“...นอกจากวันนี้จะเป็นงานจัดเลี้ยงเพื่อฉลองให้กับลูการ์ที่ได้รับบรรจุเข้าเฮปตากอนแล้ว ผมยังมีข่าวดีอีกเรื่องที่จะแจ้งต่อทุกท่าน”
เดรกเว้นช่วงพูดแล้วปรายตามองหาเป้าหมายก่อนจะโยงเข้าเรื่องสำคัญ ทว่าเห็นแค่แอเวียร์ลูกสาวคนรองยืนอยู่เพียงลำพังไร้เงาของลูการ์เคียงข้าง
เจ้าหนุ่มนั่นหายไปไหนแล้ว...
เดรกกวาดตามองไปรอบๆ โดยไม่ให้เสียกิริยาก่อนดึงสายตากลับมาที่ลูกสาว แล้วแบบนี้จะประกาศการหมั้นหมายได้ยังไง ระหว่างที่กำลังลังเลอยู่นั้น มาคัสที่เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าลูการ์ไม่อยู่ในงานก็เดินมายืนประกบคู่เดรก เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียหน้า และเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขารับรู้และยอมรับความคิดของเดรก
“เรื่องที่ผมอยากจะพูดก็คือ...” เดรกมองหน้ามาคัสเพื่อยืนยันอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าให้ เดรกก็กำลังจะพูดต่อแต่เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาซะก่อน
ตู้ม!
แขกเหรื่อภายในงานตกอยู่ในความแตกตื่นทันที
“เกิดอะไรขึ้น เสียงอะไร” มาคัสมองหน้าเดรก รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก
เดรกส่งสายตาไปทางพ่อบ้านก่อนจะหันมาควบคุมสถานการณ์ภายในงานเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
“ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ ไม่ต้องตกใจ คนของผมกำลังตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น”
สิ้นเสียงทรงอำนาจของเดรกที่สะกดความสับสนได้อยู่หมัด ไม่นานก็บังเกิดเสียงซุบซิบที่คล้ายปลอบใจตัวเองของแขกเหรื่อดังขึ้นมา
“หรือว่าฝีมือของยัยหนูแอลิน่า ได้ยินว่าคราวก่อนก็เอาหุ่นแร็คนาร์ไปขับเล่นบนยานที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดของคุณเดรก จนยานระเบิด แขกปลิวตกยานไปหลายคน โชคดีที่ไม่มีใครตายเพราะได้พ่อบ้านของคุณเดรกช่วยเอาไว้”
“จริงสิ ตอนนี้ก็ไม่เห็นแอลิน่าอยู่ในงานด้วย เสียงเมื่อกี้อาจจะเป็นฝีมือเด็กปีศาจนั่นก็ได้”
เสียงซุบซิบส่วนใหญ่เป็นไปในทางเดียวกัน นั่นคือโบ้ยไปที่แอลิน่าเป็นตัวต้นเรื่องทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ
เดรกเองก็ได้ยิน แม้จะรู้สึกไม่พอใจที่หลายคนมองลูกสาวคนเล็กของเขาเป็นเด็กแสบ แต่ในสถานการณ์ที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น การปล่อยให้ทุกคนเข้าใจไปแบบนั้นก็อาจจะเป็นผลดีในแง่ของความสบายใจ เพราะถ้าหากไม่ใช่ฝีมือของแอลิน่าก็เท่ากับว่ามีเรื่องไม่ดียิ่งกว่าเกิดขึ้นที่บ้านตระกูลโฮแกน เดรกยังไม่ทันคิดตก พ่อบ้านก็เข้ามารายงาน
“นายท่าน... แร็คนาร์ระเบิดครับ”
“ว่าไงนะ” เดรกอุทานเสียงเบา พ่อบ้านรายงานต่อด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“พบคุณชายลูการ์กับคุณหนูแอลิน่าในที่เกิดเหตุด้วยขอรับ ผมให้คนพาทั้งคู่ไปที่ห้องพักแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นคุณเดรก” มาคัสได้ยินชื่อลูกชายคนโตตัวเองแว่วๆ ก็ปรี่เข้ามาถามอย่างอดรนทนรอไม่ไหว
เดรกมองหน้ามาคัสอย่างลำบากใจ
“เด็กสองคนนั่นอยู่ในที่เกิดเหตุ”
“ที่เกิดเหตุงั้นเหรอ เสียงระเบิดเมื่อกี้หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกผม”
“หุ่นแร็คนาร์ในโรงเก็บระเบิดขอรับนายท่านมาคัส แล้วเราก็เจอคุณชายลูการ์กับคุณหนูแอลิน่าหมดสติอยู่ที่นั่นด้วย น่าจะได้รับผลกระทบจากการระเบิด”
“อะไรนะ!” มาคัสแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“แล้วอาการของสองคนนั้นล่ะ” เดรกถามสิ่งที่คนเป็นพ่อต่างกังวลที่สุด
“แปลกมากขอรับ ไม่สิ อาจจะเป็นเพราะคุณชายลูการ์สวมเกราะรบอยู่ก็เลยทำให้ทั้งคู่ไม่เป็นอะไรมาก แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้สติ”
พ่อบ้านรายงาน
“ไม่มีบาดแผลอะไรเลยเหรอ” เดรกถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ
พ่อบ้านส่ายหน้า
เดรกค่อยเบาใจขึ้นมาหน่อย แต่เรื่องที่แร็คนาร์ระเบิดยังคาใจเขาอยู่ ถึงงั้นก็คงต้องรอสืบเรื่องนี้เอาภายหลัง เพราะตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างงานเลี้ยง
ส่วนแอเรียสกับแอเวียร์เดินออกจากโถงจัดเลี้ยงไปแล้ว ลูกสองคนนั้นน่าจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องสาวตัวเองก็เลยรีบไปดูอาการ ขณะเดียวกัน มิคาเอลและมีอาที่เพิ่งได้รับรายงานจากคนของเดรกก็เดินเข้ามาสมทบกับมาคัสแล้ว
“ผมต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย” เดรกโค้งศีรษะเล็กน้อยเพื่อแสดงความจริงใจต่ออีกฝ่าย มาคัสถึงแม้จะตกใจและไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแต่พอเห็นกิริยาท่าทางของเดรกแล้วความรู้สึกขุ่นเคืองภายในใจก็น้อยลง
“ไม่เป็นไร ขอแค่ลูการ์ปลอดภัยผมก็ไม่ติดใจอะไรหรอก”
เดรกพยักหน้าเข้าใจในคำพูดของมาคัส ก่อนจะเอ่ยเรื่องสำคัญอีกเรื่อง “ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว เรื่องประกาศหมั้นหมายคงต้องเลื่อนไปก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงซะทุกคนที่มางานนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าเราต้องการจะทำอะไร แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญแล้วล่ะ ตอนนี้ผมเป็นห่วงลูกชายมากกว่า ขอผมเจอลูกก่อนได้ไหม”
“ได้สิ” เดรกส่งสายตาไปยังพ่อบ้านทันที
“เชิญขอรับ เดี๋ยวกระผมจะนำทางให้เอง” พ่อบ้านเอ่ยด้วยท่าทีสุภาพนอบน้อม
รอจนกระทั่งพ่อบ้านนำคนของตระกูลลูเซียร์ออกจากโถงจัดงานไปแล้ว เดรกก็แจ้งให้ทุกคนรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุหุ่นแร็คนาร์ระเบิดที่โรงเก็บของ ทำให้ลูกสาวของเขาแอลิน่าและลูการ์โดนลูกหลงไปด้วย หลังจากเดรกเอ่ยจบก็เกิดถ้อยคำอุทานอย่าง
“ว่าแล้ว!”
“นั่นไงล่ะ แอลิน่าต้องมีเอี่ยว”
ดังขึ้นแทบทุกมุมของงานเลี้ยง เดรกได้แต่ลอบเหนื่อยอ่อนใจแต่บ่นอะไรไม่ได้เพราะลูกสาวคนเล็กของเขาก็วีรกรรมเยอะจริงๆ ไม่แปลกเลยที่จะถูกคนมองในแง่ร้ายไว้ก่อน
เดรกรอจนเสียงซุบซิบเบาลงก็กล่าวต่อ “ขอโทษอีกครั้งที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นจนเป็นเหตุให้ทุกคนไม่สบายใจ หวังว่าทุกท่านจะไม่ถือสาและสนุกกับงานเลี้ยงต่อ”
หลังจากเดรกกล่าวจบ ก็มีเสียงซุบซิบดังตามมาอีกแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรเรื่องการหมั้นหมายที่ยังไม่ทันได้ประกาศก็ดันเกิดเหตุซะก่อน
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ภายในงานเรียบร้อยดีแล้ว เดรกอยู่คุยกับคนใหญ่คนโตต่ออีกพักใหญ่ๆ ก็แยกตัวออกจากงาน เช่นเดียวกับที่แขกคนสำคัญๆ ทยอยกันกลับ โดยมีพ่อบ้านยืนรอส่งหน้าห้องโถง
เดรกเดินมาดูที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง เศษชิ้นส่วนแร็คนาร์ถูกคนรับใช้ในบ้านทำความสะอาดไปแล้ว เหลือเพียงร่องรอยการปะทะกันกับรอยระเบิดที่ทำเอาหญ้าบริเวณใกล้เคียงไหม้เกรียม เดรกใช้แหวนเอไอที่นิ้วสแกนพร้อมกับวิเคราะห์สถานการณ์
มีร่องรอยการใช้อาวุธต่อสู้ การปะทะที่รุนแรงด้วยอาวุธระดับสูง
แต่การวิเคราะห์จากร่องรอยที่พบ นอกจากรายละเอียดการต่อสู้ของแร็คนาร์กับลูการ์แล้วก็บอกอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
เดรกผ่อนลมหายใจ เรื่องนี้คงต้องไปสืบสาวต่อจากแอลิน่าซะแล้ว
ดูเหมือนตอนนี้เดรกเองก็เริ่มสงสัยแล้วว่าจะเป็นฝีมือของลูกสาวคนเล็ก เด็กนั่นดูไม่พอใจที่พ่อจับคู่ให้พี่สาว บางทีนี่อาจจะเป็นแรงจูงใจก็เป็นได้
มาคัสยืนกรานจะพาร่างของลูการ์กลับมาพักที่บ้านหลังจากได้รับการยืนยันจากแพทย์ประจำตระกูลโฮแกนแล้วว่าลูกชายของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่หมดสติไปเท่านั้น
ถึงแม้เดรกจะขอให้มาคัสและครอบครัวอยู่ต่อ แต่มาคัสก็ปฏิเสธพร้อมกับให้เหตุผลว่า อยู่ที่ไหนก็ไม่สบายใจเท่าบ้านตัวเอง
“แล้วจู่ๆ ทำไมพี่ถึงโดนหุ่นรบระเบิดใส่ล่ะ” มิคาเอลเอามือเกาคาง ครุ่นคิดพลางมองร่างที่นอนนิ่งบนเตียงในยานส่วนตัวของตระกูลลูเซียร์
“หึ ยัยเด็กปีศาจก็อยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ อาจจะเป็นฝีมือเด็กนั่นก็ได้ใครจะรู้ แต่ก็ดี อย่างน้อยก็เป็นโชคดีของแกนะมิค”
มีอายิ้มมุมปาก เรื่องที่เกิดขึ้นกับลูการ์คงไม่มีใครดีใจเท่าหล่อนอีกแล้ว เพราะยังไม่ทันที่ผู้นำโฮแกนจะประกาศเรื่องหมั้นของลูการ์กับแอเวียร์ ลูการ์ก็ดันเกิดเรื่องร้ายขึ้นซะก่อน แบบนี้ไม่เรียกว่าบุญมีแต่กรรมบังแล้วจะให้เรียกว่าอะไร ไม่สิ ต้องบอกว่าลูการ์ไม่มีวาสนาจะได้ครองคู่กับหญิงสาวที่สูงสุงต่างหาก หึ พวกไม่รู้จักเจียมกะลาหัวก็แบบนี้แหละ สมน้ำหน้า
“ป้าหมายความว่ายังไง พี่บาดเจ็บแล้วทำไมผมถึงโชคดีล่ะ”
“อ้าว! ก็หมายความว่าแกยังมีโอกาสในตัวหนูแอเวียร์ไงล่ะ”
“นี่ป้าพูดอะไร คิดจะให้ผมแย่งผู้หญิงพี่เหรอ”
“ผู้หญิงพี่อะไรหา ลูการ์ยังไม่รู้จักกับแอเวียร์สักนิด จะเป็นผู้หญิงของมันได้ยังไง”
“แต่”
“เอาล่ะ พอๆ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ส่วนเรื่องที่สงสัยแอลิน่า เธอเองก็โดนลูกหลงเหมือนกัน ผมว่าอย่าเพิ่งปรักปรำเธอเลย” มาคัสรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับแอลิน่า เรื่องซุบซิบเกี่ยวกับแอลิน่าภายในงานเลี้ยงเขาเองก็ได้ยินเหมือนกัน
เท่าที่มาคัสประเมินด้วยสายตา แอลิน่าเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาที่อาจจะซุกซนไปหน่อยแต่การที่ถูกทุกคนตั้งฉายาให้ว่านางมารน้อยบ้างล่ะ เด็กปีศาจบ้างล่ะ ออกจะโหดร้ายเกินไปสำหรับเธอ
“เชอะ พี่ก็แค่พูดตามที่เห็น” มีอาเบะปาก เชิดหน้าไปทางอื่น ไม่ออกความคิดเห็นใดๆ กับเรื่องนี้อีก
“แอลิน่าเหรอ... จะว่าไปจู่ๆ เธอก็หายตัวไปเลย ปล่อยให้ผมมองหาจนเหนื่อย” มิคาเอลนึกถึงตอนที่เขาถือจานอาหารทั้งสองมือ รู้ตัวอีกทีแอลิน่าก็ไม่อยู่แล้ว
“ลูกอยู่กับเธอเรอะ”
“ครับ แต่ว่าก็แค่แป๊บเดียวน่ะ ผมมัวแต่ฟังที่ลุงเดรกพูดก็เลยไม่ทันได้สนใจแอลิน่า มารู้ตัวอีกทีเธอก็ไม่อยู่แล้ว”
มิคาเอลยักไหล่ “พ่อคิดว่าไงล่ะ”
“เราไม่มีหลักฐาน ไม่ควรกล่าวหาใครลอยๆ อีกอย่างลูการ์ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร เรื่องสืบสวนพ่อว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่คุณเดรกเถอะ”
“อืม”
มิคาเอลพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง