ลูการ์ฟื้นขึ้นมาในเช้าวันที่สองหลังจากเหตุการณ์หุ่นรบแร็คนาร์ในโรงเก็บระเบิด
เท่ากับว่าเขาหลับไปเต็มๆ สองวัน ความรู้สึกแรกตอนฟื้นขึ้นมาคือคอแห้ง ทว่าสิ่งแรกที่เข้ามาในสายตาคือเงาเลือนรางของหญิงสาว เรียวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ก่อนที่ดวงตาจะเปิดขึ้นเต็มดวง ทำให้มองเห็นสภาพแวดล้อมตรงหน้าชัดเจนรวมทั้งเจ้าของเงาเลือนรางก่อนหน้านี้
“คุณหนู คุณหนูฟื้นแล้ว” โซเฟีย สาวใช้ของแอลิน่าเอ่ยอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นคุณหนูของเธอรู้สึกตัวหลังจากหลับติดต่อกันเป็นเวลาสองวันสองคืน
เสียงผู้หญิงรวมถึงคำที่ถูกเรียกทำให้ลูการ์หน้าตึงหนักกว่าเดิม “หิวน้ำ”
ความกระหายทำให้เขาไม่ทันได้ทักท้วงเรื่องคาใจ เอ่ยขอสิ่งที่อยากได้ก่อน ทว่าเส้นเสียงที่เปล่งออกมากลับเป็นเสียงอ่อนหวานแม้จะแหบติดคอ แต่ฟังยังไงก็ไม่ใช่เสียงของเขา
ลูการ์เอามือแตะลำคอแล้วก็พบความประหลาดใจเพิ่มมาอีกข้อ ลำคอเนียนนิ่มทำให้เขาเผลอลูบคอตัวเองไปมา
สาวใช้เข้าใจผิด รีบรินน้ำที่วางเตรียมอยู่บนโต๊ะโซฟาในห้องมาให้อย่างไว
“นี่ค่ะคุณหนู”
“….” ลูการ์รับแก้วน้ำจากอีกฝ่ายมาเงียบๆ ดวงตาเรียวกลมสอดส่ายไปทั่วห้องก็ตระหนักได้ว่ากำลังอยู่ในที่ของคนอื่น
หลังจากแน่ใจว่าเป็นน้ำปกติ เขาก็ดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เสียงกลืนอึกๆ จนสาวใช้ยังตกใจ ยกมือขึ้นทาบอก “ตายแล้วคุณหนูของโซเฟีย คงจะกระหายน้ำมากเลยสินะคะ มาค่ะเดี๋ยวโซเฟียเติมให้อีก”
ความรีบดื่มทำให้น้ำเลอะมุมปาก ยังไม่ทันที่ลูการ์จะยกมือขึ้นปาดทิ้ง ผ้าสะอาดก็พุ่งเข้ามาซับๆ มุมปากให้ทันที “ใจเย็นๆ สิคะ ไม่ต้องรีบ ถ้าคุณท่านมาเจอได้โดนเอ็ดแน่เลยค่ะ”
ลูการ์อึ้งกับการกระทำของหญิงตรงหน้า เขาเบือนหน้าหนีตามสัญชาตญาณ แต่ก็เป็นเวลาเดียวกับที่สาวใช้เช็ดมุมปากให้จนสะอาดแล้ว
ลูการ์หลุบมองผ้าห่มหวานแหววที่คลุมอยู่ตรงเอว ทำให้เขาสะดุดกับเนินอกของตัวเอง พอเอามือแตะๆ ดู เรียวคิ้วก็หงิกผิดรูป ยิ่งแตะก็ยิ่งรู้สึกแปลก
พรึบ!
เสียงถลกผ้าห่มออก แรงจนโซเฟียที่เดินเอาแก้วไปเก็บยังหันมามอง
ขาเรียวเล็กที่โผล่พ้นชายกระโปรงลูกไม้ออกมาปรากฏต่อสายตา เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา ลูการ์ขยับแข้งขาบนเตียงด้วยจิตใจที่สับสน โซเฟียเห็นดังนั้นก็รีบกลับมาหา เอ่ยถามอย่างกังวล “คุณหนู รู้สึกไม่ดีตรงไหนหรือเปล่าคะ”
“อก…” ลูการ์มองโซเฟีย พึมพำคำหนึ่งออกมาแล้วก็เงียบ โซเฟียเอียงคอ
“อก? คุณหนูเจ็บหน้าอกเหรอคะ” โซเฟียคาดเดา
ลูการ์พิจารณาคำว่าเจ็บหน้าอกในหัวก็พยักหน้าแล้วก็ส่ายหน้าติดต่อกัน
“สรุปเจ็บหรือไม่เจ็บคะ”
“….” ลูการ์ส่ายหน้าคำว่าเจ็บไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของเขาตอนนี้ได้ ขณะเดียวกันก็รู้สึกเบาโหวงตรงหว่างขา อย่างกับว่าสิ่งที่ควรมีนั้นหายไป แต่สิ่งที่ไม่ควรมีกลับโผล่มาแทนที่ ถ้าไม่เกรงใจสายตาหญิงสาวตรงหน้าลูการ์ได้ถลกกระโปรงออกดูให้รู้ดำรู้แดงไปแล้ว
“คุณหนูรู้สึกแปลกตรงไหนหรือเปล่าคะ ให้พี่ไปตามคุณหมอไหม”
“ห้องน้ำ”
ลูการ์พึมพำ ยังไม่ชินกับเสียงที่บางลงของตัวเอง
มันช่างรู้สึกสยิวหูทุกครั้งที่ได้ยิน
“ได้ค่ะ เอ่อ… ลุกไหวไหมคะ มาพี่ช่วย” โซเฟียเห็นท่าทางงุนงง ไม่เข้าที่เข้าทางของคนบนเตียงก็อาสาช่วยประคอง ลูการ์ไม่ปฏิเสธ ยอมให้หญิงสาวโอบประคองลงจากเตียง
เดินผ่านประตูที่มีเพียงม่านสีขาวติดระบายลูกปัดออกมาก็เจอกับโถงโอ่อ่า ประดับประดาด้วยสิ่งของน่ารักสดใส แต่ออกจะดูรกไปสักหน่อย เหมือนของทุกสิ่งแค่ถูกจับวางแบบส่งๆ ไม่ได้ใส่รายละเอียดอะไรมาก
ลูการ์ชะงักเมื่อเดินผ่านกระจกก่อนถึงห้องน้ำ เงาสะท้อนในกระจกทำให้เขาอึ้งขาตาย ก้าวเดินไม่ออก
นี่มัน… ใครวะ
เสียงอุทานของลูการ์สะท้อนอยู่ในหัว ยกมือขึ้นจับแก้ม เงาในกระจกก็ทำตาม เลื่อนมือลงมาบีบหน้าอก เงาในกระจกก็ทำตาม
อึก!
แก้มลูการ์ร้อนผ่าว รีบผละมือออกจากหน้าอกนุ่มนิ่มอย่างเก้อกระดาก กะพริบตามองตัวเองในกระจกปริบๆ
ใบหน้าแบบนี้… ลูการ์จ้องดวงหน้าเรียวมน ผิวซีดเซียว ทว่าแววตากลับเปล่งประกายมีชีวิตชีวาแต่บางอารมณ์ก็ดูดื้อรั้นน่าเอ็นดู
นี่มันลูกสาวคนเล็กของคุณเดรกไม่ใช่เหรอ
นัยน์ตาลูการ์กระตุกไหวเมื่อนึกออก เขาเพ่งมองตัวเองในกระจกด้วยอารมณ์ฉงนสงสัย เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงกลายเป็นลูกสาวคนเล็กของเดรก โฮแกนไปแล้วล่ะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย
“คุณหนูคะ”
เสียงโซเฟียทำให้ลูการ์รู้สึกตัว
“มีอะไรเหรอคะ” โซเฟียมองร่างแอลิน่ากับภาพสะท้อนในกระจกสลับกันไปมา รู้สึกว่าแอลิน่าแปลกไป ดูนิ่ง…แต่ก็เงอะงะด้วย คิดว่าอาจจะเป็นผลกระทบจากอุบัติเหตุจึงไม่ได้สงสัยอะไรมาก
“เปล่า… เรา ฉัน…”
ลูการ์ลองใช้คำเรียกแทนตัวเองดู แต่โซเฟียกลับทำหน้ามึนงงกลับมา ลูการ์รู้สึกว่าไม่ใช่ จึงไม่พูดอะไรต่อ ปัดความคิดที่จะลองเรียกตัวเองทิ้ง แล้วพูดเรื่องอื่นแทน
“ขอเข้าห้องน้ำ”
“ได้ค่ะ คุณหนูจะให้พี่ช่วยไหมคะ” โซเฟียเห็นคุณหนูของตนยืนนิ่งอยู่หน้ากระจกก็เอ่ยถาม ลูการ์ครุ่นคิดครู่หนึ่งก็ส่ายหน้า
“ไม่ ไม่ต้อง ออกไปก่อน”
“ออกไป” โซเฟียทวนคำ เธอทำท่าจะแย้งแต่อยู่ดีๆ ก็พยักหน้าเชื่อฟังแต่โดยดี “ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นระหว่างที่คุณหนูเข้าห้องน้ำ พี่จะไปแจ้งข่าวให้คุณท่านทราบว่าคุณหนูฟื้นแล้ว”
“ไม่ อย่าเพิ่ง” ลูการ์รั้งท่อนแขนโซเฟียเอาไว้
“ทำไมละคะ”
“คือ… ขอ ขอเวลาหน่อย”
ลูการ์สบตาโซเฟีย ละล่ำละลักพูดออกมา ลูการ์รู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับใครตอนนี้ อย่างน้อยก็ขอเวลาให้เขาได้คิดหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขากันแน่ ทำไมเขาถึงอยู่ในร่างแอลิน่า แล้วร่างของเขาล่ะ? พอคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เขาก็ร้อนใจขึ้นมา มองหน้าโซเฟียที่กำลังจับจ้องตนอยู่
“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับร่าง… ลูการ์”
“คุณชายคนนั้นกลับไปพักฟื้นที่บ้านตั้งแต่คืนที่เกิดเรื่องแล้วล่ะค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมาก คุณหนูไม่ต้องกังวลนะคะ”
ในหัวลูการ์เต็มไปด้วยความสงสัย ยังไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรต่อ ก็ถูกสาวใช้กึ่งผลักกึ่งดันเข้ามาในห้องน้ำ “คุณหนูเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ อาบน้ำอาบท่าให้ร่างกายสดชื่น เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรมาให้ทาน คุณหนูอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”
ลูการ์ส่ายหน้า แม้จะรู้สึกหิวจนตัวเบาหวิวแต่ก็นึกของที่อยากกินไม่ออก
“ถ้างั้นพี่จะเอาของที่คุณหนูชอบมาให้นะคะ”
“อืม”
ลูการ์พยักหน้าไปตามระเบียบ
จนกระทั่งสาวใช้ออกจากห้อง ลูการ์ก็เดินวนสำรวจรอบๆ ทันที ห้องนี้เป็นห้องของแอลิน่า โฮแกน ลูกสาวคนเล็กของเดรก โฮแกนไม่ผิดแน่
ลูการ์พาร่างบอบบางของแอลิน่ามายืนอยู่ข้างหน้าต่าง วิวด้านนอกเป็นสวนพฤกษา มีคนงานเดินสวนกันประปราย ทางนี้ก็ไม่ได้งั้นเหรอ ลูการ์มองลงไปด้านล่างระดับความสูงหลายเมตร ในหัวมีความคิดที่จะหนีอยู่ แต่ว่าขืนโดดลงไป มีหวังร่างนี้ได้คอหักตายแน่
กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด เสียงประตูด้านนอกก็ถูกเปิด ลูการ์ผละออกห่างหน้าต่าง เดินมาทางที่มาของเสียง
“คุณหนู ทำไมยังใส่ชุดนอนอยู่คะ” โซเฟียเดินนำคนรับใช้อีกสี่ห้าคนที่ถือถาดของกินเข้ามาในห้องโถงร้องท้วงเมื่อเห็นว่าแอลิน่ายังอยู่ในสภาพเดียวกับก่อนหน้านี้
ลูการ์มองเหล่าสาวใช้ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารแล้วลอบกลืนน้ำลายอึก ท้องร้องโครกคราก แม้แต่สาวใช้ยังได้ยินแต่ไม่มีใครหลุดขำหรือแสดงท่าทางล้อเลียนเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกเธอล้วนแต่เป็นสาวใช้ที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี จะมีก็แต่โซเฟียเท่านั้นที่แสดงท่าทางเอ็นดูออกมา
“โถๆ คุณหนูของโซเฟีย คงจะหิวมากเลย ก็หลับไปตั้งสองวันนี่นา ไม่เป็นไรค่ะ ทานก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำก็ได้”
“โซเฟีย!”
โซเฟียพูดยังไม่ทันขาดคำเสียงเรียกชื่อที่เข้มงวดก็ดังขึ้น
“ทะท่านเอ็มม่า” โซเฟียสะดุ้งเฮือก รีบก้มหน้าก้มตาลงอย่างสงบเสงี่ยมทันที
หญิงสาวที่อายุจริงเกือบหนึ่งร้อยปีทว่าใบหน้ากลับยังคงความสาวราวคนอายุสามสิบต้นๆ เดินนำหญิงสาวหน้าตาสะสวยสองคนเข้ามาในห้อง
แอเรียส… กับแอเวียร์ พี่สาวทั้งสองของแอลิน่านั่นเอง
“เพราะหล่อนคอยแต่ตามใจอยู่นี่ไง หลานฉันถึงได้เสียนิสัย แก้ไม่หายสักที”
ต่อว่าคนรับใช้เสร็จ เอ็มม่าก็ดึงสายตามาที่หลานสาวคนเล็ก ที่กำลังจ้องมองตนด้วยแววตาห่างเหินราวกับคนแปลกหน้า
“ยัยลิน”
“….” ลูการ์ไม่คุ้นกับชื่อนี้ แต่เพราะสายตาของหญิงสูงศักดิ์ตรงหน้าจ้องเขม็งมาที่ตนทำให้เขาไม่อาจหลบหลีก ทว่าก็ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง สายตาของลูการ์มองข้ามไหล่ของเอ็มม่าไปที่พี่สาวทั้งสอง อย่างน้อยเขาก็รู้จักสองคนนั้น ถึงจะเพิ่งรู้จักไม่นานก็เถอะ
เมื่อรู้ตัวว่าถูกเมิน เอ็มม่าก็หน้าตึงยิ่งกว่าเดิม
“เดี๋ยวนี้แม้แต่หน้ายายก็ไม่อยากมองแล้วเหรอ”
ยาย… สายตาของลูการ์ดึงกลับมาที่เอ็มม่าทันที
เขามองสำรวจใบหน้าของเอ็มม่าชัดๆ นอกจากแววตาแล้วก็ไม่มีส่วนไหนของใบหน้าบ่งบอกถึงความมีอายุของอีกฝ่ายเลย ในอวกาศมีสมบัติล้ำค่าที่ช่วยยืดอายุหรือแม้แต่รักษาความอ่อนเยาว์ ตระกูลโฮแกนเป็นตระกูลทรงอำนาจ ไม่แปลกถ้าจะมีสมบัตินั้นมาครอบครอง แต่ว่าคนผู้นี้เป็นถึงยายแต่กลับหน้าอ่อนกว่าคุณเดรกอีก
ลูการ์มองเอ็มม่าด้วยสายตาที่อ่อนลง ทว่ายังคงระมัดระวังคำพูด ไม่เอ่ยอะไรที่จะทำให้ตัวเองตกเป็นที่สงสัยออกไป
เมื่อเห็นหลานสาวคนเล็กไม่ยอมเปล่งวาจาออกมา เอ็มม่าก็ไม่คิดจะเอาเรื่องเอาความ เห็นแก่ที่แอลิน่าเพิ่งฟื้นจากอุบัติเหตุหุ่นแร็คนาร์ระเบิด
“เอาเถอะ ยายแค่เป็นห่วง ได้ยินว่าฟื้นแล้วก็เลยมาเยี่ยม ในเมื่อลินสบายดี ยายก็หายห่วง”
ลูการ์สัมผัสถึงความรักความห่วงใยในน้ำเสียงของเอ็มม่า แม้ภายนอกจะดูเป็นคนเข้มงวดแต่จริงๆ ก็เป็นคนที่ปรารถนาดีต่อแอลิน่าคนหนึ่ง
เอ็มม่าชำเลืองมองพี่สาวสองคนที่เก็บอาการอยู่ด้านหลังแล้วผ่อนลมหายใจยาว รู้ว่าถ้าตนอยู่ แอเรียสกับแอเวียร์จะไม่กล้าทำอะไรตามใจ เพราะกลัวโดนดุ
“เอาล่ะ ยายไม่กวนเวลาลินแล้ว ตามสบายเถอะ ยายขอตัวก่อน”
“….” ลูการ์ก้มหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณตอบรับและขอบคุณต่อความเป็นห่วงที่เอ็มม่ามีให้
เอ็มม่ารู้สึกว่าหลานสาวคนเล็กต่างไปจากเดิม ปกติแล้วแอลิน่าจะเถียงฉอดๆ โดยเฉพาะเวลาที่เอ็มม่าดุโซเฟีย แอลิน่าเป็นต้องออกโรงปกป้องสาวใช้คนนี้สุดชีวิต แต่คราวนี้กลับสงบปากสงบคำ พูดน้อย หรือเพราะหลานเพิ่งฟื้นและอาจจะยังตกใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาเหมือนปกติ แต่จากอุปนิสัยที่ผ่านมาแอลิน่าก่อเรื่องไว้มากมาย น่าจะชาชินกับอุบัติเหตุทำนองนี้อยู่แล้ว หรือว่าหลานคนเล็กจะเสียขวัญเพราะหุ่นรบสุดหวงระเบิด?
หลังจากที่ยายเอ็มม่านำทีมสาวใช้ที่นำอาหารมาเสิร์ฟออกไป ภายในห้องจึงเหลือแค่โซเฟีย แอเรียส แอเวียร์ และแอลิน่า
“ลิน… เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” แอเรียสปรี่เข้ามาจับมือน้องสาว แอเวียร์เองก็เข้ามาประกบอีกฝั่ง จับแขนจับหน้าแอลิน่าวุ่นวายไปหมด กลิ่นหอมจางๆ จากสองสาวทำลูการ์ที่ท้องว่างรู้สึกเวียนหัวอย่างบอกไม่ถูก โงนเงนทรุดตัวลงบนโซฟา
“ลิน!”
ทั้งแอเวียร์และแอเรียสตกใจ ประคองร่างน้องสาวลงนั่งดีๆ
“รู้สึกไม่ดีเหรอ” แอเรียส
“โซเฟีย รีบไปตามหมอเร็ว”
“ค่ะ คุณหนู”
“ไม่…” ลูการ์ในร่างแอลิน่ารีบยกมือห้ามโซเฟียเอาไว้ เอ่ยต่อเสียงแผ่วโหย “แค่… หิว” เขาชี้มือไปที่อาหารบนโต๊ะ เล่นเอาพี่สาวทั้งสองรวมถึงสาวใช้ขำพรืดออกมาแทบจะพร้อมกัน แบบนี้สิถึงจะสมเป็นแอลิน่า ทั้งสามต่างอุทานในใจเป็นเสียงเดียวกัน
“โถ ยัยลิน คงจะหิวมาก” แอเรียสอุทาน
“นี่มันของโปรดลินทั้งนั้นเลยหนิ แต่ค่อยๆ ทานนะ เดี๋ยวติดคอ ดื่มน้ำก่อน” แอเวียร์เอ่ยอย่างเอ็นดู รินน้ำใส่แก้วให้
ลูการ์ยิ้มแห้ง รับน้ำมาจิบเงียบๆ แล้วเริ่มลงมือทานข้าวโดยมีสายตาของพี่สาวทั้งสองจับจ้องอยู่ตลอดเวลา