ซึ่งเขาตอบด้วยความสุข
แต่ชฎาเดือนนิ่งเงียบ
“คุณจะอนุญาตหรือเปล่าครับ? ถ้าผมจะตีตราจองหัวใจของคุณเป็นคนแรก นี่ผมต้องการปิดกั้นผู้ชายทุกคนเลยนะ”
ทำให้หล่อนนิ่งฟังคำพูดของเขา กับคำตอบที่ท้าทายเช่นนี้
และเช้าตรู่ต่อมา ไอยวุธเกือบจะนอนตื่นสาย และไปทำงานไม่ทัน
อาจจะเป็นเพราะว่า เมื่อคืนนี้ เขามีความสุขมาก เพราะได้เที่ยวฉลองต้อนรับพ.ศ.ใหม่ ตามลำพัง กับผู้หญิงที่เขาชื่นชอบมากที่สุด
จนเกือบปาเข้าไปตีหนึ่งกว่า
ไอยวุธจึงเรียกแท็กซี่ ให้ไปส่งเขาที่บริษัท แทนที่เขาจะนั่งรถเมล์เช่นเดิม
และท่าทางที่วิ่งแบบกระหืดกระหอบมา ทำให้เพื่อนรัก ถึงกับแปลกใจ และขมวดคิ้ว
“เฮ้ย นายเกือบสายแล้วนะ แล้ววันนี้นั่งแท็กซี่มาด้วยเหรอ ทุกที นายประหยัดสตางค์มากนี่ ไม่ยอมจ่ายควักเงินค่าแท็กซี่เด็ดขาด”
“แต่วันนี้ จำเป็นจริงๆ ไม่งั้น คงจะสายอย่างที่นายว่า”
“อ้าว เมื่อคืนไปทำอะไรวะ”
ปลายศกเอ่ยพูดเหมือนไม่รู้ความจริง
เป็นเพราะผกายรุจีไม่ยอมที่จะพาเขาออกไปไหน แต่ทั้งคู่ขลุกและพักผ่อนอยู่ที่บ้าน
ปลายศกจึงไม่รู้ว่า เมื่อคืนนี้ เป็นวันสำคัญยังไงกับคนทั่วโลก
และโดยเฉพาะ คนไทยทั้งประเทศ
“ทำอะไรหรือวะ? นี่นายแกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริงๆวะ ปลาย”
“อ้าว ฉันก็ไม่รู้จริงๆ นะสิ ไอ้ไอย ไม่งั้นจะได้ถามหรือ”
ไอยวุธขมวดคิ้ว เงยหน้ามองเพื่อนรัก
“แล้ว เมื่อคืนนี้ นายไปอยู่ที่ไหนมา”
ปลายศกครุ่นคิดแล้วตอบ
“ฉันไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนหรอก นอกจากอยู่แต่ในบ้าน กับ ผกาย เธอไม่ยอมออกไปไหนข้างนอก ทั้งที่ฉันชวนแล้ว”
คำที่ปลายศกตอบ ทำให้ไอยวุธพอจะเข้าใจ
“อ๋อเหรอ เมื่อคืนนี้ เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เอ้อ และฉันกับคุณชฎา ได้ไปเที่ยวฉลองกัน”
คำตอบของไอยวุธ ทำให้ปลายศกแสนอิจฉาเพื่อน ที่ตัวเขานั้นถูกผกายรุจีภรรยาดึงแขนเอาไว้ หล่อนทั้งหวงเขา จนไม่อยากพาออกไปไหน
“ฉันรู้สึกอิจฉานายเหลือเกินวะ”
“นายอิจฉาฉันทำไม”
“อ้าว ก็นายได้ควงคู่กับ คุณชฎา แล้วได้เทียวกันอย่างมีความสุข สองต่อสองคนนี้สิ ส่วนฉันนอนเหี่ยวแห้งอยู่กับยัยแก่คนเดิม”
และปลายศกอดไม่ได้ที่จะบ่นถึงภรรยา
“ฉันเข้าใจ ก็นายเลือกหล่อนแล้วนี่”
“ใครอยากจะเลือก เป็นเพราะหล่อนรวยต่างหาก หล่อนเป็นบันได ที่ฉันสามารถปีนข้ามฐานะเหนือกว่านายด้วยต่างหาก”
ปลายศกหันมาตอบ แล้วเขาก็ทำน้ำเสียงสลด
“แต่เวลานี้ ฉันเหมือนคนมีทุกข์ เพราะหล่อนติดตามตัวฉันแจ แบบไม่ยอมให้ออกไปไหน”
ทำให้ไอยวุธนิ่งเงียบ
“ก็นายเลือกแบบนี้ เองไม่ใช่หรือ”
“ถ้ารู้ว่า เลือก แล้วเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เลือกหรอกว่ะ”
ปลายศกตอบเพื่อนรักด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ
“ฉันว่า นายกับคุณชฎา คงมีความสุขอย่างมาก เอ้อ ไม่ทราบว่า นายจีบเอติด และเอตกลงยอมรับความรักจากนายแล้วหรือยังวะ”
“การที่เธอออกไปกับฉัน น่าจะเป็นคำตอบที่ดีแล้ว ไม่ใช่หรือ”
ไอยวุธนิ่งคิดแล้วก็ตอบ
“ใช่ว่ะ ถ้างั้น นายก็ทำสำเร็จ แบบนี้ นายต้องรีบเข้าใกล้เธอบ่อยๆนะ ถ้าจีบผู้หญิงคนไหน คบกับใครก็อย่า ทำให้เขาคิดว่าเราห่างเหิน”
ปลายศกแนะนำบอกเขา ราวกับเป็นกูรูเรื่องความรัก
“ที่ฉันบอกนาย เพราะฉันมีประสบการณ์ เรื่องนี้ มากกว่านาย”
ไอยวุธพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่จะแยกย้ายไปนั่งที่ทำงานของเขา หลังจากที่ทั้งคู่พากันออกมาจากห้องน้ำ
พัด ลูกน้องสาวในที่ทำงาน ซึ่งเป็นพนักงานบัญชีของสำนักงานทนายความทักชฎาเดือน
“วันนี้เจ้านายดูหน้าตาสดใสเหลือเกินนะคะ เหมือนคนที่มีความสุขมาก”
เมื่อได้ยินพัดเอ่ยทำให้เอหันมาสำรวจกับตัวเอง
“เหรอ พัด แล้ววันอื่น ฉันเป็นยังไง”
“ก็ คุณฎา เหมือนคนเครียด แต่วันนี้ไม่เลยค่ะ คุณฎายิ้มแย้ม อย่างคนมีความสุข”
“ขอบใจนะ ที่เธอ ชมฉัน เป็นคนแรก”
ทำให้ชฎาเดือนยิ้ม เมื่อเอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ที่บ่งบอกกับตัวเองว่า เธอมีความสุขอย่างมากที่สุด
และทำให้เธอ อดคิดถึงเขาไม่ได้
“ไอยวุธ”
ชฎาเดือนหยิบแฟ้มเอกสารของลุกความ ในคดีสำคัญต่างๆ อย่างเช่นคดีฟ้องหย่าของ คุณ อรชุมา นักธุรกิจสาวชื่อดัง กับสามี
หล่อนจึงโทร.ไปหาลูกค้าอีกครั้ง เพื่อให้ลูกค้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วจะมาพิจารณาแง่มุมแบบไหนอีก ที่หล่อนต้องช่วยได้
เพราะชฎาเดือนทำงานเก่ง หล่อนทำงานเรียบร้อยทุกครั้ง
และสักครู่ สายทางนั้นก็ตอบรับ ชฎาเดือนรีบบอก
“เอ้อ คุณอร คะ ดิฉัน จากสำนักทนายความค่ะ ที่กำลังจะจัดรวบรวมเอกสาร เพื่อต่อสู้เรื่องคดีให้กับคุณ ในการที่คุณ จะฟ้องหย่ากับสามี”
“ค่ะ อย่างที่ฉัน ได้บอกคุณไปแล้ว เขานอกใจฉัน และฉันมีหลักฐานที่เขาทำผิด ขลุกและนอนอยู่กับนังผู้หญิงคนนั้น คุณต้องจัดการกับฉัน ให้ได้นะคะ ฉันต้องการเร็วที่สุด และจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากนังเมียน้อย หน้าด้านนั่นด้วย”
ชฎาเดือนรับฟังคำพูดที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของอีกฝ่าย
และหัวใจของไอยวุธ ยิ่งมีความเบาบาง และสบายใจ เมื่อเขานั้นลุกมาทำงานแต่เช้าเช่นเดิม
แต่ว่าในวันนี้ กลับมีผกายรุจี ที่หล่อนอยู่ในชุดกระโปรงสีฟ้าจนเกือบบางเบา มีลายดอกดวงของดอกไม้ ที่หล่อนกางแขน และนวดนาด พร้อมทั้งยิ้มร่า ตรงเข้ามายังเขา
“เป็นไงคะ ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้คุณได้เที่ยวสนุกสนาน ต้อนรับวันเคาท์ดาวน์”
ผกายรุจีเอ่ยเช่นนี้
ทำให้ไอยวุธขมวดคิ้ว
“ใช่ครับ คุณรุจี ไม่ทราบว่า นายปลาย บอกหรือไงครับ”
เมื่อไอยวุธตอบและเขาคิดว่า เพื่อนรักอาจจะบอกกับภรรยา
แต่ว่า ผกายรุจียังยิ้ม
และยิ้มของหล่อนนั้นหวานเชื่อมเหมือนจงใจแสดงออกมาให้เขาเห็น และโปรยนัยน์ตาเชื้อเชิญมากกว่าเดิม
และกริยาอย่างนี้ของหล่อน ทำให้ไอยวุธนั้นระมัดระวังตัวเองมากกว่าเดิม
และเขานั้นไม่ชอบ เอาเสียเลยกับการที่พยายามปล่อยเนื้อปล่อยตัว และหว่านเสน่ห์ให้เขาด้วยสายตา
“เขาจะรู้ได้ยังไงคะ หลับเป็นตาย ตั้งแต่ยังหัวค่ำ”
เมื่อผกายรุจีตอบ ทำให้เขาเข้าใจ
แต่เขาไม่ต้องการที่จะคุยธุระกับผกายรุจี
ที่ได้ชื่อว่า ผู้หญิงร้ายกาจ” และเจ้าเสน่ห์ ข้อที่สำคัญ ได้ชื่อว่า เป็นภรรยาของเพื่อน
เขาไม่ใช่ ผู้ชายที่ชอบทำตัวเรี่ยราดกับสมบัติของคนอื่น
“ถ้างั้น ผมต้องขอโทษด้วย”
ไอยวุธพยายามกล่าวแก้เก้อ และตัดบท
“เดี๋ยวสิคะ รุจี อยากจะคุยกับคุณมากกว่า”
“เห็นว่า จะไม่เหมาะกระมังครับ”
คำที่หล่อนพูดออดอ้อน ก่อนที่เขาจะไม่สนใจ
และไอยวุธได้ทำเพิกเฉย ด้วยการที่เขาก้มหน้าก้มตา เพื่อหยิบชิ้นเอกสาร
และมือเคาะพรม พิมพ์ไปกับแป้นคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์
อย่างไม่สนใจผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าสักนิด
“นี่คุณไอ คุณหยุดเสียเถอะ กลับมาพูดกับฉันให้รู้เรื่อง”
ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ ผกายรุจีเลยเสียงเข้ม แบบเอาเรื่องกับเขา
“แต่นี่ มันเป็นเวลาทำงานของผม ถึงคุณรุจี จะเป็นลูกสาวเจ้านายก็ตาม คุณก็ควรจะเข้าใจตรงนี้ด้วย”
ทำให้ไอยวุธ อดเสียงเข้มตึงกับหล่อนไม่ได้
ที่หล่อนใช้อำนาจ บังคับเขามากเกินไป