของ ยัยผกาย ให้หมดเถอะนะ ไอยวุธ ผมขอร้อง” มองสีหน้าอดีตเจ้านายตรงหน้า “นี่เกิดอะไรขึ้นครับ” “ก็ผมทนเห็นลูกสาวอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้ แล้วก็หมอนั่น ผมไม่ต้องการให้เป็นลูกเขย” นายการันต์พูดเหยียดเยาะใส่ คนที่คุณการันต์เอ่ยคือปลายศก ซึ่งไอยวุธ รู้ดีว่า ปลายศก นิสัยอย่างไร เขาเลยอึกอัก จะให้ไอยวุธ เข้าไปยุ่มย่ามกับเรื่องที่ไม่ควร เพราะตอนนี้เขาเอาตัวเอง ออกจากลุ่มคนเหล่านี้แล้ว ไม่ต้องการให้ตัวเอง แปดเปื้อนเลย เป็นเรื่องที่เขาทำใจลำบาก “ผมอยากเป็นนอก ที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท” ไอยวุธตัดสินใจบอกท่าน แต่ท่านกลับขอร้อง “ช่วยผมหน่อยเถอะ แค่นี้ ลูกสาวของผม ก็ทำเรื่องแย่ๆมากมายแล้ว” “ผมไม่มีสิทธิ์ ไปก้าวก่ายจริงๆครับ แต่รู้ว่าเธอชอบแบบนั้น” นายการันต์พยักหน้ารับรู้ มีหรือ ที่เขาไม่ทราบพฤติกรรมของบุตรสาวคนเดียว เรื่องเสื่อมเสีย ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ผกายรุจี เป็นมาตั้งแต่เรียนอยู่ต่างประเทศ แต่หล่อนก็เรียนไม่จบ อย่างที่เขาต้องการ “งั้น ช่วยไปบอก นายปลายหน่อยได้มั๊ย ผมต้องการให้มันหย่า” นายการันต์เอ่ย จากนั้นเขาเดินทางกลับ “นายเมามายังงี้หรือ” เขาอดถามปลายศกไม่ได้ “เมาแต่ก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่ ไม่งั้น คงมาหานายที่นี่ไม่ได้หรอก” “พอดีเลย ไม่ต้องไปหา อยากคุยด้วย” “คุยเรื่องอะไร” “นี่หรือสารรูปของนาย ยังไงล่ะ หมดสภาพหนูตกถังข้าวสารแล้วสิ” ที่เขาถามไม่ได้หยามเยาะ เพียงแต่อยากให้ปลายศกสำเหนียกถึงความจริง คนเราเมื่อเคยอยู่ในจุดสูงสุด แล้วต้องมาต่ำลง โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนนัก เขาคิดว่าปลายศกน่าจะรับรู้กับตัวเองได้ดี “รุจีอยากจะหย่ากับฉัน แต่ฉันไม่หย่าให้หรอกนะโว้ย ถุงเงินถุงทองทั้งนั้น” เขาเข้าใจที่ปลายศกเสพมาตลอดนั่นคือถุงเงินถุงทอง ทรัพย์สมบัติเมื่อได้มามันก็หายไปหมดไป เขาเอ่ยขึ้นเหมือนเตือนปลายศก “ดูอย่างฉันสิ ทำงานอยู่ดีๆ เสือกอยากออกมาตกงาน” “นั่นเป็นเพราะนายอยากจะพิสูจน์รักแท้ให้คุณชฎาเดือนรู้” เขาพยักหน้า มันเป็นเรื่องที่ไม่อยากจะกล่าวนัก “นายไม่อยากตกงานหรอกว่ะ แต่เป็นเพราะเรื่องมันลามหนัก” ปลายศกตบที่บ่าของเพื่อน “ดีนะที่นายไม่เป็นเหมือนไฟ ถ้ายิ่งได้ร้อนฉ่า คงจะเผาแผดผกายรุจีอีกคน” เขาเข้าใจที่ปลายศกพูด และเขาไม่ใช่คนประเภทนั้นจริง “ฉันว่าถ้าเธอต้องการแล้ว นายก็ขวางคุณรุจีไม่ได้ ฉันว่าช่วยไปเตือนบอกคุณชฎาเดือนให้ระวังด้วยก็แล้วกัน” เหมือนปลายศกหวังดี แต่ไอยวุธกลับยิ้ม “ใครกล้ามาเสี่ยงเล่นกับทนายความอย่างคุณชฎาเดือนคงมีหนาวล่ะ” เอ้อ ใช่สิ แบบนี้ ผกายรุจีต้องคิดหนักเลย เขาไม่อาจตอบคำถามของปลายศกได้มากมายนัก แม้เพื่อนจะหวนมาพึ่งพาเขา เมื่อปลายศกไม่มีบ้านอยู่ เหมือนเขาถูกไล่จากคฤหาสน์หลังงามนั่นแล้ว เขายังจดจำคำของนายการันต์ อดีตเจ้านายที่ต้องการให้เขาช่วยมาพูดกับปลายศก ทำเองก็ต้องรับเองล่ะ เมื่อไม่รู้จะพูดอะไร ไอยวุธจึงพูดเรื่องจริง “นายคิดว่าฉันผิดคนเดียวหรือ ทำไม ไม่โทษผู้หญิงมักมาก บ้าผู้ชายอย่างผกายรุจีบ้าง” ไอยวุธคิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาของเขา เขาจะไปแบกรับแทนเพื่อนไม่ได้หรอก เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ “ฉันขอพักอยู่กับนายสักหน่อย อาจจะสักระยะ” ในความเป็นเพื่อนไอยวุธมีให้เสมอ กับเพื่อนที่ไม่มีที่ไปเหมือนนกขมิ้นสัญจร เขาพยักหน้า ไอยวุธเริ่มทำงานใหม่อีกครั้งเพราะชฎาเดือนช่วย หล่อนให้เขาเป็นคนขับรถส่วนตัวของหล่อน พาไปไหนมาไหนด้วยกัน มันเป็นเรื่องที่ดีเสียอีก เพราะเขาจะได้ใกล้ชิดหล่อนตลอดเวลา “นึกว่ามันจะยอมหย่ากับหนู ไม่เลยค่ะ มันถ่วงเวลาตุกติก สุดท้ายก็หายหน้าไป” เหมือนผกายรุจีนำคำพูดมาระบายให้บิดาฟัง ถึงสามีเจ้าเล่ห์ ซึ่งนายการันต์เอือมระอาที่จะรับฟังแบบนี้แล้ว “พ่อก็หาทางช่วยสิคะ” “ฉันก็พยายามหาทางช่วยแกอยู่แล้ว โดยให้ไอย ไปช่วยพูดให้” “ไอยวุธหรือคะ” พอเอ่ยถึงเขา หล่อนก็รู้ว่าเขาไม่มีใจมาทางหล่อน เป็นผู้ชายใจแข็ง โง่ ดื้อ และ หยิ่งที่สุดที่หล่อนพบเจอมา เพราะหล่อนเคยหว่านเสน่ห์ให้เขา ตัวไอยวุธก็ไม่ได้แลหล่อนสักนิดเดียว ทำให้หล่อนตกใจไม่น้อย แต่ก็ปรารถนาจะได้ตัวเขามาครอบครองเช่นกัน “นี่ฉันขอร้องนะ กับไอยวุธ แกเลิกคิดเลย” นายการันต์พอจะรู้เท่าทันความคิดของบุตรสาว แม้เขาต้องการจะให้บุตรสาวหันมาสนใจไอยวุธก็ตาม แต่หล่อนจะผิดหวังมากกว่า “ชีวิตของแกด้วย จัดสรรให้ดีเถอะ จะเอาใครมาเป็นผัวก็ขอให้เป็นตัวเป็นตน ไม่ใช่พวกมือกาวหรือแมงดา” คราวนี้นายการันต์ใช้คำพูดค่อนข้างแรงทีเดียวกับบุตรสาว ใช่หล่อนก็เปรียบ ปลายศกเป็นเหมือนแมงดา และเศษสวะของหล่อนในเวลานี้ “ทุกวันนี้ฉันก็แทบจะเอาปี๊บคลุมหัวเดินอยู่แล้ว” จากนั้นผกายรุจีไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้หรอก หล่อนจะไม่ยืนให้พ่อมาด่าปาวๆใส่อย่างนี้หรอก ผละจากไปดีกว่า ไว้คอยให้บิดาอารมณ์ดีขึ้น แล้วค่อยมาพบท่านใหม่ ชฎาเดือนเหมือนหัวใจของหล่อนกระดี๊กระด๊ารับกับความสดใส ก็คนขับรถกิตติมศักดิ์ของหล่อนนี่สิ เขานำพาความสุขใจมาให้หล่อน เขาเป็นยังไงบ้าง ทำไมใจของหล่อนแอบใส่ใจเขาไม่น้อยเลยนะ หล่อนยังกังขาไม่น้อย แต่เขาก็พิสูจน์ใจได้แล้วว ว่าเขาไม่มีความเกี่ยวพันกับผู้หญิงคนนั้น หากแต่ผู้หญิงคนนั้นต่างหากล่ะ ที่พยายามลากตัวเขาไปพัวพันด้วย “ฉันเอง” มีคนโทร.มาหาหล่อน ด้วยน้ำเสียงอันเดิมที่ชฎาเดือนพอจดจำได้ ถ้าเป็นลูกค้าก็ว่าไปอย่าง นี่ไม่ได้ออกแนวนั้นเลย คนที่หล่อนเพิ่งนึกถึง ผู้หญิงที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวของตนเองไปกับอารมณ์ต่ำ “อ้อ” หล่อนครางอยู่ในลำคอ “ฉันคิดว่าฉันไม่มีธุระอะไรกับคุณ แล้วคุณก็ไม่ใช่ลูกค้า ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม