ทำให้ชฎาเดือนพยักหน้า
“นี่ จะว่าไปแล้ว คุณแม่ก็รู้มากกว่าชฎาอีกนะคะ”
ทำให้คุณรัชยาหัวเราะ
“แม่น่ะ ชอบสังเกตผู้คนทั่วไป อีกอย่างแม่ก็เคยเจอคุณหญิงช่อแขเขาหลายครั้ง”
ชฎาเดือนพยักหน้า
“เปรียบกับหนูเหมือนกบในกะลาครอบนะคะ แทบจะไม่รู้อะไรเลย วันๆก็วุ่นอยู่กับเอกสารเรื่องคดีความ โลกของหนู คงวนเวียนอยู่แต่กับสิ่งนี้”
ทำให้คุณรัชยาหันมาปรามลูกสาว
“หนูพูดอะไรอย่างนี้ ไม่ถูกหรอก หนูชอบคิดเองต่างหาก”
และชฎาเดือนเบื่อเหมือนกัน ที่เธอจะเถียงมารดา เพราะรู้สึกเหนื่อย
“เอ้อ นี่แม่ถามอะไรหน่อยเถอะ ในฐานะที่เป็นแม่อยากจะถามว่า หนูมีผู้ชายคนไหนที่มารักชอบหรือเปล่า ชฎา เพราะแม่ว่า วัยอย่างหนูสมควรที่จะมีเหย้ามีเรือนแล้วนะ”
ทำให้ชฎาเดือนขมวดคิ้ว ที่คุณรัชยาคิดเช่นนี้
“นี่หมายความว่า แม่ไม่อยากจะเลี้ยงหนูแล้วใช่ไหม?”
“นี่ฟังนะจ้ะ ลุกรัก ที่แม่พุดไป ก็เพราะต้องการรู้ความเป็นไปของลูก มันไม่ใช่เรื่องที่เสือกไสไล่ส่งหรอก ยังไง หนูก็เป็นลูกของแม่วันยังค่ำนั่นแหละ”
เมื่อมารดาพูดเช่นนี้
ทำให้ชฎาเดือนหน้าหงิกงอ บุ้ยใบ้ไปถึงเรื่องพี่ชาย
“คุณแม่ น่ะ ลากเอาพี่ประกัลย์ไปแต่งงานเถอะค่ะ เพราะพี่ประกัลย์เขาชัวร์กว่าหนู อีกอย่างหนูเป็นน้อง อยากจะให้พี่ชายได้แต่งก่อน”
เมื่อลูกสาวได้บุ้ยใบ้ ไปที่ลูกชายคนโตแทน ก็ทำให้คุณรัชยาต้องถอนใจออกมา
“พูดถึงพี่แกหรือ สักวัน ไม่รู้จะคว้าผู้หญิงหยำฉ่ามาให้แม่หรือเปล่า ตะลอนเที่ยว ตะลอนมั่ว แบบไม่วายเว้นอย่างนี้”
พูดถึงพี่ชาย ชฎาเดือนก็คิดเช่นกัน
เพราะเขาทำตัวเอง
“แล้วนี่ ยังไม่กลับบ้าน แกไม่ต้องถาม ถึงว่าไปไหนหรอก ก็คงหนีไม่พ้นผับบาร์ที่เขาชอบสำเริงสำราญนัก”
วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก้าวมาถึงอย่างรวดเร็วนัก
ทำงานมาตลอดทั้งปี ไม่นึกว่าจะสิ้นสุดปีมาถึงรวดเร็วอย่างนี้
ชฎาเดือนอดคิดไม่ได้ ปีที่ผ่านมา เธอทำอะไรมาบ้าง เมื่อลองสำรวจแล้ว นึกไม่ได้ทั้งหมด
แต่ก็รู้สึกว่า มันช่างผ่านมารวดเร็วจริง
และคนที่โทร.มาหาหล่อน ในวันส่งท้ายปีใหม่ต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึง ในช่วงเวลาข้ามคืน ที่จะผ่านเข้าสู่ปีใหม่ คือ ไอยวุธ
ซึ่งชฎาเดือน ก็ได้มาอยู่กับเขา ด้วยกลางท้องถนน ที่ถูกปิด รถราไม่อาจสัญจรได้
การเดินทางมีเพียงรถแท็กซี่ กับรถไฟฟ้า
แต่ชฎาเดือนนั่งรถแท็กซี่มาตั้งแต่บ้าน
และไอยวุธก็เช่นกัน มานัดพบกันที่ บริเวณจัดงาน สี่แยกราชประสงค์ หรือเซนทรัลเวิร์ล
แต่ชฎาเดือนไม่ได้ชวน ดาวียา เพราะรู้ดีว่า
ดาวียากำลังติดพัน อัครทิตย์
และคงจะวนเวียนอยู่ใกล้กับผู้ชายคนนี้ อย่างไม่มีเหตุผลอื่นใด นอกจากความชื่นชอบเป็นการส่วนตัว
วันนี้ชฎาเดือนแต่งกายเด่นที่สุด เท่าที่สายตาของไอยวุธพบเห็น
เขาถึงเอ่ยชม
“วันนี้ ชฎา แต่งตัวสวยมากครับ เหมาะสมกับวันพิเศษจริง”
เมื่อเขาชม ทำให้หล่อนยิ้ม
และหันไปมองเขาบ้าง เขาก็แต่งกายดีไม่แพ้หล่อน ดูสมาร์ทและหล่อเหลา แถมเท่ห์อีกด้วย
“คุณก็แต่งตัวดีเหมือนกันนี่คะ”
ทำให้หล่อนชมเขา
“วันนี้เหมาะสำหรับคนพิเศษคนหนึ่งครับ”
ชฎาเดือนได้ยินเขาเอ่ย
“ใครกันคะ”
ทำให้ไอยวุธอุบไว้ก่อน ที่จะทายมาเป็นคำตอบ
“เป็นคนที่อยู่ใกล้ผม มากที่สุดในเวลานี้ไงครับ และผมก็ดีใจมากที่สุดเหลือเกิน ที่คุณยอมออกมา”
“ค่ะ เป็นเพราะว่า วันนี้เป็นวันพิเศษจริงๆ อย่างที่คุณบอก ฉันถึงยอมมาไงคะ”
“งั้นแสดงว่า คำชวนของผม เหมือนพรวิเศษจริงๆ”
และความสุขแบบนี้ไอยวุธ ไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเกี่ยว และเขาไม่ได้โทร.หาปลายศก
ระหว่างเขากับชฎาเดือน ซึ่งไอยวุธได้เดินเคียงคู่กับทนายความสาว ที่หล่อนสลัดมาดนั้นออก
สลัดความเครียดเอาไว้เบื้องหลัง
ยิ้มร่าเริงเหมือนหล่อนกลับมาเป็นสาวรุ่นอีกครั้ง กับร่างระหงที่บอบบางและเจ้าเสน่ห์
“ผมอยากให้มีวันเคาท์ดาวน์อย่างนี้ทุกวันเลยครับ”
“บ้าแล้วคุณ เขามีแค่ปีละหน ก่อนจะขึ้นปีใหม่”
“ถึงงั้นเถอะครับ เพราะคิดอย่างนั้นจริงๆ”
และสองหนุ่มสาวได้ร่วมกับนับถอยหลัง ก้าวสู่พ..ศ..ใหม่ด้วย ณ ลานกว้างแห่งนี้ ที่เนืองแน่นไปด้วยฝูงชนกลุ่มหนุ่มสาว
ขณะที่จอทีวี ขนาดใหญ่ ปรากฏตัวเลข
8 9 7 6 5 4 3
เมื่อก้าวเข้าสู่เลข 1 และเลข 0 เสียงไชโยโห่ลั่นไปทั่วบริเวณนั้น ต่างประสานเสียงดังลั่น และร้องเพลงก้าวสู่ปีใหม่ด้วยกัน
บนเวทีศิลปินที่สร้างสีสัน ออกมาวาดลวดลายบนเวที ด้วยจังหวะเร้าใจ และเพิ่มความสนุกสนานเมามันด้วยเพลงร๊อก ที่กระหื่ม เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับไม่หยุดหย่อน
สวยงามด้วย ไฟประดับ และจำนวนพลุที่ถูกจุดพุ่ง เป็นประกาย บนฟากฟ้าราตรี
เป็นวันที่ขึ้นศักราชพ.ศ.ใหม่ และชฎาเดือนกับไอยวุธมีความสุขเหลือเกิน ทั้งคู่ยังร่วมกิจกรรม
จวบจนว่าเกือบตีหนึ่งแล้ว จึงได้แยกย้ายกลับ ซึ่งไอยวุธขอที่จะไปส่งชฎาเดือนถึงบ้านพัก
การร้องขอจากเขาเช่นนี้ ทำให้ชฎาเดือนไม่คิดปฏิเสธ
เพราะในวันนี้ หล่อนมีความสุขอย่างมาก ที่ได้ร่วมทำกิจกรรมกับเขา
“ปีหน้า ที่มีวันอย่างนี้อีก ผมขอชวนคุณอีกครั้ง”
ไอยวุธเอ่ยบอกหล่อน
“คุณแน่ใจ ได้ยังไงคะว่า มันยังเหมือนเดิมอยู่ วันที่ฉันกับคุณ ปีหน้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้”
ชฎาเดือนเลือกที่จะตอบอย่างนั้น
“มันต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่ครับ เพราะผมเลือกที่จะคบกับคุณ และรักกับคุณ”
ชฎาเดือนตอบเหมือนว่า หล่อนไม่พะวงในเรื่องอนาคต
ทำให้ไอยวุธครุ่นคิดว่า เธอแคร์เขามากมายหรือเปล่า
และเขาก็ยิ้มให้กับประโยคนี้ของหล่อน
“ทำไม เวลาพูด คุณชอบทำให้ผมไขว้เขวเหลือเกิน”
“แบบไหนคะ ที่เรียกว่า คุณไขว้เขว”
และไอยวุธพร้อมที่จะตอบหล่อน
“คุณรู้ไหม การที่คุณสร้างความหวัง และให้ความหวังกับผมแล้ว แต่คุณกลับตีรวน เหมือนไม่เชื่อมั่น และเชื่อว่า มันเป็นความจริง คุณพูดแบบนี้ ทำให้ใจของผมฝ่อลง”
“ฉันต้องการผู้ชายที่มีคุณภาพ และเชื่อมั่นในความรักต่อเขา ในการที่เขายังมีใจอยู่กับผู้หญิงคนนั้นตลอด”
“ผมทายเดา ได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นคุณ”
ทำให้ไอยวุธยิ้มกริ่มกับคำพูดของหล่อน
“ฉันคงตอบคุณไม่ได้หรอกค่ะ”
“แต่ผมเดา และมั่นใจว่าต้องเป็นคุณ”
เมื่อเขามั่นใจและยืนกรานอย่างนั้น
ทำให้ชฎาเดือนเอาแต่ยิ้ม
“แต่คุณ รู้ไหม? ผมไม่เคยมีความสุข เท่าเวลาไหนที่อยู่กับคุณเลย คุณชฎา”
หล่อนนึกขำกับสำนวนของเขา
“จริงหรือคะ แหม. พูดให้ฉันดีใจเล่นด้วยหรือเปล่าเนี่ย”
หล่อนยังพูดทีเล่นทีจริง
“ถ้าคุณดีใจ ผมจะไม่ยิ่งกว่าดีใจหรือครับ เพราะผมกลัวเสียใจมากกว่า”
เขากลับตีสำนวนของเขาไปเรื่อยๆ
และชฎาเดือนเข้าใจ
“กามเทพคงส่งให้ผมมารู้จักคุณ และเราเข้าใจกัน”
“แต่ยังไม่อาจเรียกว่า ความรักหรอกค่ะ”
“แต่ผมจะพยายาม เรียกคำนั้น”